หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 561 แผนการที่ดี ปรารถนาที่จะเผชิญหน้าแต่ยังจะปฏิเสธ

บทที่ 561 แผนการที่ดี ปรารถนาที่จะเผชิญหน้าแต่ยังจะปฏิเสธ

บทที่ 561 แผนการที่ดี ปรารถนาที่จะเผชิญหน้าแต่ยังจะปฏิเสธ

และคนที่เตรียมจะจากไปก่อนหน้านี้ เห็นนางเผยฝีมือเช่นนี้ออกมา การเคลื่อนไหวอย่างธรรมชาติ คนที่อยู่นอกวงการก็ล้วนเห็นช่องทาง

โอ้โห นี่ไม่เป็นที่ไหนกัน? นี่คือดีเกินไปโดยแท้จริง

ไม่พูดมาก รีบต่อแถวใหม่อีกครั้งอย่างเป็นระเบียบทันที เห็นนางดื่มชาอ่านหนังสืออีก ก็ไม่ใครกล้าพูดมากสักประโยคแล้ว

แน่นอน!

ประสบกับเรื่องราวแบบนี้ หลานเยาเยาจะดื่มชาอ่านหนังสืออย่างไร้กังวลได้ที่ไหน? แถมยังแอบเรียกญาติฝ่ายหญิงผู้นั้นขึ้นไปชั้นบนของโรงหมอ ถามเรื่องราวที่ญาติฝ่ายหญิงรู้ทั้งหมดอย่างกระจ่าง แล้วถามอีกว่ามีคนเคยโดนนายท่านผู้นั้นข่วนเป็นแผลหรือไม่

เกี่ยวกับเรื่องการแพร่เชื้อ

โชคดีก็คือไม่มีคนได้รับบาดเจ็บเพราะนายท่านผู้นั้น

เพราะว่า หลังจากที่เขาหมดสติแล้วถึงได้เริ่มแสดงอาการเนื้อเน่าเฟะ

เพื่อความปลอดภัย หลานเยาเยาแนะนำญาติฝ่ายหญิงให้กลับไปบอกคนในจวน ให้คนที่เคยสัมผัสกับนายท่าน ทั้งหมดมาตรวจอาการ เพื่อป้องกัน

เพื่อทำให้ญาติฝ่ายหญิงเห็นถึงความสำคัญ หลานเยาเยาตั้งใจพูดให้เป็นเรื่องร้ายแรง

“จำไว้ว่า โรคที่นายท่านของเจ้าได้รับ น่ากลัวยิ่งกว่าโรคเรื้อน แพร่เชื้อให้คนง่ายเป็นที่สุด จะสะเพร่าไม่ได้”

ญาติฝ่ายหญิงถูกทำให้ตกใจจนตะลึงงัน สีหน้าค่อยๆซีดขาวลงตามเสียงของนางที่สิ้นสุดลง

ชีวิตเป็นเรื่องสำคัญ แน่นอนว่าญาติฝ่ายหญิงให้ความร่วมมือเป็นที่สุด นางพยักหน้าติดๆกัน

“ขอบคุณคุณชายซ่างกวนมากเจ้าค่ะ ข้าจะกลับไปสอบถามอย่างเข้มงวด พบว่ามีคนเคยได้สัมผัส จะพาผู้คนมาพร้อมกันเจ้าค่ะ”

“ลำบากแล้ว” หลานเยาเยาพยักหน้าเล็กน้อย

“เป็นสิ่งที่ควรทำเจ้าค่ะ” ญาติฝ่ายหญิงทำความเคารพ และจึงเตรียมจากไปอย่างรีบร้อน

ก่อนหน้านี้ญาติฝ่ายหญิงร้องไห้อย่างเอาเป็นเอาตายเพื่อนายท่านของนาง หลังจากที่รู้ว่าสามารถแพร่เชื้อได้ ถึงแม้หลานเยาเยาจะช่วยตรวจให้นางแล้ว ไม่ได้ติดเชื้อ แต่นางยังคงพยายามเช็ดมือที่เคยแตะต้องนายท่านก่อนหน้านี้อย่างที่สุด

และฝีเท้ายิ่งเคลื่อนที่ยิ่งไกล แทบอยากจะห่างออกไปอยู่นอกร้อยฟุต

อย่างไรเสีย!

คำพูดนั้นของหลานเยาเยาชั่งน่ากลัวเกินไปจริงๆ

หลังจากญาติฝ่ายหญิงจากไปอย่างรวดเร็ว แม้จะว่างบ้างแล้ว แต่กลับตกอยู่ในความคิดหนักอึ้ง

ฉับพลันนั้น เสียงที่สงสัยของส้งเย่นกุยก็ดังมาจากด้านหน้า

“ดูจากสภาวะชีพจรของท่าน เพียงคิดมากเกินไป ร่างกายสบายดี แค่ต้องรักษาสภาพจิตใจให้มีความสุขเท่านั้นก็ได้แล้ว ไม่จำเป็นต้องจ่ายยา ทำไมท่านยังไม่ไปอีก?”

“ข้ารบกวนแล้ว ข้าเห็นวิชาการรักษาของคุณชายเป็นเลิศ จึงอยากขอคำชี้แนะสักหน่อย ผู้ที่ป่วยทางใจมีตำรับยาที่ดีหรือไม่?”

บุคคลที่มาเหมือนว่าจะมีอายุเกินห้าสิบปี จอนทั้งสองข้างย้อมเป็นสีขาว มีสีหน้าที่เป็นทุกข์อย่างไม่สามารถแก้ได้ ถึงแม้จะสวมชุดหนาๆ พลังในคำพูดเต็มเปี่ยม

แต่มักจะมีพลังกลิ่นอายที่ซึมเศร้ารางๆล้อมรอบเขาเสมอ

เสียงนี้……

หลานเยาเยาเงยหน้าทันใด ทันทีที่เห็นหน้าคนผู้นั้น นางแทบจะจำไม่ได้ หลังจากที่มั่นใจว่าเป็นใคร แววตาก็เปล่งประกายอย่างอดไม่ได้

เป็นพ่อบ้านเหมย!

แต่เห็นเส้นผมข้างหูของเขาเป็นสีขาว แววตาก็หมองลงอย่างอดไม่ได้

เพิ่งไม่เจอกันหนึ่งปีกว่า ทำไมพ่อบ้านเหมยถึงมีผมขาวแล้ว?

เป็นเรื่องอะไรที่ทำให้เขากลัดกลุ้ม?

พ่อบ้านเหมยเป็นพ่อบ้านของจวนอ๋องเย่มาโดยตลอด และมองดูการเติบโตของเย่แจ๋หยิ่งมาตั้งแต่ยังเด็ก เขาไม่มีญาติพี่น้องอะไร คนที่เป็นห่วงที่สุดก็คือเย่แจ๋หยิ่ง

ตอนนี้กลุ้มใจจนหัวขาว เป็นเพราะเย่แจ๋หยิ่งสินะ!

เย่แจ๋หยิ่งสบายดีหรือไม่?

“ขออภัยที่ข้าพูดตรงๆ ไข้ใจยังไงก็จำเป็นต้องใช้ยาใจรักษา เขียนใบสั่งยาสมุนไพรก็ไม่ได้ผลมากนัก”

คำพูดนี้พ่อบ้านเหมยเข้าใจเป็นธรรมดา

วันนี้ออกมาทำธุระ ผ่านที่นี่พอดี ได้เห็นเหตุการณ์นั้นที่คุณชายซ่างกวนช่วยรักษาโรคคนผู้นั้นพอดี จึงรู้สึกว่าโรงหมอที่เปิดใหม่แห่งนี้ยังค่อนข้างมีวิชาการรักษา จากนั้นก็เข้ามาสอบถามดู

ผลลัพธ์เช่นนี้ก็อยู่ในความคาดหมาย

“ขอบใจมากๆ”

พ่อบ้านเหมยยกมือทำความเคารพ หมุนตัวแล้วเตรียมจากไป กลับได้ยินคนในโรงหมอพูดพึมพำกับตัวเอง

“ที่เรียกว่าไข้ใจ ก็คือความกังวลหรือการเฝ้าคะนึงหาในใจกลายเป็นภาระทางจิตใจ ที่เรียกกันโดยทั่วไปว่าใจได้รับบาดเจ็บ ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มียารักษา เพียงแค่หาสาเหตุที่บาดเจ็บพบ และให้ยาตรงอาการ สามารถรักษาหายได้

แน่นอน หาสาเหตุการบาดเจ็บง่าย แต่ให้ยาถูกกับโรคยากมาก

แต่ว่า ก็ไม่ใช่วิธีนี้วิธีเดียวที่สามารถรักษาได้?”

พูดถึงตรงนี้ เสียงก็ขาดแล้ว พ่อบ้านเหมยมองไปทางคนที่พูดจาทันที

เป็นชายที่อายุไม่ถึงยี่สิบปีผู้หนึ่ง ผมสีหมึกรวบสูง แต่รวบจนเป็นรูปแบบพิเศษ ตาหูจมูกปากที่สง่างาม ตาโตบริสุทธิ์ไร้เดียงสา ทำให้คนรู้สึกเชื่อถือได้อย่างไม่มีเหตุผล

ชุดสีอ่อนทั้งตัว ทำให้ใบหน้าที่ดูงดงามนั้นเพิ่มความสูงส่งมากขึ้น

เป็นคุณชายซ่างกวน!

เมื่อได้ยินว่ามีวิธีอื่น พ่อบ้านเหมยก็ตื่นเต้นทันที รีบสาวเท้าไปด้านหน้า ส้งเย่นกุยอยากลุกขึ้นขวางไว้ ก็เห็นหลานเยาเยาแอบโบกมือให้เขา

จึงรู้ว่า ที่กล่าวทั้งหมดเมื่อครู่เป็นการตั้งใจ

ส้งเย่นกุยไม่สบายใจ : เป็นไปได้ว่าคนผู้นี้เป็นคนในจวนอ๋องเย่? ?

พ่อบ้านเหมยเดินไปถึงด้านหน้าของคุณชายซ่างกวนแล้ว ถึงได้รู้สึกว่าตัวเองเสียมารยาท อยากกล่าวคำขอโทษสักหน่อย ก็เห็นคุณชายซ่างกวนทำตัวตรง ยื่นมือเชิญเขานั่งลงด้านข้าง

“ชาหลงจิ่งทะเลสาบซีหู หอมหวานและไม่เลี่ยน ไม่เข้มไม่อ่อน ข้าคิดว่ามันเหมาะกับท่าน”

พูดจบ!

น้ำชาแก้วหนึ่งที่รินโดยมือของหลานเยาเยาเอง เลื่อนไปถึงด้านหน้าของพ่อบ้าเหมย

ในใจพ่อบ้านเหมยรู้สึกอบอุ่น รีบรับน้ำชาทันที พยักหน้าติดๆกัน

“คิดไม่ถึงว่าคุณชายซ่างกวนไม่เพียงรู้แค่การรักษา ยังเข้าใจคนอีก ข้าลิ้มรสชามานับไม่ถ้วน โปรดปรานชาหลงจิ่งทะเลสาบซีหูอย่างเดียว นึกไม่ถึงว่าคุณชายซ่างกวนจะมีใบหน้างดงามความคิดจิตใจที่ละเอียดลออฉลาดและว่องไวถึงเพียงนี้”

“ชมเกินไปแล้ว ใบหน้างดงามความคิดจิตใจที่ละเอียดลออฉลาดและว่องไวอะไรที่ไหนกัน เพียงแค่ขณะเดียวกับที่รักษาเป็น ก็ดูราศีเป็นเท่านั้น” พูดแบบไม่ใส่ใจ เหมือนกับค่อนข้างโอ้อวด และเหมือนมั่นใจในตัวเอง

“อ๋อ? นึกไม่ถึงว่าคุณชายซ่างกวนจะดูราศีเป็น ไม่รู้ว่าข้าจะโชคดีหรือไม่ขอรับ?” พ่อบ้านเหมยเริ่มสนใจ

“สีหน้าอิ่มเอม ไม่ต้องดูก็เป็นคนที่มีบุญวาสนา”

“เหอะเหอะเหอะ ขอบใจคำอวยพรที่ดีของคุณชายซ่างกวนขอรับ” ย้อนกลับมา พ่อบ้านเหมยกังวลใจที่สุดก็ยังเป็นเรื่องไข้ใจ “เมื่อครู่คุณชายซ่างกวนบอกว่า ไข้ใจยังมีวิธีอื่นรักษาได้?”

“มี มีเป็นธรรมดา เพียงแต่ไข้ใจแตกต่างกัน วิธีการรักษาก็ต่างกันเฉพาะคน”

พ่อบ้านเหมยพยักหน้า เมื่อวานจื่อซีเพิ่งจะออกความคิดเห็น วันนี้ก็บังเอิญพบกับหมอแบบนี้ที่นี่ ดูเหมือนว่าอาการไข้ใจของอ๋องเย่จะมีความหวังแล้ว

“คุณชายซ่างกวนมีการให้ความสำคัญกับการรักษาอย่างไรขอรับ?”

หมอแต่ละคนก็มีอุปนิสัยของหมอแต่ละคน ผู้ที่ยิ่งมีวิชาการรักษาสูง นิสัยยิ่งประหลาด ยิ่งไม่ง่ายดายที่จะลงมือเอง

“ข้า เปิดโรงหมอแน่นอนว่าเพื่อหาเหรียญเงิน นี่คืออย่างแรก อย่างที่สอง ผู้ที่มีความน่าสนใจถึงจะรักษา อย่างที่สาม ทั้งหมดขึ้นอยู่กับอารมณ์

ไม่เช่นนั้น ใครมาก็รักษา ข้าจะต้องเหนื่อยตายหรือไง?

ความจริง ข้าจิตใจดี แบบนี้ก็เป็นมาตรฐานต่ำที่สุดแล้ว ดีกว่าหมอเทวดาที่ไม่รักษาคนเป็นหรือไม่ตายไม่รักษาเหล่านั้นมากแล้ว”

พูดตามความจริง

ในอารมณ์ขันแฝงความเย้ยหยันเล็กน้อย

นี่ก็คือที่เรียกว่าไม่มีคนที่สมบูรณ์แบบ

อย่ามองว่าพ่อบ้านเหมยเป็นเพียงพ่อบ้านผู้หนึ่ง บุคคลที่ติดตามอยู่ข้างกายเย่แจ๋หยิ่งล้วนไม่ควรมองข้าม ยิ่งไปกว่านั้น พ่อบ้านเหมยยังมองดูเย่แจ๋หยิ่งเติบโตขึ้นมาตั้งแต่ยังเป็นเด็ก การวางตัวฉลาดเชียวล่ะ!

ได้ยินดังนั้น!

พ่อบ้านเหมยก็วางใจแล้ว

หากว่าสมบูรณ์แบบเกินไป ไม่มีความปรารถนาไม่มีความต้องการ เช่นนั้นเขาจะกลับกังวลใจว่าเป็นคนที่มีความคิดอื่นแอบแฝงก็หรือไม่

“เหอะเหอะเหอะ คุณชายซ่างกวนอารมณ์ขันจริงๆขอรับ”

ไม่ได้ ตอนนี้เขาต้องรีบกลับไปหาจื่อซี หารือกันดีๆสักรอบ

“คุณชายของข้าความคิดจิตใจลึกซึ้ง กังวลกลัดกลุ้มคิดไม่ตกเป็นเวลานานมาก ปิดตัวเองอยู่ในบ้าน ร่างกายแย่ลงทุกวัน ไม่รักษาอีก ข้าก็ไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรดีแล้ว”

พ่อบ้านเหมยแอบถอนใจ

เมื่อได้ยินข่าวของเย่แจ๋หยิ่ง

ในใจหลานเยาเยาก็เปลี่ยนแปลงกะทันหัน ก็รู้ว่าเขาไม่ทะนุถนอมร่างกายของตัวเอง

หากว่านางไม่มา เขาก็จะเป็นแบบนี้ไปตลอดหรือ?

คำสั่งเสียของนางเขาทำเป็นลมข้างหูแล้ว?

เพียงแค่ชะงักเล็กน้อยครู่หนึ่ง หลานเยาเยาจึงหัวเราะเบาๆเสียงหนึ่ง

“คุณชายของท่านกลับเป็นผู้ที่ยอดเยี่ยมผู้หนึ่ง อยากเป็นคุณหนูในบ้านที่ไม่ออกจากบ้านไปพบปะผู้คน เป็นคนที่ไม่ฟังคนโน้มน้าวอธิบายเป็นแน่ ดูเหมือนว่าข้ากับคุณชายของท่านไร้วาสนาแล้ว ยังไงก็เชิญท่านกลับไปเถอะ!”

ออกคำสั่งส่งแขก พ่อบ้านเหมยก็ไม่ผิดหวัง

หลังจากที่พูดข้อดีของคุณชายของเขาติดต่อกันไม่กี่ประโยคแล้ว จึงได้ขอตัวจากไป

มองตามพ่อบ้านเหมยที่จากไปไกล เวลานี้ส้งเย่นกุยได้มาถึงข้างกายนาง จึจึเสียงหนึ่ง กล่าวชื่นชม :

“แผนการที่ดีปรารถนาที่จะเผชิญหน้าแต่ยังจะปฏิเสธ

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท