หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 593 ภรรยาหนีไปอีกแล้ว

บทที่ 593 ภรรยาหนีไปอีกแล้ว

บทที่ 593 ภรรยาหนีไปอีกแล้ว

นางนั่งยองลงบนพื้น น้ำตาที่กลั้นไว้ไม่ได้ไหลออกมา นิ่งเงียบครู่หนึ่งแล้วกลับยิ้ม

ฉับพลันนั้น ด้านหลังมีเสียงดังขึ้น

“เขาพูดอะไรกับเจ้า?”

เย็นหงลุกขึ้นหันกลับไปมอง เป็นจื่อเฟิง เขายังคงองอาจห้าวหาญ เย็นชาเหมือนเดิม แต่นางรู้นี่เป็นเพียงภายนอกของเขา ใจของเขาอบอุ่นและใจดี

นางขอบคุณเทพธิดา จื่อเฟิงและจื่อซีติดตามเทพธิดาไม่กี่ปีนั้น พวกเขาไม่เป็นองครักษ์ลับที่ไม่มีความรู้สึกอีกแล้ว พวกเขาเปลี่ยนเป็นมีเลือดมีเนื้อ และมีจิตวิญญาณ ในห้องควบคุมกลไกทั้งหมดของวังทองที่ทะเลทราย เดิมทีนางถูกฝังอยู่ในซากปรักพักพังแล้ว จื่อเฟิงที่ร่างกายได้รับบาดเจ็บสาหัสช่วยออกมา พานางออกมาจากทะเลทรายที่น่ากลัว

หลังจากกลับถึงเมืองหลวง นางคิดว่าเขาต้องการจะแยกทางแล้ว

กลับคิดไม่ถึงเขาแอบช่วยเหลือนางมาโดยตลอด ทุกครั้งที่ออกมาหาทิวทัศน์ที่สวยงามแทนอ๋องเย่ เมื่อไปก็เป็นเวลาเนิ่นนานมาก แต่ทุกครั้งที่กลับมาเขาจะปรากฏตัวหนึ่งครั้ง

จนกระทั่งนางได้ศึกษาทำความเข้าใจแผนที่กลไกในวังทองของทะเลทรายเล็กน้อย อีกทั้งได้รับการแนะนำอาจารย์ที่เก่งกาจเป็นพิเศษด้านกลเม็ดกลไกท่านหนึ่งจากยู่หลิวซูเจ้าสำนักสำนักหงอี นางจึงมีความสามารถในการติดตั้งกลไกในตอนนี้

หลังจากเข้าร่วมหมู่บ้านเหมยฮัว ทำคะแนนออกมาได้นิดหน่อย ได้รับการยอมรับจากลูกพี่ทั้งสอง นางกลายเป็นลูกพี่สาม จื่อเฟิงได้พบนางอีก ทิ้งวิธีการฝึกซ้อมทหารให้นาง ยังแอบชี้จุดที่มีปัญหาของหมู่บ้านเหมยฮัวอีกด้วย

นางรู้ หากว่าไม่มีการเห็นด้วยจากอ๋องเย่ จื่อเฟิงจะไม่ทำเช่นนี้

แต่นางโชคดีมาก ก่อนหน้านี้ตัวเองติดตามเจ้านายที่ดีผู้หนึ่ง ไม่มีเทพธิดา ความโชคดีทุกอย่างนี้ล้วนไม่มีวาสนาต่อนาง

“คุณชายซ่างกวนหรือ?”

“อืม!” จื่อเฟิงพยักหน้าเบาๆ

“เขาให้ข้ามีชีวิตที่ดี ทำเรื่องที่ตัวเองชอบทำ”

เข็มเงินที่แทงขมับของตู๋เหยี่ยนหลงไม่กี่เล่มนั้นนางก็เห็นแล้ว จื่อเฟิงสงสัยก็ปกติมาก ก็เหมือนนางเช่นนั้น นางก็หวังว่านั่นก็คือนางไม่ใช่หรือ?

จื่อเฟิงเงียบแล้ว

“ท่านจะไปแล้วหรือ?” เย็นหงถามอีก

“อืม!” หลังจากตอบรับแล้ว จื่อเฟิงค่อยๆมองไปทางเย็นหง เปิดปากแล้วเปิดปากอีก แต่กลับไม่ได้พูดออกมา สุดท้ายพูดเพียงประโยคหนึ่ง “รักษาตัว” หมุนตัวจากไป

มองดูเงาด้านหลังของจื่อเฟิง เย็นหงบีบมือแน่นกะทันหัน ตะโกนเสียงดังประโยคหนึ่ง :

“จื่อเฟิง!”

ได้ยินดังนั้น!

ร่างกายของจื่อเฟิงชะงัก มือที่ถือดาบพกจับไว้แน่นอย่างอดไม่ได้ ยังไม่ได้หมุนตัว ก็รู้สึกว่ามีคนวิ่งมาทางด้านหลังเขา จากนั้นแขนขาวละเอียดคู่หนึ่งกอดเขาจากทางด้านหลัง นางค่อยๆอิงที่หลังของเขา เสียงพึมพำออกจากปาก :

“ข้าชอบท่านนานมากแล้ว ไม่กล้าพูดออกมาโดยตลอด แต่ข้ากลัวว่าถ้ายังไม่พูดออกมาอีก ก็จะไม่มีโอกาสแล้ว อ๋องเย่ออกจากจวนแล้ว ท่านคงจะไม่มาที่หมู่บ้านเหมยฮัวอีกถูกหรือไม่?”

หากว่าอ๋องเย่ยังคงอยู่ในจวน ระหว่างทางไปกลับที่จื่อเฟิงออกมาทำภารกิจ ยังสามารถกลับมาที่หมู่บ้านเหมยฮัวได้ ตอนนี้อ๋องเย่ออกจากจวนแล้ว เรื่องใหญ่มากมายรอคอยให้อ๋องเย่จัดการ จื่อเฟิงก็จะต้องติดตามอยู่ซ้ายขวาเป็นแน่ คุ้มกันข้างกาย เกรงว่าจะมาไม่ได้แล้ว

ร่างกายของจื่อเฟิงแข็งทื่อ ก้มหน้ามองมือสองข้างที่โอบช่วงเอวเขาอย่างแนบแน่น สีหน้าโศกเศร้าเล็กน้อย สุดท้ายยกมือขึ้นแกะมือของเย็นหง จากนั้นหมุนตัวบอกแล้วมองดูนาง กล่าวนิ่งๆ :

“ข้าไม่ใช่คนดี!”

นาทีนั้นที่เริ่มเป็นองครักษ์ ก็ได้กำหนดความมืดมนทั้งชีวิตแล้ว มีชีวิตเพื่อนาย ตายอย่างไร้ความเสียดาย ทั้งชีวิต อยู่กับเงาที่โดดเดี่ยว

เป็นองครักษ์ลับ พวกเขาไม่สามารถมีความรู้สึกได้ และไม่อนุญาตให้มี ความรู้สึกก็คือพันธนาการ จะกลายเป็นจุดอ่อนของพวกเขา นี่คือข้อห้ามสำคัญขององครักษ์ลับ

“ข้ารู้ องครักษ์ลับเหมือนกับนักฆ่า ชะตาชีวิตอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่แน่นอน ข้าไม่ฝืนใจ ข้าเพียงแค่……”

พูดไปพูดไป น้ำตาก็ออกมาจากเบ้า น้ำตาไหลเป็นสองเส้น แต่นางยังคงพูดต่อ

“ข้าเพียงแค่ปฏิบัตตามในใจของตัวเอง พูดความคิดในใจตัวเองออกมา ท่านไม่จำเป็นต้องมีความรับผิดชอบ ท่านบอกข้าได้หรือไม่ ไม่ว่าเมื่อก่อนหรือตอนนี้ ท่านมีหรือไม่มี……มีหรือไม่มีชอบข้ามาก่อน แม้ว่าจะเป็นเพียงเล็กน้อย?”

หากว่าเป็นเมื่อก่อน ทั้งชีวิตนางก็จะไม่พูดคำเหล่านี้ออกมา ตอนนี้นางเพียงอยากปฏิบัติตามในใจของตัวเอง ไม่ว่าผลลัพธ์เป็นอย่างไร นางก็ยอมรับทั้งหมด จะไม่ดื้อด้านกวนใจไม่ปล่อย

เย็นหงไม่รู้ตัวเองพูดคำเหล่านี้ต้องใช้ความกล้าหาญมากเท่าไหร่

แต่พูดออกมาแล้ว ร่างกายก็ผ่อนคลายแล้ว

นางรู้ว่าที่รอนางอยู่คืออะไร นางได้เตรียมตัวอย่างดีที่สุดแล้ว ยอมรับความจริงด้วยความยินดี

จื่อเฟิงมองดูดวงตาของนาง ทั้งๆที่เต็มไปด้วยน้ำตา ไม่มีความคาดหวัง แต่กลับยกยิ้มรอคำตอบของเขา

มองดูนางนิ่งๆอยู่นาน จื่อเฟิงเม้มริมฝีปาก จึงตอบกลับอย่างแผ่วเบา :

“มี”

เห็นเพียงใบหน้ารอยยิ้มของเย็นหงอึ้งไปแล้ว ในสมองว่างเปล่า ทั้งคนเหมือนดั่งเสาน้ำแข็งเช่นนั้นนิ่งไม่เคลื่อนไหวแล้ว

“เจ้า เจ้าเป็นอะไร?” จื่อเฟิงค่อนข้างทำอะไรไม่ถูก

เย็นหงที่ดึงสติกลับมา ยิ้มเหมือนดอกไม้ในพริบตา กอดเขาไว้แน่นๆอีกครั้ง น้ำตาอุ่นๆค่อยๆไหลลงมาอีกครั้ง

เวลานานหลังจากนั้น เห็นเย็นหงยังคงกอดเขาไว้ จื่อเฟิงจนปัญญา เปิดปากพึมพำ

“เย็นหง ข้า……”

ไม่ต้องให้จื่อเฟิงพูดมาก เย็นหงก็ปล่อยเขาอย่างผ่าเผย ทั้งใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่สุกสกาว

“ข้ารู้ ท่านต้องไปเดี๋ยวนี้ ข้าจะไม่ฉุดรั้งท่าน” พูดพลาง เย็นหงก็หายใจเข้าลึกๆ คล้องคอของจื่อเฟิงไว้ “แต่มีเรื่องหนึ่ง ข้าจำเป็นต้องทำ จะได้เหมาะสมกับชื่อเสียงของลูกพี่สามของหมู่บ้านเหมยฮัว”

ชั่วพริบตานี้ ทั้งร่างของเย็นหงระเบิดพลังที่ไม่ชอบพูดเหตุผลชอบใช้กำลัง เป็นรังสีที่แตกต่างออกไป

นางเขย่งปลายเท้า ก็จูบไปที่ริมฝีปากทั้งสองของจื่อเฟิง จื่อเฟิงตกตะลึงทันใด ทั้งร่างแข็งทื่อ ไม่รู้ว่าควรจะตอบสนองอย่างไร รู้สึกเพียงที่ติดอยู่ปากทั้งสองอ่อนนุ่ม อบอุ่น จนถึงก้นบึ้งหัวใจ นี่คือรสชาติที่เขาไม่เคยได้สัมผัสมาก่อนทั้งชีวิต

จูบหนึ่งของเย็นหง เพียงแค่แมลงปอจิบน้ำ และไม่ได้ไม่เจียมตัวเกินไป ขณะที่ปล่อยเขา แก้มของนางแดงจนแทบระเบิด เหมือนกุ้งที่สุกแล้ว

“คิดไม่ถึงว่าข้าเย็นหงยังจะมีเวลาที่ลวนลามผู้ชายด้วย เป็นข้าไม่มีผิดจริงๆ รสชาติไม่เลว จื่อเฟิง ไม่ว่าท่านจะยอมหรือไม่ยอมพบข้าอีก ข้าเย็นหงทั้งชีวิตนี้พอใจแล้ว”

พูดจบ!

ไม่ให้จื่อเฟิงทำการตอบสนองใด เย็นหงก็วิ่งหนีไปแล้ว

และทิ้งจื่อเฟิงที่จิตใจว้าวุ่นอยู่ที่เดิม นึกถึงการกระทำที่กล้าหาญของเย็นหงเมื่อครู่ การตอบสนองแรกของเขาก็คือ เย็นหงจะปฏิบัติต่อผู้ชายคนอื่นเช่นนี้หรือไม่?

เมื่อคิดถึงตรงนี้ จิตใจของเขาก็ร้อนใจอยู่ไม่สุขอย่างอธิบายไม่ได้ มีความคิดอยากชักดาบฆ่าคนด้วยความหุนหัน

ไม่ได้ ต้องจับตามองอย่างละเอียดหน่อย

ด้านล่างภูเขาเหมยฮัว

ทั้งร่างของเย่แจ๋หยิ่งแผ่ซ่านกลิ่นอายเย็นยะเยือกอย่างรุนแรงสีหน้าเย็นชา ราวกับว่าพายุฝนกำลังมาถึง ขณะที่พาจื่อเฟิงลงจากภูเขา ข้างๆรถม้าไร้คน ในรถม้าก็ไม่มีคน เย่แจ๋หยิ่งแอบเห็นท่าไม่ดี

ภรรยาหนีไปอีกแล้ว

ทันทีที่มือใหญ่ของเขาโบก องครักษ์ลับที่ซ่อนอยู่ในที่ลับ ทยอยปรากฏตัว

“ไปหา ข้าต้องการรู้เส้นทางที่สั้นที่สุดที่นางหลบหนี หาคนไม่พบ……”

“แฮ่มๆ!”

ยังพูดไม่จบ เย่แจ๋หยิ่งถูกเสียงกระแอมที่ตั้งใจเสียงหนึ่งขัดจังหวะ เมื่อฟังเสียง เขารีบเอียงตัวเดินไปทางรถม้าทันที กลับไม่เห็นเงาคน เห็นเพียงด้านหลังต้นไม่ใหญ่ข้างรถม้าต้นหนึ่ง ผู้ชายที่สง่างามผู้หนึ่งเดิมอมยิ้มออกมา พิงบนต้นไม้ใหญ่อย่างจนปัญญา มือสองข้ากอดอก

“อ๋องเย่ หาคนไม่พบแล้วจะอย่างไร?”

“แฮ่ม” เย่แจ๋หยิ่งถูกตัวเองสำลักทีหนึ่งอย่างอธิบายไม่ออก แต่เห็นหลานเยาเยาในนาทีนั้น สีหน้าก็นุ่มนวลลงมาอย่างรวดเร็ว บ่นเคืองๆประโยคหนึ่งอย่างฉับพลัน “ยังนับว่ามีมโนธรรมอยู่บ้างเล็กน้อย”

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท