หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 621 เหมือนดั่งวาจาของเพื่อนเก่า

บทที่ 621 เหมือนดั่งวาจาของเพื่อนเก่า

เวลาเที่ยงวันต่อมา ในห้องส่วนตัวหรูหราเงียบสงบห้องหนึ่ง ด้านในตกแต่งอย่างเรียบง่าย บนโต๊ะ มีน้ำชาของว่าง ของว่างยังไม่ถูกแตะต้อง มีแก้วชาสองใบที่ถูกขยับ ด้านในมีน้ำชาครึ่งแก้ว ยังมีควันร้อนลอยขึ้นมาอยู่ แต่กลับไม่เห็นเงาใครสักคน

ในห้องด้านใน หญิงสาวผู้หนึ่งสีหน้าซีดขาวนอนอยู่บนเตียงอย่างไม่สงบสุข บนหน้าผากเหงื่อเล็กผุดเต็มไปหมด จิตใต้สำนึกกำลังคว้าผ้าห่มแน่น

ฉับพลันนั้น!

นางสะดุ้งตื่นจากความฝัน มองทุกอย่างด้านหน้าอย่างสับสน

นี่คือที่ไหน?

นางจำได้ว่าลอบสังหารไม่สำเร็จ กลับถูกโจมตีได้รับบาดเจ็บสาหัส เดิมทีหานแสปรารถนาจะฆ่านาง เหมือนกับว่าเป็นเพราะซ่างกวนหนานซู่ถึงไว้ชีวิตนาง ต้องการเอานางทำเป็นเหยื่อ ไม่รู้ว่าต้องการพิสูจน์อะไร

โดยสรุป

นางไม่ตาย ยังฟื้นมาอยู่ที่นี่อย่างแปลกประหลาด

นี่จะต้องเกี่ยวข้องกับซ่างกวนหนานซู่ผู้นั้นแน่

ฮัวหยู่อันกุมหน้าอก ไม่ได้เจ็บปวดอย่างที่คิดไว้ อีกทั้งทั้งปากของนางเต็มไปด้วยความขมฝาด นางรู้เป็นเพราะกินยาเป็นเหตุ

ค่อยๆยันร่างกายตัวเองขึ้นจากเตียง หลังค่อมนิดหน่อย เดินไปทางห้องด้านใน

ด้านในไม่มีคน ฮัวหยู่อันเตรียมตัวเดินไปดูทางด้านนอก เพิ่งเดินถึงประตูห้อง พบกับชายผู้หนึ่ง

ผิวพรรณขาวสะอาดมีเลือดฝาด สีหน้าเต็มไปด้วยความสุข สวมชุดสีอ่อน ดูหล่อเหลาสง่างาม เห็นนางปรากฏตัวกะทันหัน ในแววตามีประกาย

“เจ้าฟื้นแล้ว?”

เป็นเสียงของชายผู้นั้น สดในน่าฟัง ไพเราะ

“อืม!”

ฮัวหยู่อันพยักหน้าเบาๆ มองดูแล้วถามชายผู้นั้น : “เป็นเจ้าช่วยข้า?”

“แน่นอน ไม่เช่นนั้นเจ้าจะปรากฏตัวที่นี่ได้อย่างไร? ในเมื่อเจ้าฟื้นแล้ว พวกเรามาพูดคุยกันเรื่องช่วยเหลือเจ้า ข้าช่วยชีวิตเจ้าไว้ครั้งหนึ่ง เจ้าควรจะตอบแทนข้าอย่างไร?”

ด้วยความตรงไปตรงมาของคนด้านหน้า ฮัวหยู่อันรู้สึกตะลึงเล็กน้อย นางตาละห้อยลง พูดด้วยเสียงต่ำ

“คุณชายมีเมตตาใหญ่หลวง ข้าไม่มีอะไรจะตอบแทน ในบ้านมีเหรียญเงินเล็กน้อย ยินยอมมอบให้ทั้งหมด”

“เหรียญเงิน? เอ๊ะ ไม่ถูกนี่! ไม่ใช่ว่าควรสัญญาว่าจะอยู่ด้วยกันหรือ?”

หลานเยาเยาจำได้อย่างชัดเจน ครั้งแรกพบกับเสี่ยวฮัวในป่าทึบ นางช่วยชีวิตเสี่ยวฮัว นางอยากได้ทรัพย์สินเป็นการตอบแทน เสี่ยวฮัวต้องการสัญญาว่าจะอยู่ด้วยกันให้ได้

ตอนนี่นางช่วยนางอีกรอบ ท่าทีของนางกลับกันโดยสิ้นเชิง สีหน้าเรียบเฉย กระทั่งมีความต่ำต้อยเล็กน้อย ราวกับว่าเข้าใจโลกมากขึ้น

ได้ยินดังนั้น!

ฮัวหยู่อันตะลึงเล็กน้อย สังเกตดูผู้ชายตรงหน้าอย่างละเอียด เลิกคิ้วเล็กน้อย มุมปากอมยิ้ม และกำลังมองจดจ่อที่นาง

แต่นางดูไม่ออกจริงๆ ที่คนผู้นี้กล่าวคือหยอกล้อ หรือว่าจริงจัง

“คุณชายเหมือนดั่งหยก เป็นคนสูงส่งเป็นแน่ ข้าเป็นเพียงคนด้อยค่า ไม่กล้าเอื้อมเด็ดขาด หากว่าคุณชายไม่ชอบเหรียญเงิน ข้ายินยอมเป็นทาสเป็นคนรับใช้ เพื่อตอบแทนบุญคุณที่คุณชายช่วยชีวิต”

หลานเยาเยายิ้มอ่อน

ผ่านการทดสอบอันยิ่งใหญ่ไปไม่กี่ปี เสี่ยวฮัวเข้าใจการพลิกแพลงอย่างมากนี่นา!

แต่ว่า ได้พบนาง การพลิกแพลงเช่นนี้ใช้ไม่การแล้ว

“เหรียญเงิน ใครไม่ชอบ? เพียงแค่ข้างกายข้าขาดสาวใช้ผู้หนึ่งจริงๆ ในเมื่อเจ้าเป็นคนเสนอเรื่องนี้เอง เช่นนั้นก็เป็นสาวใช้ของข้าเถอะ!”

ฮัวหยู่อันพูดไม่ออกชั่วขณะ

เพียงแค่คำพูดอย่างเกรงใจประโยคหนึ่ง ไม่คาดคิดว่าคุณชายผู้นี้จะทำเป็นเรื่องจริงแล้ว

เขาสวมชุดหรูหรา ราศีไม่ธรรมดา ไม่เหมือนกับคนที่ขาดแคลนสาวใช้ คงไม่ได้เป็นคนป่าเถื่อนในคราบผู้ดี คิดลามกกับนางหรอกนะ?

เห้อ!

ต้องโทษตัวเองที่มีเสน่ห์เกินไปแล้ว

คิดเช่นนี้ ฮัวหยู่อันดีใจอยู่ในใจ แต่ว่าเมื่อคิดถึงคนในเผ่าที่ตายไป ความดีใจเมื่อครู่ได้หายไปอย่างไร้ร่องรอยในพริบตา

เป็นสาวใช้ข้างกาย ก็ไร้อิสระ เช่นนั้นนางก็ไม่สามารถล้างแค้นได้ตามปรารถนาแล้ว

ครุ่นคิดไปมา ฮัวหยู่อันอยู่ในความลังเล

ในที่สุดนางแอบถอนหายใจ

นางบาดเจ็บภายในสาหัส จะไม่หายดีในเวลาอันสั้น อีกทั้ง บุญคุณยิ่งใหญ่อยู่ด้านหน้า นางจำเป็นต้องตอบแทนบุญคุณก่อน อย่างอื่นเอาไว้ด้านหลังก่อน

หลานเยาเยาตั้งใจขมวดคิ้ว อีกทั้งรอยยิ้มหายไป

“ทำไม ไม่ยินยอม?”

“ไม่ใช่ ไม่ใช่ สามารถติดตามข้างกายคุณชายได้ เป็นความโชคดีที่ข้าได้สะสมความดีจากชาติที่แล้ว”

“อืม น่าจะเป็นจริงตามนี้ เจ้าโชคดีมาก ถึงได้พบข้า” หลานเยาเยาไม่รู้สึกไม่เหมาะสมเลยสักนิด

ฮัวหยู่อัน : “…….”

พูดเช่นนี้ต่อหน้านางดีจริงๆหรือ? ทำไมรู้สึกว่าคนผู้นี้ค่อนข้างหลงตัวเองนะ?

ความคิดในใจของนาง แต่นางไม่สามารถพูดได้ พูดแล้วกลัวว่าจะโดนตี

“ในเมื่อเป็นสาวใช้ของข้าแล้ว เช่นนั้นข้าจะตั้งชื่อให้เจ้า” และไม่ได้สนใจว่าฮัวหยู่อันจะเห็นด้วยหรือไม่ หลานเยาเยาก็ก้มหน้าคิดชื่อแล้ว ในไม่ช้า ดวงตานางเปล่งประกาย เมื่อเปิดปาก “ไอติมน้อย น่องไก่น้อย นมหมูน้อย ขาหมูน้อย ปีกย่างน้อย……”

พูดออกมาเป็นกอง

ทั้งหมดล้วนเกี่ยวข้องกับของกิน แม้ว่ามีบางคำที่ฮัวหยู่อันฟังไม่เข้าใจ แต่จากอดีตนางก็นับได้ว่าเป็นนักกินที่มีฝีมือ ไม่ต้องเข้าใจ ก็รู้ว่าต้องเป็นของกินแน่นอน

ท่าทางการแสดงออกของฮัวหยู่อันไม่สามารถอธิบายได้ นางรู้สึกว่าตัวเองถูกทำเป็นอาหารจานหนึ่งแล้ว

แต่ว่า ก็เพราะสิ่งนี้ ในใจนางมีความอบอุ่นขึ้นในพริบตา

ต่อต้านประโยคหนึ่งเบาๆ : “เหมือนกับว่าจะไม่น่าฟังทั้งหมด”

ฮัวหยู่อันรู้สึกว่า ทั้งๆที่เป็นแค่การต่อต้านเสียงเบาๆมากๆเท่านั้น คนอื่นน่าจะฟังไม่ชัดว่านางพูดอะไรอยู่ แต่สายตาหนึ่งยิงมา คนด้านหน้าหรี่ตาลง กล่าวด้วยเสียงหนักแน่น :

“ไม่น่าฟัง? เจ้ากำลังสงสัยความสามารถในการตั้งชื่อของข้า?” ฮัวหยู่อันโบกมือ น่าจะเป็นการขอโทษ หรือแก้ตัวให้ตัวเอง หลานเยาเยาเปิดปากสกัดกั้นนางโดยตรง “ช่างเถอะ เห็นร่างกายเจ้าบาดเจ็บ ไม่เหมาะที่จะเอาชื่อมาทำให้เจ้าไม่สบายใจ แบบนี้ เจ้าชื่อฮัวหยู่อันสินะ? เช่นนั้นเรียกว่าเสี่ยวฮัวก็ได้แล้ว”

เมื่อคำพูดนี้โพล่งออกไป!

ฮัวหยู่อันตกตะลึงไปตรงนั้น

การเรียกที่คุ้นเคยอย่างมาก ทำให้นางคิดถึงช่วงเวลาที่เคยมีความสุขนั้นอย่างฉับพลัน น่าเสียดายบุคคลผู้นั้นที่สามารถนำความสุขมาให้นางได้ไม่อยู่ตั้งนานแล้ว

ตอนนี้มีคนเรียกนางเช่นนี้ นางรู้สึกได้ถึงความอบอุ่น

“ทำไม? ยังไม่ชอบอีก? ข้าเป็นถึงซ่างกวนหมอเทวดา น่าเกรงขามมากมีความโกรธมาก ไม่ว่าชอบหรือไม่ ยังไงซะก็จะเรียกเจ้าว่าเสี่ยวฮัวแล้ว”

พูดจบ!

หลานเยาเยาหันศีรษะ หมุนตัวแล้วจากไป

ฮัวหยู่อันมองส่งนางจากไปไกล ในตามีน้ำตาที่ส่องประกายเล็กน้อย เอ่ยปากพึมพำ:

“ชอบ!”

เขาคือซ่างกวนหนานซู่จริงๆ

แต่ทำไมเขาถึงต้องการช่วยตัวเอง?

…….

ครึ่งเดือนผ่านไป

เรื่องทูตแต่ละประเทศถูกลอบสังหาร โดยพื้นฐานได้มีการเจรจาอย่างเหมาะสมแล้ว เพราะวันนั้นที่ประเทศอื่นนำกองทหารมาประณามความผิด ในราชสำนักปรากฏเงาของอ๋องเย่ อ๋องเย่ไปยืนตรงนั้น ก็คือผู้ที่สามารถแก้ไขเรื่องราวของประเทศก่วงส้า น้ำเสียงการพูดจาของฮ่องเต้องค์ใหม่เย่หลีเฉินก็เพียงพอมากขึ้น

เพราะมีพยานหลักฐานพิสูจน์ว่าเรื่องการลอบสังหาร ไม่ใช่ราชสำนักทำ แต่เป็นฝีมือองค์กรนักฆ่าของยุทธจักร จุดประสงค์เพื่อยุยงให้เกิดสงครามระหว่างประเทศ

ดังนั้น แต่ละประเทศทางวาจาให้ปรองดองสงบศึก ในเบื้องหลังมีความคิดของแต่ละประเทศ

อย่างไรเสียทูตแต่ละประเทศถูกลอบสังหารในประเทศก่วงส้า ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องชดเชยสักหน่อยสิ?

ไม่ใช่นั้นคนก็ตายเปล่าแล้วไม่ใช่หรือ?

ทูตผู้นำแต่ละประเทศเป็นถึงบุคคลสูงส่ง

แต่มีอ๋องเย่อยู่ พวกเขาไม่กล้าเอ่ยถึง

กลับเป็นฮ่องเต้องค์ใหม่เย่หลีเฉินที่เอ่ยขึ้นเอง เรื่องส่งทูตไปแสดงความเสียใจกับแต่ละประเทศ นี่เป็นธรรมดาที่ต้องเตรียมของกำนัลเล็กๆน้อยๆชิ้นหนึ่ง

ความจริงของกำนัลเล็กๆนี้ ทุกคนล้วนรู้ดี ก็คือการชดเชย

แต่ว่า…….

เดิมทีเรื่องชดเชยการลอบสังหารทูตและไปแต่ละประเทศนั้นแยกกัน ตอนนี้เป็นเช่นนี้ รวมกันเป็นเรื่องเดียว ของกำนัลเล็กๆน้อยๆชิ้นหนึ่งก็ได้แล้ว

ทูตที่นำกองทหารมาประณามความผิดแอบด่าในใจ มีอ๋องเย่ให้ท้าย เย่หลีเฉินก็เพียงหมาป่าเจ้าเล่ห์เท่านั้น

แต่ทว่า ถึงจะไม่พอใจ พวกเขาก็พูดอะไรไม่ได้

หากว่าต้องเปิดสงครามจริง เช่นนั้นก็ตกในกับดักของผู้อื่นแล้ว ผลลัพธ์จะต้องได้ไม่คุ้มเสียเป็นแน่

ดังนั้น เรื่องทูตถูกซุ่มสังหาร จบไปอีกครั้ง อย่างน้อยในช่วงนี้ จะไม่เกิดสงคราม สามารถฉลองปีใหม่ได้อย่างสงบสุข

ด้วยเหตุนี้ วันที่สามหลังจากที่คนของแต่ละประเทศจากไป ราชสำนักจึงมีความสงบสุขปล่อยออกมา จากเจ็บวันเปลี่ยนเป็นสิบวัน ทำให้แต่ละครัวเรือนขึ้นปีใหม่อย่างดี

อย่างไรเสียหลังจากผ่านปีนี้ ไม่รู้ว่าที่ต้องเผชิญหน้าจะเป็นความสงบสุขหรือความวุ่นวาย

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท