หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 654 รักษาผู้ที่มีอาการบาดเจ็บสาหัส

บทที่ 654 รักษาผู้ที่มีอาการบาดเจ็บสาหัส

ในเวลานี้

ร่างหนึ่งปรากฏขึ้นในสายตาของพวกเขาโดยไม่พูดอะไรเลย ดึงมีดสั้นออกมาด้วยแสงเย็นเฉียบ และแทงเข้าไปในอกของทหารที่นอนอยู่บนกระดานไม้

หมอทหารสองคนก็กระโดดพร้อมกัน ตกใจจนกอดกันเป็นก้อน

มีคนกล้าลอบสังหารในเวลากลางวันแสกๆ ช่างไม่เห็นกฎหมายอยู่ในสายตาเลย

“มีผู้ลอบสังหาร………”

“ทหาร! มีผู้ลอบสังหาร”

เสียงขอความช่วยเหลือ ทหารที่อยู่ข้างนอกก็วิ่งเข้ามาอย่างเร่งด่วน แวบแรกที่เห็นภาพที่อยู่ในห้องก็ตกตะลึง ชายรูปงามถือมีดสั้นอยู่ในมือแทงเข้าไปหัวใจของทหารที่บาดเจ็บสาหัส หมอทหารหน้าซีดด้วยความตกใจ

แบบนี้จะไหวเหรอ?

ก็จะจับคนโดยสัญชาตญาณ

ชั่วพริบตาเดียว ส้งเย่นกุยก็ได้มาขวางอยู่ตรงหน้าของหลานเยาเยา แค่ขยับมือเบาๆทหารหลายคนก็ถูกเหวี่ยงจนถอยหลังอย่างง่ายดาย ทหารยังอยากจะรุกเข้าไปข้างหน้า จื่อเฟิงก็ได้แสดงป้ายคำสั่งออกมาแล้ว

เมื่อเหล่าทหารเห็นป้าย ก็รีบทำความเคารพแล้วถอยออกไป

มีองครักษ์ลับจื่อเฟิงอยู่ ตอนนี้เรื่องน่าจะไม่ง่ายอย่างที่มองเห็น

เป็นจริงเช่นนั้น!

“คนผู้นี้คือคุณชายซ่างกวง เขากำลังช่วยคน ห้ามรบกวน” จื่อเฟิงกล่าวอย่างเรียบเฉย

ช่วยคน?

แน่ใจว่าไม่ใช่การฆ่าคน?

ไม่นานนักตาของหลานเยาเยาก็ได้ให้ความสำคัญกับสิ่งที่มองอยู่พิเศษ พร้อมด้วยท่าทางที่เคลื่อนไหวเหมือนดั่งเมฆและสายน้ำที่ไหลริน เมื่อจื่อซีเห็นนางหยิบกล่องเครื่องมือที่คุ้นเคยออกมา เขาก็ยืนข้างนางโดยสัญชาตญาณ และช่วยนางส่งกรรไกรและอื่น ๆ

จาวหยางที่จัดยาสมุนไพรอยู่ด้านข้างเห็นเข้า น้ำตาก็ไหลทันที

นางเคยถูกมองเป็นปีศาจ ทำได้เพียงหลบซ่อนอยู่ในมุมมืดเป็นเวลาหลายปี หลานเยาเยาเป็นคนรักษานางหาย นางเคยเห็นกล่องที่หลานเยาเยาเรียกว่ากล่องเครื่องมือแพทย์ไม่เพียงแค่ครั้งเดียว

แทบไม่กล้าเชื่อสายตาของตัวเอง

หลานเยาเยาในอดีต…….

เป็นเทพธิดาในเวลาต่อมา…….

เป็นคุณชายซ่างกวงในตอนนี้……..

ใช่นาง!

ต้องใช่นางแน่ๆ!

เขาต้องใช่หลานเยาเยา!

อยากตะโกนเรียกชื่อของหลานเยาเยา แต่เวลานี้พระราชธิดาจาวหยางทำได้เพียงเอามือกุมปากตัวเองเอาไว้ ไม่กล้าตะโกนแม้แต่คำเดียว กลัวว่าตัวเองจะรบกวนนาง

การผ่าตัด ใช้เวลาไปเกือบหนึ่งชั่วยาม

ในระหว่างนั้น หลานเยาเยาต้องทุ่มสมาธิทั้งหมดลงไป ห้ามได้รับการรบกวนแม้แต่นิดเดียว

ทหารที่ชักกระตุกในตอนแรก สงบลงหลังจากที่หลานเยาเยาดึงเลือดที่สะสมอยู่ในช่องอกออกมา แม้ว่ายังไม่พ้นขีดอันตราย แต่ก็ดูดีกว่าตอนที่ร่างกายครึ่งร่างได้ก้าวเข้าไปในประตูผี ดีขึ้นมากแล้ว

หมอทหารสองคนนี้ไม่เคยเห็นวิธีการรักษาแบบนี้มาก่อน

แต่ด้วยความอัศจรรย์พบว่าสถานการณ์ของทหารค่อยๆคงที่ ดังนั้นเขาจึงอดไม่ได้ที่จะตั้งใจ มองดูหลานเยาเยาช่วยรักษาอย่างสุดกำลัง

หากเป็นวิธีการรักษา งั้น………

พวกเขาอยากจะขโมยวิชา!

รอจนเสร็จสิ้นแล้ว

หน้าผากของหลานเยาเยาเต็มไปด้วยเหงื่อเม็ดเล็กๆ

ส้งเย่นกุยหยิบผ้าออกมาช่วยนางเช็ด นางพยักหน้าเล็กน้อย มองไปทางหมอทหารทั้งสองคน แล้วสอบถาม

“ยังเหลือทหารที่เจ็บ…….อาการบาดเจ็บสาหัสอีกกี่คน? ให้จัดเข้ามาทีเดียว ข้ากับอาส้ง พร้อมด้วยจื่อซีสามารถแยกกันช่วยรักษาในเวลาเดียว”

รักษาคนละหนึ่งคน

หนึ่งครั้งรักษาได้สามคน

ประหยัดเวลาประหยัดแรง ยังสามารถต่อสู้กับยมทูตอีก

นางออกคำสั่ง

อีกอย่างดูท่าทางแล้วแม้แต่องครักษ์ลับของอ๋องเย่จื่อซียังทำตามคำสั่งนาง หมอทหารและทหารยังจะกล้าไม่ขัดคำสั่งเหรอ

ก็รีบจัดผู้บาดเจ็บ

การต่อสู้ในสนามรบ ดาบมีดไม่มีตาอยู่แล้ว บ่อยครั้งหลังจากการสู้รบ ผู้บาดเจ็บนับไม่ถ้วน และผู้บาดเจ็บสาหัสจำนวนมากไม่ได้รับการรักษาทันทีและเสียชีวิตด้วยเหตุนี้

เมื่อคืนกำแพงคูเมืองถูกโจมตี มีคนที่บาดเจ็บสาหัสนับไม่ถ้วน

คนที่เสียชีวิตเพราะรักษาไม่ทัน เดิมก็ทำให้คนรู้สึกปวดใจมากแล้ว ทำไงได้ในเมื่อหมอทหารน้อยมาก พวกเขารักษาไม่ทันจริงๆ ทำได้เพียงเลือกช่วยคนที่สามารถช่วยได้ บางครั้งทำได้แต่ทนดูพวกเขาที่มีชีวิตค่อยๆจากไป

พวกเขารู้สึกผิดและเจ็บปวด แต่ก็ทำอะไรไม่ได้

บัดนี้มีหมอที่ฝีมือล้ำเลิศอยู่ พวกเขาก็ต้องให้ความร่วมมืออย่างเต็มกำลัง

และยุ่งเป็นเป็นเวลาทั้งวัน

รอจนล่วงเลยพลบค่ำ เมื่อราตรีมาเยือน ผู้บาดเจ็บสาหัสที่รักษายากล้วนพ้นขีดอันตรายแล้ว เมฆดำที่กดทับอยู่ในใจของทุกคนก็ค่อยๆ สลายไป

หลังจากทราบเรื่องนี้

ทหารที่บาดเจ็บเพียงเล็กน้อยก็ได้แสดงความดีใจออกมา แต่ละคนต่างมองไปห้องที่ทหารเจ็บหนักพักรักษาตัวอยู่

“ได้ยินมาว่าลูกน้องของอ๋องเย่องครักษ์ลับจื่อซีที่มีฝีมือในการรักษาที่ยอดเยี่ยมก็มาด้วย”

“ไม่เพียงแต่เท่านั้น ข้าได้ยินจากพี่ชายที่เพิ่งเดินออกมาผู้ว่า หมออีกสองท่าน อย่าไปมองว่าอายุน้อย ต่างก็มีภูมิหลังที่ไม่ธรรมดา แม้กระทั่งจื่อซีองครักษ์ลับยังต้องเคารพเขาทั้งสอง”

“เก่งขนาดนั้น? พวกเขาเป็นคนอะไรกัน?”

มีสงสัยแล้วถาม

“ไม่รู้ ยังไงก็แล้วแต่อ๋องเย่เป็นคนพามา คิดว่าน่าจะเป็นหมอเทพที่จ้างมาด้วยเงินทองที่มาก”

“หมอเทพ! เก่งมากจริงๆ”

ยังคงสนทนากันอย่างต่อเนื่อง

พวกหลานเยาเยาได้เก็บของกันเรียบร้อยแล้ว กำลังจะออกมา หันหลังไปก็เจอฮัวหยู่อันยืนอยู่ตรงประตู จ้องมองหลานเยาเยาโดยไม่ขยับสายตา ในแววตาเหมือนมีความไม่พอใจ เหมือนมีอะไรจะพูด

ยังไม่ทันที่หลานเยาเยาจะก้าวเดินไปข้างหน้า ร่างหนึ่งก็พุ่งออกมาจากด้านข้างของนาง ถือน่องไก่ที่กลิ่นหอมยื่นมาที่หน้าของนาง

“หิวหรือยัง?”

พระราชธิดาจาวหยางนี่เอง!

ดวงตาของนางไม่ค่อยสดใส น่าจะเพิ่งผ่านการร้องไห้

หลานเยาเยาเลิกคิ้วมองนาง กระซิบพูดไปหนึ่งประโยค “โตขนาดนี้แล้วยังร้องไห้ เหมือนองค์หญิงที่ไหนกัน?”

ไม่พูดยังดี เมื่อพูดตาของพระราชธิดาก็เริ่มแดง กอดนางไว้อย่างแนบแน่น

สะอื้นอยู่นาน ก็ไม่ยอมปล่อยนาง

“พอแล้ว โหลวเย่ว คนมองอยู่ตั้งมากมาย!!” หลานเยาเยาพูดกับนางเบาๆ

แต่เมื่อได้ยินคำว่าโหลวเย่ว พระราชธิดาก็ร้องไห้ใหญ่โต น้ำตาไหลอย่างห้ามไม่อยู่ ยิ่งร้องยิ่งหนัก น้ำตาน้ำมูกถูเต็มเสื้อของหลานเยาเยา

“ข้าไม่สน พวกเขาจะหัวเราะก็ให้หัวเราะไปเลย” พูดจาไม่ชัดเจน เหมือนว่าคับข้องใจมาก

คนที่ไม่รู้คงจะเข้าใจว่าพระราชธิดาจาวหยางถูกทอดทิ้ง

ไม่ง่ายเลยกว่าที่จะรอให้พระราชธิดาจาวหยางหยุดร้องไห้ พระราชธิดาจึงได้ค่อยๆปล่อยตัวหลานเยาเยาออก เห็นไหล่ของหลานเยาเยาเปียกไปด้วยคราบน้ำตาคราบน้ำมูก ก็เหมือนกับว่านางได้ฟื้นคืนชีพอีกครั้ง แลบลิ้นไปทางหลานเยาเยา ยื่นมือเช็ดน้ำตา แล้ววิ่งหนีออกไป

“……”

หลานเยาเยาไม่รู้ว่าจะทำยังไง

ทำให้ไหล่ของนางเปื้อนไปด้วยคราบน้ำมูก ระบายเสร็จก็วิ่งหนีไป

เพียงแต่……….

วิ่งหนีก็วิ่งหนีสิ!

ทำไมต้องเอาน่องไก่ที่จะให้เธอไปด้วยล่ะ? ไม่รู้ว่านางนั้นจ้องน่องไก่ที่หอมน่ากินอยู่ตลอดเวลาและได้กลืนน้ำลายไปอีกหลายครั้งเหรอ?

จริงๆเลย

หลานเยาเยาแอบเสียดาย น่องไก่ที่เข้าใกล้ปากแล้วได้บินหายไป

หลังจากที่นางไปทางประตูอีกครั้ง ฮัวหยู่อันที่ยืนอยู่ตรงประตูก็หายไปแล้ว

คิดว่าเสี่ยวฮัวๆของนางก็น่าจะรู้ว่านางเป็นใครแล้วล่ะ!

ก็ไม่รู้ว่านางจะรับได้หรือเปล่า……….

กลับไปที่เรือนด้านหน้า นางโบกมือ ให้จื่อซีกับจื่อเฟิงไปทานข้าวแล้วพักผ่อน

หลังจากที่จื่อซีกับจื่อเฟิงพยักหน้า ก็รีบคารวะแล้วจากไป อย่างไม่มีความลังเลเลย

ส้งเย่นกุยที่เดินอยู่ด้านหลังยังรู้สึกสงสัยเล็กน้อย โดยปกติเมื่อเจ้านายพูดแบบนี้ จื่อซีกับจื่อเฟิงก็มักจะซ่อนตัวอยู่ในที่ลับ ทำหน้าที่ปกป้อง ครั้งนี้จากไปแล้วจริงๆ?

เมื่อเขาเห็นนายของตัวเองหยุดฝีเท้าลง เขาเงยหน้าขึ้นทันที ก็เห็นอ๋องเย่ที่ยืนเอามือไขว้หลังอยู่ไม่ไกล ความสง่างามที่ไม่ธรรมดา หน้าตาที่หล่อมาก

ตอนนี้อ๋องเย่กำลังมองเจ้านายของเจ้าเอง เหมือนจะมองจนทะลุไปถึงข้างในแล้ว

แต่ไม่นาน

สายตาที่อ่อนโยนและเอ็นดูคู่นั้นถูกย้ายมาบนร่างของเขา ก็เปลี่ยนไปเป็นความดุร้ายทันที

เหมือนลมที่หนาวเย็น ทำให้คนหนาวสั่น

ส้งเย่นกุยก็เข้าใจทันที สุดท้ายภายใต้สายตาคู่นั้นของอ๋องเย่ ก็จากไปด้วยใบหน้าที่หดหู่

มองหลังที่ไกลออกไปของส้งเย่นกุย

หลานเยาเยาพยักหน้าอย่างพอใจ

อาส้งยิ่งอยู่ยิ่งสังเกตเก่งแล้ว ดีมาก!

ข้างกายเขาไม่มีใครให้กวนใจ หลานเยาเยาและเย่แจ๋หยิ่งมองตากันและยิ้ม รอยยิ้มของทั้งสองแม้จะจางๆ แต่สิ่งที่เผยออกมาในก็คือความงดงามที่แค่มองหน้าก็รู้ใจกัน

หลานเยาเยาก้าวเท้า กำลังจะเดินข้ามไป เพื่อพูดคุยกับเย่แจ๋หยิ่งอย่างดีๆสักครู่

ใครจะไปรู้……

ประตูที่อยู่ด้านหลังของนางก็มีหัวโผล่ออกมาหลายหัว ทุกคนต่างสวมหมวกทหาร แค่มองก็รู้ว่าเป็นแม่ทัพ เหมือนกับว่าได้ผลักกันไปมาอยู่ตรงประตู สุดท้ายคนที่แรงน้อยที่สุดก็ถูกผลักออกมา

คำนับอ๋องเย่ แม่ทัพคนนั้นกล่าวทักทายเย่แจ๋หยิ่งอย่างเคารพ

แต่เย่แจ๋หยิ่งกลับขมวดคิ้ว เหมือนจะไม่ค่อยพอใจ

“มีเรื่องอันใด?”

“ได้ยินมาว่าข้าศึกกำลังเคลื่นไหว บรรดาแม่ทัพมีเรื่องจะหารือ ขอเชิญอ๋องเย่ไปที่ค่ายใหญ่” แม่ทัพกลั้นใจพูด

ความรู้สึกที่ถูกอ๋องเย่จ้องมองอย่างเย็นชาแบบนี้ มันช่างน่ากลัวเหลือเกิน

เขาถือคติที่ว่าจะตายก็ต้องตายพร้อมกัน ดึงแม่ทัพที่คิดจะขัดขวางคุณชายซ่างกวงที่เข้าใกล้อ๋องเย่ ลงหลุมไฟพร้อมกัน

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท