หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 667 หายนะกำลังมาหนีออกจากหมู่บ้าน

บทที่ 667 หายนะกำลังมาหนีออกจากหมู่บ้าน

เดิมทีทั้งคืนผู้ใหญ่บ้านก็ไม่ได้หลับตา

เห็นสถานการณ์เช่นนี้ แทบจะสติแตก หลังจากครู่หนึ่ง ราวกับว่ายอมรับชะตากรรมแล้ว กล่าวด้วยน้ำเสียงหนัก:

“ตะโกน ตะโกนหาอะไรกัน! มาก็มาสิ!ถึงตายข้าก็จะไม่จากที่นี่ไป พวกเจ้าพาครอบครัวหนีเอาชีวิตรอดไปเถอะ!”

“ไม่ใช่ ผู้ใหญ่บ้าน เป็นคนของเรือลำใหญ่กลับมาแล้วขอรับ พวกเขาฆ่าสัตว์ประหลาดตายแล้ว……”

เด็กหนุ่มรีบอธิบาย ชักแม่น้ำทั้งห้ามาพูด ในที่สุดพูดจนแววตาอันน่าเหลือเชื่อของผู้ใหญ่บ้านกลายเป็นท่าทางปกติ เห็นผู้ใหญ่บ้านเชื่อแล้ว เด็กหนุ่มรีบพูดต่อด้วยความตื่นเต้นอีก

“ผู้ใหญ่บ้าน พวกเราออกไปดูกันเถอะขอรับ! พวกเขาลากสัตว์ประหลาดมาถึงหน้าหมู่บ้านแล้ว”

“ดีดีดี…….”

ผู้ใหญ่บ้านพยักหน้าตอบรับติดกัน ทั้งๆที่ใบหน้าเต็มเปี่ยมด้วยความอยากเห็นว่าสัตว์ประหลาดที่ตายแล้วรูปลักษณ์อย่างไร แต่เท้ายังคงไม่มีการเคลื่อนย้ายสักก้าว

เด็กหนุ่มสงสัย:

“ผู้ใหญ่บ้าน ทำไมท่านไม่เดินล่ะขอรับ?”

“ข้ากำลังเดินอยู่นี่ไง! แต่ว่าขยับเท้าไม่ไป รีบมาช่วยข้าเร็ว”

หน้าหมู่บ้านชาวประมง

ถูกคนตะโกนเรียกขนาดนี้ ชาวบ้านทั้งหมดล้วนรวมตัวกันที่หน้าหมู่บ้าน แต่ละคนชะโงกหัวมองไปรอบๆ มีคนรีบสอบถามเด็กหนุ่มในหมู่บ้านผู้นั้นที่รอดตายกลับมาจากปากของสัตว์ประหลาด

“เจ้าเคยเจอสัตว์ประหลาด นั้นก็คือรูปร่างหน้าตาของสัตว์ประหลาดหรือ?”

หลังจากได้รับคำตอบกลับที่แม่นยำแล้ว พวกเขาก็ชะโงกหน้าออกไปมองไปรอบๆต่ออีก

ผู้ใหญ่บ้านรีบมาถึงหน้าหมู่บ้านอย่างลำบาก

ภายใต้หมอกยามเช้า คนกลุ่มหนึ่งลากศพของคนจากนอกแผ่นดินเคลื่อนที่ไปด้านหน้าช้าๆ ยิ่งมายิ่งใกล้ ผู้ใหญ่บ้านไม่กล้าเข้าใกล้ แต่ก็ได้เห็นรูปลักษณ์ของสัตว์ประหลาดอย่างชัดเจนแล้ว

ที่แท้ความลึกลับ สัตว์ประหลาดที่น่าสะพรึงกลัวสุดๆก็หน้าตาเช่นนี้นี่เอง!

เห็นชาวบ้านทั้งหมดอยู่ หานแสเดิมทีก็ไม่ชอบเจรจากับคนที่เขาคิดว่าเป็นคนชั้นต่ำ คิดเพียงจะรีบเอาศพคนนอกแผ่นดินขนย้ายไปบนเรือ

เขาไม่กลัวศพเน่าเปื่อยส่งกลิ่นเหม็น

เพราะหลานเยาเยามีตัวยารักษาศพ

และเรือแห่งความสิ้นหวังของเขาก็ใหญ่โตเพียงพอ ไม่เป็นปัญหาที่จะใส่ศพของคนนอกแผ่นดินสองศพ

ทีแรกเขาไม่อยากให้ชาวบ้านตกใจ ใส่ศพเสร็จก็สั่งให้ออกเรือจากไป

ใครจะรู้หลานเยาเยากลับบอกว่าต้องการเอาศพเคลื่อนจากในหมู่บ้านไปขึ้นเรือ เดิมทีเขาไม่เห็นด้วย แต่ขณะที่หลานเยาเยามองมาทางเขา นึกไม่ถึงว่าเขากลับพยักหน้าอย่างอธิบายไม่ถูกแล้ว

ตอนนี้เขาอยากตบหน้าตัวเองฉาดหนึ่งจริงๆ

ไม่รู้จริงๆว่าในสมองของหลานเยาเยากำลังคิดแผนการพิเรนทร์อะไรอีก

เพราะกลุ่มชาวบ้านคลุกคลีกับสินค้าประมงเป็นแรมปี บนตัวแผ่กระจายกลิ่นคาวปลาออกมา ทะลุออกมาจากกระดูกโดยแท้ ฉุนขึ้นสมองเกินไปจริงๆ ไม่ด้อยไปกว่ากลิ่นในขวดเล็กๆอันงดงามที่หลานเยาเยาให้เขาดมโดยแท้……

หานแสแบนปาก!

เอาแขนเสื้อสีแดงสดขึ้นมา ไว้ตรงปลายจมูกเล็กน้อย

ฉวยโอกาสที่ทุกคนไม่สนใจ เขาแฉลบตัวทีหนึ่ง ก็หลบไปอีกด้านหนึ่งแล้ว

รอจนคนจากนอกแผ่นดินเข้าในหมู่บ้านแล้ว ขณะที่หลานเยาเยาหันหน้าหาคน ถึงได้พบว่าหานแสหายตัวไม่ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้

นางเพียงแค่ยกมุมปากขึ้นบางๆ

และไม่ได้สนใจมากนัก

“พวกพ่อแม่พี่น้อง นี่ก็คือสัตว์ประหลาดที่พวกท่านพูดถึง พวกมันรูปร่างใหญ่โต พละกำลังมากมายดั่งวัว หนังหยาบเนื้อหนา อีกทั้งกินเนื้อสดเป็นอาหาร

เหมือนกับพวกเรา พวกมันรู้จักไตร่ตรอง สร้างกับดักเป็น มาจากจุดสิ้นสุดของทะเล เป้าหมายก็เพื่อบุกยึดแผ่นดินผืนนี้”

บรรดาชาวประมงเสียงดังอื้ออึง!

พวกเขาตกตะลึงต่อคุณชายซ่างกวนที่อยู่ตรงหน้า ที่รู้รายละเอียดของสัตว์ประหลาดนี่ขนาดนี้

แต่คิดแล้วคิดอีกในชั่วพริบตา พวกเขาสามารถสังหารพวกกินคนเป็นอาหารนี้ได้ จะต้องมีความเข้าใจต่อสัตว์ประหลาดเหล่านี้เป็นแน่

แต่ทว่าที่ทำให้พวกเขาตกตะลึงยิ่งกว่าคือ นึกไม่ถึงว่าเป้าหมายของสัตว์ประหลาดสองตัวนี้คือเพื่อบุกยึดแผ่นดินใหญ่ผืนนี้……

แต่ยังไม่รอให้พวกเขาได้ทำความเข้าใจข่าวสารเหล่านี้อย่างสมบูรณ์ หลานเยาเยาก็รีบพูดต่อ:

“สองตัวนี้เป็นเพียงหน่วยสอดแนบของกลุ่มเผ่าพันธุ์ที่ใหญ่โตของพวกมัน เข้าใจง่ายหน่อยก็คือ พวกเขาสองคนมาสืบข่าวก่อน ด้านหลังยังมีคนจากนอกแผ่นดินอีกกลุ่มใหญ่มาจากในทะเลอีก

ทุกคนทั้งหลายต้องเตรียมตัวให้พร้อม”

เสียงของนางมีพลังผ่าเผย เร็วและชัดเจน จริงจังและรอบคอบ

เห็นได้ชัดเจนมาก!

นางไม่ได้ล้อเล่น

พวกชาวบ้านส่งเสียงอื้ออึงอีกครั้ง หลักฐานแท้จริงอยู่ต่อหน้า พวกเขาเชื่อเขาโดยสิ้นเชิง ตอนนี้เหลือเพียงความหวาดผวาและความตื่นกลัว

สัตว์ประหลาดขนาดมหึมานี้ และก็คือคนจากนอกแผ่นดินที่คุณชายซ่างกวนเอ่ย นึกไม่ถึงว่าทั้งหมดจะมีกลุ่มเผ่าพันธุ์ที่ใหญ่โต

ในใจของเหล่าชาวบ้านมีห้าคำวนเวียนอยู่:

หายนะใกล้จะถึงตัวแล้ว……

เห็นการตอบสนองของเหล่าชาวบ้าน การแสดงออกของหลานเยาเยายังคงเคร่งขรึม

ที่ต้องการก็คือผลลัพธ์เช่นนี้!

เพียงแค่เหล่าชาวบ้านรู้สึกว่าหายนะใกล้จะถึงตัวแล้ว พวกเขาก็จะต้องหนีภัย จะไปหาที่ลี้ภัย จากนั้นเอาข่าวสารการต้องการมาบุกยึดแผ่นดินใหญ่ผืนนี้ของคนจากนอกแผ่นดินเผยแพร่ออกไป

นางยอมรับ ว่านางกำลังใช้ประโยชน์ชาวบ้านกลุ่มนี้ กระจายข่าวสารแทนนาง เพื่อร่วมกันเตรียมพร้อมในการต่อต้านการบุกรุกของคนจากนอกแผ่นดิน

แต่……

ชาวบ้านของหมู่บ้านชาวประมงไม่ปลอดภัยที่จะอาศัยอยู่ที่นี่ต่อไป

ตอนที่คนจากนอกแผ่นดินขึ้นบกไม่ได้ผ่านหมู่บ้านผืนนี้ ก็คือเรื่องโชคดีเรื่องหนึ่ง

เพราะฉะนั้น!

ก่อนหน้านี้คนจากนอกแผ่นดินขึ้นฝั่ง สามารถทำได้เพียงจับคนสัญจรที่ผ่านทางและสัตว์ป่าในป่าลึกลับกินเป็นอาหาร

หากครั้งหน้าล่ะ?

เมื่อคนจากนอกแผ่นดินขึ้นฝั่งพบกับหมู่บ้านพอดี จะมีชาวบ้านกี่คนที่สามารถพอจะหนีรอดได้อีก?

แม้ว่าหมู่บ้านชาวประมงจะโชคดีแล้วโชคดีอีก ครั้งแรกครั้งที่สอง ครั้งที่สามครั้งที่สี่ กระทั่งครั้งที่เจ็ดครั้งที่แปด ล้วนไม่ได้ขึ้นฝั่งจากหมู่บ้านชาวประมง เช่นนั้นเวลาที่คนจากนอกแผ่นดินบุกรุกครั้งใหญ่ล่ะ?

ที่นี่จะต้องกลายเป็นสนามรบแน่นอน!

หมู่บ้านชาวประมงถูกลิขิตให้น่าสังเวช!

หลานเยาเยาทำให้พวกเขาตกใจหนีไป ก็ไม่เพียงแค่ใช้ประโยชน์เท่านั้น

พูดจบถึงตรงนี้ นางไม่ได้พูดต่อแล้ว แต่ให้พวกชาวบ้านหลีกทางเป็นเส้นทางหนึ่ง ให้พวกเขาเคลื่อนย้ายศพคนจากนอกแผ่นดินขึ้นเรือ

ยังไม่รอให้พวกเขาขึ้นเรือ……

เหล่าชาวบ้านวิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว ทั้งหมดวิ่งกลับบ้านไปด้วยความรีบร้อนแล้ว

สินค้าทะเลที่ยังตากไม่แห้ง……

แหจับปลาที่ยังไม่ได้เก็บ……

อุปกรณ์หาของทะเลที่ทำขึ้นเอง…….

รวมถึงบ้านที่สืบทอดจากบรรพบุรุษหลายชั่วคน……

ถูกทอดทิ้งทั้งหมดแล้ว

เป็นธรรมดาตอนนี้ที่สำคัญที่สุดคือหนีเอาชีวิตรอดด้วยความรวดเร็ว!

ไม่ถึงครึ่งชั่วยาม ทั้งหมู่บ้านชาวประมงหนีออกจากหมู่บ้าน คนสุดท้ายที่จากไปคือผู้ใหญ่บ้านของหมู่บ้านชาวประมง

ทีแรกเขาไม่อยากจากไป คิดต้องการร่วมเป็นร่วมตายกับหมู่บ้านชาวประมง จนปัญญาทนต่อการรบเร้าของครอบครัวไม่ได้ เขาพยักหน้าแล้ว เห็นด้วยที่จะหนีไปพร้อมกับครอบครัว นึกไม่ถึงว่าตอนจากไป ขาแข้งว่องไวเป็นที่สุด วิ่งเร็วกว่าลูกชายที่ยังหนุ่มยังแน่นของเขาอีก

เรือแห่งความสิ้นหวังก็ไม่ได้อยู่นาน ไม่ช้าก็กลับไปตามทางเดิม

ข่าวสารกลุ่มเผ่าพันธุ์คนจากนอกแผ่นดินตัวใหญ่โตแข็งแกร่งต้องการบุกรุกแผ่นดินใหญ่ผืนนี้ ความรวดเร็วในการแพร่กระจายยังเร็วกว่าความเร็วของเรือแห่งความสิ้นหวังที่กลับไปถึงเมืองโยวกวงอีก ทำให้จิตใจของคนทั้งประเทศเชียนหลิงหวาดผวาเป็นอย่างมาก

ข่าวคราวแพร่กระจายไปถึงกระทั่งชายแดนของประเทศก่วงส้าแล้ว

และเรือแห่งความสิ้นหวังเทียบท่าอยู่นานหลายวันก่อนจะเข้าประเทศก่วงส้า เหตุผลเพียงแค่……

หลานเยาเยาหายไปแล้ว!

หายไปพร้อมกับหลานเยาเยายังมีอ๋องเย่เย่แจ๋หยิ่ง รวมถึงองครักษ์ลับสองคนที่ติดตามข้างกายเขา

กระทั่งยังมีส้งเย่นกุยที่ลึกลับผู้นั้นอีก……

โดยสรุป!

หลานเยาเยาคนทั้งกลุ่มนั้น ชั่วข้ามคืนก็หายตัวไปทั้งหมดแล้ว

เพราะเหตุนี้หานแสเดือดดาลเป็นอย่างมาก สายตาของเขาจ้องมองโจ๋จุนชิงเบาๆ ในสายตาเต็มไปด้วยแรงสังหาร

“ไม่ได้ให้เจ้าจับตาดูพวกเขาหรือ?”

“เจ้าของเรือได้โปรดอภัย ข้าน้อยสมควรตาย แต่ก่อนตายอนุญาตให้ข้าน้อยพูดสิ่งที่ไม่ควรพูดสักประโยคขอรับ”

หานแสหรี่ตาลงในพริบตา ริมฝีปากบนล่างชนกัน เสียงชั่วร้ายล้ำลึกลอยออกมาช้า

“ตั้งแต่ป่ายเม่ยเซิงและซาหมั่นเฉิงจากไปแล้ว ดูเหมือนว่าเจ้าก็เปลี่ยนไปมาก”

บุรุษพันหน้าป่ายเม่ยเซิง ร่องลอยอยู่ระหว่างความมืดมิดและแสงสว่างมาตลอด นิสัยจิตใจอิสระเสเพล ไม่คำนึงถึงรายละเอียดเล็กน้อย จะตัดใจจากเขาไปได้เขากลับไม่แปลกใจ

เพียงแค่ไม่เคยคาดคิดมาก่อน……

พ่อครัวศักดิ์สิทธิ์ถูยู่ซาหมั่นเฉิงผู้นั้นที่ถูกคนทั้งเมืองเนรคุณอย่างหนัก สังหารทั้งเมืองด้วยความสิ้นหวัง ตกลงสู่ความมืดมิดในที่สุด กลายเป็นหนึ่งในผู้ดูแลเรือแห่งความสิ้นหวังของเขา

นึกไม่ถึงว่าเขาเริ่มโหยหาแสงสว่าง ออกไปอยู่อย่างสันโดษแล้ว ถึงวันนี้ไม่รู้ว่าตัวอยู่ที่ใด

มีเพียงโจ๋จุนชิงมือปีศาจเลือดเย็นที่ฆ่าคนนับไม่ถ้วนเพียงผู้เดียวที่อยู่ข้างกายเขามาโดยตลอด

พ่อแม่ของโจ๋จุนชิงตายด้วยอหิวาตกโรคตั้งแต่ยังเด็ก เพราะพรสวรรค์เฉลียวฉลาด เหมาะสมที่จะบ่มเพาะเป็นนักฆ่าที่สุด และบวกกับเขาเป็นเพียงอาวุธอย่างดีที่ฆ่าคนโดยปราศจากความรู้สึก ดังนั้นได้เจ้านายผู้หนึ่งก็ซื่อสัตย์ทั้งชีวิต จนตายก็ไม่เปลี่ยน

แต่หวนคิดดูอย่างฉับพลัน

เขาไม่ได้เลือดเย็นขนาดนั้นอีกแล้ว…….

และไม่ได้ฆ่าคนเป็นผักเป็นปลาเช่นนั้นแล้ว……

กระทั่งมีครั้งหนึ่ง เขาที่เข้าใจลึกซึ้งว่าตัดหญ้าไม่ถอนรากลมฤดูใบไม้ผลิพัดมาก็จะเกิดขึ้นใหม่ยังจงใจปล่อยเด็กสาวที่น้ำตานองหน้าไปอีก…….

โจ๋จุนชิงก็เริ่มเปลี่ยนแล้ว…….

หานแสไม่เข้าใจต่อสิ่งนี้เป็นอย่างมาก

นี่เป็นเพราะอะไรกันแน่?

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท