ตอนที่ 292 อีลั่วเสวี่ยแปลกใจ
แววตาเฉวียนหมิงอึมครึม อดตื่นตัวขึ้นมาไม่ได้ ทำไมหมอนี่เกิดสนใจอาเสวี่ยขึ้นมา เขาคิดจะทำอะไร
“อย่าทำท่าตั้งการ์ดอย่างนั้นสิครับ ผมกับคุณก็ถือว่าเป็นเพื่อนกัน เจอภรรยาของเพื่อนบ้าง ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก ถ้าผมจำไม่ผิด เธอเหมือนคนที่ผมเจอวันนี้มาก”
“คุณเคยเจออาเสวี่ย?” เฉวียนหมิงอดถามไม่ได้ เมื่อไหร่กัน วันนี้หลังจากหมดชั่วโมงเรียน เธอก็ไปเที่ยวบ้านหลิ่วเฟยซวงไม่ใช่เหรอ ซีเหมินหลงเซี่ยวมีโอกาสไปเจอเธอได้ยังไง
หรือผู้ชายคนนี้ฉวยโอกาสตรวจสอบเธอตอนที่ฉันไม่รู้
ซีเหมินหลงเซี่ยวเลิกคิ้ว จิบไวน์แดงด้วยสีหน้าใสซื่อ “ขอผมนึกก่อนนะ ดูเหมือนจะเป็นที่ร้านเครื่องหยกแห่งหนึ่ง เพื่อนผู้หญิงที่อยู่ด้วยดูเหมือนจะชื่อหลิ่วเฟยซวง ผมผ่านร้านหยกร้านนี้ แล้วก็เจอเธอตอนเข้าไปดูหยก”
ร้านเครื่องหยก นั่นเป็นร้านเครื่องหยกของหลิ่วเฟยอวิ๋นไม่ใช่เหรอ หลิ่วเฟยซวงพาเธอไปที่นั่น ก็ไม่แปลก เฉวียนหมิงคิดแล้วจึงคลายความกังวลลงเล็กน้อย
“งั้นก็คงได้เจอกันแล้ว ดังนั้นเรื่องแนะนำ ผมว่าคงไม่จำเป็น ต้องขอบคุณนายน้อยซีเหมินสำหรับการรับรองคืนนี้ ขอลาครับ” เฉวียนหมิงเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบราวกับแสงจันทร์
เขาไม่รอให้ซีเหมินหลงเซี่ยวพูดอะไร ก็หันหลังผละจากไป เหล่าเกาคอยมองอยู่อีกด้าน รีบวางแก้วในมือแล้วเดินตามไป
หนานหลิวเฟิงกับมั่วเฉินเซวียนเห็นเฉวียนหมิงกลับไปก่อน เดิมที่กลัวว่าซีเหมินหลงเซี่ยวกับเขาจะสานสัมพันธ์กัน พอเห็นแบบนี้ความคิดที่จะชิงตัดหน้าก็หมดไป
“ทำไมต้องร้อนรนเพราะผู้หญิงคนเดียว นี่ไม่ใช่นิสัยของเฉวียนหมิง” ยิ่งเป็นแบบนี้ ซีเหมินหลงเซี่ยวก็ยิ่งแปลกใจ อีลั่วเสวี่ยมีเสน่ห์ดึงดูดอะไร ถึงทำให้เฉวียนหมิงหลงเธอขนาดนี้
ซีเหมินหลงเซี่ยวหัวเราะเบาๆ หยิบแก้วไวน์เดินเข้าไปในกลุ่มคน หนานหลิวเฟิงและมั่วเฉินเซวียนเห็นเช่นนั้นก็เดินไปทางเขา
เฉวียนหมิงไม่รู้ว่างานเลี้ยงเป็นอย่างไรหลังจากนั้น ทั้งเขาเองก็ไม่สนใจ พอออกจากโรงแรมก็โทร.หาอีลั่วเสวี่ยทันที
อีลั่วเสวี่ยซึ่งอาบน้ำแปรงฟันแล้ว เตรียมจะบำเพ็ญเพียร สะดุ้งเพราะเสียงมือถือ “ดึกป่านนี้ ใครยังโทร.มาอีกนะ” เห็นทีคราวหน้าถ้าจะบำเพ็ญเพียรคงต้องปิดมือถือก่อน
ไม่อย่างนั้นถ้าเธอกำลังบำเพ็ญเพียรถึงช่วงสำคัญ แล้วมือถือเกิดดังขึ้นมา จะส่งผลกระทบต่อตัวเธอได้ ขั้นเบาอาจทำให้การบำเพ็ญเพียรสะดุดลง พลังย้อนกลับมาทำให้อวัยวะภายในบาดเจ็บ ขั้นหนักอาจทำให้ธาตุไฟเข้าแทรกจนเป็นอันตรายได้
“เฉวียนหมิง ดึกแล้วโทร.หาฉันมีอะไรเหรอคะ” น้ำเสียงอีลั่วเสวี่ยไม่พอใจ มีแฟนที่ติดแจอย่างนี้ จะทำยังไงดี ถ้าปล่อยให้รอสายคงร้อนใจมาก
“คุณอยู่ไหน” ที่ปลายสาย เฉวียนหมิงไม่ได้โกรธที่อีลั่วเสวี่ยมีน้ำเสียงไม่พอใจ แต่กลับกระวนกระวาย
อีลั่วเสวี่ยกะพริบตา ตอบโดยไม่ต้องคิด “ก็ต้องอยู่บ้านสิ ทำไมเหรอคะ”
“คุณกลับบ้านแล้ว?” จริงสิ เธอบอกว่าวันนี้ไปเป็นแขกบ้านหลิ่วเฟยซวง ถ้าไม่ค้างคืน ตอนนี้ก็กลับถึงบ้านเตรียมเข้านอนแล้ว
“ไม่งั้นจะให้อยู่ไหนล่ะ คุณเป็นอะไรไป ทำไมถามแปลกๆ” ความรู้สึกบอกเธอว่าเฉวียนหมิงมีอะไรผิดปกติ
เฉวียนหมิงได้ยินก็ถอนหายใจเบาๆ มุมปากโค้งเป็นรอยยิ้มสวย ทำให้ใบหน้าหล่อเหลาของเขาดูมีเสน่ห์ยิ่งขึ้น “คุณไม่เป็นไรก็ดีแล้ว” คิดว่าซีเหมินหลงเซี่ยวนั่นจะทำอะไรเธอ ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว
คนคนนี้รับมือยากกว่าคนอย่างมั่วเฉินเซวียน ไม่รู้ว่าเป็นมิตรหรือศัตรู ไม่เหมือนกับมั่วเฉินเซวียน ซึ่งถือว่าเป็นศัตรูอย่างสมบูรณ์ ถ้าจำเป็นจริงๆ อาจพอร่วมมือกันชั่วคราวได้
“ไม่เป็นไรอะไรเหรอคะ ฉันจะเป็นอะไรได้ คุณพูดแปลกๆ เกิดอะไรขึ้นกันแน่ พูดครึ่งๆ กลางๆ แบบนี้ทำให้คนไม่สบายใจนะ” อีลั่วเสวี่ยเดา หรือว่าเขาไม่ได้พาเพื่อนหญิงไปร่วมงานเลยถูกล้อ
ตอนที่ 293 ไม่ว่าใครก็ทำร้ายคุณไม่ได้
ต่อให้เป็นอย่างนั้น เขาก็ไม่จำเป็นต้องกระวนกระวายแบบนี้นี่นา เขาไม่ใช่คนที่จะอึดอัดเพราะสายตาคนอื่นจนวางตัวไม่ถูก
เฉวียนหมิงขยับปาก สิ่งที่อยากพูดกลับพูดไม่ออก เขาอยากถามว่าวันนี้เธอเจอซีเหมินหลงเซี่ยวใช่หรือเปล่า ฝ่ายนั้นแสดงท่าทีเป็นศัตรูกับเธอหรือเปล่า ขณะเดียวกันก็อยากให้เธออยู่ห่างจากบุคคลอันตรายคนนี้
แต่ถ้าพูดแบบนั้นออกไปจริงๆ เขาก็รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนใจแคบไปหน่อย บางทีอาจไม่มีอะไรก็ได้ แค่ซีเหมินหลงเซี่ยวตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับฉัน แล้วตรวจพบเกี่ยวกับเธอเข้าเท่านั้นเอง
“เอ๋? สัญญาณหาย?” ผ่านไปนาน เฉวียนหมิงก็ยังไม่ตอบ อีลั่วเสวี่ยพูดฮัลโหล แล้วสายก็หลุด จึงโทร.กลับไป
ทางด้านเฉวียนหมิง พอสายหลุดไป เขาคิดดูก็เห็นว่าไม่ถามเธอดีกว่า นึกไม่ถึงว่าวินาทีถัดมามือถือจะดังขึ้น
เขารับสายทันที “อาเสวี่ย”
“คุณอยู่ไหนคะ เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า” พอคิดว่าเกิดอะไรขึ้นกับเฉวียนหมิง เธอก็ตึงเครียดขึ้นมาทันที มีคนบอกว่า มีบางคนที่ถูกจับตัวเรียกค่าไถ่หรือเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ พอมีโอกาสก็จะโทร.หาคนในครอบครัว หรือว่าจะเกิดเรื่องกับเฉวียนหมิง
เฉวียนหมิงคิดไม่ถึงว่าเธอจะเป็นห่วงเขาขนาดนี้ ในใจรู้สึกอบอุ่น มุมปากยกยิ้มโดยไม่รู้ตัว “ผมไม่เป็นไร แค่คิดถึงคุณเลยโทร.มา จะถามว่าคุณกลับบ้านหรือเปล่า”
อีลั่วเสวี่ยมองมือถือด้วยสีหน้าประหลาด อีกมือลูบแก้มตัวเอง ให้ตายสิ หน้าแดงแล้ว อีลั่วเสวี่ย เธอนี่มันไม่เอาไหนจริงๆ
“แค่กๆ เท่านี้เหรอคะ คุณไม่เป็นไรแน่นะ” เพื่อความไม่ประมาท อีลั่วเสวี่ยยังถามย้ำให้แน่ใจอีกครั้ง วันนี้เฉวียนหมิงดูแปลกๆ เหมือนกลัวว่าจะเกิดเรื่องกับฉัน แต่ฉันไปบ้านหลิ่วเฟยซวงจะเกิดอะไรกับฉันได้
“ผมไม่เป็นไร คุณกลับบ้านปลอดภัยผมก็สบายใจ ดึกแล้ว คุณรีบพักผ่อนเถอะ อดนอนจะไม่ดีต่อสุขภาพ” เฉวียนหมิงตัดสินใจว่าจะไม่พูดเรื่องนี้กับเธอ เอาไว้คราวหน้าถ้าบังเอิญเจอกัน ค่อยแนะนำ
ด้วยฝีมือของคนอย่างซีเหมินหลงเซี่ยว เขาย่อมหาโอกาสมาพบปะทำความรู้จักแน่ ที่เขาต้องทำคือปกป้องเธอให้ดี ส่วนเรื่องอื่นๆ เขาไม่สนใจ
“ฉันรู้แล้วค่ะ คุณก็เหมือนกันนะ รีบกลับไปพักผ่อนให้ดี คุณคงดื่มไปไม่น้อยละสิ กลับไปดื่มน้ำโซดาเล็กน้อยก่อนนอน ถ้ารู้สึกไม่สบาย ต้องบอกให้ลุงเการู้ ให้เขาโทร.ตามคุณหมอหมิงมาตรวจนะคะ”
สภาพร่างกายของเฉวียนหมิงไม่อาจได้รับการกระตุ้นอย่างตอนที่ตกทะเลอีก ถ้าเกิดขึ้นอีกครั้งสองครั้ง จะยิ่งเร่งให้อาการป่วยของเขาแย่ลง ทั้งยังทำให้ฤทธิ์ของโอสถทิพย์สั้นลงด้วย
“ฟังคุณทุกอย่างเลย อาเสวี่ย ไม่คุยแล้ว ผมใกล้ถึงบ้านแล้ว ราตรีสวัสดิ์นะ”
“ราตรีสวัสดิ์ค่ะ” อีลั่วเสวี่ยวางสาย เธอรู้สึกเหมือนเสียงของเฉวียนหมิงดังอยู่ข้างหู สมจริงราวกับเสียงคลื่นแม่เหล็กดังก้องในหูอยู่นาน
ทันใดนั้นก็มีลำแสงเข้มข้นส่องวาบบนใบหน้าเธอ เธอปล่อยหมัดออกไปตามสัญชาตญาณ ลูกบอลเงินปลิวหวือออกไปทันที
‘ไม่อยากมีชีวิตแล้วใช่ไหม’
ลูกบอลเงินลอยกลับมาอย่างทุลักทุเล ‘ทำไมจะไม่อยากล่ะ ผมแค่เห็นคุณยิ้มหน้าบานแบบที่ไม่ค่อยได้เห็น เลยอยากบันทึกภาพไว้เท่านั้นเอง’
‘โรคจิต ขืนยังจะถ่ายรูปฉัน เชื่อไหมว่าฉันทุบนายให้แบนแต๊ดแต๋ได้’ คิดไม่ถึงว่าฉิวฉิวจะชอบอะไรบ้าบอแบบนี้ ถ่ายรูปคน คิดออกมาได้นะ
อย่าว่าไป มันไม่ใช่แค่ถ่ายรูป ยังแบ่งปันให้เพื่อนดูด้วย แต่อีลั่วเสวี่ยไม่รู้เรื่องนี้
‘เจ้านาย ผมผิดไปแล้ว อย่าโมโหเลยนะ โมโหแล้วหน้าเ**่ยว ผมไม่กวนแล้ว คุณรีบพักผ่อนเถอะ’ จากนั้นก็แวบหายออกไปทางหน้าต่าง เผ่นไปไกล
อีลั่วเสวี่ยกลอกตาใส่ แล้วเอนหลังนอนลงบนเตียงนุ่ม ตาจ้องโคมไฟแขวนเพดานที่เห็นลางๆ ในความมืด ราวกับจะมองเห็นเฉวียนหมิงอยู่บนนั้น