ตอนที่ 370 เป็นแผนร้ายของผู้หญิงคนนี้
“ดู ดู ตอนนี้เธอคงพอใจแล้วใช่ไหมที่ทำให้เราปู่กับหลานกลายเป็นศัตรูกัน เธอทำตามแผนสำเร็จแล้วสิ” เจ้าหนูหนานหลิวเฟิงช่างฉลาดจริงนะ ให้ผู้หญิงคนนี้มาล่อลวงหลานชายของตน
ขั้นแรกสำเร็จแล้ว ทำให้เขากับหลานแตกคอกัน ไม่มีใจจะบริหารบริษัท แล้วค่อยๆ ให้หนานกรุ๊ปกลืนไปทีละน้อย แผนนี้ช่างร้ายกาจจริงๆ
เขาคิดถึงแผนการมากมาย แต่กลับคิดไม่ถึงว่าพวกนั้นจะใช้แผนหญิงงาม แล้วหลานชายตนเองก็ไม่อาจต้านทานได้ เก่งจริงนะ!
นายท่านผู้เม่าที่กำลังจมอยู่กับความเพ้อฝันของตัวเอง ไม่ยอมฟังเรื่องใดๆ ทั้งสิ้น แกคิดว่าที่ตัวเองคิดอยู่คือความจริง หารู้ไม่ว่าบางเรื่องนั้นไม่ควรดูแต่ภายนอก ยิ่งไม่ควรคาดเดาสะเปะสะปะ
อีลั่วเสวี่ยเหมือนน้ำท่วมปาก แผนการอะไร เธอไม่มีแผนอะไรทั้งสิ้น
ถ้าบอกว่าที่ทำเรื่องนี้เป็นเจ้าของร่างเดิม ก็อาจเป็นไปได้ว่าเพราะเธอรักหนานหลิวเฟิง ยินดีเสียสละทุกอย่างเพื่อเขาอย่างเงียบๆ แต่ปัญหาก็คือเธอไม่ใช่เด็กสาวไร้เดียงสาคนนั้นสักหน่อย เป็นฝ่ายเสียสละฝ่ายเดียว เสียสละถึงขั้นชีวิตตนเอง
แต่เวลานี้เธอคือใบหน้าอีลั่วเสวี่ยวิญญาณของมั่วเสี่ยวชิง
“ปู่คะ ฉันไม่รู้ว่าปู่พูดอะไร ฉันไม่คิดจะเคยทำร้ายเฉวียนหมิง ยิ่งจะไม่ทำร้ายเขา” เขาคือคนเดียวที่ดีต่อเธอนับจากที่เธอมายังโลกนี้ ทั้งขณะนี้ยังเป็นเพื่อนชายของเธอ เป็นสามีตามกฎหมายของเธอ เธอจะทำร้ายเขาได้อย่างไร มีแต่คิดจะคอยปกป้องเขา
แต่นายท่านผู้เฒ่ากลับรู้สึกว่าที่อีลั่วเสวี่ยพูดเป็นการเสแสร้ง อธิบายอย่างไร้น้ำหนัก “คำพูดของเธอหลอกได้แต่เจ้าหนูเฉวียนหมิง แต่หลอกฉันไม่ได้หรอก ออกไปซะ ไสหัวไปจากบ้านสกุลเฉวียน”
พอเขาพูดเช่นนี้ออกมา เฉวียนหมิงก็ลุกพรวดขึ้น “ปู่! รู้ไหมว่าปู่พูดอะไรอยู่?”
อย่าว่าแต่เรื่องทั้งหมดนี้ไม่เกี่ยวข้องกับอีลั่วเสวี่ย ยิ่งกว่านั้นหากถอยมาพันก้าวหมื่นก้าวแล้วพูด ต่อให้เธอมีความผิด แต่ถ้าปู่ทำเช่นนี้ ถึงตอนนั้นถ้าทำให้ตระกูลอวิ๋นแก้แค้น เฉวียนกรุ๊ปของพวกเขาคงไม่สามารถรับมือได้
“เจ้าหนู แกพอแล้ว! แกเองไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรอยู่ ผู้หญิงคนนี้ชอบหนานหลิวเฟิง สองคนนี้ร่วมมือกันมาเล่นงานแก ไม่รู้หรือไง?”
“ปู่!” เสียงเฉวียนหมิงเย็นชามาก ยกหางเสียงสูง ใบหน้าที่เดิมเคร่งขรึมอยู่แล้วก็ยิ่งเยือกเย็นแข็งกร้าวขึ้น ท่าทางของทั้งคู่เหมือนจะทะเลาะวิวาทกัน
แม้แต่เหล่าเกาที่ยืนหลบอยู่ข้างๆ ก็แอบขยับเข้ามาใกล้ ถ้าเพื่อสองคนนี้เกิดลงไม้ลงมือขึ้นมา เขาจะได้ห้ามทัน
อีลั่วเสวี่ยขมวดคิ้วแน่น เธอลุกขึ้นยืน “อย่าทะเลาะกันเลยค่ะ” นายท่านผู้เฒ่าไม่พอใจเธอ เธอรู้ดี แต่ถ้าเพราะเรื่องนี้แล้วทำให้ความสัมพันธ์ของเฉวียนหมิงกับปู่แย่ลง เธอไม่อยากเห็นเช่นนี้
นายท่านผู้เฒ่าเป็นญาติสนิทคนเดียวของเฉวียนหมิง เป็นญาติทางสายเลือดคนเดียว ยังเป็นคนแก่ด้วย ถ้าเธอขืนพูดอะไรอีก จะเป็นการราดน้ำมันลงบนกองไฟ
“หึ!” นายท่านผู้เฒ่าร้องหึออกมา แล้วรู้สึกผิดอย่างบอกไม่ถูก ยังคงหน้าบึ้งตึง แล้วหันหน้าไปทางอื่น พอเป็นเช่นนี้เฉวียนหมิงก็มองดูอีลั่วเสวี่ยด้วยความรู้สึกทุกข์ใจและขออภัย
อีลั่วเสวี่ยยิ้มให้เขา เป็นการแสดงว่าเธอเข้าใจดี ที่เฉวียนหมิงยอมทะเลาะกับปู่ตนเองเพื่อเธอ พอที่จะพิสูจน์ถึงใจเขาที่มีต่อเธอ ถ้าเกิดทะเลาะกันจริงๆ เธอยอมไม่ต้องการเห็นเด็ดขาด เรื่องนี้จะกลายเป็นรอยร้าวลึกระหว่างคนทั้งสาม จนไม่อาจฟื้นกลับมาเหมือนเดิม ต่อให้ภายหลังรู้ว่าเป็นการเข้าใจผิดก็ตาม
“ปู่คะ คำว่าปู่ ฉันพูดออกมาจากใจจริง ฉันอีลั่วเสวี่ยขอสาบาน ฉันรักเฉวียนหมิงด้วยใจจริง ใช่ค่ะ ก่อนหน้านี้ที่รู้สึกต่อหนานหลิวเฟิงเป็นเพียงความไร้เดียงสา แต่คนเราในชีวิตก็อาจจะคิดผิดได้ จะไม่ยอมให้กลับใจหรือคะ?”
ตอนที่ 371 ขอบใจที่คุณสามารถเข้าใจ
อีลั่วเสวี่ยเห็นสีหน้านายท่านผู้เฒ่าดูเหมือนจะผ่อนคลายลง จึงพูดต่อ “ส่วนที่ท่านบอกว่าฉันร่วมมือกับหนานหลิวเฟิงเล่นงานเฉวียนหมิง ฉันไม่เคยทำเรื่องอย่างนั้น ก่อนนี้ เดี๋ยวนี้และวันหน้าก็จะไม่มี!”
เจ้าของร่างเดิมที่เคยมีความคิดแบบนั้นได้จ่ายค่าตอบแทนไปแล้ว พลัดตกบันได้ตึกจนเสียชีวิตตั้งแต่ยังเยาว์วัย ส่วนเธอมั่วเสี่ยวชิง ก่อนหน้านี้จนถึงเดี๋ยวนี้ไม่เคยทำร้ายเฉวียนหมิง ยิ่งไม่เคยคิดที่จะทำร้ายเขา
นายท่านผู้เฒ่าร้องหึ หึ “ใครจะรู้ว่าในใจเธอคิดอย่างนี้หรือไม่ เธอมีปาก จะพูดอะไรย่อมได้ จะให้ฉันเชื่อรึ ไม่มัวันหรอก!”
ไม่ให้โอกาสเธอแม้แต่จะอธิบาย อีลั่วเสวี่ยฟังคำพูดเขาออก เธอรู้สึกใจแตกสลาย เธอไม่รู้จริงๆ ว่าไปทำอะไรให้ตาแก่คนนี้ไม่พอใจ
เห็นชัดๆ ว่าคอยลบหลู่เธอ พูดกลับขาวให้กลายเป็นดำ เธอมีความรู้สึกว่าที่เผชิญอยู่ไม่ใช่อย่างที่บนเน็ตเรียกว่าพ่อผัวแม่ผัว แต่เป็นตาแก่ที่ไร้เหตุผล
ตาแก่ที่อาวุโสเป็นสองเท่า จะพูดอะไรก็ลำบาก
เฉวียนหมิงได้ยินก็โกรธทันที “ปู่ครับ ปู่พูดเกินไปมากขึ้นทุกที อาเสวี่ยทำอะไรไม่ถูก อาศัยแต่ที่ปู่คิดเพ้อฝันไปเองทั้งสิ้น”
หรือปู่ตนเองดูซีรีย์ทางทีวีมากเกินไป เรื่องบุญคุณความแค้น ปู่มัวแต่คิดเรื่องพวกนี้ไปเพื่ออะไร เวลานี้สถานะของอีลั่วเสวี่ยยังสูงกว่าหนานหลิวเฟิงรวมทั้งตัวเขาไม่ใช่แค่หนึ่งขั้น
ที่ผ่านมาเธอสายตาสูงมาก เรื่องถ่านไฟเก่า เธอไม่ทำแน่นอน
จะว่าไปแล้วเฉวียนหมิงค่อนข้างเข้าใจนิสัยอีลั่วเสวี่ย เธอไม่หวนกลับไปหาถ่านไฟเก่าเด็ดขาด
อีลั่วเสวี่ยเห็นทั้งสองคนจะทะเลาะกันอีกก็ยกมือกุมหน้าผากด้วยความจนใจ เรื่องห้ามการทะเลาะวิวาทนั้น ถ้าเป็นเมื่อก่อนเธอก็แค่ลงมือเล่นงานทั้งสองฝ่ายหนักๆ ก็ได้แล้ว แต่ขณะนี้เธอไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรจริงๆ
และแล้วขณะนั้นเองเสียงมือถือเธอก็ดังขึ้น บรรยากาศที่กำลังอึมครึมก็ถูกขัด สายตาของทั้งคู่มาอยู่บนร่างอีลั่วเสวี่ย
เป็นครั้งแรกที่อีลั่วเสวี่ยรู้สึกว่าเสียงมือถือดังช่างน่าฟังจริงๆ เธอหยิบมือถือขึ้นมาดู พบว่าอาเหมาโทรมา “ค่ะ อาเหมามีอะไรหรือคะ?” เขารู้ว่าเธอจะกินอาหารที่บ้านเฉวียนหมิง ตามหลักไม่ควรจะโทรหาเธอ
อาเหมาไม่ได้บอกว่าเรื่องอะไร “ท่านแม่ทัพให้คนเอาของมาให้คุณหนูใหญ่ คุณรีบกลับมาเร็วหน่อยนะ”
“พ่อฉัน?” อีลั่วเสวี่ยแปลกใจ แต่อย่างนี้ก็ดี เธอเตรียมจะไปจากที่นี่ ปู่หลานคู่นี้ต้องการเวลาและที่ว่างเพื่อพูดคุยกันดีๆ เธอวางสาย แล้วหันมามองเฉวียนหมิง “อาเหมาขอให้ฉันกลับไปหน่อยค่ะ ฉันกลับก่อนนะ”
เฉวียนหมิงมีท่าทางไม่อยากให้เธอจากไป แต่ปู่ของตนไม่ฟังเหตุผล จะทำให้เธอลำบากใจมากขึ้น จะกระทบกระเทือนจิตใจเธอ เขาจึงพยักหน้า “ผมเดินออกไปส่งคุณ”
“หึ!” พอเห็นสายตาอีลั่วเสวี่ยมองมายังตนเอง นายท่านผู้เฒ่าเบนหน้าหนีด้วยความเย่อหยิ่ง ไม่ใส่ใจเธอแม้แต่น้อย ไปได้ก็ดี เห็นเธอแล้วอดโมโหไม่ได้ เพราะเธอ ทำให้ความสัมพันธ์ของตนเองกับหลานชายแย่ลงเรื่อยๆ
ที่หน้าประตูอีลั่วเสวี่ยกับเฉวียนหมิงเพิ่งเดินออกมา พอปิดประตู เธอก็โผเข้าหาอ้อมกอดของเขา
“อาเสวี่ย ขอโทษนะ! ปู่ผม…”
“ไม่ต้องขอโทษหรอกค่ะ ฉันเข้าใจดี” อีลั่วเสวี่ยยิ้มๆ กอดเอวเฉวียนหมิง ที่จริงแม้ว่านายท่านผู้เฒ่าจะดูโกรธเกรี้ยว แต่ไม่ถึงขั้นที่ทำให้บันดาลโทสะ คิดดูแล้วก็ไม่ใช่คนที่จะเข้าหาได้ยาก
เฉวียนหมิงปล่อยมือจากอีลั่วเสวี่ย สายตาเปี่ยมด้วยความเสน่หาและซาบซึ้ง “ขอบใจนะ อาเสวี่ย” ขอบใจที่คุณสามารถเข้าใจ ปู่อายุมากแล้ว หลายปีมานี้ท่านลำบากไม่น้อยเพราะเรื่องของเขา
ถ้าตอนนี้เขาทำให้ปู่โมโหจนเป็นอะไรไป เขาคงต้องโทษตัวเอง แต่คิดไม่ถึงว่าเพราะตนเองไม่ทำอะไรเลย กลับทำร้ายอีลั่วเสวี่ย
อีลั่วเสวี่ยเป็นคนฉลาดมีไหวพริบ เธอย่อมเข้าใจความลำบากใจของเฉวียนหมิง ไม่ว่าเขาจะยืนอยู่ข้างไหนล้วนลำบากใจทั้งสิ้น