ตอนที่ 382 เธอเป็นใคร
การรุกอย่างกะทันหันของฟางจื่อชิวทำให้เฉวียนหมิงผงะ อยากจะผละออก กลับพบว่าเธอเอาอกเข้ามาพิง ถ้าเขาดึงรั้งก็คงชนถูกตัวเธอ สีหน้าเฉวียนหมิงหมองคล้ำลงทันที
ร่างเขาแข็งทื่อขึ้นราวกับสัมผัสถูกสิ่งที่น่ารังเกียจ
เขาพูดเสียงกร้าว “ปล่อยมือ? ไม่งั้นอย่าหาว่าผมไม่ให้เกียรติคุณ!”
ทั้งคู่เสียงไม่เบา เฉวียนสือและตาแก่ฟางซึ่งเดินอยู่ข้างหน้าหยุดลงทันที หันมามองทั้งสอง
“จื่อชิว ปู่รู้ว่าหลานอยู่เมืองนอกค่อนข้างปล่อยตัวตามสบาย แต่คุณชายเฉวียนไม่ค่อยยุ่งกับผู้หญิง หลานต้องระวังภาพลักษณ์บ้าง” ตาแก่ฟางไม่เอ่ยเรื่องที่เฉวียนหมิงแต่งงานแล้วแม้แต่น้อย
เฉวียนหมิงสีหน้าเครียด กัดฟันกรอด เขาเผยอริมฝีปาก พูดอย่างชัดถ้อยชัดคำว่า “ผมขอพูดอีกครั้ง เอามือคุณออกไป!”
ฟางจื่อชิวรู้สึกน้อยใจทันที ราวกับสมัยที่เรียนมัธยมปลาย เธอบอกทุกคนว่าเฉวียนหมิงเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเธอ แต่เขาไม่ยอมรับ ทำให้เธอถูกมองด้วยสายตากังขา
“ปู่พูดถูกค่ะ” ฟางจื่อชิวเชิดมุมปากขึ้น ปล่อยมือจากเฉวียนหมิงด้วยความกระอักกระอ่วนและน้อยใจ ดึงมือออกจากแขนเฉวียนหมิงอย่างช้าๆ
“ลั่วเสวี่ย รถผมอยู่ด้านนั้น ผม…” หนานหลิวเฟิงและอีลั่วเสวี่ยเดินมา ขณะที่กำลังจะพูด ก็พอดีเห็นฟางจื่อชิวดึงมือออกจากแขนเฉวียนหมิง
อีลั่วเสวี่ยมองเห็นฉากนี้แล้ว แววตาหมองลงทันที เธอไม่พูดอะไร
ขณะนั้นเอง เฉวียนหมิงเงยหน้าขึ้นพอดี เห็นอีลั่วเสวี่ยยืนเยื้องอยู่ไม่ห่างนัก “อาเสวี่ย ไม่ใช่อย่างที่คุณเห็นหรอก” เป็นเหมือนผู้ชายโง่ที่ตกอยู่ในความรัก เฉวียนหมิงทำได้เพียงอธิบายอย่างเซ่อซ่า
สีหน้าอีลั่วเสวี่ยเรียบเฉย ไร้รอยยิ้ม พอเธอได้ยินก็ยิ้มเล็กน้อย เดินมาหาเฉวียนหมิง เขาเองก็รีบเดินลงจากบันได ยื่นมือไปรับของจากเธอ
“เฉวียนหมิง เธอเป็นใคร?” สายตาอีลั่วเสวี่ยอยู่บนร่างฟางจื่อชิว น้ำเสียงราบเรียบ
ไม่เหมือนฉากในทีวีที่พอฝ่ายหญิงเห็นแฟนตัวเองกินอาหารกับผู้หญิงอื่นก็มีท่าทางตกอกตกใจ ลงมือทำร้ายหรือเอะอะโววายใส่อีกฝ่าย
ขณะนี้เจ้าลูกบอลเงินกำลังแอบบันทึกเรื่องทั้งหมดนี้ มันไม่พูดอะไร ในสถานีที่ใช้ทั่วไปของระบบปัญญาประดิษฐ์ขั้นสูงในดวงดาวที่ห่างไกล ลูกบอลเงินหมายเลข 748 กำลังถ่ายทอดสด ความคิดเห็นบนจอก็คือ “อะไรนี่ นี่มันผิดปกติจริงๆ ผู้หญิงคนนี้พิแศษมาก”
“ข้าเดาว่าผูหญิงตัวประกอบเดี๋ยวต้องอาละวาดแน่ เชื่อไหมล่ะ?”
ข้อความต่างๆ บนจอในเวลาถัดมา ล้วนบอกว่าเชื่อ
เฉวียนหมิงเห็นอีลั่วเสวี่ยไม่โมโหมาก ก็คลายความวิตกลง แม้แต่หนานหลิวเฟิงซึ่งอยู่ข้างๆ ก็ถูกมองข้ามไป
“ฉันชื่อฟางจื่อชิว เป็นเพื่อนเฉวียนหมิงตั้งแต่เล็ก สวัสดีจ๊ะ” คำพูดนี้ฟังแล้วเหมือนการประกาศสิทธิของตัวเองออกมา เป็นเพื่อนกันตั้งแต่เล็ก เพื่อนสมัยเด็กงั้นหรือ จะมีความหมายอะไร
แม้ในใจอีลั่วเสวี่ยจะขัดแย้งมาก แต่ยังคงมีรอยยิ้มบนใบหน้า “ที่แท้เป็นเพื่อนเล่นสมัยเด็ก น่าจะเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกับเฟิงฉี่ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ”
เฟิงฉี่ ผู้หญิงคนนี้ถึงกับเอ่ยถึงเฟิงฉี่ เฉวียนหมิงถึงกับแนะนำเพื่อนเหล่านี้ให้เธอรู้จักงั้นหรือ ฟางจื่อชิวไม่รู้ว่าเป็นอีลั่วเสวี่ยรู้จักเฟิงฉี่ด้วยตนเอง
ฟางจื่อชิวได้ยินเช่นนี้ก็หรี่ตาลง ยิ้มอย่างมีมารยาท ไม่พูดอะไร
“จื่อชิว คุณกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ไม่เห็นบอกผมสักคำ ผมจะได้ชวนเพื่อนมาต้อนรับ” ถึงตอนนี้หนานหลิวเฟิงเอ่ยปากพูดแล้ว
พอเขาพูด สายตาทุกคนก็มองมาที่เขา มองดูถุงข้าวของในมือเขารวมทั้งที่เฉวียนหมิงเพิ่งรับมาจากมือเธอ แววตาทุกคนแสดงอาการสงสัย
ตอนที่ 383 ถูกจับผิดแล้วยังทำเป็นอวดเก่ง
พอเห็นของในมือหนานหลิวเฟิง แล้วมองดูทิศทางที่อีลั่วเสวี่ยเดินมา เห็นได้ชัดว่าทั้งคู่มาด้วยกัน แววตานายท่านผู้เฒ่าหมองลงทันที รู้สึกโกรธ
แต่ขณะนี้อยู่ข้างนอก ถ้าแสดงออกรุนแรงเกินไป คนอื่นเห็นเข้าจะส่งผลสะเทือนในแง่ลบ เขาจ้องมองอีลั่วเสวี่ย จากนั้นก็ดึงสายตากลับ
“ฉันเพิ่งมาถึงบ่ายวันนี้ จริงสิหลิวเฟิง แฟนคุณหรือ?” ฟางจื่อชิวมองอีลั่วเสวี่ย สีหน้าเหมือนไม่รู้อะไรทั้งสิ้น ทำเป็นไม่เข้าใจกิริยาท่าทางระหว่างอีลั่วเสวี่ยกับเฉวียนหมิง
นายท่านผู้เฒ่าได้ยิน สีหน้าก็หมองคล้ำอยางสิ้นเชิง
มุมปากหนานหลิวเฟิงกระตุก ลำบากแทบแย่กว่าที่ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับอีลั่วเสวี่ยจะผ่อนคลายลงบ้าง อย่าให้ผู้หญิงคนนี้มาทำเสียเรื่อง
“ไม่ใช่ เธอเป็นเพื่อนนักศึกษาและเพื่อนผม บังเอิญเจอระหว่างทาง เห็นเธอหิ้วของมากมาย เลยช่วยถือมาให้เท่านั้นเอง” เฉวียนหมิงอยู่ด้วย เขาจึงไม่เอ่ยว่าจะส่งอีลั่วเสวี่ยกลับ
หากเป็นเมื่อก่อนเขาคงพูดไปแล้ว แต่ถ้าเป็นอย่างนั้น คำพูดเมื่อกี้ก็เท่ากับตบปากตัวเอง จะกลายเป็นศัตรูกับอีลั่วเสวี่ย
อีลั่วเสวี่ยพอใจกับท่าทีของหนานหลิวเฟิง ดูเหมือนหนานหลิวเฟิงจะเข้าใจที่เธอพูดแล้ว
“อ้อ งั้นหรือ? จริงด้วย เมื่อกี้ลืมถามชื่อคุณ ฉันชื่อฟางจื่อชิว สวัสดีค่ะ” ฟางจื่อชิวพูดพลางเดินลงจากบันได มาอยู่ตรงหน้าอีลั่วเสวี่ย แล้วยื่นมือออกไป
อีลั่วเสวี่ยฝืนยิ้ม ผู้หญิงคนนี้ช่างแสดงละครเก่งจริง
“อีลั่วเสวี่ย ภรรยาผมเอง อาเสวี่ย ผมแนะนำให้คุณรู้จักเป็นทางการ เธอคือเพื่อนนักเรียนม.ปลายของผม ฟางจื่อชิว” เฉวียนหมิงไม่รอให้อีลั่วเสวี่ยเอ่ยปากก็ชิงพูดก่อน
เดิมมีรอยยิ้มบนใบหน้าฟางจื่อชิว แต่ขณะนี้เหมือนถูกตบหน้าฉาดใหญ่ เมื่อกี้เธอยังบอกว่าเป็นเพื่อนเล่นกันตั้งแต่เล็ก อีลั่วเสวี่ยบอกว่าเป็นเพื่อนนักเรียน แต่พอมาถึงเฉวียนหมิงก็กลายเป็นเพื่อนนักเรียนมัธยมปลาย ลดระดับลงทุกครั้ง
พอเฉวียนหมิงพูดออกมา อีลั่วเสวี่ยรู้สึกเหมือนแสงตะวันสายหนึ่งส่องเข้าไปในหัวใจเธอ คนอย่างเขาไม่สันทัดในการแสดงออก แต่การปกป้องเธออย่างแข็งขันเช่นนี้ ประกาศฐานะของเธอต่อหน้าทุกคน เป็นการแสดงให้เห็นชัดว่าใจเขาอยู่ข้างเธอ
ส่วนที่ว่าทำไมเขาจึงมาอยู่ที่นี่ คิดดูแล้วน่าจะเป็นแผนของคุณปู่ตัวดีของเขา จะต้องใช้เรื่องตอนเที่ยงขู่เขาแน่นอน
“ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ คุณฟาง” อีลั่วเสวี่ยพูดตอบ พลางดึงมือที่ฟางจื่อชิวกำลังจะชักกลับไป ทั้งสองจับมือกัน ประสานสายตากัน
แม้สีหน้าจะอ่อนโยน แต่สายตากลับเหมือนมีคลื่นใต้น้ำถาโถมขึ้น
หลังจากจับมือเบาๆ แล้วก็ปล่อยออก ทั้งสองเหมือนคนแปลกหน้าที่พบกันครั้งแรก ไม่มีความขัดแย้งอะไรกัน ยิ่งไม่มีความแค้น
แต่คนที่เข้าใจอะไรดีย่อมได้กลิ่นดินปืนบนตัวหญิงสาวทั้งสองคน อย่างเมื่อกี้ ทั้งสองปะทะกันเป็นครั้งแรก ไม่สิ น่าจะเป็นครั้งที่สอง ส่วนครั้งแรกเป็นตอนที่เธอบอกว่าเฉวียนหมิงเป็นเพื่อนเล่นกับเธอมาตั้งแต่เล็ก
เธอถูกอีลั่วเสวี่ยยิงกลับอย่างเงียบๆ ถือว่าเสมอกันแล้ว แต่ต่อมาด้วยการช่วยโจมตีอย่างเหนือชั้นของเฉวียนหมิง ทำให้ฟางจื่อชิวแพ้แล้ว
“คริคริ…” ฟางจื่อชิวหัวเราะเบาๆ แต่เป็นการหัวเราะอย่างไม่ยอมรับความพ่ายแพ้
ถึงตอนนี้นายท่านผู้เฒ่าเฉวียนทนดูไม่ได้แล้ว ที่ตนพาหลานชายมาก็เพื่อให้ทั้งคู่ได้อยู่ด้วยกัน แม้การพบหน้ากันครั้งแรกจะไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง แต่ปัญหาก็คือทั้งคู่รู้จักกันมาตั้งแต่เล็ก
เขาพอใจเด็กสาวคนนี้มาก เป็นคนมีความรู้และเหตุผล ทั้งสติปัญญาดี ที่สำคัญกว่าก็คือขณะนี้ยังเป็นหมอของโรงพบาลชั้นนำของเมือง มีความคิดละความรู้ติดมาจากเมืองนอกอีกด้วย
แล้วหลานชายเขาต้องการอะไร นั่นคือต้องการรักษาให้หาย มีสุขภาพแข็งแรง ฟางจื่อชิวจึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดของเขา