ตอนที่ 420 เรากำลังนัดกัน
เธอจำไม่ได้แล้วว่าเมื่อคืนวุ่นวายกันอยู่นานแค่ไหน แต่เช้านี้ทำให้เธอรู้สึกอ่อนล้ามาก ยังดีที่เธอไม่ใช่คนธรรมดา พอเคลื่อนพลังทิพย์ในตัวและผ่อนคลายเส้นชีพจรบ้าง ความรู้สึกเหนื่อยล้าก็สลายไปทันที
อีลั่วเสวี่ยมาที่ห้องน้ำ เห็นถ้วยและแปรงสีฟันใหม่เอี่ยมวางไว้บนชั้น พอดูให้ละเอียดก็พบว่ายังไม่ถูกเปิดใช้ ถ้วยเข้าคู่กับถ้วยสีน้ำเงินด้านข้าง เป็นถ้วยแบบคู่รัก
คิดไม่ถึงว่าเฉวียนหมิงจะมีเวลาที่เป็นหนุ่มที่น่ารักแบบนี้ พอมองดูก็มีรอยยิ้มที่มุมปากเธอ
หลังจากแปรงฟันเสร็จก็ล้างหน้า พอเธอเห็นใบหน้าตัวเองในกระจกก็ถึงกับผงะ รู้สึกราวกับว่าตัวเองมีอะไรบางอย่างเปลี่ยนไป แต่บอกไม่ถูก
“อาจเพราะความรู้สึกนึกคิดไม่เหมือนเดิม” อีลั่วเสวี่ยมองดูกระจกแล้วคิดปลอบใจตัวเอง
หลังจากล้างหน้าแปรงฟันเสร็จก็เดินลงบันไดไปห้องตัวเองเลือกชุดที่ชอบ พอเธอเดินมาถึงบันได้ก็พบดวงตาสองคู่กำลังมองเธออย่างเพ่งพิจารณา
เธอเพ่งมอง พบว่าเป็นนายท่านผู้เฒ่ากับเหล่าเกา พอเหล่าเกาเห็นแววตาเธอก็รีบดึงสายตากลับ รีบเช็ดโต๊ะ จัดหมอนอิงบนโซฟาในห้องรับแขก
“ปู่คะ มีเรื่องอะไรไหม?” เธอเห็นนายท่านผู้เฒ่าจ้องมองตนเองแต่ไม่พูดอะไร อีลั่วเสวี่ยจึงอดถามไม่ได้
นายท่านผู้เฒ่าสั่นศีรษะ “ไม่มี ไม่มีอะไร เธอไม่ทำธุระเถอะ”
อีลั่วเสวี่ยนึกสงสัย แต่ไม่คิดอะไรมาก กลับไปห้องของตนเองเปลี่ยนเสื้อผ้า ขณะที่นายท่านผู้เฒ่ารู้สึกพอใจมาก นับว่าหลานชายตัวเองเก่งมาก ในที่สุดก็ทำสำเร็จแล้ว งั้นเขาคงต้องเลิกก่อกวนชั่วคราว
อืม แค่ชั่วคราวนะ ถ้าเกิดเธอขาดคุณสมบัติ เขาก็ต้องพูด นายท่านผู้เฒ่าพูดปลอบใจตนเอง ความจริงแล้วในใจไม่รู้สึกขัดแย้งอย่างเมื่อก่อนแล้ว หรืออาจพูดว่าก็แค่ทำใจไม่ได้เท่านั้นเอง
ไม่นานนักเฉวียนหมิงและอีลั่วเสวี่ยก็ออกจากคฤหาสน์ภายใต้แววตาที่อ่อนโยนของนายท่านผู้เฒ่า ก่อนออกไปเธอยังไม่หายสงสัย “วันนี้ปู่กินยาแล้วใช่ไหม ดูอารณ์ดีเป็นพิเศษ”
เฉวียนหมิงไม่รู้ว่าจะร้องไห้หรือหัวเราะดี “ก็เป็นไปได้ กลับมาค่อยถามเหล่าเกาดู เป็นเพราะให้ปู่กินยาลดความดันมากไปหรือเปล่า”
เฉวียนหมิงขับรถมาจอดยังสถานที่แห่งหนึ่งใจกลางเมือง ที่นี่นับว่าผู้คนพลุกพล่าน รอบๆ ยังมีบริเวณที่สภาพแวดล้อมเงียบสงบ มีร้านอาหาร ร้านเครื่องดื่ม
“บังเอิญจริงๆ คิดไม่ถึงว่าจะพบพวกคุณที่นี่” หลังจากที่เฉวียนหมิงและอีลั่วเสวี่ยลงจากรถ เดินมาตามถนนก็เห็นซีเหมินหลงเซี่ยวสวมแว่นตาดำแต่งตัวไม่โดดเด่นเดินสวนมาพร้อมกับบอดี้การ์ดของเขา
วันนี้บอดี้การ์ดไม่สวมสูทดำ จึงดูไม่สะดุดตา
เฉวียนหมิงโอบอีลั่วเสวี่ยไว้ ทั้งคู่ใกล้ชิดกันมาก “ใช่ คิดไม่ถึงว่าจะได้พบคุณชายซีเหมินที่นี่ บังเอิญจริง คนอย่างคุณชายซีเหมินยังมาเดินเตร่แถวนี้?”
ซีเหมินหลงเซี่ยวยิ้มเจื่อนๆ “ใครๆ ก็เดินเที่ยวได้ อีกอย่างเมืองเอฟก็คึกคักมาก ผมเองอยากทำความคุ้นเคยกับชีวิตความอยู่ของผู้คนที่นี่ เพราะอย่างไรช่วงนี้ผมยังต้องอยู่ที่นี่ระยะหนึ่ง จนกว่าบริษัทสาขาดำเนินกิจการได้เป็นปกติแล้ว”
“ที่แท้เป็นอย่างนี้เอง งั้นเราไม่รบกวนคุณชายซีเหมินชื่นชมกับความเจริญของเมืองเอฟแล้ว เราขอตัวก่อนค่ะ” อีลั่วเสวี่ยยิ้มที่มุมปาก
เฉวียนหมิงพยักหน้าแล้วพูดเสริม “ที่พูดก็ถูก งั้นค่อยพบกันใหม่ครับคุณชายซีเหมิน!”
ถึงตอนนี้ซีเหมินหลงเซี่ยวยิ้มแล้วพูดว่า “ทั้งสองท่านอย่าเพิ่งรีบผละไป สามารถเจอกันข้างนอกถือว่าถูกชะตากัน งั้นเราไปหาสถานที่กินอาหารกัน ตั้งแต่จากกันครั้งก่อน นานแล้วที่ไม่ได้เจอพวกคุณ”
เฉวียนหมิงหยุดเดิน ชูมือที่จับมืออีลั่วเสวี่ยไว้ขึ้นมา “ขอบคุณคุณชายซีเหมินมาก แต่เรากำลังนัดกันอยู่ ต้องขอโทษด้วย คุณชายซีเหมินโปรดอย่าถือ ครั้งหน้าผมเลี้ยงเอง”
ตอนที่ 421 คนที่เขาชอบคือฉัน
อีกฝ่ายปฏิเสธเช่นนี้แล้ว ถ้ายังยืนกรานก็คงไม่เหมาะ ซีเหมินหลงเซี่ยวผงกศีรษะ “เมื่อเป็นเช่นนี้ก็ขออวยพรทั้งสองท่านเที่ยวให้สนุกครับ”
“ขออวยพรให้คุณชายซีเหมินสนุกกับการเดินเที่ยวเช่นกัน” ดูเหมือนเฉวียนหมิงจะอารมณ์ดี เขาตอบกลับ ทั้งสองดูเหมือนเพื่อนสนิท แต่ความจริงไม่ใช่เช่นนั้น
ซีเหมินหลงเซี่ยวมองตามหลังอีลั่วเสวี่ยและเฉวียนหมิง ในหัวมีภาพแหวนหยกบนนิ้วมือเธอผุดขึ้น เป็นเรื่องที่คาใจเขา
“เจ้านายครับ” บอดี้การณ์เห็นซีเหมินหลงเซี่ยวใจลอย จึงร้องเรียก
ซีเหมินหลงเซี่ยวตั้งสติได้ รีบดึงสายตากลับมา แล้วพูด “ไปเถอะ”
เขารู้สึกว่าแหวนวงนั้นดูเหมือนจะต่างกับคราวก่อน เขาคิดมากไปหรือเปล่า ถ้าไม่ใช่ ทำไมต่อมาแหวนหยกจึงหายไปอย่างไร้ร่องรอยในเมืองเอฟ
รวมทั้งที่หมอปีศาจไม่ปรากฏตัวขึ้นอีกเลย ถึงเธอจะชนะการประมูลด้วยราคามหาศาล
หรือว่ามีคนที่พุ่งเป้ามาที่แหวนหยกวงนี้ มีจุดมุ่งหมายเช่นเดียวกับเขา? ซีเหมินหลงเซี่ยวคิดๆ ดวงตาหรี่ลง กวักมือเรียกบอดี้การ์ด กระซิบสั่งสองสามคำ
“ครับ เจ้านาย ผมจะสั่งให้คนไปตรวจสอบ แต่ว่าเจ้านายรองและเจ้านายสามได้ข่าวทีหลังเรา ไม่น่าจะลงมือเร็วกว่าเราจึงจะถูกครับ” บอดี้การ์ดพูดด้วยความมั่นใจ
ซีเหมินหลงเซี่ยวเดินไปข้างหน้า สีหน้าเคร่งขรึม “อย่าดูเบาสองคนนั้น”
อีลั่วเสวี่ยเดินเที่ยวครู่หนึ่งก็รู้สึกคอแห้ง จึงชวนเฉวียนหมิงเข้าไปหาอะไรดื่มในร้านเครื่องดื่มแห่งหนึ่ง
ขณะที่ทั้งคู่กำลังคุยกัน คิดไม่ถึงว่ามือถือเฉวียนหมิงจะดังขึ้น เขาหยิบมือถือ เดินมาข้างๆ รับสาย พอดีอีลั่วเสวี่ยต้องการไปห้องน้ำ จึงลุกขึ้นมองดูเฉวียนหมิงซึ่งยืนหันหลังให้เธออยู่ไม่ห่าง เธอจึงไม่ได้ร้องบอกเขา เดินตรงไปที่ห้องน้ำ
“เจ้าเข้าไปเองเถอะ ข้าจะรออยู่ข้างนอก” เจ้าลูกบอลเงินอยู่ที่นี่นานแล้ว จนมีนิสัยคล้ายคนมากขึ้นทุกที จากนั้นก็ลอยไปมาในร้านอย่างสนุกสนาน
อีลั่วเสวี่ยทำธุระเสร็จก็เดินมาที่อ่างล้างมือ แล้วพบว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งมาอยู่ที่ด้านข้าง กำลังล้างมือด้วยท่าทางคล่องแคล่ว อีลั่วเสวี่ยเงยหน้าขึ้นมอง เห็นคนที่เธอคุ้นหน้า
อีลั่วเสวี่ยยิ้มเล็กน้อย ขณะที่กำลังจะเดินออกไป คิดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะพูดขึ้น
“คุณโหยว บังเอิญจริงๆ คุณก็มาหาอะไรดื่มที่นี่หรือ?” ฟางจื่อชิวล้างมือเสร็จก็เดินมาตรงเครื่องเป่ามือให้แห้งด้านข้าง ต่างจากอีลั่วเสวี่ยที่ดึงกระดาษเช็ดมือออกมา
“ใช่ค่ะ คุณฟางก็มาที่นี้เช่นเดียวกันหรือ?” เห็นชัดๆ แล้วก็ยังแกล้งถาม แต่เมื่ออีกฝ่ายถามเธอจึงย้อนถามบ้าง จริงสิ โรงพยาบาลประจำเมืองดูเหมือนจะอยู่แถวนี้ จึงไม่แปลกที่เจอเธอ
แต่คราวนี้ฟางจื่อชิวกลับไม่อ่อนโยนน่ารักราวกับนางฟ้าอย่างเมื่อก่อน กลับเผยรอยยิ้มที่ดูท้าทายและเหนือกว่า “อีลั่วเสวี่ย เธอคิดว่าที่เฉวียนหมิงอยู่กับเธอเพราะสาเหตุอะไร? เขาชอบเธอหรือ?”
ถ้าเป็นเมื่อก่อนที่เฉวียนหมิงยังไม่รู้ฐานะที่แท้จริงของเธอ บางทีคำพูดนี้อาจจะทำให้เธอหมั่นไส้ แต่เวลานี้ต่างออกไปแล้ว เธอย่อมรู้ว่าทำไมเฉวียนหมิงจึงชอบเธอ
“ดูเหมือนคุณฟางจะสนใจเรื่องของคนอื่นนะ” อีลั่วเสวี่ยสีหน้ากร้าว พูดเลี่ยง ไม่ตอบที่ฟางจื่อชิวถาม
คำตอบนี้ทำให้ฟางจื่อชิวรู้สึกไม่พอใจ “เธออย่าหลงดีใจ ที่เฉวียนหมิงชอบก็คือฉัน มีเพียงฉันเท่านั้นที่เหมาะที่สุดที่จะยืนอยู่ข้างตัวเขา ส่วนเธอ นอกจากทำให้เขาเดือดร้อนแล้ว ก็ไม่มีประโยชน์อะไรทั้งสิ้น ท่าทีปู่เฉวียนก็ชัดเจน หรือเธอดูไม่ออก?”
ในสายตาปู่เฉวียนคนที่เหมาะจะเป็นหลานสะใภ้ที่สุดคือเธอ ไม่ใช่เด็กสาวคนนี้ ไม่เช่นนั้นเธอคงไม่บินไปศึกษาวิชาแพทย์ไกลโพ้นถึงต่างประเทศ แล้วรีบกลับมาอย่างนี้
ผู้หญิงคนนี้ฉวยโอกาสที่เธอไม่อยู่ที่เมืองเอฟ ชิงผู้ชายของเธอไป น่าแค้นใจจริงๆ!