ตอนที่ 522 เลิกคิดเรื่องนี้ซะ
แม่เฒ่าไม่สนใจเงินทองและอัญมณี ทั้งพบเห็นหยกมามากมาย เป็นครั้งแรกที่เห็นกำไลหยกที่พิเศษแบบนี้ จึงยื่นมือออกไปอย่างไม่รู้ตัว
นางลืมไปสนิท ที่จริงเดิมอยากใกล้ชิดกับสกุลฝานมากขึ้น ต้องการให้ฝานเจียวเจียวได้รับประโยชน์มากหน่อย
อีลั่วเสวี่ยยิ้ม ยกกล่องขึ้น นายท่านผู้เฒ่าเห็นจึงหยิบกำไลหยกออกมา สวมให้แม่เฒ่า
“จะสวยหรือไม่ ต้องลองสวมดูจึงจะรู้ นี่เป็นน้ำใจของยายหนู คุณก็รับไว้เถอะ”
พอสวมที่ข้อมือ ความรู้สึกคุ้นเคยรุกใส่นาง แม่เฒ่ารู้สึกกระชุ่มกระชวยขึ้น ความอ่อนล้าที่เกิดจากช่วงนี้ที่นอนไม่หลับ สลายไปหมด
ตาฝานเจียวเจียวแทบจะถลนออกมา ย่ารองไม่ปฏิเสธ ไม่ปฏิเสธของที่ผู้หญิงคนนี้ให้ น่าโมโหจริงๆ!
อีลั่วเสวี่ยยิ้ม ชำเลืองมองฝานเจียวเจียว สภาพของเธอตอนนี้ อยากโอ้อวด แต่กลับหน้าแตก
ถ้าไม่ใช่เพราะอีลั่วเสวี่ยต้องการฉีกหน้าเธอ คงไม่รีบเอากำไลหยกออกมามอบให้ต่อหน้าเธอ
“เอ๊ะ! ทำไมเนื้อหยกถึงเหมือนจี้หยกชิ้นนี้มาก น่าจะมาจากหยกดิบก้อนเดียวกัน” สามารถซื้อหยกดิบชิ้นเดียวกับที่ทำจี้หยก ถือว่าโชคดีมาก
จะว่าไปแล้วหยกที่มีไอทิพย์อย่างนี้ สามารถทำของออกมาสองชิ้นถือว่าเยี่ยมมาก
อีลั่วเสวี่ยผงกหัวแล้วยิ้ม “ปู่ๆ ทุกท่านตาคมมาก ล้วนทำมาจากหยกดิบก้อนเดียวกัน หลานทำทั้งหมดห้าชิ้น ปู่กับย่า พ่อและหนูคนละชิ้น ถือว่าเป็นของสัญลักษณ์ในครอบครัวเราค่ะ”
“ของห้าชิ้น หรือว่ายังมีกำไลหยกอีกวง?” ทั่วไปกำไลหยกมักเป็นคู่ นี่เป็นกำไลหยกวงเดียว ออกจะน่าแปลก
อีลั่วเสวี่ยสั่นหัว “กำไลมีเพียงวงเดียว ทั่วแผ่นดินมีเพียงหนึ่งเท่านั้น กำไลหยกที่พิเศษอย่างนี้ หลานหวังว่ากำไลที่สวยงามที่ทั่วแผ่นดินมีเพียงวงเดียวเป็นของย่าเท่านั้น”
ล้อเล่นหรือนี่ พอเธออยากเอาใจคนอื่นก็ง่ายดายเหลือเกิน วันนี้แน่นอนว่าเธออยากให้อวิ๋นเว่ยได้หน้า
พอได้ยินเช่นนี้ทุกคนเข้าใจทันที พากันชื่นชมที่อีลั่วเสวี่ยมีความคิดที่พิเศษเช่นนี้
ฝานเจียวเจียวยืนอยู่ข้างๆ มองดูทุกคนสีหน้ายิ้มแย้ม กลับเป็นตนเองที่ไม่สามารถแทรกเข้าไปได้เลย สีหน้าดูแย่แต่ก็ยังฝืนยิ้มอย่างแข็งทื่อ
สุดท้ายเธอทนต่อไปไม่ไหว แล้วหาข้ออ้างผละออกไปตามลำพัง
หลังจากอวิ๋นเว่ยแนะนำตัวอีลั่วเสวี่ยให้ทุกคนรู้จักพอสมวรแล้ว จึงแนะนำเฉวียนหมิง ที่จริงสีหน้าเขาไม่ค่อยปลื้มนัก
เหมือนเขาต้องเอาผักกาดขาวที่ปลูกจนงามให้คนอื่น รู้สึกเสียดายเป็นพิเศษ
หนุ่มหล่อสาวสวย รับลูกสาวบุญธรรมยังได้ลูกเขยมาเพิ่มอีกคน เท่ากับลูกชายครึ่งหนึ่ง แขกทุกคนแสดงความยินดีกับนายท่านผู้เฒ่าและอวิ๋นเว่ย
แม่เฒ่ามีรอยยิ้มชัดเจนขึ้นเมื่อเห็นเฉวียนหมิงท่าทางฉลาด อีลั่วเสวี่ยใสบริสุทธิ์น่ารัก
โดยเฉพาะเมื่อนางสวมกำไลหยกก็รู้สึกเหมือนไออุ่นไหลเข้าสู่หัวใจ ถึงตอนนี้จึงรู้สึกถึงความสุขในวัยชราอย่างแท้จริง
แววตาแม่เฒ่าที่มองดูอีลั่วเสวี่ยยิ่งเปี่ยมด้วยความรักความเมตตาเพิ่มขึ้น ฝานเจียวเจียวที่อยู่ไม่ห่างมองเห็นฉากนี้ก็โกรธ กัดริมฝีปากจนเกือบแตก
“เจียวเจียว ทำไมมายืนอยู่ที่นี่ ไม่ไปอยู่เป็นเพื่อนย่ารอง?” หนุมหล่อคนหนึ่งเดินมา
ฝานเจียวเจียวร้องหึอย่างไม่พอใจ “ดูเอง ที่นั่นยังจะมีที่ให้ฉันไหม พี่ ก่อนหน้านี้พวกพี่น่าจะบอกความคิดฉันให้พวกเขารู้อย่างชัดแจ้ง ดูสิตอนนี้ ปล่อยให้คนอื่นชิงไปแล้ว ฉันไม่ยอมหรอก”
พี่ชายเธอมองดูคนของสกุลอวิ๋นรอบตัว คิ้วขมวดทันที “อย่าเอ่ยถึงเรื่องนี้อีก เจียวเจียว พี่ขอเตือนเธอให้ล้มเลิกความคิดนี่ซะ”
ตอนที่ 523 งั้นเป็นพี่น้องกันเถอะ
ฝานเจียวเจียวมองพี่ชายเหมือนไม่อยากเชื่อ “ให้ฉันยกเลิกความคิดนี้หรือ พี่ นี่เป็นคำพูดที่พี่อยากพูดจริงๆหรือ? ที่ฉันทำอย่างนี้มีประโยชน์ต่อฉันเพียงคนเดียวหรือไง?”
นี่ไม่ใช่เพื่อสกุลฝานหรือ ไม่ใช่เพื่ออนาคตของพี่ชายเธอหรือ เธอเสียสละมากมายเช่นนี้ ก่อนหน้านี้ที่ครอบครัวเธอทำเช่นนี้ เห็นได้ชัดว่ามีจุดมุ่งหมายนี้
ฝานเซิ่งหนานเป็นพี่ชายฝานเจียวเจียว พอได้ยินที่เธอพูด ก็รีบกวาดตามองคนรอบข้าง แล้วเดินมาข้างตัวเธอ
“เจียวเจียว ที่นี่คนมาก พูดอะไรระวังหน่อย?” อย่าว่าแต่คนสกุลอวิ๋นได้ยินเข้า ต่อให้เป็นคนอื่น ถ้าเอาไปพูดเติมไข่ใส่สี คงต้องเดือดร้อนแน่
ฝานเจียวเจียวไม่ใส่ใจ “พี่ จะกลัวอะไร ไม่ได้พูดอะไรสักหน่อย ใครกล้าปากมาก!” คนที่กล้ากุข่าวลือเกี่ยวกับสกุลฝาน แสดงว่าไม่อยากอยู่ที่นี่ต่อแล้ว
ฝานเซิ่งเทียนแปลกใจ ปกติน้องสาวตนเองเป็นคนฉลาด ทำไมวันนี้เหมือนกินรังแตนมา ดูสิ ท่าทางหงุดหงิด สีหน้าเกรี้ยวกราด
“คิดดูให้ดี เรื่องที่เธอทำไว้ที่เมืองเอฟ ถูกสกุลอวิ๋นเตือนแล้ว รู้ไหม?” โง่จริง จะเล่นงานผู้หญิงคนนั้น ถึงกับวิ่งไปด้วยตัวเอง ไม่รู้จักให้คนอื่นทำแทน
พอเขาพูดเช่นนี้ ฝานเจียวเจียวเริ่มรู้สึกกลัว “แต่เราไม่ได้ทำอะไรเลย คนพวกนั้นล้วนเป็นศัตรูของผู้หญิงคนนั้น จะโทษฉันได้อย่างไร?”
ไม่ว่าจะเป็นมั่วเฉินเซวียนหรือซีเหมินหลงเซี่ยว ต่อให้เป็นสกุลฟางก็ตาม พวกเขายินดีที่จะเล่นงานเฉวียนกรุ๊ปเอง เธอก็แค่อาศัยการเล่นงานเฉวียนหมิง เพื่อทำให้อีลั่วเสวี่ยเดือดร้อนท่านั้น
“ฉันไม่ได้ลงมือกับอีลั่วเสวี่ยตรงๆ ไม่ว่าอะไรจะมาลงที่ฉันได้หรือ หรือว่าคนอื่นถูกคนแทงด้วยมีด ก็จะมาโทษคนขายมีดหรือ?”
ฝานเซิ่งหนานรู้สึกจนปัญญา “เจียวเจียว เดี๋ยวนี้ไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว เห็นชัดแล้วว่านายท่านผู้เฒ่ากับนายหญิงผู้เฒ่ายอมรับผู้หญิงคนนั้นแล้ว ถ้าเธอยังขืนทำเรื่องวุ่นอีก ต้องเกิดปัญหาแน่นอน เรื่องนี้ขอให้ยุติเพียงแค่นี้”
“ยุติเพียงแค่นี้? ฉันเสียสละไปมากมายอย่างนี้ จะให้ยุติเพียงเท่านี้ได้หรือ?” ถ้าหากเธอจำไม่ผิดล่ะก็ เธอมาเคลื่อนไหวที่สุกลอวิ๋นตั้งแต่ห้าขวบ
สิบกว่าปีแล้ว จุดมุ่งหมายก็เพื่อต้องการเป็นคุณหนูใหญ่แห่งสกุลอวิ๋น แต่ตอนนี้เพิ่งก้าวเท้าเข้าไปเพียงข้างเดียว กลับถูกคนที่โผล่มาทีหลังทำให้เสียเรื่อง แล้วจะยอมได้อย่างไร?
“ไม่ว่าอย่างไร น้องอย่าทำเรื่องที่ทำให้สกุลฝานเดือดร้อน ไม่งั้นถึงตอนนั้นอย่าโทษว่าพี่ไม่ช่วยเธอ” ฝานเซิ่งหนานทิ้งคำพูดประโยคนี้ไว้แล้วผละไป
ก่อนไปสายตาฉายแววตักเตือน มองจนฝานเจียวเจียวใจหายวาบ
ฝานเจียวเจียวจ้องมองแผ่นหลังพี่ชายตัวเอง สองมือกำหมัดแน่น ดวงตาเปล่งประกายล้ำลึก เธอไม่ยอมยุติแค่นี้เด็ดขาด
ในบริเวณงานมีคนมากขึ้นเรื่อยๆ แขกที่จะมาร่วมงานคืนนี้มากันเกือบหมดแล้ว
ถึงตอนนี้ อวิ๋นเว่ยไม่ต้องกำกับ นายท่านผู้เฒ่ามือหนึ่งจูงอีลั่วเสวี่ย อีกมือหนึ่งจูงเฉวียนหมิงเดินไปหน้าสุด อวิ๋นเว่ยประคองแม่เฒ่า เดินยิ้มร่าตามหลังมา
แขกเหรื่อเงียบเสียงลง นายท่านผู้เฒ่ากวาดตามองรอบๆ แล้วพูดช้าๆ “ต้องขอบคุณทุกท่านที่ให้เกียรติมาร่วมงานวันเกิดผม ขอถือโอกาสวันอันเป็นมงคลนี้ ขอประกาศเรื่องที่น่ายินดีของสกุลอวิ๋นเรื่องหนึ่ง” พูดพลางมองมาทางอีลั่วเสวี่ย แล้วประกาศเรื่องที่เตรียมไว้ก่อนแล้ว
“ผมขอประกาศว่านับจากวันนี้เป็นต้นไปอีลั่วเสวี่ยเป็นลูกสาวของสกุลอวิ๋นเรา เป็นคุณหนูใหญ่แห่งสกุลอวิ๋น ใครกล้าขมเหงเธอ เท่ากับไม่เห็นสกุลอวิ๋นอยู่ในสายตา เราสกุลอวิ๋นจะไม่ยอมรามือเด็ดขาด!”