ระบบศัลยเเพทย์…ในยุคสิ้นโลก – ตอนที่ 1

ตอนที่ 1

“เงิน! สำหรับคุณเเล้วมันสำคัญเเค่ไหน?”

ทุกครั้งที่กู้จวินได้ยินคำถามเเบบนี้ เขาจะเอ่ยปากบอกคำตอบเดียวเสมอ นั่นคือ…

“สำคัญสิ! สำคัญกว่าชีวิตฉันเลย!!”

“ฉันจะบอกอะไรพวกคุณอย่างหนึ่ง, รู้เอาไว้นะ โรคที่รักษาหายยากที่สุดในโลกนี้น่ะ มีชื่อว่า [โรคทรัพย์จาง]”

กู้จวินยังจำเหตุการณ์หายนะครั้งใหญ่ของชีวิตเมื่อ 3 ปีก่อนได้อย่างดี ตอนนั้นเขาเพิ่งอายุ 18 ปี เเละได้รับจดหมายตอบรับจากมหาวิทยาลัยการเเพทย์อีสเทิร์น ซึ่งเป็น 1 ใน 5 สถาวิทยาลัยการเเพทย์ระดับโลก ในสาขาเอกการเเพทย์หลักสูตร 8 ปี เเละเขาก็ได้คุยฟุ้งเเละโอ้อวดในวันจบการศึกษามัธยมปลาย…อย่างไรก็ตาม….ฮา ฮา คำนี้เหมือนประโยคลงท้ายของหนังเศร้าฉบับคลาสสิกเลย

เขาไม่ได้ล้อเล่น, ขอยืนยันด้วยเสียงที่มั่นคง..ครั้งหนึ่งเขาเคยประสบความสำเร็จในชีวิตจนบ้าระห่ำดีใจเหมือนได้ครองโลก

ภายใต้เเผ่นหลังที่องอาจเเละความกล้าที่เกินคน ‘ถูกใช้’มาบังหน้าความเศร้าโศกเสียใจ เเละซุกซ่อนความสิ้นหวัง

สำหรับเด็กกำพร้าเช่นเขา..ในวันเกิดอายุครบสิบขวบนั้น ‘พ่อเเละเเม่’ก็ ‘กลับสวรรค์’ทอดทิ้งตัวเขาไปตลอดกาล..เขาเเทบอยากให้เป็นเเค่ฝันหรือไม่ก็เรื่องตลก..กู้จวินไม่สามารถยอมรับความจริงข้อนี้ได้

ถึงเเม้ตัวจากเเต่พ่อเเม่ได้ทำประกันเเละมีมรดกมากมายทิ้งไว้ให้ตัวเขาล้นฟ้า เเค่ค่าเลี้ยงดูเเต่ละเดือนยังมีจนเเทบใช้ไม่หมด ดังนั้น ‘เงิน’จึงกลายเป็นทุกสิ่งในชีวิตของเขา เป็นทั้งตัวเเทนพ่อเเม่เเละสิ่งยึดเหนี่ยวทางจิตใจไม่ให้จิตใจที่ย่ำเเย่ของตัวเขาพังทลายไปยิ่งกว่านี้

เงินทั้งหมดถูกจัดการโดยกองทุนผู้ดูแลเเห่งรัฐ เมื่อเขาอายุ 18 ปี เขาก็จะมีอิสระที่จะเข้าถึงมรดกทั้งหมดของเขา!

เขาไม่มีครอบครัว..ไม่มีญาติ..เเล้วไง เพราะเขามีเงิน!!

หลังจากนั้นชีวิตของเขา…ก็เหลือเเต่เพียงเงิน

‘เสี่ยกู้!!’ คือชื่อเล่นที่เพื่อนร่วมชั้นของเขาในมหาวิทยาลัยแอบตั้งให้ ชื่อเล่นนี้ใช้ได้กับทั้งการชื่นชมและการเยาะเย้ยไปในคราวเดียว

เขาใช้จ่ายเงินทองอย่างสุรุ่ยสุร่ายเเละฟุ่มเฟือยที่สุดเท่าที่จะทำได้ เขาดูเเลเเละปรนนิบัติเพื่อนพ้องอย่างดี ให้เงินไปซื้อความบันเทิงและความฟุ่มเฟือยทุกประเภท กระเป๋าสตางค์ของเขาดูเหมือนเป็นร่องลึกที่ไม่มีที่สิ้นสุด ในสายตาของคนอื่น ‘เสี่ยกู้’ เป็นเเค่เครื่อง ATM ในคราบมนุษย์

หลังจากเข้าเรียนในมหาวิทยาลัย เขาก็สูญเสียแรงจูงใจและแรงผลักดันไปทั้งหมด บางทีการสอบเข้ามหาวิทยาลัยอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาหมดเรี่ยวแรงในการเรียนเเละหมดกำลังใจในการศึกษาไปชั่วชีวิต ปณิธานจากใจจริงที่ว่า“ อยากเป็นหมอเมื่อโตขึ้น!” ที่เขาเคยประกาศกับแม่ของเขาเมื่อหลายปีก่อนอย่างมั่นใจ ดูเหมือนไม่มีความหมายใดๆอีกในตอนนี้

เเม้เขาจะฉลาดเเละเป็นอัจฉริยะของมหาวิทยาลัย ทว่าการบ้านของเขานั้นแทบจะเเทบจะไม่มีจุดไหนที่ถูกต้องเลย..บางทีก็ไม่ส่งเสียดื้อๆ การใช้ชีวิตให้สนุก…นั่นเเหละเป็นสิ่งเดียวที่เขาปราถนา ในแต่ละวันเขาไล่ตามสาว ๆ ในบาร์และใช้ชีวิตสำมะเลเทเมาอย่างสุขสบาย

เวลาผ่านไป อาจารย์ในคณะของกู้จวินก็ทิ้งความคาดหวังทั้งหมดที่มีต่อตัวกู้จวินทีละคนๆ แม้แต่อาจารย์ที่ปรึกษายังยกธงขาวยอมแพ้ นักศึกษาหลายคนต่างพากันหลบหนีห่างจากเขาด้วยความรังเกียจ ใคร ๆ ก็บอกว่าคนอย่าง ‘กู้จวิน’นอกจากชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยอีสเทิร์นแล้วตัวเขาจะไม่มีค่าอะไรเลย ใครก็ตามที่ไปเที่ยวหรือสุงสิงกับเขา คนๆนั้นก็มีเเต่จะตกต่ำชีวิตชีวิตย่ำเเย่กว่าเดิมก็เท่านั้นเเหละ

กู้จวินไม่ได้ตอบโต้หรือหาข้อเเก้ตัวมาหักล้างคำว่าร้ายเเต่ประการใด ท้ายที่สุดเขาก็ล่วงรู้จากก้นบึ้งของหัวใจ ว่าทุกคนนั้นพูดถูก! เขาเป็นคนขี้ขลาด…เเละถึงจะเป็นเเบบนั้นเขาก็คิดว่าจะใช้ชีวิตอย่างสบายๆเเบบนี้นี่เเหละจนกว่าจะถึงวันตาย

จนกระทั่งเมื่อครึ่งปีที่แล้ว

ความชิบหายครั้งใหญ่…ครั้งที่สองเข้ามาในชีวิตของเขา

เขาได้รับการวินิจฉัยว่าเป็น ‘เนื้องอกในสมอง’

มันคือ ‘โรคมะเร็งสมอง’ ซึ่งเป็นเนื้องอกชนิดร้ายเเรงที่มักพบในเนื้อสมองอัตราการรอดชีวิตนั้นต่ำมาก โอกาสในการผ่าตัดสำหรับเขานั้นเเทบไม่มี

แม้ว่าเขาจะได้รับการผ่าตัดก็ตาม นอกจากความเป็นไปได้ที่จะมีอาการกำเริบหลังจากการผ่าตัดและผลเสียจากเคมีบำบัด ทำให้อายุขัยเฉลี่ยของผู้รอดชีวิตอยู่ที่ 0.9 ปีเท่านั้น เห็นหรือไม่!? ต่อให้รักษาอย่างเต็มที่ก็จะยืดชีวิตได้อีกเเค่ไม่ถึง 1 ปีเต็ม

กู้จวินผู้ใช้ชีวิตดั่งคนเสียชีวิตมาตลอดสองปีครึ่งที่ผ่านมา ดูเหมือนเพราะความจริงที่โหดร้ายซึ่งเเปรสภาพเป็นดั่งน้ำเย็นมาราดหัวเขา ทำให้เขากลับมามีสติสัมปชัญญะอย่างสมบูรณ์

‘เสี่ยกู้’ ตายไปแล้ว!! กู้จวิน!!ก็กลับมาแล้วเช่นกัน

กู้จวินทุ่มสุดตัว เขาพยายามหาทางรักษาตัวเองอย่างกระตือรือร้น อย่างไรก็ตามก้านสมองเป็นศูนย์กลางเส้นประสาทของร่างกายมนุษย์ เป็นที่รู้กันดีว่ามันคือพื้นที่“ เขตห้ามผ่าตัด” มาโดยตลอด ในเวลานั้นเขาเดินทางไปหลายเมืองและหลายประเทศ แต่ก็ไม่มีโรงพยาบาลใดกล้าผ่าตัดกับเขา

หลังจากการปรึกษาทีมการแพทย์ที่ไม่ประสบความสำเร็จด้านมะเร็งสมองเป็นเวลาสามเดือน และการค้นคว้าข้อมูลทางการแพทย์ล่าสุดของโลกเกี่ยวกับเนื้องอกในสมอง กู้จวินก็ต้องยอมรับความจริงที่เเสนโหดร้าย นั่นคืออาการของเขาไม่สามารถรักษาให้หายได้ แม้แต่ทรัพย์สมบัติมากมายก็ไม่สามารถช่วยชีวิตของเขาได้อีกต่อไป

ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจทำเรื่องสุดท้ายของชีวิตอยู่ 2 อย่าง

อย่างแรกเขาจะซื้อตั๋วล่องเรือสุดหรูชุดหนึ่ง ซึ่งเดินทางออกจากจังหวัดทางตะวันออกผ่านช่องเเคบมะละกาและล่องเรือไปถึงมหาสมุทรอินเดีย เขาวางเเผนว่าในเมื่อถึงช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิตเเล้ว เขาจะไปเยี่ยมชมสถานที่ทั้งหมดที่พ่อแม่ของเขาเคยทำงานเมื่อพวกเขายังมีชีวิตอยู่ เเละเเพลนเดินทางคือช่วงเวลาในวันหยุดฤดูร้อนที่ร้อนแรงปีนี้ นั่นเป็นความปรารถนาของเขาตั้งแต่เด็ก หากเขาโชคดี..ยังมีชีวิตอยู่หลังจากนี้ล่ะก็…เขาก็วางแผนที่จะเดินทางต่อไปทั่วโลก

อย่างที่สอง เขาจะเหลือเงินเพียงไม่กี่หมื่นหยวนสำหรับตัวเอง เพราะเขาจะบริจาคเงินที่เหลืออีกหนึ่งล้านหยวนให้กับกองทุน ‘การศึกษาสำหรับเด็ก’ เพื่อเป็นทุนการศึกษาเด็กกำพร้า ต่อชีวิตต่ออนาคตให้พวกเขาได้มีวันเวลาที่ดี

หากชาติหน้ามีจริง ด้วยบุญกุศลทั้งหมดที่เขาทำมา อาจจะช่วยในเกิดมามีชีวิตที่ดีกว่านี้

***************************************

“ยินดีที่ได้พบกันค่ะคุณกู้ ยินดีต้อนรับสู่ทัวร์ล่องเรือชมภูเขาไฟใต้ทะเลของบริษัทลองการค่ะ ในขณะนี้ทางเราได้เตรียมทุกอย่างพร้อมเเล้ว เชิญคุณกู้ไปที่บันไดชั้นหนุ่งของเรือภายในครึ่งชั่วโมงด้วยค่ะ”

เสียงหวานๆของพนักงานเสิร์ฟ ดึงกู้จวินซึ่งกำลังนั่งงุนงงอยู่ในร้านกาแฟกลางแจ้งบนดาดฟ้า เขาหายจากอาการเหม่อฉับพลันเเละหันมาฟังสาวเสิร์ฟเเสนสวย

“ โอเค” เมื่อมีคนสวยๆสั่ง มีเหรอที่เสือผู้หญิงอย่างกู้จวินจะไม่ตกลง เขาพยักหน้าเเละตอบอีกรอบว่า “ ฉันจะไปเดี๋ยวนี้เเหละ” เขาตอบพนักงานสาวอย่างอารมณ์ดี ฝั่งสาวเสิร์ฟก้มหัวเเสดงความขอบคุณอย่างจริงใจ

ทันทีที่พนักงานเสิร์ฟบนเรือเห็นรอยยิ้มเเละใบหน้าอันหล่อเหลาของกู้จวิน เธอก็เขินอายเเละมีใบหน้าเเดงนิดๆ เธอรู้สึกตื่นเต้นเหลือเกินที่มีโอกาสได้มาดูเเลบริการลูกค้าหล่อๆเเบบเขา “คุณกู้…ชะ–เชิญตามมาทางนี้เลยค่ะ”

กู้จวินเดินตามพนักงานเสิร์ฟไปที่ชั้นล่างของเรือ จากนั้นก็มองไปที่ทะเลผ่านทางกระจกรอบ ๆ ด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย

นี่คือสถานที่ที่แม่และพ่อพบกับเหตุร้ายเมื่อหลายปีก่อนใช่หรือเปล่านะ?

กู้จวินเกลียด…ไม่สิ เขาพยายามที่จะไม่ชอบทะเลมาตั้งแต่เด็ก พ่อของเขาเป็นกัปตันเรือวิจัยสืบสวนทางวิทยาศาสตร์นาม “ ซีเบิร์ด” ส่วนแม่ของเขาเป็นหมอประจำเรือ

เขาไม่เข้าใจพ่อเเม่สักนิด!? ว่าทำไมพวกเขาต้องอยู่ในทะเลเป็นเวลาหลายๆปีและเลือกที่จะละทิ้งเขาให้อยู่กับพี่เลี้ยง พวกเขากำลังทำอะไรอยู่กันเเน่!?

งานของพวกเขานั้น…สำคัญกว่าลูกชายเเท้ๆอย่างฉันจริงๆเหรอ?

ระบบศัลยเเพทย์…ในยุคสิ้นโลก

ระบบศัลยเเพทย์…ในยุคสิ้นโลก

Status: Ongoing

เรื่องย่อ ครั้งหนึ่ง ถนนเส้นนี้เคยคึกคักครึกครื้น และเต็มไปผู้คนหัวเราะเสียงดัง ทว่าเวลาผันผ่าน..ตอนนี้ทุกอย่างกลับตาลปัตร บรรยากาศบนท้องถนนเต็มไปด้วยความเงียบที่น่าขนลุก เสียงกระซิบที่แหบแห้งและบ้าคลั่งดังก้องอยู่เหนือท้องฟ้า มีปีศาจยักษ์ใหญ่จากโบราณอันน่ากลัวจนที่ไม่อาจอธิบายได้ แฝงตัวอยู่ในเงามืดของมหาสมุทรที่ไร้ก้นบึ้ง ภัยพิบัติลึกลับได้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วเเละขยายตัวกระจายไปยังทั่วโลก การระบาดของโรคร้ายและความหายนะทำให้ฝูงคนทั่วโลกตื่นตระหนก ผู้คนหวาดกลัวเเละพากันอพยพหนีตายกันจ้าล่ะหวั่น..มีเพียงหนึ่งเดียวที่พวกเขาต้องการนั่นคือ ที่ซุกหัวที่อบอุ่นเเละปลอดภัยเพียงเท่านั้น หยาดฝนโลหิตไหลรินทั่วแผ่นดิน ในขณะที่มวลมหาสายฟ้าผ่าทั่วท้องนภาอย่างบ้าคลั่ง เเสงสว่างของมันส่องให้เห็นฝูงกาที่กำลังบินฉวัดเฉวียนอยู่ด้านบน “ เราจะเห็นว่าสิ่งมีชีวิตที่มีรูปร่างผิดปกตินี้มีซี่โครงสิบสองคู่เหมือนมนุษย์ แต่ยังมี“ กระดูกขวาง” ที่มนุษย์ไม่มี…” ในโรงเรียนแพทย์ กู้จวินยังคงนำมีดผ่าตัดของเขา ผ่าลงที่ซากศพโดยแสดงให้เห็นถึงโครงสร้างทรวงอกที่ผิดปกติของซากศพ โดยรอบๆโต๊ะผ่าศพมีนักเรียนหลายคนมองดูอยู่ ช่วงเวลาที่เลวร้ายและการเเก่งเเย่งได้ใกล้เข้ามา! ความจริงและตรรกะที่พังทลายคำสั่งวิปริตเข้าสู่ความบ้าคลั่ง มนุษยชาติสามารถก้าวไปข้างหน้าได้ด้วยพลังแห่งสติปัญญาและสติ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท