ระบบศัลยเเพทย์…ในยุคสิ้นโลก – ตอนที่ 150

ตอนที่ 150

ตอนที่ 150 รับรางวัลของคุณ

นี่ไม่ใช่เมืองริคเกอร์จากบันทึกส่วนตัวของเรย์บันดี้ และไม่ใช่ห้องทดลองใต้ดินของแลนดอนอีกด้วย…เพราะแค่ดูจากลักษณะภายนอกก็ไม่เหมือนแล้ว ดังนั้นสถานที่เบื้องหน้าคือสิ่งที่ไม่คุ้นเคย…

ตามธรรมชาติของมนุษย์… เมื่อผู้คนได้พบเจอกับสิ่งที่ไม่คุ้นเคย และดูท่าว่าจะเป็นอันตรายร้อยทั้งร้อยล้วนรู้สึกแตกตื่นและกังวลกันทั้งนั้น บางคนถึงกับร้องไห้โวยวายด้วยความกลัวตายหรืออย่างดีหน่อยก็แค่ตัวสั่น

อย่างเช่นคนของหน่วยนักล่าอสูรเบื้องหน้านี้ พวกเขาบางคนแม้จะไม่ได้เข้าไปเผชิญกับอันตรายโดยตรงแต่เมื่อเห็นผู้คนที่รู้จักเข้าไปเผชิญหน้ากับอันตรายและได้รับอันตรายที่แท้จริงมันก็ทําให้พวกเขากลัวจนก้าวขาไม่ออก… ดูสิ! ตอนนี้พวกเขาไม่กล้าแม้แต่จะมองประตูบานสีแดงนั่นแล้ว… แต่แล้วยังไง? มันไม่ใช่สําหรับเขากู้จวิน

ก็จริงอยู่ที่สิ่งที่อยู่ด้านหลังประตูสีแดงอาจจะเป็นกับดัก แต่แล้วไงล่ะ? เขารู้ว่าบางคนหรือพลังบางอย่างพวกมันต้องการชําระล้างวิญญาณของเขาเพื่ออัญเชิญบุตรแห่งความโชคร้ายมาสู่โลกนี้เพื่อเป้าหมายอะไรสักอย่างที่ตัวเขาก็ไม่รู้จัก!แต่แล้วยังไง…เขาต้องกลัวจนตัวสั่นเหรอ?เหอะๆใช่เขากลัวตาย…กลัวโรคจะฆ่าเขาตายแต่เขาไม่กลัวคนหรือผีมาฆ่าอย่างน้อยทาสแห่งการแพทย์อย่างเขาก็ไม่ควรกลัวผีมาฆ่านะนั่นคือจิตสํานึกที่พึงมี

 เดี๋ยวก่อนครับทุกคน… รอผมสักเดี่ยวครับ หัวหน้าเสวี่ย ตอนนี้ผมพร้อมแล้วให้ผมเป็นคนผ่าตัดคุณลู่เถอะครับ  จู่ๆเสียงของคู่จวินก็ดังขึ้นน้ําเสียงของเขากลับมาเป็นปกติ อารมณ์อย่างมนุษย์ตามปกติของเขาได้กลับคืนมาอย่างสมบูรณ์แบบแล้ว… แม่ใบหน้าของเขาจะดูอ่อนเพลียเนื่องจากผ่านการสมบุกสมบันมาอย่างยาวนานแต่ที่เหลือล้วนกลับมาเป็นปกติทั้งหมด

ดวงตาที่เคยหมองหม่นคล้ายคนกําลังถูกควบคุม ตอนนี้กลายเป็นแววตาที่สดใสเปี่ยมด้วยความกล้าหาญอย่างที่เด็กหนุ่มทั่วไปควรจะมีแล้ว แม้กระทั่งน้ําเสียงของเขาก็เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น นี่คือความคึกคักและพลัง แห่งวัยเยาว์ที่เด็กหนุ่มทุกคนจะต้องมีอยู่ในตัว

 หืม?  มือของเสวี่ยป้าที่กําลังจะเอื้อมไปที่ลูกตาหยุดกะทันหันทันที ใบหน้าของเขามีเหงื่อออกเนื่องจากอิทธิพลจากพลังงานที่ผิดปกติจากดวงตาของลู่เสี่ยวหนิงและทันใดนั้นเองเขาก็รู้สึกสับสนและคนทั้งกลุ่มก็ตกใจที่กู้จวินมีสติสมบูรณ์ดูเหมือนว่าเขาจะกลับมาหาพวกเขาได้แล้ว

ลุงต้านเป็นคนแรกที่ร้องด้วยความดีใจ เร็วเข้า! รีบล้างมือแล้วใส่ถุงมือ! 

 ครับผม…  เมื่อได้ยินคําสั่งของลุงต้านแล้ว เขาก็รีบขานรับด้วยพลังที่สมบูรณ์แบบทันที….เสียงของเขามีความก้องกังวาลบ่งบอกได้ถึงพลังเต็มเปี่ยมที่กลับมาอย่างเต็มที่แล้ว

เขาปรี่ไปที่น้ําแร่อีกครั้ง จากนั้นก็ล้างมือของตัวเองด้วยความเร็วที่สูงสุดเท่าที่มนุษย์คนหนึ่งจะทําได้จากนั้นเขาก็ไปเอาหมวกผ่าตัดมาสวมใส่ หยิบหน้ากากที่เตรียมไว้เอามาใส่อย่างรัดกุมจากนั้นก็เป็นถุงมือเมื่อแต่งตัวทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยเขาก็อยู่ในคราบของคุณหมอที่พร้อมจะเข้าห้องผ่าตัด

แต่ช่างน่าโชคร้ายที่ตอนนี้เป็นการผ่าตัดแบบฉุกเฉินเขาไม่มีเวทีการผ่าตัดให้แสดงฝีมือ… แต่การผ่าตัดฉุกเฉินมันก็ยิ่งใหญ่ไม่แพ้กัน

เขาตรงเข้าไปที่ดวงตาของลู่เสี่ยวหนิง… และเขาก็ได้เห็นดวงตาของเธอที่ปูดโปนออกมาจนแทบจะถลนออกนอกเบ้าตามันเต็มไปด้วยความน่าเกลียดและน่าขยะแขยงอย่างที่สุด

และจังหวะนั้นเองเขาก็ได้รับรู้ถึงพลังงานแปลกๆบางอย่างที่ออกมาจากดวงตาของลู่เสี่ยวหนิงข้างนั้น… และพลังนั่นกําลังจะขัดขวางไม่ให้เขาเข้ามายุ่งกับดวงตา มันพยายามสอดแทรกเข้าไปในจิตใจของเขาเพื่อที่จะทําให้เขาหวั่นไหวและไม่กล้าผ่าตัดในที่สุด

แต่….

แม้กระทั่งพลังแห่งการควบคุมร่างกายยังเอาเขาไม่อยู่ พลังแห่งดวงตามีหรือจะทําอะไรเขาได้… แม้มันจะแผ่อํานาจออกมาแค่ไหน แต่จวินก็สามารถต้านทานมันได้เกือบหมด

 นี่คือคีมและกรรไกร! ผ่าเร็ว  ลุงต้านเปลี่ยนมารับหน้าที่พยาบาลแทนจางฮ่าวฮาวทันที ในขณะที่จางฮ่าวฮ่าวคอยช่วยเหลือทั่วไป

อย่างที่กู้จวินเคยพูดไว้… ถึงแม้ว่าเขาจะพูดตอนที่เขายังไม่ได้สติเพราะกําลังถูกจิตใจอันชั่วร้ายควบคุมอยู่ก็ตามแต่เขาได้พูดออกมาในตอนนั้นว่าเขาไม่เคยผ่าตัดตามาก่อนแม้แต่หนังสือก็ไม่เคยรู้มาก่อนด้วยซ้ํา

ทําให้ลุงต้านต้องเสียเวลามาบอกเขาอีกพักใหญ่ เขาเองก็ไม่ใช่ไม่รู้ แต่ขี้เกียจทําตัวให้น่าสงสัยไปมากกว่านี้ก็เท่านั้นเองดังนั้นเขาจึงยอมให้ลุงต้านพร่ําสอนและบอกวิธีทั้งหมดในขณะที่เขาก็ได้แต่ทําตามอย่างว่าง่าย

 ยกเยื่อบุตาขาวไปที่ขอบกระจกตา จากนั้นเปิดแผลเล็ก ๆ แล้วเอื้อมกรรไกรผ่านรอยบากเพื่อเข้าไปใต้เยื่อบุตาและจากนั้นตัดเยื่อบุตาขาวทั้งหมดออกโดยการวนรอบกระจกตา! แค่นั้นแหละ  ลุงต้านตัดเนื้อหาและใจความสําคัญในหนังสือการแพทย์ออกไปแทบหมดจากคําบรรยายประมาณ 30 หน้าในการผ่าตัดดวงตาหรือเพียงแค่ 3 บรรทัดถ้วนเท่านั้น…

และมันเป็นวิธีที่แสนง่ายเพียงแค่เอื้อมกรรไกรเข้าไป จากนั้นก็ควานมันออกมานั่นคือสิ่งที่ลุงต้านต้องการจะสื่อทั้งหมด… จะเห็นได้ว่ามันเป็นการผ่าตัดที่รุนแรงมาก ก็อย่างที่บอก!ว่าลูกตานั้นมีระบบรักษาความปลอดภัยและระบบยึดเหนี่ยวที่หนาแน่น ดังนั้นถ้าไม่ลงทุนคว้านมันออกมาก็ยากที่ดวงตาจะหลุดออกมาทั้งหมด

เมื่อก่จวินสวมถุงมือและยอมรับเครื่องมือผ่าตัดมาแล้ว…ความรู้สึกคุ้นเคยก็เข้าครอบงําเขาอีกครั้ง นั่นทําให้เขาโฟกัสถึงวิธีการผ่าตัดได้ทันที

แต่ใช่ว่ามีแค่เขาคนเดียวกันผ่าตัดจะเริ่มขึ้นได้… ตอนนี้มันอยู่ในอุโมงค์อันมืดมิดที่แยกไม่ออกแม้กระทั่งกลางวันและกลางคืน แสงสว่างยิ่งไม่ต้องพูดถึง

ดังนั้นแล้วจางฮ่าวฮาวที่หลุดออกไปไม่ได้เป็นพยาบาลอีก เขาก็ผันตัวมาช่วยเรื่องแสงไฟแทนในขณะที่ลุงต้านรับบทเป็นคนควบคุมสถานที่เขาสั่งสมาชิกร่วมทีมประมาณ 4 คนให้ช่วยถือไฟฉายเอาไว้เพื่อจําลองโคมไฟไร้เงายามผ่าตัด…

และพวกเขาก็ทําได้ดี ด้วยฝีมือการแนะนําของลุงต้าน สมาชิกทั้ง 4 คนที่คอยส่องไฟฉายไม่มีใครกล้ามองมาที่ลู่เสียวหนิงเลยแม้แต่คนเดียว ทุกคนได้แต่มองหลังของคู่จวินที่กําลังเตรียมพร้อมอยู่อย่างเงียบงันและเต็มไปด้วยความเอาใจช่วย

แน่นอนว่าลุงต้านสอนวิธีการผ่าตัดมาแล้ว ถ้าไม่ทําตามคงจะแย่แน่ ดังนั้นเขาจึงทําตามวิธีการของลุงต้านและเริ่มดําเนินการผ่าตัดอย่างไม่รอช้า..

ขั้นแรกเขากรีดที่ขอบของมุมของดวงตา จากนั้นเขาก็ตัดกล้ามเนื้อนอกตาออกเพื่อแยกเนื้อเยื่อรอบ ๆ เยื่อบุตา ..

เนื้อเยื่อทั้งหมดฝ่อลงแล้ว…โชคดีที่พวกมันไม่ได้เน่าเปื่อยเหมือนเนื้อเยื่อของเหยื่อโรคมนุษย์ต้นไทรที่ผิดปกติไม่งั้นการผ่าตัดคงจะยากเย็นกว่านี้

อีกอย่างหนึ่ง…ลู่เสียวหนิงไม่ได้ต่อสู้หรือกรีดร้องในระหว่างการผ่าตัดเลย เธอเอาแต่ครางเป็นภาษาแปลกๆอย่างต่อเนื่องคล้ายคนกําลังภาวนา…แต่อย่างน้อยเธอก็ยังหายใจอยู่นั่นทําให้ทุกคนยังโล่งใจ

ดังนั้นแม้ว่านี่จะเป็นการผ่าตัดทางตาครั้งแรกของปู่จวิน แต่ไม่มีขั้นตอนใดที่ยากเกินไป หลังจากตัดเส้นประ สาทตาออกแล้ว เขาก็ใช้คีมดึงลูกตาที่เต็มไปด้วยความกลัวออกจากเบ้าตาลู่เสี่ยวหนิงอย่างแรง

 อ๊ะ! จบแล้วเหรอ?  ลุงต้านเอ่ยถามทันที… แม้ว่าเขาจะไม่ได้มองจวินกําลังผ่าตัด แต่เขาก็รับรู้ได้ว่าแรงกดดันที่แผ่ออกมาจากดวงตานั้นดูเหมือนจะเริ่มอ่อนลงอย่างกะทันหัน และด้วยสัญชาตญาณของลุงต้านเขาจึงเดาว่าดวงตาน่าจะถูกผ่าตัดออกมาจนเสร็จเรียบร้อยแล้ว

 ใช่ครับ  จวินทิ้งลูกตาแปลก ๆ ลงที่พื้นทันที จากนั้นเขาก็กระทืบมันอย่างแรงและอวัยวะนั้นก็ระเบิดออกมาอย่างน่าสยดสยอง …

สิ่งนี้ทําให้ทุกคนตกใจ แต่เงาดํามืดนั่นดูเหมือนว่าจะกระเด็นและแตกสลายไปพร้อมกับลูกตา แม้แต่สภาพแวดล้อมรอบ ๆ ก็ดีขึ้นตามลําดับ

 ไม่ว่าคุณจะเป็นใครหรืออะไร ฉันไม่สน!! ฉันก็ไม่เหมือนกับคุณ ฉันไม่เคยเป็นและจะไม่มีวันเป็นกู้จวินพูดในใจอย่างเกรี้ยวกราดเขาไม่มีวันยอมเป็นภาชนะแน่!

หลังจากที่ลูกตาข้างขวาของลู่เสี่ยวหนิงหลุดออกไปและถูกทําลายอย่างย่อยยับ เสียงครวญครางแปลกๆของเธอก็หยุดลงทันที…จากนั้นความอ่อนเพลียก็เข้าครอบงําเธอและเธอกลับสู่ภาวะอ่อนแออย่างที่ควรจะเป็นแล้ว

นี่เป็นสัญญาณอย่างดีว่าความผิดปกติในดวงตาของเธอได้หายไปอย่างสิ้นเชิงแล้ว… ดังนั้นชีวิตของเธอก็ถูกช่วยเอาไว้ และไม่ต้องตายเพราะพลังงานที่ผิดปกติ นั่นก็หมายความว่าเธอยังสามารถทํางานได้ต่อไปในฐานะสมาชิกของหน่วยนักล่าอสร… แต่ก่อนจะเป็นอย่าเกสภาพของเธอแล้วคงจะต้องพักฟื้นยาวนานอีกหลายเดือน

ก็อย่างที่ว่าตอนนี้สนามพลังงานที่ผิดปกติได้หายไปแล้ว ดังนั้นทีมนักล่าอสูรที่เหลือจึงสามารถดูแลเธอได้ในตอนนี้ทันที

ในขณะที่ทุกคนกําลังดีใจ แต่จวินยังคงผ่าตัด เขาทําขั้นตอนสุดท้ายในการปิดบาดแผลในเบ้าตาต่อไปขั้นแรกเขาใช้คากตในการเย็บรอบดวงตาก่อน จากนั้นเขาก็ใช้ยาปฏิชีวนะบางอย่างใส่ในถุงเยื่อบุตาขาวแล้วยัดด้วยผ้าฝ้ายก่อนที่จะผูกรอบๆจนกลายเป็นที่ปิดตาข้างเดียวในที่สุดการผ่าตัดก็จบลงอย่างเป็นทางการ

พอทุกอย่างจบลงแล้วกูจวินก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก และระบบก็กระตุกในใจของเขาทันที

นี่คือหนึ่งในความโชคดีในบรรดาโชคร้ายของเขา… นั่นก็คือเขามีระบบ!

ระบบนี้คือความลับที่แม้ตายก็บอกใครไม่ได้ และมันคือต้นตอกําเนิดของความสามารถทั้งหมดของเขาด้วยและที่สําคัญมันก็คือตัวช่วยชีวิตของเขา…

อีกอย่างหนึ่งเหตุผลที่เขายืนกรานจะช่วยลู่เสี่ยวหนิง แม้พลังงานลึกลับนั่นจะบอกว่าลู่เสี่ยวหนิงจะเป็นตัวอัปมงคลและนิสัยเลวทรามอย่างไรก็ตามเถอะ

เพราะค่าตอบแทนที่ได้จากการทําการผ่าตัดระดับ 2 ดาวที่คุ้มค่ารอเขาอยู่ ดังนั้นแล้ว ต่อให้ลุงต้านไม่ขอร้องให้เขามาผ่าตัดเขาก็จะต้องขอผ่าตัดอยู่ดีเพราะรางวัลที่มอบให้นั้นมันหลอกล่อจิตใจของเขาเกินไป…

เอาจริงๆเคสผ่าตัดไม่ใช่สิ่งที่กําหนดขึ้นได้ง่าย โดยเฉพาะในภารกิจระดับยากและระดับนรกขึ้นไปกู้จวินแทบจะไม่มีทางทําให้สําเร็จได้เลยถ้าเหตุการณ์ภายนอกไม่เอื้ออํานวย

ถึงปกติมันจะเลือกอํานวยแก่การทําภารกิจปกติก็เถอะ แต่การทําภารกิจระดับยากและระดับนรกนานๆที่แบบนานๆมากถึงจะเกิดขึ้นสักหน…

[ คุณได้เข้าร่วมในการผ่าตัดระดับสองดาวที่ประสบความสําเร็จ [การผ่าตัดตาที่ผิดปกติ]ผลงานส่วนตั:เจ็ดสิบห้าเปอร์เซ็นต์อันดับที่ 1]

  ความเชี่ยวชาญของมือแห่งความชํานาณของคุณเพิ่มขึ้นหนึ่งพันคะแนน ระดับปัจจุบันของคุณคือระดับสอง (25,000 / 30,000 คะแนน)

 ผลงานสะสมของภารกิจในปัจจุบัน: 185 เปอร์เซ็นต์ ภารกิจที่ยากเสร็จสมบรณ์!

  รางวัลเควสรอรับ:มีดผ่าตัดคาร์ลอตหนึ่งอัน โปรดคลิกเพื่อรับรางวัลของคุณ 

 

ระบบศัลยเเพทย์…ในยุคสิ้นโลก

ระบบศัลยเเพทย์…ในยุคสิ้นโลก

Status: Ongoing

เรื่องย่อ ครั้งหนึ่ง ถนนเส้นนี้เคยคึกคักครึกครื้น และเต็มไปผู้คนหัวเราะเสียงดัง ทว่าเวลาผันผ่าน..ตอนนี้ทุกอย่างกลับตาลปัตร บรรยากาศบนท้องถนนเต็มไปด้วยความเงียบที่น่าขนลุก เสียงกระซิบที่แหบแห้งและบ้าคลั่งดังก้องอยู่เหนือท้องฟ้า มีปีศาจยักษ์ใหญ่จากโบราณอันน่ากลัวจนที่ไม่อาจอธิบายได้ แฝงตัวอยู่ในเงามืดของมหาสมุทรที่ไร้ก้นบึ้ง ภัยพิบัติลึกลับได้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วเเละขยายตัวกระจายไปยังทั่วโลก การระบาดของโรคร้ายและความหายนะทำให้ฝูงคนทั่วโลกตื่นตระหนก ผู้คนหวาดกลัวเเละพากันอพยพหนีตายกันจ้าล่ะหวั่น..มีเพียงหนึ่งเดียวที่พวกเขาต้องการนั่นคือ ที่ซุกหัวที่อบอุ่นเเละปลอดภัยเพียงเท่านั้น หยาดฝนโลหิตไหลรินทั่วแผ่นดิน ในขณะที่มวลมหาสายฟ้าผ่าทั่วท้องนภาอย่างบ้าคลั่ง เเสงสว่างของมันส่องให้เห็นฝูงกาที่กำลังบินฉวัดเฉวียนอยู่ด้านบน “ เราจะเห็นว่าสิ่งมีชีวิตที่มีรูปร่างผิดปกตินี้มีซี่โครงสิบสองคู่เหมือนมนุษย์ แต่ยังมี“ กระดูกขวาง” ที่มนุษย์ไม่มี…” ในโรงเรียนแพทย์ กู้จวินยังคงนำมีดผ่าตัดของเขา ผ่าลงที่ซากศพโดยแสดงให้เห็นถึงโครงสร้างทรวงอกที่ผิดปกติของซากศพ โดยรอบๆโต๊ะผ่าศพมีนักเรียนหลายคนมองดูอยู่ ช่วงเวลาที่เลวร้ายและการเเก่งเเย่งได้ใกล้เข้ามา! ความจริงและตรรกะที่พังทลายคำสั่งวิปริตเข้าสู่ความบ้าคลั่ง มนุษยชาติสามารถก้าวไปข้างหน้าได้ด้วยพลังแห่งสติปัญญาและสติ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท