ตอนที่ 565 ตั๋วคอนเสิร์ตของเซียะเฟยเฟย
แปล Tarhai
เซียะเฟยเฟยเดินเข้าไปในร้านอาหาร Moon Bay พร้อมกับฉิงเฟิง, จางเสี่ยวเยวี่ยและเซี่ยหวั่นฉิว
ในส่วนของบรรดาผู้สื่อข่าวและแฟนๆ พวกเขาทั้งหมดถูกกั้นไว้ด้วยรปภของร้านอาหาร
“ยินดีต้อนรับสู่ร้านอาหาร Moon Bay ของเราครับมิสเซียะ” ชายวัยกลางคนรูปร่างอ้วนเดินเข้ามาต้อนรับและกล่าวด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา
เขาเป็นผู้จัดการร้านอาหารที่นี่ ซึ่งรับผิดชอบงานประจำวันและเรื่องทุกอย่างภายในร้าน
“ขอห้อง VIP ให้พวกเราหน่อยนะคะ” เซียะเฟยเฟยเปิดริมฝีปากสีแดงขึ้นและถาม
แม้ว่าผู้สื่อข่าวจะถูกขวางไว้โดยรปภของร้านอาหาร แต่พวกเขาก็ยังคงสามารถถ่ายรูปหรือถ่ายวีดีโอได้ผ่านกระจกใส นี่คือเหตุผลที่เซียะเฟยเฟยขอห้องส่วนตัวเพราะเธอไม่ต้องการให้พวกเขาเห็นเธอทานข้าวกับผู้ชาย สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับซุปเปอร์สตาร์คนดังก็คือความเป็นส่วนตัว ผู้สื่อข่าวจะกระจายข่าวออกไปเป็นวงกว้างอย่างแน่นอนถ้าหากพวกเขาได้ภาพเด็ด
ผู้จัดการอ้วนพาเซียะเฟยเฟยและคนอื่นๆเข้าไปในห้อง VIP ส่วนตัวจากนั้นก็จากไป
โต๊ะภายในห้องส่วนตัวทำจากคริสตัลอย่างประณีตสามารถหมุนได้รอบทิศและล้อมรอบไปด้วยเก้าอี้ 4 ตัว
จานชามที่ร้านอาหาร Moon Bay ทั้งหมดทำจากคริสตัลสีขาวแวววาวและมีความใสมาก ทำให้รู้สึกสดชื่น
ฉิงเฟิงนั่งอยู่ตรงกลางอย่างมีความสุข เซียะเฟยเฟยและเลขาของเธอนั่งอยู่ทางซ้ายมือของเขา ขณะที่จางเสี่ยวเยวี่ยและเซี่ยหวั่นฉิวนั่งอยู่ทางด้านขวา
ฉิงเฟิงเป็นผู้ชายคนเดียวภายในห้องนี้ นอกนั้นเป็นผู้หญิงทั้งหมด เขาเป็นเหมือนใบไม้สีเขียวที่อยู่ท่ามกลางทุ่งดอกไม้ ซึ่งโดดเด่นเป็นอย่างยิ่ง
“พี่ใหญ่หลี่ คุณไปอยู่ที่ไหนมาคะ ? ฉันตามหาคุณมาตั้งครึ่งปีแต่ก็ยังไม่มีข่าวคราวเลย” เซียะเฟยเฟยกล่าวด้วยความเศร้าโศกอย่างมากในขณะที่มองตาของฉิงเฟิง
“ฉันอยู่ในเมืองทะเลตะวันออกตลอดช่วงนั้น”
“ถ้าคุณอยู่ในเมืองนี้ตลอดเวลา ทำไมคุณถึงไม่โทรหาฉันเลยละคะ ?”
“เอ่อ…. คือฉันทำเบอร์ของเธอหายไปน่ะ” ฉิงเฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้มเล็กน้อยและหาข้อแก้ตัว
ความจริงแล้วเขาจำเบอร์โทรของเซียะเฟยเฟยได้อย่างแม่นยำ แต่เขาต้องการที่จะใช้ชีวิตอย่างเงียบสงบและลืมอดีตทั้งหมดในเมืองทะเลตะวันออก นั่นเป็นเหตุผลที่เขาไม่ได้ติดต่อหาเซียะเฟยเฟย
“พี่ใหญ่หลี่ คุณยังจำได้ไหมคะ ? คุณพูดว่าคุณอยากให้ฉันเป็นแฟนของคุณ”
เซียะเฟยเฟยถามด้วยความเขินอาย รูปลักษณ์บนใบหน้าของเธอบ่งบอกอย่างชัดเจนว่าเธอรู้สึกประหม่ามากแค่ไหน
อะไรนะ ? เซียะเฟยเฟยต้องการเป็นแฟนสาวของหลี่ฉิงเฟิง ?
จางเสี่ยวเยวี่ยและเซี่ยหวั่นฉิวที่อยู่ข้างๆต่างก็หันไปมองหน้ากันและอึ้งไปพักใหญ่ๆ พวกเธอรู้สึกสับสนและเต็มไปด้วยความสงสัย เช่นเดียวหวังจ้านเลขาของเซียะเฟยเฟย เธอเต็มไปด้วยความตกใจอย่างมาก เซียะเฟยเฟยคือซุปเปอร์สตาร์ที่งดงาม แม้กระทั่งคนใหญ่คนโตที่มีทรัพย์สินหลายแสนล้านหยวนพยายามเข้าหาเธอ แต่เธอปฏิเสธพวกเขาทุกคน ทำไมเธอถึงอยากเป็นแฟนของผู้ชายธรรมดาๆเช่นนี้ ?
ในสายตาของหวังจ้าน ฉิงเฟิงนั่นดูธรรมดามาก มีข้อดีเพียงอย่างเดียวของเขาก็คือเขาเป็นผู้ชายที่ดูดีและหล่อเหลามาก หรือว่าเซียะเฟยเฟยหลงใหลความหล่อเหลาของเขา ? แต่คิดอีกทีก็ไม่น่าใช่ เพราะที่ผ่านมาหวังจ้านและเซียะเฟยเฟยเคยพบกับชายหนุ่มหล่อเหลาและดูดีมานักต่อนัก แต่เซียะเฟยเฟยก็ไม่เคยสนใจแม้แต่คนเดียว
“เฟยเฟย เรื่องมันผ่านมานานแล้ว อย่าพูดถึงมันอีกเลย” ฉิงเฟิงโบกมือและกล่าวด้วยรอยยิ้ม
รูปลักษณ์ที่โศกเศร้าบนใบหน้าของเซียะเฟยเฟยยิ่งดูแย่ลงไปอีก ราวกับว่าเธอเป็นภรรยาที่ถูกชายคนนี้ทิ้ง ซึ่งสีหน้าของเธอทำให้ฉิงเฟิงกระอักกระอ่วนเช่นกัน
“มันก็ใช่ที่เมื่อก่อนฉันเคยช่วยชีวิตเธอไว้ เคยดื่มกินด้วยกันไปเที่ยวด้วยกัน และ…จูบ แต่เรื่องพวกนี้มันเกิดขึ้นมานานแล้วเฟยเฟย ตอนนี้ฉันแต่งงานแล้ว”
จางเสี่ยวเยวี่ยและเซี่ยหวั่นฉิวรู้สึกหดหู่ใจในขณะที่ฉิงเฟิงเอาแต่คุยกับเซียะเฟยเฟย ราวกับว่าเขาลืมพวกเธอไปแล้ว
จางเสี่ยวเยวี่ยคิดขึ้นได้จึงหาทางหันเหความสนใจของเซียะเฟยเฟยจากการเอาแต่คุยกับพี่ใหญ่หลี่ของเธอ เธอกล่าวขึ้นมาว่า
“คุณเซียะเฟยเฟยคะ ฉันเป็นแฟนคลับของคุณ ขอลายเซ็นหน่อยได้ไหมคะ ?”
จางเสี่ยวเยวี่ยหยิบการ์ดออกมาและมอบให้เซียะเฟยเฟยด้วยรอยยิ้ม
เซียะเฟยเฟยขมวดคิ้วเรียวงาม เธอรู้สึกขุ่นเคืองเล็กน้อยที่ถูกขัดจังหวะการสนทนากับฉิงเฟิง แต่เธอก็ไม่อาจแสดงอาการออกมาได้เพราะเธอรู้ว่าคนที่ขัดจังหวะเธอคือเพื่อนร่วมงานของพี่ใหญ่หลี่
“ได้ค่ะ” เซียะเฟยเฟยยิ้มตอบ เธอรับการ์ดของจางเสี่ยวเยวี่ยมาและเซ็นชื่อของเธอไว้ ลายมือของเซียะเฟยเฟยดูมีชีวิตชีวาและแข็งแรงมาก มันดูมีความสุขและสง่างาม
ทันทีที่เซียะเฟยเฟยเซ็นลายเซ็นของเธอให้แก่จางเสี่ยวเยวี่ย และเตรียมที่จะหันไปคุยกับฉิงเฟิงต่อ เซี่ยหวั่นฉิวก็เอ่ยขอลายเซ็นด้วยเช่นกัน จุดประสงค์ของเธอก็เหมือนกับจางเสี่ยวเยวี่ย เธอต้องการกันท่าไม่ให้เซียะเฟยเฟยคุยกับฉิงเฟิงมากเกินไป
เซียะเฟยเฟยรู้สึกอึดอัดใจเล็กน้อย แต่เธอก็ยังคงมอบลายเซ็นให้แก่เซี่ยหวั่นฉิวเพื่อเห็นแก่ฉิงเฟิง
จางเสี่ยเยวี่ยรู้สึกดีใจที่ได้ลายเซ็น เธอคิดที่จะถามเซียะเฟยเฟยเรื่องตั๋วคอนเสิร์ต แต่มันคงดูไม่เหมาะเพราะเธอกับเซียะเฟยเฟยเพิ่งพบหน้ากันครั้งแรก เธอจึงต้องขอความช่วยเหลือจากฉิงเฟิง
พี่ใหญ่หลี่ คุณลองถามเซียะเฟยเฟยเรื่องตั๋วให้หน่อยได้ไหม ? จางเสี่ยวเยวี่ยกระซิบข้างหูของฉิงเฟิงและถามด้วยเสียงต่ำ
ตั๋ว ?
ฉิงเฟิงมึนงงอยู่พักหนึ่ง จากนั้นก็นึกขึ้นได้ว่าเซียะเฟยเฟยมาเปิดคอนเสิร์ตที่นี่ แต่ตั๋วของเธอขายหมดเกลี้ยงแล้ว
เซี่ยหวั่นฉิวก็หันมามองฉิงเฟิงด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความปรารถนาเช่นกัน เห็นได้ชัดว่าเธออยากได้ตั๋วมาก
เมื่อฉิงเฟิงเห็นสาวสวยสองคนจ้องมองมาที่เขาด้วยความปรารถนา ฉิงเฟิงก็ต้องทำให้พวกเธอพอใจ
“เฟยเฟย เธอยังมีตั๋วคอนเสิร์ตเหลืออยู่ไหม?” ฉิงเฟิงถามด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย
“พี่ใหญ่หลี่อยากได้ตั๋วคอนเสิร์ตเหรอคะ ?”
“ใช่แล้ว”
“งั้นเดี๋ยวฉันถามหวังจ้านให้นะคะ” เซียะเฟยเฟยกล่าวตอบด้วยรอยยิ้มหวานและหันไปถามหวังจ้าน
หวังจ้านกล่าวว่า “เสี่ยวเฟย ตั๋วของเธอขายหมดเกลี้ยงไปตั้งนานแล้ว”
เป็นที่ทราบกันดีว่าเซียะเฟยเฟยเป็นซุปเปอร์สตาร์ที่มีแฟนคลับชื่นชอบนับไม่ถ้วนในประเทศจีน เมื่อใดก็ตามที่เธอจัดคอนเสิร์ต ตั๋วของเธอก็จะขายหมดอย่างรวดเร็ว
แววตาของฉิงเฟิงเต็มไปด้วยความผิดหวังเมื่อเขาได้ยินคำพูดของหวังจ้าน เขาก็อยากไปงานคอนเสิร์ตของเธอเช่นกัน
การได้เห็นสีหน้าที่ผิดหวังของฉิงเฟิงทำให้เซียะเฟยเฟยไม่สบายใจ แต่เธอก็ทำอะไรไม่ได้เพราะว่าตั๋วขายหมดแล้ว
เดี๋ยวก่อนนะ
ทันใดนั้นเซียะเฟยเฟยก็นึกขึ้นได้ว่าถึงแม้ตั๋วทั่วไปจะขายหมดแล้วก็ตาม แต่มันยังมีตั๋ว VIP เหลืออยู่
“หวังจ้าน ยังมีตั๋ว VIP เหลืออยู่ที่คุณใช่ไหม ?” เซียะเฟยเฟยถาม
หวังจ้านขมวดคิ้วและกล่าวว่า “เสี่ยวเฟย มีตั๋วVIP 10 ใบที่เหลืออยู่ แต่ตั๋วพวกนี้เตรียมไว้ให้เหล่าเศรษฐีและเซเลปในเมืองทะเลตะวันออกot”
เซียะเฟยเฟยยิ้มและกล่าวว่า “เอาตั๋วทั้งหมดให้พี่ใหญ่หลี่ไปเลย ไม่ต้องสนใจเศรษฐีหรือเซเลปเหล่านั้น”
“เสี่ยวเฟย เธอจะไม่เหลือตั๋วให้พวกเขาเลยหรือ ?”
“ใช่แล้ว ไม่ต้องเหลือไว้ ให้พี่ใหญ่หลี่ไปให้หมดเลย”
“แล้วแต่เธอ” ถึงแม้ว่าหวังจ้านจะไม่เต็มใจแต่คอนเสิร์ตก็เป็นของเซียะเฟยเฟย เธอมีสิทธิ์ตัดสินใจ
เซียะเฟยเฟยมอบตั๋วทั้งหมดให้กับฉิงเฟิงและกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “พี่ใหญ่หลี่ได้ตั๋วไปแล้วคุณต้องไปนะคะ”
“ไม่ต้องขนาดนั้นหรอกเฟยเฟย ฉันต้องการแค่ 3 ใบเท่านั้น” ฉิงเฟิงกล่าว
“ไม่เป็นไรคะ คุณเอาไปทั้งหมดเลย จะเอาไปให้เพื่อนหรือคนรู้จักก็ได้”
เซียะเฟยเฟยกล่าวและยัดตั๋ว VIP ทั้งหมดให้แก่ฉิงเฟิง