ตอนที่ 590 ถูกวางยา
แปล Tarhai
“ขอแสดงความยินดีด้วยค่ะมิสเซียะ ! คอนเสิร์ตครั้งนี้ประสบความสำเร็จอย่างสูง สปอนเซอร์หลายท่านต้องการพบคุณ” ผู้หญิงคนหนึ่งกล่าวกับเซียะเฟยเฟย
ผู้หญิงคนนี้อายุประมาณ 20 ปี เธอเป็นคู่ขาของฮูซ่งและแต่งตัวยังกับโสเภณี
คิ้วของเซียะเฟยเฟยขมวดแน่นและมีสีหน้าไม่แฮปปี้ เธอกำลังจะออกไปหาอะไรกินกับฉิงเฟิงหลังจากคอนเสิร์ตจบ แต่สปอนเซอร์ต้องการจะพบเธอ
ไม่ว่าบุคลที่มีชื่อเสียงจะไปที่ไหนพวกเขาก็จะต้องมีสปอนเซอร์ เป็นเพราะดารานักร้องเหล่านี้ต้องมีคอนเนคชั่น มันเป็นไปไม่ได้ที่จะจัดคอนเสิร์ตหรือการแสดงต่างๆด้วยอิทธิพลของตัวเองเพียงอย่างเดียว
“พี่ใหญ่หลี่คะ รอที่นี่ก่อนนะคะ ฉันขอเวลาไปพบกับสปอนเซอร์ก่อนแล้วเดี๋ยวเราไปทานข้าวด้วยกัน” เซียะเฟยเฟยกล่าว
ฉิงเฟิงพยักหน้าเพราะเขาเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างคนดังและผู้สนับสนุน เพราะสปอนเซอร์ทุกรายต่างก็อัดฉีดเงินเป็นจำนวนมากเพื่อช่วยส่งเสริมเหล่าคนดัง ดังนั้นจึงเป็นเรื่องปกติที่พวกเขาจะมีสิทธิ์ได้พบนักร้องหลังจากการแสดงจบ
เซียะเฟยเฟยเดินมาที่ห้องหมายเลข 1 มี4คนอยู่ในห้องนี้ ได้แก่ ฮูซ่งและสปอนเซอร์อื่นอีก 3 คน นอกจากนั้นยังมีผู้ชายที่ใบหน้าซีดเซียวอีกคนหนึ่ง นั่นก็คือเหอจวิน
เซียะเฟยเฟยเคยพบกับเหอจวินมาก่อน ครั้งล่าสุดพวกเขาพบกันที่ร้านอาหาร Moon Bay ซึ่งในตอนนั้นเหอจวินมาดักรอและต้องการเชิญเซียะเฟยเฟยมารับประทานอาหารร่วมกัน แต่สุดท้ายเหอจวินถูกฉิงเฟิงอัดจนหมดสภาพพร้อมลูกน้อง
เซียะเฟยเฟยไม่ได้รู้สึกประทับใจใดๆกับเหอจวินแม้แต่น้อย เขามาตามรังควานเธออยู่เสมอ เมื่อเธอกำลังจะเดินออกไปจากห้อง ฮูซ่งก็ลุกขึ้นยืน
“พวกเราควรจะชนแก้วฉลองให้กับความสำเร็จในการแสดงของคุณวันนี้สักหน่อยนะครับ, มิสเซียะ” ฮูซ่งยื่นแก้วไวน์ให้เซียะเฟยเฟย
เซียะเฟยเฟยรู้สึกลังเล เธอไม่แน่ใจว่าเธอควรจะรับแก้วที่อยู่ตรงหน้าเธอดีหรือไม่
“มิสเซียะ, ผมแค่อยากจะฉลองกับคุณ โปรดอย่าปฏิเสธเลยครับ หลังจากดื่มสักจิบหนึ่งคุณก็ไปทำธุระตามสะดวกเลยครับ” ฮูซ่งยังคงจับแก้วไวน์อยู่ แต่น้ำเสียงของเขามีความหมายอื่นๆแฝงอยู่
ไวน์นี้ไม่ใช่ไวน์ปกติ มันมีบางอย่างผสมอยู่ในนั้น
เซียะเฟยเฟยต้องการจะออกไปให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ดังนั้นเธอจึงยอมรับไวน์แก้วนั้นมาและดื่มมันทันที
“ฉันดื่มฉลองให้พวกคุณแล้ว งั้นฉันไปก่อนนะคะ ฉันมีธุระต่อ” เซียะเฟยเฟยยิ้มเล็กน้อย เธอวางแก้วไว้และกำลังจะเดินออกไป
แต่หลังจากเดินไปได้สองก้าว เซียะเฟยเฟยก็รู้สึกมึน ร่างกายของเธอไร้เรี่ยวแรงและร่างกายของเธอก็รู้สึกร้อนขึ้น
เซียะเฟยเฟยเป็นเซเลปที่โด่งดังมากและผ่านเรื่องราวมามาก เธอถูกวางยาครั้งล่าสุดตอนที่ไปแสดงคอนเสิร์ตที่ทวีปเสือ อาการตอนนี้ของเธอคล้ายกับเมื่อวันนั้นไม่มีผิด
“คะ…. คุณใส่อะไรลงไปไวน์ ?” เซียะเฟยเฟยกล่าวในขณะที่ร่างกายของเธอไร้ซึ่งเรี่ยวแรง เธอล้มลงกับพื้นอย่างหมดแรงและไม่สามารถขยับตัวได้อีกต่อไป
ฮูซ่งหัวเราะอย่างชั่วร้ายและกล่าวว่า “มิสเซียะ ผมก็แค่ใส่ยาปลุกเซ็กส์และยาอื่นๆอีกเล็กน้อย ซึ่งมันจะทำให้คุณควบคุมตัวเองไม่ได้อย่างไงละ”
“ฮูซ่ง… ฉันจะไม่อภัยให้คุณ” การแสดงออกของเซียะเฟยเฟยเปลี่ยนไป เธอรู้สึกว่าหัวของเธอโล่งไปหมดและร่างกายของเธอก็เริ่มร้อนขึ้น
ฮูซ่งยิ้มและเดินไปหาเหอจวิน เขากล่าวว่า “คุณเหอ ผมทำหน้าที่ของผมเสร็จแล้ว ตอนนี้คุณสามารถเย่อกับดาราผู้เร่าร้อนคนนี้ได้ตามต้องการเลยครับ ยาของผมแรงมาก ผมรับประกัน”
เหอจวินพยักหน้าและกล่าวกับฮูซ่งและคนอื่นๆว่า “พวกคุณทุกคนออกไปให้หมด ถ้าไม่มีคำสั่งของผม ห้ามปล่อยให้ใครเข้ามาเด็ดขาด พวกคุณเข้าใจนะ ?”
พวกเขาทั้งหมดต่างก็หันไปมองหน้ากันและเดินออกจากห้องไป เห็นได้ชัดว่าพวกเรารู้ว่าเหอจวินกำลังจะทำอะไร แต่ก็ไม่กล้าขัด เพราะเหอจวินเป็นลูกชายของหนึ่งในสามทรราชย์ของจังหวัดหูเจียง พวกเขาไม่กล้าขัดใจเหอจวิน
“เหอจวิน, ฉันไม่คิดเลยว่าคุณจะเป็นคนที่น่ารังเกียจขนาดนี้ ! คุณกล้าข่มขู่ให้สปอนเซอร์วางยาในเครื่องดื่มของฉันได้อย่างไร?” เซียะเฟยเฟยกล่าวอย่างระโหยโรงแรงและอ่อนระทวยอยู่บนพื้น ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความโกรธ
เธอรู้ดีว่าชายคนนี้น่ารังเกียจแค่ไหน แต่เธอก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะล้ำเส้นขนาดนี้ เขาต้องการจะข่มขืนเธอ !
“แล้วจะทำไม ? หรือว่าเธออยากไปล่อกับไอ้เจ้าหลี่ฉิงเฟิงนั่นแทนรึไง ? เซียะเฟยเฟย , ไม่ว่าเธอจะพูดอะไรก็ตาม วันนี้เธอต้องตกเป็นของฉัน ฉันจะขยี้เธอให้หนำใจเลยทีเดียว !” เหอจวินยิ้ม ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความหนาวเย็น
ทุกคนทั่วทั้งจังหวัดหูเจียงต่างก็รู้จักเหอจวิน เขาเป็นลูกชายของหนึ่งในสามทรราชของวงการมาเฟีย ทั้งหมดนี้เป็นเพราะเซียะเฟยเฟย จึงทำให้โดนฉิงเฟิงทุบตีจนขายหน้าผู้คน มันก็เป็นเรื่องธรรมดาที่เขาจะต้องสั่งสอนบทเรียนเธอ
ความรู้สึกของเซียะเฟยเฟยเปลี่ยนไป เธอเริ่มหวาดกลัว ร่างกายของเธอไม่สามารถขยับได้แม้แต่น้อย เธอรู้ว่าเธอกำลังตกอยู่ในอันตราย ถ้าหลี่ฉิงเฟิงไม่ปรากฏ เธอต้องมีมลทินในวันนี้อย่างแน่นอน
พี่ใหญ่หลี่…. ช่วยด้วย !
เซียะเฟยเฟยได้แต่ภาวนาอยู่ภายในใจ เธอต้องการให้ฉิงเฟิงแสดงตัวขึ้นโดยเร็วที่สุด
…
ฉิงเฟิงกำลังยืนรอเซียะเฟยเฟยอยู่ในห้องด้านหลัง แต่เธอก็ยังไม่กลับมาเสียที เขาเริ่มรู้สึกว่าบางอย่างไม่ถูกต้อง มันนานเกินไป
เขาหยิบโทรศัพท์ออกมาและโทรเข้าเบอร์ของเซียะเฟยเฟย แต่ไม่มีคนรับสาย เขาลองโทรอีกครั้ง แต่คราวนี้โทรศัพท์ปิดเครื่อง
ผิดปกติแล้ว
ฉิงเฟิงมั่นใจแล้วว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง
บัดซบ ! ฉันไม่น่าปล่อยเฟยเฟยไปคนเดียวเลย พวกบ้านั่นไม่น่าไว้ใจสักคน !
ฉิงเฟิงตำหนิตัวเองและรีบวิ่งไปยังห้องหมายเลขหนึ่ง เขาเร็วมากและมาถึงหน้าห้องในพริบตา
เมื่อมาถึงการแสดงออกของฉิงเฟิงก็เปลี่ยนไปเพราะเขาเห็นฮูซ่งและสปอนเซอร์อีกสามคนกำลังยืนอยู่หน้าห้อง มียามอยู่อีกคน ฉิงเฟิงรู้ว่ายามเฝ้าประตูคนนี้เป็นนักสู้ระดับสูงจากการมองเพียงแว๊บเดียว
“หยุด แกเข้าไปไม่ได้” ฮูซ่งขวางทางฉิงเฟิงไว้ทันที
“ฮูซ่ง นายถอยไป ฉันมาหาเฟยเฟย”
“เธอไม่ได้อยู่ที่นี่ ไสหัวไปซะ”
“ตอแหล เธอเพิ่งบอกกับฉันอยู่หยกๆว่าเธอจะมาที่นี่เพื่อทักทายสปอนเซอร์”
ฉิงเฟิงสบถออกมาและกำลังจะเปิดประตูห้อง
แต่เมื่อฉิงเฟิงก้าวขาไปอีกก้าวหนึ่ง เขาก็ถูกขวางโดยยามที่อยู่ข้างประตู ยามกล่าวว่า “นายน้อยของฉันสั่ง ห้ามใครเข้าไปเด็ดขาด”
“นายน้อย ? นายน้อยของนายคือใคร?” ฉิงเฟิงถามพร้อมกับคิ้วที่ขมวดแน่น
“นายน้อยของฉันคือเหอจวิน ไสหัวไปได้แล้ว” ยามหน้าประตูโบกมือและบอกให้ฉิงเฟิงออกไป