ตอนที่ 580 สัญญาณของการขาดผู้ชาย
แปล Tarhai
ผู้หญิงคนที่พูดจาดูถูกฉิงเฟิงนั้นเป็นผู้หญิงที่จัดว่าสวยมาก เธอมีอายุประมาณ 20 ปี เธอมีผิวขาวซีดและขนตางอนยาว อย่างไรก็ตาม เธอทาลิปสติกสีสว่างและฉีดน้ำหอมจนฟุ้ง ถึงแม้ว่ากลิ่นจะหอม แต่ฉิงเฟิงก็รู้สึกฉุน
ฉิงเฟิงเงยหน้าขึ้นมองผู้หญิงคนนั้น เขากล่าวอย่างเย็นชาว่า “แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเธอถ้าฉันจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง ?”
เห็นได้ชัดว่าผู้หญิงสาวสวยคนนี้ไม่คิดคาดว่าฉิงเฟิงจะด่าสวนเธอทันที เธอรู้สึกหงุดหงิดขึ้น เพราะไม่เคยมีใครพูดแบบนี้กับเธอมาก่อน
“ฮึ่ม ! คุณรู้มั้ยว่าชั้นเป็นใคร ? คุณกล้าพูดกับชั้นแบบนี้ได้ยังไง ?”
“แล้วเธอเป็นใคร ?”
“ชั้นเป็นเจ้าของสถานีข่าวของเมืองทะเลตะวันออก, เฉินยี่จิง ชั้นมาที่นี่เพื่อเป็นเจ้าภาพเปิดงานการประชุมทางธุรกิจ” ผู้หญิงคนนี้กล่าวอย่างภาคภูมิใจ
ฉิงเฟิงกำลังจะอ้าปากพูด แต่ทันใดนั้นหลินเสวี่ยก็มาพูดตัดหน้าเขาอย่างรวดเร็ว เธอกล่าวว่า “โอ้ ! คุณคือคุณเฉินเหรอคะเนี่ย ? ฉันเห็นคุณทางโทรทัศน์อยู่บ่อยๆ”
หลินเสวี่ยรู้ว่าฉิงเฟิงแทบจะไม่เคยเปิดทีวีดู ดังนั้นเขาคงไม่รู้จักเฉินยี่จิงแน่นอน อย่างไรก็ตามหลินเสวี่ยรู้จักเฉินยี่จิงเป็นอย่างดี เธอมีภูมิหลังที่แข็งแกร่ง เธอเป็นเจ้าของสถานีซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในเมืองทะเลตะวันออก ชื่อเล่นของเธอคือ “นังลิ้นพิษ” เพราะเธอมักจะคอยวิพากษ์วิจารณ์คนอื่นอย่างไม่ไว้หน้าเสมอ ซีอีโอหลายๆคนในเมืองทะเลตะวันออกต่างก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์โดยเฉินยี่จิง และมีผลกระทบต่อผลกำไรของบริษัท
ถ้าเฉินยี่จิงเป็นเพียงแค่เจ้าภาพเปิดงานธรรมดามันก็คงจะไม่มีอะไร แต่ปัญหาคือเฉินยี่จิงไม่ใช่คนธรรมดา เธอมีภูมิหลังที่แข็งแกร่งและมาจากตระกูลที่มีอำนาจ เห็นจากได้แม้แต่ตอนที่เธอวิจารณ์ซีอีโอคนอื่นๆพวกเขาก็ไม่กล้าที่จะมีปัญหากับเธอ
“อ๋อ เป็นซีอีโอหลินเสวี่ยนั่นเอง คุณก็มาเข้าร่วมการประชุมด้วยเหรอ ?” เฉินยี่จิงกล่าวด้วยเสียงที่ไม่เป็นมิตร
ผู้หญิงยังไงก็เป็นผู้หญิงวันยังค่ำ เธอต่างไม่ค่อยเป็นมิตรต่อผู้หญิงที่สวยกว่า หลินเสวี่ยสวยกว่าเฉินยี่จิง ดังนั้นก็เป็นธรรมดาที่เธอจะไม่ค่อยเป็นมิตรต่อหลินเสวี่ย
หลินเสวี่ยพยักหน้าและกล่าวว่า “มิสเฉิน คุณเป็นเจ้าภาพในการประชุมวันนี้ คุณควรจะรีบไปนะคะ”
เฉินยี่จิงเหลือบมองนาฬิกาของเธอและตระหนักว่าถึงเวลาเปิดงานแล้ว เธอหันไปจ้องฉิงเฟิงและรีบเดินก้าวยาวๆเข้าไปในตึก
ฉิงเฟิงกล่าวด้วยความไม่พอใจว่า “ภรรยา ทำไมคุณถึงไม่ให้ฉันสั่งสอนบทเรียนผู้หญิงคนนั้นเสียหน่อยละ ?”
“เธอเป็นเจ้าภาพในการประชุมวันนี้ ถ้าคุณไปมีเรื่องกับเธอ คำเชิญของบริษัทเราอาจจะถูกยกเลิก และบริษัทอื่นๆในเมืองทะเลตะวันออกอาจจะไม่คบค้าสมาคมกับพวกเรา”
คำพูดของเธอทำให้ฉิงเฟิงตระหนักได้ ถึงแม้ว่าคำพูดคำจาของเฉินยี่จิงจะฟังแล้วระคายหูมาก แต่ชื่อเสียงของเธอก็เป็นความจริง หลายๆคนเกรงกลัวเธอ
ถ้าไม่ใช่เพราะหลินเสวี่ยและบริษัท Ice Snow วันนี้ฉิงเฟิงคงจะสั่งสอนบทเรียนให้เฉินยี่จิงไปแล้ว
หลิวหรูหยานกล่าวขึ้นอย่างฉับพลันว่า “ฉิงเฟิง คุณรู้ไหมว่าทำไมเธอถึงปากไม่ดีเช่นนี้และชอบพูดจาเสียดสีถากถางผู้อื่น ?”
ฉิงเฟิงส่ายหน้าและมองไปที่หลิวหรูหยาน เขากล่าวว่า “ฉันจะไปรู้ได้อย่างไร ฉันแค่รู้สึกว่าเธอจะเกลียดผู้ชาย เธอด่าแม้กระทั่งผู้ชายที่หล่อเหลาอย่างฉัน”
คิกคิก !
หลิวหรูหยานหัวเราะคิกคัก เธอรู้สึกขบขันกับคำพูดหลงตัวเองของฉิงเฟิง เธอกล่าว
“คุณยังคงหลงตัวเองเหมือนเดิม เอาละฉันจะเล่าให้ฟัง เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมาเฉินยี่จิงถูกแฟนทิ้งและหลอกลวงเธอ หลังจากนั้นเธอก็เปลี่ยนไป เธอเริ่มปากเสียและพูดจาดูถูกคนอื่น”
ฉิงเฟิงพยักหน้าเป็นอันเข้าใจ เขาคิดในใจว่า “โอ้ ที่แท้ผู้หญิงคนนี้เป็นสาวน้อยน่าสงสารที่ถูกผู้ชายทิ้ง เธอปากเสียและถากถางคนอื่นเพื่อแก้แค้นผู้ชายนี่เอง”
จากนั้นเมื่อพวกเขาเห็นว่าคนอื่นๆเริ่มทยอยเข้าไปในตึก ฉิงเฟิงและสาวๆก็จึงพากันเดินตามเข้าไป
งานประชุมจัดขึ้นที่ชั้นบนสุดของอาคาร ฉิงเฟิงและสาวๆจึงเดินไปขึ้นลิฟท์ แต่พวกเขากลับพบปัญหาบางอย่างเมื่อพวกเขาพยายามที่จะเข้าไปในลิฟท์
“ขอโทษนะคะ นี่เป็นลิฟท์สำหรับผู้อำนวยการฝ่ายพาณิชย์เท่านั้น พวกคุณไปใช้ลิฟต์ตัวอื่นได้ไหมคะ ?” ผู้หญิงวัยกลางคนที่เฝ้าลิฟต์กล่าว เธอปฏิเสธที่จะให้ฉิงเฟิงและคนอื่นๆขึ้นลิฟท์
หญิงวัยกลางคนคนนี้อายุประมาณ 40 ปี เธอแต่งกายอย่างสวยงามและแต่งหน้าหนาเตอะ เธอสวมชุดสูทกระโปรงสั้นโชว์ขาอ่อน
ฉิงเฟิงขมวดคิ้วด้วยความไม่พอใจ เขากล่าวว่า “ลิฟท์ตัวอื่นๆเต็มหมดแล้ว ส่วนลิฟต์นี้ก็ออกจะว่าง ทำไมพวกเราถึงใช้มันไม่ได้ ?”
หญิงวัยกลางคนพูดเบาๆว่า “ฉันบอกไปแล้วนะคะว่านี่เป็นลิฟท์ที่กำหนดไว้สำหรับผู้อำนวยการฝ่ายพาณิชย์เท่านั้น คนอื่นไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้ค่ะ”
ผู้อำนวยการฝ่ายพาณิชย์?
ประกายแห่งความไม่พอใจปรากฏขึ้นในสายตาของฉิงเฟิง มีผู้อำนวยการในแต่ละสาขา ผู้อำนวยการสาขาวัตถุโบราณคือซูหยุนชาง ขณะที่ผู้อำนวยการสาขาแพทย์แผนจีนคือจางเหมียวชุน นอกจากนี้ยังมีผู้อำนวยการฝ่ายพาณิชย์อีกด้วย
ผู้อำนวยการถือเป็นผู้นำของแต่ละสาขา เหมือนเป็นตำแหน่งผู้บังคับบัญชา เช่นเดียวกับประธานนักเรียนในโรงเรียนที่สามารถออกคำสั่งจัดการนักเรียนได้
หลินเสวี่ยเคยเข้าร่วมการประชุมที่คล้ายกันมาก่อน ดังนั้นเธอจึงเข้าใจกฎระเบียบเหล่านี้อยู่บ้าง เธอรู้ว่าผู้อำนวยการเป็นคนที่มีอำนาจมาก เขาเป็นเหมือนหัวหน้าของบรรดาบริษัททั้งหลายในเมืองทะเลตะวันออก
“ฉิงเฟิง ไม่เป็นไรหรอก พวกเราไปรอใช้ลิฟท์อีกตัวหนึ่งก็ได้” หลินเสวี่ยกล่าว เธอไม่ต้องการมีปัญหากับผู้อำนวยการฝ่ายพาณิชย์
หลินเสวี่ยยอมถอยเพราะไม่อยากมีปัญหา แต่ฉิงเฟิงไม่ เขายังคงรู้สึกหงุดหงิดจากคำพูดของเฉินยี่จิง ความหงุดหงิดของเขาจึงระเบิดออกมาในที่สุดหลังจากผู้หญิงในลิฟท์ไม่ยอมให้พวกเขาใช้ลิฟท์
“ไม่ ลิฟต์อื่นเต็มหมดแล้ว วันนี้ฉันจะขึ้นลิฟท์ตัวนี้” ไม่มีใครสามารถหยุดฉิงเฟิงได้ เมื่อความโกรธของเขาปะทุขึ้น ในทวีปหมาป่า เขาขึ้นลิฟท์ของประธานาธิบดีของทวีปด้วยซ้ำไป กะอีแค่ลิฟท์ส่วนตัวของผู้อำนวยการฝ่ายพาณิชย์มันจะใหญ่โตขนาดไหนกันเชียว ?
“เฮอะ ! พวกบ้านนอกหน้าไม่อาย คนเขาก็พูดอยู่ทนโท่ว่านี่เป็นลิฟท์ส่วนตัวของผู้อำนวยการ แต่คุณก็ยังจะหน้าด้านอยากเข้าไปอีก” ทันใดนั้นได้ยินเสียงเสียดสีดังขึ้น
ฉิงเฟิงหันไปมองและเห็นว่าเป็นเฉินยี้จิง
ฉิงเฟิงได้พยายามที่จะเคารพเธอโดยอ่อนข้อให้กับคำพูดเสียดสีของเธอเมื่อครู่ แต่ตอนนี้เธอก็ยังจะด่าเขาอีก
“มันก็เรื่องฉันที่จะขึ้นลิฟท์ตัวไหน เธอจะทำไม ? ฮอร์โมนแปรปรวนหรือไง หรือไม่มีอะไรจะทำ ? ยุ่งเรื่องชาวบ้านอยู่ได้?” ฉิงเฟิงสบถใส่เธอทันที
“คุณว่าอะไรนะ !?” เฉินยี้จิงกล่าวอย่างเกรี้ยวกราด โดยปกติแล้วจะเป็นเธอที่ด่าคนอื่น นี่เป็นครั้งแรกที่เธอถูกคนอื่นด่า
“ฉันหมายความว่า เธอของขาดไง เธอไม่มีผู้ชายมาคอยเลี้ยงดูเอาใจให้ความสุขบนเตียง ฮอร์โมนของเธอถึงแปรปรวน” ฉิงเฟิงกล่าวเย้ยหยันด้วยรอยยิ้ม
ถึงแม้ว่าคำพูดของฉิงเฟิงจะดูแรง แต่เขาก็พูดความจริง ผ่านการสังเกตทางการแพทย์แผนจีนของเขา เขาเห็นว่าเฉินยี้จิงฮอร์โมนในร่างกายไม่สมดุล
เฉินยี้จิงไม่ได้คบกับใครเลยหลังจากที่เธอถูกแฟนเก่าทิ้ง เธอขาดการหล่อเลี้ยงจากผู้ชาย จึงทำให้ฮอร์โมนในร่างกายของเธอไม่สมดุลอารมณ์แปรปรวนง่าย