ตอนที่ 609 ชายผู้เหนือกว่าระดับ SSS!
แปล Tarhai
“บอสครับ ผมต้องทําไงถึงจะถอนกระบี่ที่เสียบคาหน้าอกของบอสออกไปได้ ?” เจ้าโล้นถามด้วยความกังวล เขาเห็นว่าฉิงเฟิงเลือดไหลไม่หยุดและใบหน้าซีดเซียว
อลิซก็กังวลเช่นกัน เธอต้องการที่จะดึงกระบี่เล่มนั้นออกอยู่หลายครั้ง แต่พลังมืดที่ลึกลับในกระบี่เล่มนั้นเชื่อมโยงกับร่างกายของฉิงเฟิง เธอจึงไม่สามารถดึงมันออกได้
พวกเขาต้องยอมรับว่าพลังที่แฝงในหินสะเก็ดดาวนั้นลึกลับเกินความเข้าใจ นี่เป็นครั้งแรกที่ทีมเขี้ยวหมาป่าเจอเรื่องแบบนี้
ฉิงเฟิงส่ายหัวและกล่าวว่า “ไม่ต้องเป็นห่วงฉัน ผี3หมดสภาพไปแล้ว พวกนายไปจัดการผี 2 และผี 4 ก่อน”
“ครับ/ค่ะ บอส” ทั้งสองคนพยักหน้าและเดินไปหาผี 2 พวกเขารู้ว่าต้องจัดการทีมโกสคิงให้หมดสิ้นเสียก่อน
แขนทั้งสองข้างของผี2แหลกละเอียดด้วยหมัดอรหันต์ของเจ้าโล้น จากนั้นด้วยการร่วมมือของเจ้าโล้นและอลิซ จึงสร้างอาการบาดเจ็บสาหัสให้แก่ผี 2 จนหมดสภาพไปในที่สุด
*https://en.wikipedia.org/wiki/Luohan quan หมัดอรหันต์มีฝึกกันจริงๆนะตามวิกิ*
ส่วนคนสุดท้ายผี 4 ก็ได้รับบาดเจ็บจากกระสุนของเทพมรณะ จากนั้นเจ้าโล้นและอลิซก็ร่วมมือกันและจบการต่อสู้ลงอย่างรวดเร็ว
จนถึงขณะนี้ทีมโกสคิงทั้งหมดต่างก็พ่ายแพ้ถึงไม่บาดเจ็บสาหัสจนขยับตัวไม่ได้ก็หมดสติไปคนเดียวที่เหลืออยู่ก็เฮลคิงที่ถูกกริชพรากชีวิตปักคาหน้าอก ซึ่งอาการเขาก็ไม่ได้ดูดีนัก
เฮลคิงได้วางแผนไว้เป็นอย่างดี เริ่มจากลักพาตัวหลิวหรูหยาน บีบบังคับให้ฉิงเฟิงแทงตัวเอง 3 ครั้ง แถมยังมีราชันเหยี่ยวอีก 2 คนช่วยกซุ้มลุมเขา แต่สุดท้ายก็ยังพ่ายแพ้
เขาไม่พอใจและโกรธกริ้วมาก เขาต้องการที่จะฉีกฉิงเฟิงให้เป็นชิ้นๆ แต่เขาก็ล้มเหลว เฮลคิงยังคงจําได้ดีถึงสภาพการตายที่น่าสยดสยองของราชันเหยี่ยว
“เฮลคิง วันนี้แกต้องตาย !” ฉิงเฟิงกล่าวด้วยน้ําเสียงที่เต็มไปด้วยจิตสังหาร
ใบหน้าของเฮลคิงซีดเผือดและเริ่มหวาดกลัว ครั้งที่แล้วเป็นร่างโคลนของเขาที่ตาย ถ้าคราวนี้เขาถูกฆ่าเขาจะต้องตายจริงๆ
“หลี่ฉิงเฟิง อาจารย์ของฉันคือโกสคิง ทางที่ดีแกอย่าแตะต้องฉันดีกว่า ไม่งั้นอาจารย์ฉันฆ่าแกแน่ !” เฮลคิงใบหน้าซีดเซียว เขาหมดทางเลือกจึงต้องนําชื่อของอาจารย์มาข่มขู่ฉิงเฟิง
ถึงแม้เขาจะเป็นเฮลคิงผู้หยิ่งยโสแต่เขาก็ยังอยากมีชีวิตอยู่ คนเราไม่มีใครอยากตายทั้งนั้น
โกสคิง !?
ฉิงเฟิงใบหน้าเปลี่ยนไปทันที เขาเคยได้ยินชื่อนี้มาก่อนจากอาจารย์ของเขา โกสคิงคือราชันเมื่อสิบกว่าปีก่อนและอยู่ในยุคเดียวกับราชันผู้พิชิต เขาต่อสู้จนปกครองทั่วทั้ง 18 จังหวัดของภาคเหนือ เขาเป็นตํานานยุคนั้น
ฉิงเฟิงเคยถามอาจารย์ของเขาเช่นกันว่า ระหว่างอาจารย์กับโกสคิงใครแข็งแกร่งกว่ากัน ซึ่งคําตอบที่ได้ทําให้ฉิงเฟิงต้องตกใจ เพราะอาจารย์ของเขากล่าวว่า เขาไม่ใช่คู่มือของโกสคิง มีเพียงราชันผู้พิชิตเท่านั้นที่สามารถต่อกรกับโกสคิงได้
แต่ถึงแม้ว่าโกสคิงจะน่าหวาดหวั่น แต่ฉิงเฟิงก็ไม่ใช่คนที่จะยอมถูกข่มขู่ได้ง่ายๆ เขาเกลียดการถูกข่มขู่มากที่สุด
“เจ้าโล้น ไปฆ่าเฮลคิงซะ” ฉิงเฟิงกล่าวอย่างไร้อารมณ์
เนื่องจากเขาไม่สามารถขยับตัวได้ เขาจึงต้องขอให้เจ้าโล้นจัดการแทน
“จัดให้ครับบอส ผมจะไปฆ่ามันเอง” เจ้าโล้นแสยะยิ้มและเดินไปหาเฮลคิง
ในความคิดของเจ้าโล้น เขาต้องปฏิบัติตามคําสั่งของบอสของเขาเสมอ ไม่ว่าจะเป็นโกสคิงหรือเฮลคิงก็ตาม ตราบใดที่ขึ้นชื่อว่าเป็นศัตรูของบอส เขาก็ไม่หวั่นที่จะทุบกะโหลกพวกมันให้เละ !
เจ้าโล้นเดินมาถึงตรงหน้าเฮลคิง เขาง้างหมัดและกําลังจะใช้กําปั้นเพื่อฆ่าเขา
แต่ในวินาทีถัดมา ปรากฏชายชุดดําโผล่ขึ้นมาตรงหน้าราวกับภูตผี เขาสวมหน้ากากเฮยไป๋หวี่ชาง (Black Impermanence Mask)
คนสวมหน้ากากผู้นั้นกางมือขวาออกและสัมผัสตัวเจ้าโล้นเบาๆ ร่างกายของเจ้าโล้นก็ถูกพลังบางอย่างผลักจนกระเด็นถอยออกไปหลายเมตรและล้มลงกับพื้น เขากระอักเลือดออกมาทันที
อะไรเนี่ย ? คนผู้นี้ทําให้เจ้าโล้นกระเด็นด้วยฝามือเดียว ?
ทุกคนรู้สึกตกตะลึงกับความแข็งแกร่งของชายลึกลับผู้นี้
แม้แต่ฉิงเฟิงที่เคยพบเจอกับนักสู้ผู้เชี่ยวชาญมากมายนับไม่ถ้วนก็ยังตกใจราวกับเห็นผี
เจ้าโล้นเปิดใช้งานโทเท็มเทวรูปตาเดียวและยังอยู่ในสภาวะนั้น พลังของเขามากกว่าปกติถึงสองเท่า แต่เขาก็ยังถูกคนผู้นี้ทําร้ายจนบาดเจ็บด้วยการสัมผัสตัวเบาๆเท่านั้น !
“ศิษย์พี่ ! ท่านมาจนได้” เฮลคิงกล่าวด้วยความเคารพต่อคนลึกลับผู้นี้ เขารู้สึกโล่งใจ
คนอื่นอาจจะไม่ทราบว่าชายสวมหน้ากากคนนี้แข็งแกร่งแค่ไหน เขาเฮลคิงรู้ดี ชายสวมหน้ากากผู้นี้คือศิษย์พี่ของเขา ซึ่งเป็นหนึ่งในลูกศิษย์ที่เก่งกาจที่สุดของโกสคิง เขาทรงพลังมาก
คนผู้นี้สวมชุดสีดําทั่วทั้งร่างเขาดูน่าขนลุกและน่าหวาดกลัวอย่างยิ่ง ชื่อของเขาคือกุ้ยหวู่ชาง, กุ้ยหวู่ชางผู้ซึ่งนําทางผู้คนไปสู่ชีวิตหลังความตาย
“ข้ากําลังปิดประตูฝึกฝน แต่อาจารย์บอกข้าว่าเจ้ากําลังตกอยู่ในอันตรายและบอกให้ข้ามาดู” กุ้ยหวู่ชางแสยะยิ้มภายใต้หน้ากาก น้ําเสียงของเขาราวกับคนที่อยู่ในขุมนรก มันเบามากแต่ก็หนาวเย็นจนสุดขั้วหัวใจ
“เจ้าโล้นเป็นไงบ้าง ?” ฉิงเฟิงด้วยอย่างกระวนกระวาย
เจ้าโล้นถ่มเลือดสดออกมาและกล่าวว่า ” บอส ซี่โครงผมหัก ชายชุดดําสวมหน้ากากคนนั้นแข็งแกร่งมาก ผมมั่นใจว่าเขาเหนือกว่าระดับ SSS ไปแล้ว”
อะไรนะ เขาเหนือกว่าระดับ SSS ?
ฉิงเฟิงตกตะลึงเพราะเขาอยู่ที่ระดับสูงสุดของ SSS ส่วนเจ้าโล้นหลังเปิดใช้งานพลังสายเลือดก็จะอยู่ระดับเดียวกับเขาเช่นกัน แต่ชายชุดดําสวมหน้ากากคนนี้สามารถทําให้เจ้าโล้นกระเด็นจนบาดเจ็บได้ เห็นได้ชัดว่าเจ้าโล้นกล่าวไม่ผิด คนผู้นี้ย่อมมีระดับเหนือกว่า SSS อย่างแน่นอน !
เมื่อก่อนฉิงเฟิงเคยถามอาจารย์ของเขาเช่นกันว่ามีนักสู้คนไหนที่มีระดับเหนือกว่า SSS ไหม อาจารย์ของเขาตอบว่า “อาจจะ” มีแต่เขาก็ไม่เคยเจอคนเหล่านั้นมาก่อน มีเพียงราชันผู้พิชิตคนเดียวที่เล่าลือกันว่าอยู่เหนือกว่าระดับ SSS
“นายเป็นใคร ?” ฉิงเฟิงถามอย่างหนาวเย็น
เขาเริ่มเป็นกังวล พวกเขากําลังจะฆ่าเฮลคิงได้อยู่แล้ว แต่จู่ๆก็มียอดฝีมือทรงพลังผู้หนึ่งปรากฏตัวขึ้นมาขัดขวาง นอกจากนี้คนๆนี้ก็ยังเป็นศิษย์พี่ของเฮลคิงอีกต่างหาก สถานการณ์ตอนนี้ไม่เข้าข้างทีมเขี้ยวหมาป่าอีกแล้ว
” ตําหนักโกสคิง ดําไร้สมดุล “กุ้ยหวู่ชาง” ชายชุดดําเอ่ยนามตัวเองออกมาอย่างเย็นชา
ชื่อของเขาราวกับมีพลังที่ลึกลับบางอย่าง หลังจากคําว่า “กุ้ยหวู่ชาง” หลุดออกจากปาก อากาศโดยรอบก็เต็มไปด้วยความหนาวเย็น
ดําไร้สมดุล กุ้ยหวู่ชาง ?
ฉิงเฟิงขมวดคิ้ว เขาไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน แต่เห็นได้ชัดว่าคนผู้นี้มีทรงพลังมาก เขาไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญทั่วไป
จากตํานาน ดําไร้สมดุลและขาวไร้สมดุล ทั้งสองคือผู้ส่งสาส์นจากนรก งานของพวกเขาคือนําทางผู้คนจากชีวิตหลังความตาย
” เจ้าคือวูฟคิงใช่ไหม ? ข้ามาที่นี่เพื่อเอาศีรษะของเจ้า ภายใต้คําสั่งของอาจารย์”
กุ้ยหวู่ชางกล่าวพร้อมหัวเราะอย่างหนางเย็น เสียงของเขาเหมือนเสียงจากขุมนรกที่ทําให้ทุกคนตัวสั่น มันเหมือนกับว่ากําลังอยู่ในนรกจริงๆ
หลังจากที่กุ้ยหวู่ชางพูดจบ เขาก็เดินตรงไปหาฉิงเฟิง บรรยากาศที่หนาวเย็นและจิตสังหารถูกปลดปล่อยออกมาจากร่างกายของเขา
*ปล ชื่อของไอ้หน้ากากดํานี่ก็คือชื่อเรียกหน้ากากตามรูปที่ผมแนบไว้นั่นแหละครับ แต่ผมไม่รู้ว่าชื่อไทยเรียกมันว่าตัวอะไร เทียบคําจีนแล้วมันได้ กุ้ยหวู่ชาง