ตอนที่ 610 ความช่วยเหลือที่ไม่คาดคิด
แปล Tarhai
กุ้ยหวู่ชางเดินตรงไปหาฉิงเฟิงทีละก้าว ถึงแม้เขาจะเดินอย่างเชื่องช้า แต่แรงกดดันที่รุนแรงก็แผ่ซ่านออกมาในอากาศเพิ่มขึ้นตามฝีก้าวของเขา ในที่สุดอากาศโดยรอบก็กลายเป็นหนาวเย็นและมีลมแรง มันเหมือนกับนรก
ฟิ้ว
กระสุนปืนพุ่งออกมาจากปากกระบอกปืนไรเฟิลของเทพมรณะ มันพุ่งตรงไปยังศีรษะของกุ้ยหวู่ชาง เย่เทียนต้องการฆ่าคนผู้นี้ภายในนัดเดียว
กระสุนพุ่งออกมาอย่างรวดเร็ว แต่กุ้ยหวู่ชางก็ยกมือขึ้นและใช้สองนิ้วคีบจับกระสุนเอาไว้ ด้วยการออกแรงเล็กน้อยเขาก็ปนกระสุนเป็นชิ้นๆได้ มือของเขาแข็งกว่ากระสุน
ทุกคนอ้าปากค้าง กุ้ยหวู่ชางผู้นี้แข็งแกร่งกว่าที่ทุกคนคิด
“เฮอะ ! ไอ้หน้ากากผี ถ้าแกจะฆ่าบอสก็ต้องผ่านฉันไปก่อน !!” เจ้าโล้นเปล่งเสียงคํารามออกมา ทั่วทั้งห้องสว่างไสวไปด้วยแสงสีเหลือง เจ้าโล้นระเบิดพลังออกมาจากทั่วทั้งร่าง
ฮ่าห์ !!!
หมัดขวาของเจ้าโล้นชกออกไปทันที เป็นอีกครั้งที่เขาใช้หมัดอรหันต์และโจมตีเข้าใส่กุ้ยหวู่ชาง
กุ้ยหวู่ชางไม่เหลือบมองเจ้าโล้นแม้แต่น้อย เขากางฝ่ามือขวาออกฝ่ามือขวานั้นมีพลังพายุไซโคลนสีดํา ส่งผลให้เจ้าโล้นที่โดนพลังจากฝ่ามือนั้นปลิวกระเด็นไปกระแทกกําแพงอย่างแรง เขาล้มลงและกระอักเลือดออกมา
เจ้าโล้นได้รับบาดเจ็บหนัก กระดูกซี่โครงของเขาแหลกละเอียดและอวัยวะภายในบาดเจ็บอีกด้วย เขาไม่สามารถลุกขึ้นได้
ด้วยหมัดอรหันต์และพลังสายเลือดจากโทเท็มเทวรูป เจ้าโล้นสามารถทําลายรถถังได้ถึง 2 คันในพริบตา แต่ทว่าต่อหน้ากุ้ยหวู่ชางมันกลับไม่มีอะไรเลย เขาเป็นราวกับมด
หลังจากจัดการกับเจ้าโล้นเสร็จ กุ้ยหวู่ชางก็เดินไปหาฉิงเฟิง
ฟิ้วว
เย่เทียนยิงปืนออกไปอีกนัด ตรงเข้าหัวของกุ้ยหวู่ชางแต่เขาชูมือขึ้นจับกระสุนไว้ได้อย่างง่ายดายและเขวี่ยงไปหาเย่เทียน
อั่ก !!
ถึงแม้มันจะเป็นลูกกระสุนปืนที่กุ้ยหวู่ชางขว้างออกมา แต่มันกลับเร็วกว่าความเร็วจากการยิงของเย่เทียนเสียอีก มันทะลุผ่านหน้าอกของเขาและกระเด็นไปไกล
เทพมรณะถูกโจมตี ?
ใบหน้าของฉิงเฟิงเปลี่ยนและเต็มไปด้วยความกังวล เทพมรณะเป็นมือปืนอันดับ 1 ของโลก ปกติเขาจะยิงผู้อื่น แต่วันนี้เขากลับเป็นฝ่ายถูกยิง
กุ้ยหวู่ชางไม่เลือบตามองเทพมรณะและเดินต่อไปหาฉิงเฟิง ใบหน้าของอลิซแปรเปลี่ยนไปอย่างใหญ่หลวง เธอเห็นกับตาแล้วว่าคนผู้นี้แกร่งแค่ไหน เขาคือศัตรูที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่ทีมเขี้ยวหมาป่าเผชิญมาในชีวิต
อลิซไม่สามารถหลบหนีได้เพราะฉิงเฟิงยังอยู่ข้างหลังเธอ เธอทําได้เพียงต้องสู้
อลิซขยับตัวก่อนและลงมือโจมตี เข็มเงินในมือเธอบินไปหากุ้ยหวู่ชางในพริบตา
กุ้ยหวู่ชางแสยะยิ้มและสะบัดแขนเสื้อ เข็มทั้งหมดถูกปัดกระเด็นตกลงพื้น
เมื่อเธอเห็นว่าแม้กระทั่งการโจมตีที่รุนแรงที่สุดของเธอก็ยังไร้ผล อลิซก็เริ่มหวาดกลัว คนผู้นี้แข็งแกร่งเกินมนุษย์ไปแล้ว
กุ้ยหวู่ชางเริ่มใกล้ฉิงเฟิงเข้าไปทุกที เมื่ออลิซเห็นเช่นนั้นเธอจึงกัดฟันชกหมัดขวาออกไปทั้งที่รู้ว่าทําอะไรกุ้ยหวู่ชางไม่ได้ แต่เพื่อปกป้องชีวิตของฉิงเฟิงเธอก็ต้องสู้
เปรี้ยง –
เป็นอีกครั้งที่กุ้ยหวู่ชางกางฝ่ามือออกและส่งอลิซลอยกระเด็นไปอีกคน เธอล้มลงกับพื้นและสูญเสียเรี่ยวแรงทั้งหมดไป
เจ้าโล้น, เทพมรณะ และอลิซ สมาชิกทุกคนของทีมเขี้ยวหมาป่าต่างก็พ่ายแพ้ทั้งหมดด้วยพลังของกุ้ยหวู่ชางพียงคนเดียว พวกเขาทุกคนไร้ทางต่อสู้
ถึงแม้ว่าฉิงเฟิงกําลังเผชิญหน้ากับความตายแต่เขาก็ยังคงแนวแน่ไม่หวาดหวั่น
“หืม ? เจ้าไม่กลัวตายงั้นหรือ ?” กุ้ยหวู่ชางถาม เขาสับสนว่าทําไมฉิงเฟิงจึงมีสีหน้าไร้อารมณ์เช่นนี้
“ไม่” ฉิงเฟิงตอบกลับอย่างเฉยเมย
เขาผ่านศึกสงครามและการต่อสู้ที่รุนแรงมาหลายร้อยครั้ง เขาก้าวผ่านความเป็นความตายมานับไม่ถ้วน ถ้าเขากลัวความตาย เขาคงจะตายไปแล้ว
“วูฟคิง เจ้าเป็นราชันแห่งทวีปหมาป่า งั้นข้าจะให้โอกาสเจ้า หากเจ้าสาบานว่าจะยอมเข้าร่วมกับตําหนักโกสคิงและเป็นผู้รับใช้ของข้า ข้าก็จะปล่อยให้แกได้ใช้ชีวิตต่อไป”
กุ้ยหวู่ชางกล่าว
“ไม่ได้นะศิษย์พี่ ! ท่านต้องฆ่าเขาสิ ทําไมต้องให้มันมาเป็นพวกเราด้วย ?”
ใบหน้าของเฮลคิงเปลี่ยนไปและกล่าวเสียงดัง
เขาเกลียดฉิงเฟิงเข้าไส้และต้องการจะฆ่าเขาด้วยมือตัวเอง ถ้าหากฉิงเฟิงยอมเข้าร่วมกับพวกเขา เฮลคิงก็จะไม่สามารถทําอะไรฉิงเฟิงได้อีก ซึ่งเขาไม่มีทางยอมรับได้
“คําสั่งของอาจารย์คือให้ฆ่ามัน แต่ถ้าหากว่าข้าทําให้มันยอมสวามิภักดิ์และกลายเป็นลูกน้องได้ ข้าเชื่อว่าท่านอาจารย์จะต้องพึงพอใจมากอย่างแน่นอน” กุ้ยหวู่ชางกล่าวพร้อมแววที่แฝงความนัย
เฮลคิงตระหนักถึงสิ่งที่ศิษย์พี่ของเขาคิดได้ทันที ศิษย์พี่ของเขาต้องการหยามหยันศักดิ์ศรีของราชันหมาป่า การทําให้ฉิงเฟิงกลายเป็นลูกน้องจะทําให้เขาเจ็บปวดยิ่งกว่าการฆ่า
“วูฟคิง เจ้าจะว่าอย่างไร ถ้ายอมเป็นลูกน้องข้า ข้าก็จะไว้ชีวิตเจ้า” กุ้ยหวู่ชางแสยะยิ้มและข่มขู่ฉิงเฟิง
“ไปตายซะไป !” ฉิงเฟิงสบถออกมา
การแสดงออกของกุ้ยหวู่ชางเปลี่ยนไปดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความโกรธ เขาคือกุ้ยหวู่ชางแห่งตําหนักโกสคิง เขาไม่เพียงแค่มีอํานาจ แต่สถานะของเขาก็สูงส่งมากเช่นกัน นักสู้ระดับ SSS ทั้งหลายเป็นแค่มดปลวกในสายตาเขา ดังนั้นก็เป็นธรรมดาที่เขาจะโกรธกริ้วหลังจากถูกฉิงเฟิงด่าให้ไปตายซะ
“ในเมื่อเจ้าอยากตาย งั้นข้าก็จะสนองให้” กุ้ยหวู่ชางแสยะยิ้มและปรากฏตัวขึ้นข้างๆฉิงเฟิง
กุ้ยหวู่ชางปลดปล่อยจิตสังหารออกมา เขาเหวี่ยงฝ่ามือลงไปที่ศีรษะของฉิงเฟิง ด้วยระดับพลังของเขาและสภาพร่างกายของฉิงเฟิงตอนนี้ เพียงแค่เขาตบเบาๆก็สามารถจบชีวิตฉิงเฟิงได้แล้ว
ฟิ้ว –
แต่ในขณะนี้ จู่ๆก็มีแส้หางม้าลอยเข้าหากุ้ยหวู่ชาง
เมื่อสัมผัสได้ถึงพลังที่แฝงมากับแส้หางม้าที่กําลังจะโจมตีถึงตัวเขา การแสดงออกของกุ้ยหวู่ชางก็แปรเปลี่ยนไป เขาหยุดโจมตีฉิงเฟิงและหันหน้ามารับมือกับแส้หางม้านั่นทันที
ตูม !
เสียงอึกทึกดังขึ้นหลังจากฝ่ามือของกุ้ยหวู่ชางปะทะกับแส้หางม้า ร่างกายของเขาเซและถอยหลังไปหลายก้าว ส่วนแส้หางม้านั่นก็กลับเข้ามือผู้อาวุโสท่านหนึ่ง
อาวุโสท่านนี้สวมชุดนักบวชเต้าและมีเคราสีขาว ดวงตาของเขาเปล่งประกาย เขาเป็นผู้นําขุนเขาบู๊ตึ๊งนักบวชเต๋าอาวุโสและเป็นอาจารย์ของลู่ซวนจี๋นั่นเอง
ลู่ซวนจี๋ยืนอยู่ข้างๆนักบวชเต๋าอาวุโสพวกเขามาด้วยกัน
เมื่อเห็นว่าฉิงเฟิงได้รับบาดเจ็บสาหัสและมีกระบี่ยาวปักคาหน้าอกของเขา ลู่ซวนจี๋ก็รีบวิ่งไปหาฉิงเฟิงและกล่าวด้วยความกระวนกระวายว่า
“บอส ผมพาอาจารย์มาด้วย บอสเป็นไงมั่ง ?”
*เตรียมเข้าช่วงที่ 2*