ตอนที่ 616 ความสุขในความทุกข์ของวูฟคิง
แปล Tarhai
ถ้าหลินเสวี่ยเห็นหลิวหรูหยาน อะไรจะเกิดขึ้น ? ลู่ซวนจี๋เคยได้ยินฉิงเฟิงเล่าให้ฟังว่าพวกเธอสู้กันยังกับหมาแมวกัดกันทุกครั้งที่พบหน้า
เมื่อคิดได้เช่นนั้นลู่ซวนจี๋ก็พลันก้าวขาไม่ออกในทันที
“มัวรีรออะไรอยู่อีกเล่า พาชั้นไปหาฉิงเฟิงได้แล้ว”
วันนี้มีหิมะตกและอากาศหนาวเย็น แต่ลู่ซวนจํากลับเหงื่อท่วมตัวด้วยความกระวนกระวายใจอย่างใหญ่หลวง
ถ้าเป็นในช่วงเวลาอื่นลู่ซวนจี๋จะต้องพาหลินเสวี่ยไปหาฉิงเฟิงในทันที แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่เหมาะ
“เอ่อ… คือ คือว่า พี่สะใภ้ครับ เดี๋ยวอีกสักสองสามวันบอสก็ฟื้นแล้ว ผมว่า… คุณกลับบ้านไปก่อนดีกว่าครับ ถ้าบอสฟื้นแล้วผมจะพาไปส่งทันที” ลู่ซวนจี๋กล่าวทั้งที่เหงื่อท่วมตัว
เสียงเล็กๆของเขาและท่าทีที่ลนลาน ทําให้หลินเสวี่ยรู้สึกสงสัยมากขึ้น
หลินเสวี่ยขมวดคิ้วด้วยความสงสัย เธอบ่นออกมาว่า “ซวนจี๋ ชั้นขับรถมาตลอดทั้งคืนโดยไม่หยุดพักและไม่ได้หลับไม่ได้นอน เพื่อจะรีบมาให้ถึงภูเขาบู๊ตึ๊ง แต่คุณกลับบอกให้ชั้นกลับไป มันหมายความว่าอะไรกัน !?”
เมื่อสัมผัสได้ถึงความโกรธจากน้ำเสียงของหลินเสวี่ย ลู่ซวนจี๋ก็หน้าซีดเผือดอย่างลนลานและเหงื่อไหลเต็มหน้าผากของเขา
เวรเอ๊ย ซวย ซวยอย่างแท้จริงอภัยให้ผมเถอะนะบอส ผมพยายามอย่างดีที่สุดแล้ว ผมห้ามเธอไม่ได้จริงๆ
ลู่ซวนจี๋พยายามปลอบตัวเองในใจ
“พี่สะใภ้ ผมจะพาคุณไปหาบอสก็ได้ แต่ไม่ว่าคุณจะเห็นอะไรก็ขอให้สงบและใจเย็นไว้ก่อนนะครับ…” ลู่ซวนจี๋กล่าวด้วยเสียงต่ำ และกลัวว่าหลินเสวี่ยจะโกรธเมื่อเธอเห็นหลิวหรูหยานที่อยู่ในห้องฉิงเฟิง
หลินเสวี่ยพยักหน้าตกลง และเดินตามลู่ซวนจี๋เข้าไปข้างใน เธอยังคงสงสัยว่าทําไมลู่ซวนจี๋ถึงพยายามที่จะไม่ให้เธอพบสามี
ในทันทีที่หลินเสวี่ยผลักประตูเข้าไป การแสดงออกของเธอก็เปลี่ยนไป ในห้องมีผู้หญิงที่งดงามอย่างน่าหลงใหลคนหนึ่งกําลังดูแลฉิงเฟิงเป็นอย่างดี เธอกําลังเช็ดหน้าผากให้เขาอย่างอ่อนโยน
และผู้หญิงที่มีเสน่ห์คนนี้ก็ไม่ใช่ใครอื่น เธอคือหลิวหรูหยาน คู่แข่งทางด้านความรักและผู้หญิงที่หลินเสวี่ยไม่ชอบหน้า
หลิวหรูหยาน นังจิ้งจอกที่ชอบหว่านเสน่ห์ เธอมายั่วคนของชั้นอีกแล้วสินะ !
หลินเสวี่ยหรี่ตาลง เธอหันศีรษะและจ้องมองลู่ซวนจี๋ตาเขม็ง เห็นได้ชัดว่าเขารู้ว่าหลิวหรูหยานคอยดูแลฉิงเฟิงอยู่ที่นี่ และนั่นก็คือเหตุผลที่เขาพยายามจะหยุดเธอไม่ให้เข้ามา
ลู่ซวนจี๋ก้มหน้า เหงื่อไหลจากหน้าผากของเขา เขาตื่นตระหนกมากจากการจ้องมองอย่างดุร้ายของหลินเสวี่ย เขาเดินถอยหลังไปโยไม่รู้ตัว เขารู้ว่าหลินเสวี่ยต้องโกรธมากแน่ที่เขาปิดบังเธอ
เมื่อได้ยินเสียงเปิดประตู หลินหรูหยานก็หันไปมองและเห็นหลินเสวี่ยที่ทางเข้าด้วยประกายตาเย็นเฉียบ
“นังจิ้ง… เอ่อ มิสหลิว คุณมาทําอะไรที่นี่ ?” หลินเสี่ยเดินไปหาหลิวหรูหยานและกําลังจะเปิดประโยคว่า “นังจิ้งจอก” แต่เธอก็เปลี่ยนในทันทีเมื่อเห็นว่ามีคนอยู่หลายคน
หลิวหรูหยานแย้มยิ้มเล็กน้อยและกล่าวว่า “ฉิงเฟิงบาดเจ็บ ฉันมาดูแลเขา”
“ชั้นเป็นภรรยาของเขา และชั้นจะดูแลเขาเอง คุณจะไปไหนก็ไปเถอะ”
“แต่ฉันไม่คิดอย่างนั้น ที่ฉิงเฟิงบาดเจ็บก็เพราะเขาพยายามที่ช่วยฉัน ดังนั้นมันก็เป็นหน้าที่ของฉันที่จะต้องคอยดูแลเขา”
“ช่วยเหลือคุณ ? มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ?”
“เรื่องมันยาว ฉันถูกคนเลวลักพาตัวและเกือบจะตายแล้ว แต่ฉิงเฟิงก็เอาตัวเข้าแลกต่อกรกับคนพวกนั้น ในช่วงนั้นเขาก็ได้รับบาดเจ็บ เขาคือเจ้าชายที่น่าหลงใหลและเป็นอัศวินของฉัน” หลิวหรูหยานเล่าสั้นๆขณะที่แววตาจับจ้องไปที่ลิ้งเฟิงอย่างเสน่ห์หา
ฟัค ! พวกเธอมาทะเลาะกันถึงในวัดเลยหรือ ?
ฉิงเฟิงลอบถอนใจ เขาตื่นได้สักพักแล้วและกําลังจะลุกขึ้น แต่เมื่อได้ยินเสียงของหลินเสวี่ยเขาก็เลยแกล้งตายต่อ
เมื่อใดก็ตามที่เขาอยู่ในที่เดียวกันกับผู้หญิงสองคนนี้เขาก็จะปวดหัวอย่างแรง เขายอมกลับไปสู้ตายกับเฮลคิงอีกรอบดีกว่าต้องมาอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้
หลินเสวี่ยรู้สึกโกรธที่ลิ้งเฟิงได้รับบาดเจ็บเพราะหลิวหรูหยานเป็นต้นเหตุ อย่างไรก็ตาม เมื่อเธอเห็นบาดแผลและรอยแผลเป็นมากมายบนตัวเขา ความโกรธของเธอก็เปลี่ยนเป็นกังวล
บาดแผลภายในของฉิงเฟิงได้รับการรักษาจนหายแล้ว แต่รอยแผลของเขายังคงอยู่และดูรุนแรงจนน่าใจหาย
จุดที่ดูน่ากลัวที่สุดก็คือรอยแผลเป็นกลมที่หน้าอกของเขา ซึ่งเกิดจากกระบี่สะเก็ดดาวแทงทะลุ เมื่อหลินเสวี่ยเห็นมัน เธอก็รู้สึกปวดใจอย่างรุนแรง
เธอเกลียดขี้หน้าหลิวหรูหยาน แต่เรื่องบาดแผลของฉิงเฟิงสําคัญที่สุดในขณะนี้
จากนั้นหลินเสวี่ยก็เดินเข้ามาและเริ่มทําความสะอาดแผลเป็นที่หน้าอกของเขาด้วยผ้าเช็ดตัวชุบน้ำ
“มิสหลิน เรื่องแค่นี้ฉันจัดการเองได้ ทําไมคุณไม่กลับบ้านไปซะละคะ ?”
ฉิงเฟิงได้รับบาดเจ็บและจะฆ่าเพราะเธอ หลิวหรูหยานรู้สึกประทับใจอย่างสุดซึ้ง เธอตั้งใจที่จะดูแลฉิงเฟิงเอง อีกทั้งเธอก็ไม่ชอบสายตาที่หลินเสวี่ยมองเธอ
“คนที่ควรจะไปคือคุณ ฉันเป็นภรรยาของเขาแต่คุณไม่ใช่ คุณไม่มีสิทธิ์ที่จะมาดูแลเขา” หลินเสวี่ยกล่าว
การแข่งขันเริ่มขึ้นอีกครั้ง หลิวหรูหยานหยิบผ้าเช็ดตัวและคอยเช็ดหน้าผากให้ฉิงเฟิง ขณะที่หลินเสวี่ยทําความสะอาดบาดแผลที่หน้าอกของเขา
ได้รับการดูแลจากสองสาวงาม ฉิงเฟิงรู้สึกมีความสุขตามร่างกายก็จริง แต่ในใจเขาต้องทุกข์ทรมานและปวดหัว เขาอยากจะลืมตาไปยืดเส้นยืดสาย แต่เขาก็กลัวที่จะต้องเผชิญหน้ากับพวกเธอในสถานการณ์ตอนนี้ เขาทั้งสุขทั้งทุกข์ในเวลาเดียวกัน
ลึกลงไปหลายร้อยเมตรภายในพื้นใต้คฤหาสน์ของโกสคิง เมืองเทียนจิง
กุ้ยหวี่ชางพาเฮลคิงกลับมาที่ชั้นใต้ดิน กริชพรากชีวิตที่ฝังอยู่ในหน้าอกของเฮลคิงถูกถอนออกมาด้วยพลังของกุ้ยหญ่ชางเรียบร้อยแล้ว แต่เนื่องจากบาดแผลร้ายแรงพอตัว ใบหน้าของเฮลคิงจึงซีดมาก
โกสคิงกําลังทดลองกับยาสีแดงอยู่ใบหน้าซีดเซียวของเขาเต็มไปด้วยความดีใจเพราะยาซุปเปอร์โคลนของเขาประสบความสําเร็จแล้ว เขาสามารถโคลนได้สี่คนในเวลาเดียวกันทําให้คนผู้นั้นมีประสิทธิภาพในการต่อสู้เพิ่มขึ้นถึง 4 เท่า
“อาจารย์ ผมขอโทษ ผมล้มเหลวขอรับ” เฮลคิงค่อยๆลดศีรษะลง เขาคือเฮลคิงที่ทรงพลังต่อหน้าผู้อื่น แต่ต่อหน้าอาจารย์ของเขา เขารู้สึกต่ำต้อยราวกับมดแมลง เพราะเขารู้ดีว่าอาจารย์ของเขาไร้เทียมทานแค่ไหน”
“เฮอะ ! เจ้ามันไร้ค่า แล้วราชันเหยี่ยวไปไหน ?” โกสคิงเหลือบมองเขา น้ำเสียงของเขาเย็นชาสุดขั้วและดูเลือดเย็น
เฮลคิงหน้าซีดเผือด และตอบด้วยเสียงเบาว่า ”เรียนท่านอาจารย์ ราชันเหยี่ยวถูกวูฟคิงสังหารไปแล้วขอรับ… “
โกสคิงขมวดคิ้วแน่น เขาไม่คาดคิดว่าราชันเหยี่ยวที่แข็งแกร่งแถมยังมีร่างโคลนจะถูกวูฟคิงฆ่า เขารู้สึกว่าตัวเองประเมินความสามารถของวูฟคิงผู้นี้ต่ำเกินไป
“กุ้ยหวี่ชาง ขาส่งเจ้าไปให้ฆ่าวฟคิงแล้วทําไมแม้กระทั่งเจ้าก็ยังล้มเหลวอีก ?”
ในฐานะลูกศิษย์ของโกสคิงและอยู่ในระดับผู้ฝึกยุทธ์โบราณ กุ้ยหญ่ชางแข็งแกร่งอย่างยิ่งด้วยพลังในระดับใต้สวรรค์ขั้นสูงสุด การฆ่าราชนคนหนึ่งที่เป็นมนุษย์ธรรมดาในระดับ SSS น่าจะง่ายยิ่งกว่าเหยียบมด
“เรียนท่านอาจารย์ ข้าถูกลูเต่าซางแห่งภูเขาบู๊ตึ๊งขัดขวางไว้ขอรับ” กุ้ยหวี่ชางหน้าเปลี่ยนสีและอธิบายออกมา ถึงแม้ว่าตัวเขาจะเป็นหนึ่งในศิษย์โปรดของโกสคิง แต่กุ้ยหวี่ชางก็เคารพอาจารย์ของเขาด้วยความเกรงกลัว
*ลืมหนุ่มออฟฟิศเตะหัวหน้าแผนกไปซะ อีกไม่นานเขาจะแปลงร่างเป็นยอดยุทธ์แล้ว 555 *