ตอนที่ 623 ความเห็นแก่ตัวเล็กๆของฉิงเฟิง
“เสี่ยวเยวี่ยน้อยไม่ต้องเป็นห่วง ฉันจะไปนัดบอดเป็นเพื่อนเธอ” ฉิงเฟิงสังเกตเห็นว่าใบหน้าของจางเสี่ยวเยวี่ยเต็มไปด้วยความวิตกกังวล
ให้กล่าวจากใจจริง ฉิงเฟิงมีแรงจูงใจอื่นสำหรับการกระทำนี้ เขาไม่อาจยอมให้จางเสี่ยวเยวี่ยกลายเป็นแฟนของคนอื่นได้ ถ้าหากจางเสี่ยวเยวี่ยเกิดมีแฟนขึ้นมาคงเป็นเรื่องน่าเศร้ามากสำหรับเขา นี่เป็นความเห็นแก่ตัวเล็กน้อยของเขานั่นเอง
“อ๊ะ! พี่ใหญ่หลี่ พี่จะไปนัดบอดกับฉันเหรอคะ ?” ริมฝีปากสีแดงของจางเสี่ยวเยวี่ยเผยอเล็กน้อย ดวงตาของเธอเปล่งประกายอย่างมีความสุข
ถ้าหากฉิงเฟิงไปนัดบอดพร้อมกับเธอ เขาจะต้องเขี่ยผู้ชายคนที่ป้าของเธอจัดแจงมาให้ออกไปได้อย่างแน่นอน
“ไปกันเถอะ ฉันจะไปเป็นเพื่อนเธอเอง” ฉิงเฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“แต่ว่า…. พี่ใหญ่หลี่ ไม่ใช่ว่าพี่สาวเซี่ยบอกให้พี่ทำงานล่วงเวลาหลังจากเลิกงานหรอกหรือ ?” จางเสี่ยวเยวี่ยกล่าวด้วยความกังวล
“วันนัดบอดของเธอสำคัญกว่า ดังนั้น วันนี้ไม่ต้องทำงานล่วงเวลาหรอก !”
ฉิงเฟิงโบกมือและพูดด้วยน้ำเสียงหยิ่งยโส
หลังจากพูดจบฉิงเฟิงก็ออกจากแผนกขายโดยลากจางเสี่ยวเยวี่ยไปด้วย
เซี่ยหวั่นฉิวที่พึ่งทำงานเสร็จก็มาที่ฝ่ายขาย แต่พบว่าฉิงเฟิงไม่อยู่แล้วซึ่งทำให้เธอค่อนข้างหงุดหงิดไม่น้อย
ความจริงแล้วเซี่ยหวั่นฉิวไม่ได้คิดจะให้ฉิงเฟิงทำงานล่วงเวลา เธอเพียงแค่หาข้ออ้างรั้งตัวเขาไว้ในออฟฟิศเพื่อจะได้มีเวลาอยู่กับเขาให้มากขึ้น แต่ตอนนี้ฉิงเฟิงไม่อยู่แล้ว ทำให้เธอรู้สึกเหมือนถูกทิ้ง
ฉิงเฟิงและจางเสี่ยวเยวี่ยออกจากบริษัทด้วยรถของจางเสี่ยวเยวี่ย พวกเขาขับไปที่โรงแรมจาง
โรงแรมจางเป็นโรงแรมระดับห้าดาว มันเป็นโรงแรมที่หรูหรามากทำให้คนส่วนใหญ่เลือกที่จะรับประทานอาหารกันที่นี่
ในขณะนี้ ภายในห้องวีไอพีห้องหนึ่งภายในโรงแรมจาง
จางเสี่ยวเจี๋ย, ในฐานะพ่อของจางเสี่ยวเยวี่ยได้นั่งอยู่ที่หัวโต๊ะในฐานะเจ้าภาพ ทางด้านซ้ายมือของเขาคือหวังเสี่ยวหง น้าสาวของจางเสี่ยวเยวี่ย เธออายุประมาณ 40 ปี ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ใช่สาวๆแล้วแต่ผิวพรรณของเธอก็ยังคงดูดี ทั้งขาว ดูนุ่มนวลอีกทั้งเธอยังมีรูปร่างดีไม่น้อย
หวังเสี่ยวหงทำธุรกิจเกี่ยวกับอุปกรณ์กีฬา เธอมีรายได้ดีมากและใช้มันกับการดูแลตัวเอง ซึ่งทำให้เธอยังดูสวยอยู่
ที่อีกด้านหนึ่งของโต๊ะมีชายวัยกลางคนและชายหนุ่มอีกคนหนึ่ง ชายวัยกลางคนคนนี้ตัวสูงใหญ่และมีร่างกายที่เต็มไปด้วยพลัง เขาดูแข็งแรงมาก ชื่อของเขาคือโจวอี้เจียน เขาคืออาจารย์ใหญ่ของสถาบันศิลปะการต่อสู้ตงไห่
ชายหนุ่มที่อยู่ข้างๆโจวอี้เจียนมีอายุประมาณ 20 ปี เขาก็ตัวสูงใหญ่เช่นกัน คิ้วดกหนาตาโต และมีผิวคล้ำเล็กน้อย ร่างกายของเขาสมส่วนมาก
ชายหนุ่มคนนี้ชื่อโจวชวง เขาเป็นลูกชายของอาจารย์ใหญ่แห่งสถาบันศิลปะการต่อสู้ เขารักการฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ในยามว่างและมีฝีมือดีทีเดียว
“เสี่ยวหง เมื่อไรหลานสาวของคุณจะมาเสียที ?” โจวอี้เจียนขมวดคิ้วและถามหวังเสี่ยวหง
หวังเสี่ยวหงยิ้มและตอบกลับว่า “อาจารย์ใหญ่โจวโปรดรอสักครู่ ฉันจะโทรหาเธอเดี๋ยวนี้และบอกให้เธอรีบมา รับรองว่าไม่นานค่ะ”
อาจารย์ใหญ่โจวเป็นคนที่หวังเสี่ยวหงไม่ควรไปยุแหย่ สถาบันศิลปะการต่อสู้เตรียมที่จะจัดซื้ออุปกรณ์การกีฬาที่มีมูลค่าถึงหนึ่งพันล้านหยวนในเวลานี้ สถาบันนี้เชิญชวนหลายบริษัทมาเข้าร่วมการประกวดราคา ซึ่งบริษัทของหวังเสี่ยวหงก็เป็นหนึ่งในนั้น
เพื่อให้ได้งานนี้ หวังเสี่ยวหงจึงมีความตั้งใจที่จะแนะนำหลานสาวของเธอให้กับลูกชายของโจวอี้เจียนเพื่อผูกสัมพันธ์ ถ้าหากทั้งสองคนนี้ชอบพอกันจนคบหากัน มั่นใจได้เลยว่าการประกวดราคาครั้งนี้บริษัทของเธอจะต้องได้งานอย่างแน่นอน
จางเสี่ยวเยวี่ยผู้น่าสงสาร เธอคิดว่าน้าของเธอต้องการที่จะแนะนำแฟนหนุ่มในอนาคตให้กับเธออย่างจริงใจ แต่สุดท้ายน้าของเธอก็ทำเพื่อธุรกิจของตัวเอง..
จางเสี่ยวเจี๋ยพ่อของจางเสี่ยวเยวี่ยเคยขอความช่วยเหลือจากหวังเสี่ยวหงมาก่อน ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าที่จะขัดใจเธอ นอกจากนั้นทั้งรูปร่างหน้าตาและสถานะทางสังคมของโจวชวงก็ถือว่าไม่เลวดังนั้นเขาจึงตกลงการนัดบอดครั้งนี้
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
มีเสียงเคาะประตูดังมาจากด้านนอก หวังเสี่ยวหงได้ยินดังนั้นก็มีท่าทางดีใจและกล่าวว่า “ต้องเป็นเสี่ยวเยวี่ยแน่เลย ฉันขอตัวไปเปิดประตูให้เธอก่อนนะคะ”
แต่เมื่อหวังเสี่ยวหงไปเปิดประตู รูปลักษณ์บนใบหน้าของเธอเปลี่ยนไป นั่นเป็นเพราะว่าเธอเห็นผู้ชายคนหนึ่งอยู่ข้างๆจางเสี่ยวเยวี่ย เธอย้ำนักย้ำหนากับจางเสี่ยวเยวี่ยไว้แล้วว่าให้มาคนเดียว ทำไมเธอถึงพาผู้ชายมาด้วยอีกคน ?
”เสี่ยวเยวี่ย น้าบอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าให้มาคนเดียว ทำไมเธอถึงพาคนนอกมาด้วย?” หวังเสี่ยวหงมองจางเสี่ยวเยวี่ยอย่างไม่พอใจ
เธอคิดในใจว่า “เธอเป็นอะไรของเธอกันนะ ? ฉันอุตส่าห์บอกแล้วนะว่าวันนี้เป็นวันนัดบอดถ้าเธออายเธอพาเพื่อนผู้หญิงมาก็ได้ แต่เธอพาผู้ชายมาด้วยทำไม ?”
“คุณน้าคะ เขาไม่ใช่คนนอก เขาเป็นเพื่อนร่วมงานของฉันเอง หลี่ฉิงเฟิง”
จางเสี่ยวเยวี่ยขมวดคิ้ว เธอก็ไม่ค่อยพอใจน้าของเธอเช่นกัน
“โอ้ ! คุณหลี่ คุณก็มาขอเหรอครับ มาทางนี้เลยครับ เชิญๆๆ !” ทันทีที่จางเสี่ยวเจี๋ยรู้ว่าฉิงเฟิงมา เขาจึงลุกขึ้นและรีบเดินออกไปทักทายฉิงเฟิง
จางเสี่ยวเจี๋ยรู้สึกซาบซึ้งในบุญคุณของฉิงเฟิงมาก เพราะฉิงเฟิงเคยรักษาอาการอัมพาตให้เขามาก่อน นอกจากนี้ฉิงเฟิงก็มอบเงินทุนให้เขานำไปเปิดร้านอาหาร ถ้าไม่ได้ฉิงเฟิงช่วยเหลือไว้ เขาก็ไม่มีวันนี้
จางเสี่ยวเจี๋ยมีท่าทางเอาอกเอาใจฉิงเฟิงเป็นอย่างมาก แม้กระทั่งเขาฉุดลากฉิงเฟิงไปนั่งข้างๆเขา ดูเหมือนว่าเขาจะปฏิบัติต่อฉิงเฟิงอย่างอบอุ่นกว่าโจวชางด้วยซ้ำ เรื่องนี้ทำให้หวังเสี่ยวหงไม่ค่อยพอใจนัก
ไม่ผิดที่ผู้ชายคนนี้หล่อเหลาราวกับเทพบุตร แต่เขาก็เป็นเพียงลูกจ้างตัวเล็กๆของบริษัท แล้วเขามีความสามารถอะไรบ้างละ ? เทียบกับโจวชางที่เป็นลูกชายของอาจารย์ใหญ่สถาบันศิลปะการต่อสู้ เขาแข็งแรงกว่าสถานะทางสังคมก็ดี โจวชางดีกว่าผู้ชายคนนี้ทุกด้าน หวังเสี่ยวหงคิดในใจว่าจางเสี่ยวเจี๋ยตาไม่มีแวว
“โอ้ ! สวยอะไรขนาดนี้ !”
โจวชางคิดในใจและรู้สึกยินดีที่ได้เห็นว่าจางเสี่ยวเยวี่ยเป็นผู้หญิงที่สวยขนาดนี้
ใบหน้าของจางเสี่ยวเยวี่ยดูบริสุทธิ์เหมือนดอกบัว ผิวของเธอขาวและเรียบเนียนราวกับหยกชั้นเลิศ ดวงตาของเธอเป็นประกายแวววาวเหมือนดวงดาวบนท้องฟ้า ริมฝีปากสีดอกกุหลาบของเธอเป็นเหมือนลูกเชอร์รี่ที่ทำให้ผู้ชายต้องการที่จะกัดมัน
เธอสวมชุดทำงานสีชมพูที่แสดงให้เห็นถึงรูปร่างที่สมบูรณ์แบบและส่วนโค้งเว้าของสตรี
โจวชางจ้องมองจางเสี่ยวเยวี่ยอย่างหยาบคาย ด้วยความปรารถนาที่จะกลืนกินเธอทั้งตัว เขาเป็นลูกชายของอาจารย์ใหญ่แห่งสถาบันศิลปะการต่อสู้ นักเรียนส่วนใหญ่ในสถาบันล้วนเป็นผู้ชาย ถึงแม้ว่าจะมีผู้หญิงอยู่บ้างแต่พวกเธอก็ไม่งดงามเท่าจางเสี่ยวเยวี่ย
โจวชางมองจางเสี่ยวเยวี่ยอย่างหลงใหลตาไม่กระพริบ เมื่อหวังเสี่ยวหงเห็นอาการของโจวชาง เธอก็มีความสุขมาก เธอรู้ตราบเท่าที่โจวชางสนใจจางเสี่ยวเยวี่ยและพวกเขาเริ่มคบหากันเรื่องการประกวดราคาจัดซื้อล็อตใหญ่นั้นก็ถือได้ว่าปิดดีลแทบจะแน่นอน
“นี่คือหลานสาวของฉันเอง เธอชื่อจางเสี่ยวเยวี่ย เธอทำงานที่บริษัท Ice Snow ในตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายขาย พวกคุณคิดว่าไงคะ ?” หวังเสี่ยวหงมองไปที่โจวอี้เจียนและโจวชางด้วยรอยยิ้ม
โจวอี้เจียนพยักหน้า เขารู้สึกพอใจกับผู้หญิงคนนี้มาก เธอไม่เพียงแค่สวยแต่ยังดูใสบริสุทธิ์และสงบเสงี่ยมอีกด้วย เพียงมองผ่านๆก็รู้ว่าเธอเป็นเด็กดี
“น้าหวัง, เสี่ยวเยวี่ยเป็นผู้หญิงที่ยอดเยี่ยมมาก ผมหวังว่าเธอจะเป็นแฟนของผม”
โจวชางกล่าวด้วยความหลงใหล
จางเสี่ยวเยวี่ยขมวดคิ้ว เธอรู้สึกไม่แฮปปี้ เธอสัญญากับน้าว่าจะแค่แวะมาเฉยๆ เธอไม่เคยตกลงที่จะคบกับคนหยาบคายคนนี้
“เสี่ยวเยวี่ย, โจวชางเป็นลูกชายของอาจารย์ใหญ่แห่งสถาบันศิลปะการต่อสู้ตงไห่ ตระกูลของเขามีทรัพย์สินมูลค่ามากกว่าสองพันล้านหยวน เป็นโอกาสที่ดีของหลานแล้วนะถ้าเธอตกลงยอมเป็นแฟนของเขา” หวังเสี่ยวหงกระพริบตาให้กับจางเสี่ยวเยวี่ย เป็นนัยๆว่าให้เธอตอบตกลงกับโจวชาง
“คุณน้าหวังครับ นี่คือการนัดบอดของเสี่ยวเยวี่ยไม่ใช่ของคุณ จำเป็นไหมที่คุณจะต้องไปรุกเร้าเธอ ?” เมื่อฉิงเฟิงมองไปที่หวังเสี่ยวหงซึ่งมีท่าทางตื่นเต้นจนออกนอกหน้า เขาก็รู้สึกไม่ค่อยพอใจและพูดออกมาตรงๆ