เมื่อเห็นอาวุธลับจากเฮลคิงฉิงเฟิงก็หน้าซีดลง เขาหลบมันโดยการก้าวถอยหลังและกระโดดกลับหลังขึ้นไปบนอากาศ
มันคือเข็มเหล็กสีดำยาวประมาณยี่สิบเซนติเมตรและเป็นสีดำเงามีพิษร้ายแรงอยู่ที่ปลายเข็มและถ้าโดนใครเข้าคนๆนั้นก็จะตายอย่างแน่นอน
เพื่อหลบเข็มเหล็กของเฮลคิงฉิงเฟิงต้องหยุดการโจมตีปลิดชีวิตต่อกู่เจี้ยนหลง ซึ่งทำให้เขาได้มีโอกาสตั้งหลัก สะพานเหล็กนี้สามารถแบกรับน้ำหนักได้เพียงแค่สองคน ดังนั้นเฮลคิงจึงไม่สามารถเข้ามาสอดมือตรงๆได้ ดังนั้นเพื่อช่วยกู่เจี้ยนหลง เฮลคิงจึงลอบโจมตีฉิงเฟิงด้วยอาวุธลับ
ทำได้เยี่ยม กู่เจี้ยนหลงยิ้มด้วยใบหน้าซีดเซียวและมองไปที่เฮลคิงด้วยความขอบคุณ ฉิงเฟิงเป็นศัตรูร่วมกันของพวกเขา ดังนั้นเฮลคิงจึงลงมือช่วยกู่เจี้ยนหลงเป็นธรรมดา
ไม่ว่าพวกเขาจะทำงานร่วมกันเพื่อสมบัติของราชายาทิพย์หรือเพื่อสังหารฉิงเฟิงก็ตามเฮลคิงรู้ดีว่าเขาจะต้องเกาะกู่เจี้ยนหลงเอาไว้ เนื่องจากพันธมิตรของพวกเขาจะอ่อนแอลงถ้าหากกู่เจี้ยนหลงตาย
ถึงแม้ว่าเฮลคิงต้องการที่จะฆ่าฉิงเฟิงจริงๆแต่เขาก็ต้องยอมรับฉิงเฟิงว่าแข็งแกร่งมากจนอาจไม่สามารถเอาชนะได้ด้วยตัวเขาเอง
เฮลคิงคุณมันต่ำช้านัก คุณสอดมือการต่อสู้ของพวกเขาอีกทั้งยังลอบโจมตีอีก !
ใบหน้าที่งดงามของลั่วหนี่ชิงเต็มไปด้วยความโกรธเธอไม่ได้ใส่ใจกับเฮลคิงแม้แต่น้อยเพราะเธอมัวจดจ่ออยู่กับการดูการต่อสู้ระหว่างฉิงเฟิงกับกู่เจี้ยนหลง
ลั่วหนี่ชิงในฐานะสาวงามอันดับหนึ่งแห่งเมืองเทียนจิง มันช่างน่าขายหน้านักที่เธอไปเข้าข้างคนจากเมืองตงไห่ เฮลคิงพูดแดกดันด้วยรอยยิ้มที่หนาวเย็น ทั้งตำหนักโกสคิงและตระกูลลั่วต่างก็มาจากเมืองเทียนจิงในกรณีนี้พวกเขาน่าจะมีศัตรูร่วมกันและร่วมมือกัน แต่อย่างไรก็ตามลั่วหนี่ชิงกลับพยายามทุกวิถีทางเพื่อปกป้องหลี่ฉิงเฟิง ซึ่งการกระทำของเธอทำให้เฮลคิงไม่พอใจอย่างมาก
เฮลคิงอย่าคิดว่าชั้นจะกลัวคุณเพราะคุณเป็นลูกศิษย์ของปรมาจารย์โกสคิง ชั้นจะสู้กับคุณเอง ลั่วหนี่ชิงไม่พอใจจากคำพูดเสียดสีของเฮลคิง ดังนั้นเธอจึงก้าวออกไปเตรียมจะปะทะกับเขา
ทันใดนั้นเองเหลิงเสวี่ยก็ก้าวออกมาขวางด้วยรอยยิ้มอย่างเย็นชา นังหนู มาเจอกับข้าแทนก็แล้วกัน เฮลคิง เจ้าโจมตีหลี่ฉิงเฟิงต่อไปให้มันเสียสมาธิ
เมื่อพิจารณาแล้วว่าขุมสมบัติของราชายาทิพย์อยู่เพียงอีกฟากของสะพานโซ่เหล็กเหลิงเสวี่ยก็คิดเหมือนกันว่าหลี่ฉิงเฟิงหมดประโยชน์แล้ว เขาจึงตัดสินใจที่จะเก็บฉิงเฟิงซะด้วยความร่วมมือกับผู้อื่นจากนั้นค่อยฉกฉวยสมบัติเหล่านั้น
บรรดาศัตรูทั้งหมดของฉิงเฟิงได้เผยเจตนาฆ่าของพวกเขาอย่างไม่ซ่อนเร้นอีกต่อไปแต่โชคยังดีที่สะพานโซ่เหล็กสามารถแบกรับน้ำหนักได้เพียงสองคน ทำให้พวกเขาไม่อาจเข้าไปกรุ้มรุมได้พร้อมกัน
ลั่วหนี่ชิงสีหน้าไม่สู้ดีนักเมื่อเห็นว่าเหลิงเสวี่ยสอดมือเธอรู้ซึ้งถึงความแข็งแกร่งของเขาในฐานะอันดับหนึ่งรายชื่อขั้นเหนือสวรรค์ ก่อนหน้านี้เขาไม่ได้แสดงตัวออกมาเต็มที่ แต่ตอนนี้ถึงเวลาลงมือของเขาแล้ว
ช้าก่อนเหลิงเสวี่ยท่านต้องเจอกับข้า ถึงเวลาที่จะยุติความบาดหมางระหว่างตำหนักโห่วเย่อหวงตี้และนิกายโลหิตสีชาดเสียที ฉินเซียนจื่อแย้มยิ้มและเดินออกมาขวางลั่วหนี่ชิง เธอเตรียมที่จะต่อสู้กับเหลิงเสวี่ยแทน
ในขณะที่เหลิงเสวี่ยเป็นอันดับหนึ่งขั้นเหนือสวรรค์ฉินเซียนจื่อในฐานะธิดาแห่งตำหนักโห่วเย่อหวงตี้ก็ย่อมไม่ธรรมดาเช่นกัน เห็นได้ชัดว่าเธอไม่หวาดหวั่นต่อกลิ่นอายที่แข็งแกร่งของเหลิงเสวี่ยแม้แต่น้อย นอกจากนี้การที่เธอลงมือก็เพราะต้องการช่วยฉิงเฟิง เธอไม่อยากให้เขาจบชีวิตที่นี่
ศิษย์น้องเรื่องนี้เป็นข้อพิพาทระหว่างนิกายโลหิตสีชาดกับหลี่ฉิงเฟิง เจ้าไม่ต้องไปยุ่งหรอก เมื่อฉินตงเห็นว่าฉินเซียนจื่อกำลังพยายามจะช่วยฉิงเฟิงทางอ้อม สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปและออกปากห้ามเธอทันที
ศิษย์พี่ท่านอย่าทำตัวน่าผิดหวังไปมากกว่านี้เลย หลี่ฉิงเฟิงช่วยชีวิตฉินเฮยไว้ ไฉนท่านถึงไร้น้ำใจห้ามปรามไม่ให้ข้าช่วยเหลือเขา ท่านอยากเห็นเขาตายงั้นหรือ
ฉินเซียนจื่อมองไปที่ฉินตงและกล่าวอย่างไม่พอใจเธอผิดหวังในตัวศิษย์พี่ของเธอมาก
ฉินเซียนจื่อรู้ว่านิสัยศิษย์พี่ของเธอเป็นอย่างไรเขาทั้งหยิ่งผยองและยกตนข่มท่าน แต่เธอก็ไม่เคยคาดคิดว่าเขาจะหยิ่งผยองจนเกินลิมิตขนาดนี้ หลี่ฉิงเฟิงเป็นผู้มีพระคุณของตำหนักโห่วเย่อหวงตี้เพราะเขาเคยช่วยชีวิตฉินเฮยไว้ ในยามนี้เขากำลังถูกรุมทำร้าย แต่ที่จะช่วยแต่ฉินตงกลับห้ามปรามเธอ
ใบหน้าของฉินตงมืดครึ้มลงเมื่อได้ยินคำพูดของฉินเซียนจื่อเขาไม่เคยแคร์ความปลอดภัยของฉิงเฟิง คำพูดของศิษย์น้องทำให้เขารู้สึกอึดอัดไม่น้อย
ฉินเซียนจื่อและเหลิงเสวี่ยยืนตรงข้ามกันพร้อมที่จะต่อสู้ได้ทุกเวลาลั่วหนี่ชิงยิ้มเล็กน้อยและเดินไปหาเฮลคิง
ทันใดนั้นทั้งเจียงไป่เต๋าและถังหยุนก็ผุดลุกขึ้นและกล่าวว่า ลั่วหนี่ชิง เฮลคิงจะทำอะไรกับหลี่ฉิงเฟิงก็เป็นเรื่องของเขา ส่วนเธอ ในฐานะที่เป็นคนของตระกูลลั่วแห่งเมืองเทียนจิง อย่าได้เข้าไปแทรกแซง
ลั่นหนี่ชิงกล่าวอย่างโกรธกริ้วและสีหน้าเปลี่ยนไปเธอกล่าวว่า เจียงไป่เต๋า ถังหยุน พวกคุณกล้าหยุดชั้นเหรอ
ฮึ! สมบัติของปรมาจารย์เซียวหยุนอยู่อีกฟากของสะพานโซ่เหล็ก หลี่ฉิงเฟิงไม่มีค่าอะไรแล้ว ถึงเวลาที่มันจะต้องตาย ! เจียงไป่เต๋ากล่าวด้วยรอยยิ้มอันโหดเหี้ยม
เจียงไป่เต๋าไม่พอใจฉิงเฟิงมานานแล้วในเมื่อตอนนี้เป็นโอกาสที่จะฆ่าเขา เจียงไป่เต๋าไม่ยอมให้ลั่วหนี่ชิงมาขวางแน่นอน
ใบหน้าของลั่วหนี่ชิงมืดครึ้มลงเธอตระหนักได้ว่าถ้าหากทั้งสองคนนี้ร่วมมือกัน สถานการณ์จะย่ำแย่มาก เจียงไป่เต๋าเป็นหนึ่งในสามยอดฝีมือที่แข็งแกร่งขั้นเหนือสวรรค์ ส่วนถังหยุนก็มีฝีมือไม่น้อย
เมื่อได้เห็นว่าทั้งลั่วหนี่ชิงและฉินเซียนจื่อถูกขัดขวางกัวซื่อเว่ยก็เดินไปหาเฮลคิงหมายจะหยุดการลอบโจมตีของเขา กัวซื่อเว่ยรู้ว่าการลอบโจมตีของเฮลคิงนั้นมีผลต่อการต่อสู้ระหว่างฉิงเฟิงกับกู่เจี้ยนหลงค่อนข้างมากอีกทั้งพวกเขายังสู้กันบนสะพานโซ่อีกด้วย
แต่ทันทีที่กัวซื่อเว่ยขยับตัวตูลูธแห่งสมาคมมือสังหารรัสเซียก็ปรากฏตัวออกมาพร้อมกับมือสังหารผู้ติดตามอีก 9 คน และขวางทางกัวซื่อเว่ยเอาไว้ ตูลูธทำงี้หมายความว่าไง กัวซื่อเว่ยชะงักเท้า ดวงตาเต็มไปด้วยความโกรธ เขาไม่คาดคิดว่าตูลูธจะลงมือในช่วงเวลาที่สำคัญเช่นนี้
กัวซื่อเว่ยวันนี้วูฟคิงต้องตาย คู่มือของแกคือข้า ไม่ใช่เฮลคิง เข้ามา ! ตูลูธยิ้มอย่างเหี้ยมโหด ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยแสงเย็น
ฉิงเฟิงมีสหายหลายคนแต่ก็มีศัตรูมากล้นอีกทั้งคนส่วนใหญ่ที่นี่ต่างก็เป็นศัตรูและตอนนี้พวกเขาลงมือพร้อมกันทั้งหมด !
เช้ง!
ฉินเซียนจื่อชักกระบี่ยาวออกมาและเข้าต่อสู้กับเหลิงเสวี่ยในขณะที่ลั่วหนี่ชิงสู้กับเจียงไป่เต๋าส่วนกัวซื่อเว่ยต่อกรกับตูลูธ
ถังหยุนดิ่งเข้าหาเฮลคิงและกล่าวด้วยเสียงเย็นว่า อย่ามัวรีรอ ฆ่าหลี่ฉิงเฟิงซะ จากนั้นจะได้รีบไปเอาสมบัติราชายาทิพย์
เฮลคิงพยักหน้าและเขวี้ยงอาวุธลับเข้าใส่ฉิงเฟิงที่อยู่บนสะพานโซ่ หวือ,หวือ, หวือ, หวือ, หวือ …
เฮลคิงยิงเข็มเหล็กนับไม่ถ้วนออกไปโจมตีฉิงเฟิงอย่างไม่หยุดยั้งเข็มเหล็กเหล่านี้ฉาบยาพิษที่ร้ายแรงไว้ ฉิงเฟิงทำได้เพียงหลบหลีกไปมาบนสะพานโซ่
มันเป็นเรื่องง่ายสำหรับเขากับการหลบเข็มเหล่านี้ถ้าอยู่บนพื้นที่มั่นคงแต่ตอนนี้เขายืนอยู่บนสะพานโซ่ที่หนาเพียงแค่ข้อมือซึ่งทรงตัวได้ยาก อีกทั้งเบื้องล่างก็เต็มไปด้วยแม่น้ำลาวาที่ร้อนระอุ สถานการณ์ของเขาไม่สู้ดีนัก
ตายซะหลี่ฉิงเฟิง
!!
กู่เจี้ยนหลงโห่ร้องออกมาด้วยความดุร้ายเขาเหวี่ยงกระบี่เล็งไปที่ฉิงเฟิงอย่างเกรี้ยวกราด
ตอนนี้อาจกล่าวได้ว่าฉิงเฟิงกำลังถูกโจมตีทั้งด้านหน้าและด้านหลังเขาเผชิญหน้ากับกระบี่ของกู่เจี้ยนหลงในขณะที่อาวุธลับของเฮลคิงกระหน่ำยิงจากด้านหลัง เท่านั้นยังไม่พอ มีปราณกระบี่จากถังหยุนเสริมอีก
ถึงแม้ว่าการโจมตีของเฮลคิงและถังหยุนจะไม่ได้ร้ายแรงนักเนื่องจากระยะทางค่อนข้างไกลจากริมฝั่งแม่น้ำลาวาแต่พวกเขาก็ประสบความสำเร็จในการรบกวนสมาธิของฉิงเฟิง ทำให้กู่เจี้ยนหลงมีโอกาสโจมตีเขาได้อย่างง่ายดาย
ฉิงเฟิงเต็มไปด้วยความโกรธยามนี้เขาทำได้เพียงต้องพึ่งตัวเองเพราะลั่วหนี่ชิง ฉินเซียนจื่อและกัวซื่อเว่ย สหายทั้งหมดของเขาต่างก็ถูกขัดขวางจากบรรดาศัตรู