ที่เมืองเทียนจิง,บ้านตระกูลกู่
ในฐานะหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ของผู้ฝึกยุทธ์โบราณตระกูลกู่ต่างเต็มไปด้วยยอดฝีมือและตัวตนที่ทรงอิทธิพลมากมายภายในตระกูล
ชายวัยกลางคนสีหน้าเคร่งขรึมที่ดูแข็งแกร่งนั่งอยู่กลางห้องโถงการแสดงออกของเขาเต็มไปด้วยความมืดครึ้มและมีจิตสังหารที่รุนแรงพวยพุ่งออกมาจากร่างกาย
ชายวัยกลางผู้นี้มีชื่อว่ากู่เจิ้นเทียนเขาเป็นหัวหน้าตระกูลกู่และยอดยุทธ์ระดับแกรนด์มาสเตอร์ เขาแข็งแกร่งอย่างสุดขั้ว เบื้องล่างของเขา เจียงไป่เต๋านั่งก้มศีรษะด้วยดวงตาที่ลุกลี้ลุกลน เห็นได้ชัดว่าเขาเกร็งแค่ไหน
เจียงไป่เต๋าเจ้าพูดความจริงใช่ไหม ลูกชายของข้า, กู่เจี้ยนหลงถูกชายที่มีชื่อว่าหลี่ฉิงเฟิงสังหาร ? กู่เจิ้นเทียนถามด้วยสีหน้ามืดครึ้ม
ขอรับท่านหัวหน้าตระกูลกู่ ข้าน้อยเห็นกับตาว่าหลี่ฉิงเฟิงสังหารกู่เจี้ยนหลง
เจียงไป่เต๋ากล่าวอย่างสุภาพเขาไม่กล้าพูดมั่วซั่วต่อหน้ายอดยุทธ์ระดับแกรนด์มาสเตอร์
หนอนแมลงบัดซบ! ไอ้เจ้าหลี่ฉิงเฟิงมันเป็นใครมาจากไหนกันถึงกล้าสังหารลูกชายของข้า ! มันต้องตาย ! กู่เจี้ยนเทียนคำรามออกมาในขณะที่ฟาดฝ่ามือลงบนโต๊ะจนมันแหลกสลายเป็นล้านๆชิ้น
กู่เจี้ยนหลงเป็นลูกชายที่มีค่าที่สุดของกู่เจี้ยนเทียนเขาเป็นรุ่นเยาว์ที่มีพรสวรรค์มากที่สุดที่สามารถเข้าถึงระดับเหนือสวรรค์ขั้นสูงสุดได้ตั้งแต่อายุยังน้อย เขาไม่เคยอยู่ในรายชื่อยอดยุทธ์ขั้นเหนือสวรรค์เพราะเขาได้เก็บซ่อนพลังเอาไว้ ไม่มีใครคาดถึงว่าเขาจะตายด้วยน้ำมือฉิงเฟิง
กู่เต๋า!! กู่เจี้ยนเทียนตะโกนออกมา ขอรับท่านหัวหน้าตระกูล ชายวัยกลางคนที่เหน็บกระบี่ยาวไว้ข้างเอวปรากฏตัวขึ้นในห้องโถงราวกับภูติพราย เขามีรูปร่างที่แข็งแกร่งด้วยกลิ่นอายสะกดข่มแผ่ซ่านออกมา
ชายวัยกลางคนผู้นี้มีชื่อว่ากู่เต๋าเขาคือผู้อาวุโสของตระกูลกู่และเป็นยอดยุทธ์ระดับครึ่งก้าวแกรนด์มาสเตอร์ที่ทรงพลังเป็นอย่างมาก
กู่เต๋าเจ้าจงมุ่งหน้าไปยังเมืองตงไห่ทันทีและตัดหัวเจ้าตัวบัดซบที่ชื่อว่าหลี่ฉิงเฟิงมาให้ได้ ! กู่เจี้ยนเทียนกล่าวด้วยเจตนาฆ่าที่รุนแรง
ขอรับท่านหัวหน้า กู่เต๋ากล่าวขณะที่เหินร่างขึ้นไปบนอากาศและมุ่งหน้าไปยังเมืองตงไห่ทันที
แสงแห่งความสุขได้ปรากฏขึ้นในสายตาของเจียงไป่เต๋าขณะที่เขามองดูเงาหลังของกู่เต๋าที่ลับตาไปเขาคิดในใจว่า
หลี่ฉิงเฟิงครั้งนี้แกตายแน่ ไม่มีใครสามารถช่วยแกจากการตามล่าของตระกูลกู่ได้
!
หลังจากเจียงไป่เต๋าแจ้งข่าวที่ตระกูลกู่เสร็จเขาก็มุ่งหน้าไปยังตระกูลลั่วอย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้ไปที่นั่นเพื่อพบหัวหน้าตระกูลลั่ว แต่เขาไปพบกับอาวุโสตระกูลลั่วคนหนึ่งแทน
ผู้อาวุโสตระกูลลั่วคนนี้คือปู่ของลั่วเทียนเฮาเขาโกรธมากเมื่อรู้ว่าหลานชายของตนเองถูกชายหนุ่มที่ชื่อว่าหลี่ฉิงเฟิงสังหารอย่างโหดเหี้ยม เขาออกคำสั่งต่อยอดฝีมือในตระกูลลั่วทันทีซึ่งเป็นยอดฝีมือระดับครึ่งก้าวแกรนด์มาสเตอร์อีกด้วย
ในขณะเดียวกัน,ถังหยุนก็ได้มาถึงนิกายหมัดเหล็ก
ในฐานะคุณหนูตระกูลถังถังหยุนและเตี๋ยชุ่ยหลันมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันไม่น้อย เธอเคยมาเยือนนิกายหมัดเหล็กมาก่อน
ภายในห้องโถงของนิกายหมัดเหล็กชายวัยกลางคนผู้หนึ่งที่กล้ามเป็นมัดๆยืนตระหง่านอย่างผ่าเผย เพียงมองแวบเดียวก็ดูออกว่าเขาแข็งแกร่งมากและเต็มไปด้วยกลิ่นอายที่กดขี่ผู้คนโดยรอบ เขาคือจ้าวนิกายหมัดเหล็ก, เตี๋ยจงเทียนและเป็นยอดยุทธ์ระดับแกรนด์มาสเตอร์
ท่านจ้าวนิกายเตี๋ยคะผู้น้อยมีข่าวร้ายจะมาแจ้งให้ท่านทราบว่าผู้น้อยเห็นกับตาว่าบุตรสาวของท่าน ชุ่ยหลัน ถูกหลี่ฉิงเฟิงเตะตกแม่น้ำลาวา เธอโดนลาวาที่ร้อนระอุแผดเผาจนเหลือแต่กระดูกสีขาว น้องชุ่ยหลันช่างน่าสงสารมาก เธอตายอย่างน่าอนาถเหลือเกิน…
ถังหยุนกล่าวขณะที่เธอบีบน้ำตาออกมา
ถังหยุนเสียใจต่อการตายของเตี๋ยชุ่ยหลันจริงหรือ ย่อมไม่ใช่แน่นอน เธอแกล้งร้องไห้เพื่อทำให้ดูดีต่อหน้าของจ้าวนิกายเตี๋ยจงเทียนเท่านั้น
ไอ้เด็กบัดซบคนนี้อีกแล้วมันหยามหน้าข้าเกินไปแล้ว !! คราวก่อนมันลงมือสังหารบุตรชายของข้าเตี๋ยเมิ่ง จากนั้นมันยังฆ่าลูกสาวของข้าอีก ข้าและนิกายหมัดเหล็กจะไม่มีวันปล่อยแกไปแน่ ! พวกข้าจะตามล่ามันจนสุดขอบฟ้า !
เตี๋ยจงเทียนคำรามออกมาอย่างโกรธเกรี้ยวบรรยากาศโดยรอบผันผวนจากจิตสังหารรุนแรงที่เขาปลดปล่อยออกมา เขาปรารถนาจะสับฉิงเฟิงออกเป็นชิ้นๆ
เตี๋ยฮงโพรับคำสั่ง ! เตี๋ยจงเทียนกล่าวอย่างเย็นชา
สิ้นเสียงก็มีชายวัยกลางคนคนหนึ่งเดินออกมาพร้อมกับท่อนบนที่เปลือยเปล่าร่างกายของเขาดูราวกับว่าจะสามารถระเบิดพลังที่รุนแรงออกมาได้ทุกเมื่อ
เตี๋ยฮงโพเป็นอาวุโสสามของนิกายหมัดเหล็กเขาห่างจากระดับแกรนด์มาสเตอร์เพียงเล็กน้อยเท่านั้น เจ้าไปจับตัวหลี่ฉิงเฟิงมาให้ได้และนำมาที่นิกายเราข้าจะจับมันแช่ในกระทะร้อน !
เตี๋ยจงเทียนกล่าวอย่างหนาวเย็นด้วยเจตนาที่โหดเหี้ยม
คนอื่นๆเพียงแค่ต้องการฆ่าฉิงเฟิงแต่เตี๋ยจงเทียนนั้นต่างออกไปเขาต้องการจับเป็นและทรมานจนตาย
เตี๋ยฮงโพพยักหน้าและกระโดดขึ้นไปบนฟ้าจากนั้นเขาก็มุ่งหน้าไปยังเมืองตงไห่
เจียงไป่เต๋าและถังหยุนนั้นชั่วร้ายมากพวกเขารู้ว่าตนเองไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฉิงเฟิง ดังนั้นพวกเขาจึงเดินทางมาแจ้งข่าวแต่ละตระกูลเพื่อยืมมือผู้อื่นฆ่าฉิงเฟิง
ทุกคนต่างเข้าไปในสุสานของราชายาทิพย์เพื่อแสวงหาสมบัติล้ำค่าอย่างไรก็ตาม ในท้ายที่สุดกลุ่มใหญ่ตายเกือบหมดสิ้นส่วนผู้ที่รอดมาได้ก็บาดเจ็บหนัก
ข่าวที่ว่าชายหนุ่มผู้หนึ่งที่ชื่อว่าหลี่ฉิงเฟิงได้สังหารเหล่ารุ่นเยาว์จำนวนมากภายในสุสานแกรนด์มาสเตอร์ทำให้ทั่วทั้งแวดวงผู้ฝึกยุทธ์ต่างก็ตกตะลึงอีกทั้งความแข็งแกร่งและความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วของรุ่นเยาว์ผู้นี้ทำให้เกิดคลื่นใหญ่ในบรรดาผู้ฝึกยุทธ์อีกด้วย อัจฉริยะเช่นนี้นั้นไม่สามารถคาดเดาอนาคตของเขาได้ เขามีโอกาสสูงมากที่จะทะลวงขีดขั้นแกรนด์มาสเตอร์ไปสู่จิตวิญญาณแท้จริง !
ถึงแม้ว่าฉิงเฟิงจะกลายเป็นที่รู้จักกันดีแต่เขาก็กลายเป็นเสี้ยนหนามตำตาของเหล่าขั้วอำนาจที่ทรงพลังมากมาย
ยอดยุทธ์นับไม่ถ้วนต่างมุ่งหน้าไปยังเมืองตงไห่เป้าหมายคือสังหารหลี่ฉิงเฟิง
ทันทีที่ลั่วหนี่ชิงและฉินเซียนจื่อทราบข่าวร้ายนี้พวกเธอก็ติดต่อหาฉิงเฟิงอย่างรวดเร็วแต่โชคไม่ดีที่โทรศัพท์ของฉิงเฟิงพังไปแล้วตอนอยู่ในสุสานเซียวหยุน พวกเธอทั้งสองต่างเต็มไปด้วยความกังวลที่ไม่อาจติดต่อเขาได้
ในท้ายที่สุดลั่วหนี่ชิงและฉินเซียนจื่อก็มุ่งหน้าไปยังเมืองตงไห่เพื่อตามหาฉิงเฟิงเช่นกัน
…
เมืองตงไห่,โรงพยาบาลแพทย์แผนจีน
จางหยุนเหอได้เริ่มทำการรักษาหลินเสวี่ยวิธีการรักษาของเขาพิเศษมากซึ่งฉิงเฟิงไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อน
จางหยุนเหอวางเครื่องมือแพทย์ทุกชนิดบนหัวของหลินเสวี่ยเพื่อกระตุ้นคลื่นสมองของเธอจากนั้นเขาก็ใส่ภาพจำนวนมากไว้ในคอมพิวเตอร์ มันเป็นรูปถ่ายของฉิงเฟิงและหลินเสวี่ยจำนวนมาก
จางหยุนเหอบอกกับฉิงเฟิงว่าเธอได้เข้าสู่สภาวะการสะกดจิตตนเองเขาจำเป็นต้องใช้สิ่งพิเศษเพื่อกระตุ้นเธอ
เพื่อที่จะกระตุ้นจิตใจของหลินเสวี่ยเขาจึงต้องใช้สิ่งที่หลินเสวี่ยสนใจมากที่สุดซึ่งก็คือฉิงเฟิงจากนั้นก็เป็นพ่อ แม่ และบริษัท Ice Snow เมื่อจางหยุนเหอส่งภาพของฉิงเฟิงเข้าไปในคอมพิวเตอร์เพื่อกระตุ้นสมองของหลินเสวี่ยใบหน้าของหลินเสวี่ยก็เต็มไปด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย มีทั้งความรัก ความเกลียดชัง ความเศร้าและความสิ้นหวัง
หัวใจของฉิงเฟิงเจ็บปวดขึ้นเมื่อเขาเห็นสีหน้าของหลินเสวี่ยเขารู้ว่าหลินเสวี่ยรักเขามาก แต่เธอก็จะไม่มีทางให้อภัยต่อการกระทำของเขา ลูกของเขากับหลิวหรูหยานทำให้เกิดความเจ็บปวดโศกเศร้าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในใจของเธอ
วิธีการส่งภาพเข้าคอมพิวเตอร์เพื่อกระตุ้นสมองเป็นทฤษฎีเกี่ยวกับคลื่นสมองมันเป็นวิธีที่อันตรายมากเนื่องจากสมองของมนุษย์มีความซับซ้อนและอ่อนแอ หากมีอะไรผิดพลาดผู้ป่วยอาจจะสมองตายได้
จางหยุนเหอเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านอาการทางระบบประสาทเขาได้ศึกษาสมองมาเป็นเวลากว่าห้าสิบปีและมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในทุกแง่มุมของสมอง แม้กระนั้นก็ตามจางหยุนเหอก็ยังคงกระตุ้นสมองของหลินเสวี่ยอย่างรอบคอบเนื่องจากเกี่ยวพันกับชีวิตของเธอ
ทันทีที่จางหยุนเหอใส่ภาพงานแต่งงานของฉิงเฟิงกับหลินเสวี่ยเข้าไปบนคอมพิวเตอร์และส่งภาพกลับไปยังเธอหลินเสวี่ยก็มีอาการตอบสนองเป็นอย่างมาก
ปฏิกิริยาของเธอรุนแรงมากเพราะเธอมีความรู้สึกที่ลึกซึ้งต่องานแต่งงานมันเป็นความฝันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเธอ
ร่างกายของหลินเสวี่ยเริ่มสั่นขนตาเรียวยาวของเธอกระพือขึ้นลงเล็กน้อย จากนั้นเธอก็ค่อยๆลืมตาขึ้น
