อะไรนะ
ฝันว่ามีเซ็กส์
จางหยุนเหอกลอกตาอย่างไร้คำพูดในฐานะที่เป็นชายชราอายุเจ็ดสิบปี เขาไม่เคยแม้แต่แตะต้องผู้หญิง นับประสาอะไรกับการมีเซ็กส์
การเป็นคนหนุ่มนี่มันช่างดีจริงๆ
จางหยุนเหอถอนหายใจด้วยความอิจฉาและนึกถึงวัยหนุ่มของตนเอง
ไปกันเถอะครับศาสตราจารย์จาง ฉิงเฟิงยิ้มและพาจางหยุนเหอออกไป
ฉิงเฟิงขับรถพาจางหยุนเหอตรงไปยังโรงพยาบาลที่นัดหมาย บ้าชิบคนเพียบเลย ฉิงเฟิงเห็นประตูโรงพยาบาลเต็มไปด้วยผู้คน พวกเขาแทบจะไหล่ชนกันล้อมรอบโรงพยาบาลเหมือนมดนับล้านตัว
จะว่าไปแล้วพลังของสื่อเป็นสิ่งที่น่าทึ่งอย่างมากเย่จวินเพิ่งจะประกาศออกทีวีเมื่อวานนี้ แต่วันนี้กลับมีพลเมืองตงไห่จำนวนมากต่างแห่กันมาที่นี่เพื่อดูการแข่งขัน บางคนแม้แต่พาครอบครัวและคนป่วยในบ้านมาเพื่อขอรับการรักษาฟรี
ไม่เพียงแต่ชาวเมือง,คนจากช่องรายการทีวีตงไห่, หนังสือพิมพ์และสื่อทางอินเตอร์เน็ตต่างก็มาที่นี่พร้อมกับกล้องและอุปกรณ์ทำข่าวของพวกเขา พวกเขาวางไมโครโฟนไว้ตรงหน้าเย่จวินและเริ่มทำการสัมภาษณ์
ประธานเย่จวินฮะในฐานะประธานสมาคมแพทย์เมืองตงไห่ คุณมั่นใจกับการแข่งขันวันนี้หรือไม่ฮะ ชายหนุ่มผมบลอนด์ที่ดูตุ้งติ้งคนหนึ่งจ่อไมโครโฟนถามเย่จวิน
เย่จวินหยิบไมโครโฟนและกล่าวอย่างภาคภูมิใจว่า แน่นอนครับผมมั่นใจมาก ด้วยทักษะทางการแพทย์ห่วยๆของเขา เขาจะต้องพ่ายแพ้และคุกเข่าขอขมาต่อมาดามจางหม่านหลีอย่างแน่นอน และผมต้องขอให้พวกคุณเป็นพยานในวันนี้ด้วย
ประธานเย่ครับคุณจะบอกว่ามาดามจางหม่านหลี ภรรยาของประธานสมาคมแพทย์แห่งประเทศ เย่หยุนซันก็อยู่ที่นี่ด้วยเหรอครับ
ถูกต้องครับเธอเป็นพี่สะใภ้ของผมและเธอก็อยู่ที่นี่เพื่อสนับสนุนผม หลี่ฉิงเฟิงไม่ใช่คนดี เขาด่าเธออีกทั้งยังทำร้ายเธออีกด้วย
ใช่ค่ะคุณพูดถูกประธานเย่และมิสจางเป็นคู่สามีภรรยาซึ่งเป็นที่เคารพรักของคนทั้งประเทศ หลี่ฉิงเฟิงคนนั้นช่างเลวทรามนักที่ไปทำร้ายเธอ ผู้หญิงผมทองคนหนึ่งกล่าวด้วยความโกรธแค้น
เธอเป็นนักข่าวที่มีชื่อเสียงจากเมืองตงไห่ดังนั้นเหล่าผู้สื่อข่าวคนอื่นจึงได้จดคำพูดของเธอ ทุกคนต่างก็กล่าวว่าหลี่ฉิงเฟิงเป็นหมอห่วยแตกและเป็นคนเลวอีกด้วย
เมื่อเห็นคนพูดเข้าข้างเย่จวินก็ชอบใจ เขาเหลือบมองไปที่ผู้หญิงผมบลอนด์ด้วยความขอบคุณ
แต่แท้ที่จริงแล้วผู้หญิงผมบลอนด์คนนี้เป็นคู่ขาของเย่จวินทุกอย่างเป็นแผนการของเขา รวมไปถึงการประกาศออกทีวีของเย่จวินในที่สาธารณะอีกด้วย
แต่มีนักข่าวสาวคนหนึ่งที่ไม่ได้เห็นดีเห็นงามไปกับคำพูดของพวกเขาเธอคือหวังเสี่ยวลี่นั่นเอง เธอเป็นพี่สาวของหวังเสี่ยวเหม่ยซึ่งเคยได้สัมภาษณ์หลี่ฉิงเฟิงในการแข่งขันท้าทายวัตถุโบราณที่จังหวัดหูเจียง
หวังเสี่ยวลี่รู้ว่าฉิงเฟิงเป็นคนดีและมีคุณธรรมนอกจากนี้เขายังเคยช่วยชีวิตน้องสาวของเธอไว้ เขาไม่ใช่คนเลวอย่างที่คนอื่นๆเอาไปพูดกัน
หวังเสี่ยวลี่เป็นนักข่าวทีวีของจังหวัดหูเจียงดังนั้นสถานะของเธอจึงสูงกว่าบรรดานักข่าวคนอื่นๆ เธอได้ยินข่าวเกี่ยวกับการแข่งขันทักษะทางการแพทย์ในวันนี้ เธอจึงรีบมาที่เมืองตงไห่เพื่อสัมภาษณ์และทำข่าว
ผู้สื่อข่าวเกือบทั้งหมดกำลังสัมภาษณ์เย่จวินเพราะฉิงเฟิงยังไม่มาอย่างไรก็ตาม หวังเสี่ยวเหม่ยไม่สัมภาษณ์เขาเพราะเธอไม่สนใจคนที่ดูถูกฉิงเฟิง
ฉิงเฟิงจอดรถไว้ในที่จอดด้านนอกและเดินเข้ามาพร้อมกับจางหยุนเหอ
สถานที่นี้เต็มไปด้วยผู้คนที่แน่นขนัดจางหยุนเหอไม่ใช่คนหนุ่ม มันเป็นเรื่องยากสำหรับเขาที่จะเดินผ่านฝูงชนเหล่านี้ ต้องขอบคุณฉิงเฟิงที่แข็งแรงจนกันคนออกไปได้และพาจางหยุนเหอเข้าไปข้างในได้สำเร็จ
หลี่ฉิงเฟิงนั่นหลี่ฉิงเฟิงนี่นา !
มีบางคนตามแหลมพอและจดจำฉิงเฟิงได้เขาตะโกนออกมาทันที
ทุกคนต่างหันไปมองยังทิศทางที่ฉิงเฟิงอยู่เมื่อได้ยินเสียงคนพูดขึ้นพวกเขาอยากจะเห็นว่าชายในตำนานที่กล้าท้าทายเย่จวินนั้นมีหน้าตาแบบไหน
เขายังหนุ่มแน่นอยู่เลยแถมยังหล่อเหลามากด้วย
ฉันพนันได้เลยว่าเขาไม่มีฝีมืออะไรทางการแพทย์แม้แต่น้อยเขาอายุแค่ยี่สิบกว่าปีเอง
คุณพูดถูกแล้วแพทย์ที่มีประสบการณ์ทั้งหมดต่างก็มีอายุราวๆ 40-50 ทั้งนั้น บางคนก็อายุ 60 กว่าแพทย์อยู่ในวัยสี่สิบหรือห้าสิบของพวกเขา ผู้เชี่ยวชาญบางคนถึงหกสิบปีแล้วด้วยซ้ำ
คุณคิดว่าเขาจะคุกเข่าขอโทษจางหม่านหลีมั้ยถ้าเขาแพ้
เฮอะไม่อยากทำก็ต้องทำละงานนี้ พวกเราทุกคนมาที่นี่เพื่อเป็นพยาน
ทุกคนต่างพูดคุยกันด้วยความผิดหวังและเยาะเย้ยเมื่อพวกเขาเห็นว่าฉิงเฟิงดูเด็กเกินกว่าจะเป็นแพทย์ที่มีความสามารถ
ซึ่งฉิงเฟิงและจางหยุนเหอก็ไม่แฮปปี้เช่นกันเมื่อพวกเขาได้ยินคำพูดไม่ดีเหล่านี้ดูเหมือนว่าเย่จวินจะใช้วิธีการบางอย่างในการฉุดึงให้ชื่อเสียงของฉิงเฟิงตกต่ำลง และทำให้ตนเองได้รับการสนับสนุน
จางหยุนเหอโกรธมากจนใบหน้าเขียวคล้ำเขากล่าวด้วยความโมโหว่า
ฉิงเฟิงเย่จวินคนนี้ช่างไร้ยางอายนัก เขาทำให้ชื่อเสียงของเธอด่างพร้อย !
แสงที่เย็นยะเยือกสะท้อนอยู่ในแววตาของฉิงเฟิงเขากล่าวว่า คอยดูไปเถอะ ผมจะทำให้เย่จวินพ่ายแพ้อย่างอนาถและคุกเข่าอย่างน่าสมเพชต่อหน้าทุกคนทั่วทั้งเมืองตงไห่
นักข่าวทุกคนต่างก็ล้อมรอบเย่จวินหลังจากฉิงเฟิงมาถึงและไม่มีแม้แต่คนเดียวมาขอสัมภาษณ์เขา
งานของนักข่าวคือการสัมภาษณ์แต่พวกเขาไม่สนใจฉิงเฟิงโดยสิ้นเชิง
ในความเป็นจริงแล้วผู้สื่อข่าวทุกคนของเมืองตงไห่ได้บรรลุข้อตกลงร่วมกันในการสนับสนุนเย่จวินพวกเขาจะสัมภาษณ์เย่จวินและไม่สนใจฉิงเฟิง อีกทั้งยังจะช่วยกันพูดดีสเครดิตเขาอีกด้วย
เราสามารถกล่าวได้เลยว่าฉิงเฟิงอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ดีเนื่องจากเขาไม่ได้รับความสนใจจากผู้สื่อข่าวแม้แต่น้อย
แน่นอนว่ามีข้อยกเว้นหวังเสี่ยวลี่นั่นเอง
เธอมองไปที่ผู้สื่อข่าวคนอื่นๆด้วยความรังเกียจโดยเฉพาะผู้หญิงผมบลอนด์ที่เอาแต่ส่งสายตาหวานซึ้งให้กับเย่จวิน เห็นได้ชัดว่าสองคนนี้มีความสัมพันธ์ที่ไม่ธรรมดา
จากนั้นหวังเสี่ยวลี่ก็ถือไมโครโฟนและวิ่งไปหาฉิงเฟิงด้วยรอยยิ้มและถามว่า
คุณหลี่ฉิงเฟิงคะการแข่งขันวันนี้คุณมีความมั่นใจมากแค่ไหนคะ
เย่จวินรู้สึกประหลาดใจไม่น้อยที่ได้เห็นนักข่าวไปสัมภาษณ์ฉิงเฟิงเพราะเขาได้เตี๊ยมกับนักข่าวผมบลอนด์และรายการทีวีอื่นๆไว้แล้วว่าไม่ต้องสนใจฉิงเฟิงซึ่งการที่หวังเสี่ยวลี่ทำอยู่นี้เหมือนเป็นการตบหน้าเขา
ฉิงเฟิงรู้สึกประหลาดใจไม่น้อยที่ได้พบหวังเสี่ยวลี่อีกครั้งเขาถามว่า คุณไม่ได้อยู่หูเจียงหรอกหรือ มาทำอะไรที่เมืองตงไห่
อิอิมันแน่นอนอยู่แล้วว่าฉันมาที่นี่เพื่อสัมภาษณ์คุณและให้กำลังใจคุณ ใบหน้าที่น่ารักของหวังเสี่ยวลี่เปล่งประกายขณะที่เธอยิ้ม