หลังจากการสนทนากับแม่ของเธอหลินเสวี่ยก็เงียบเป็นเวลานาน เธอคิดว่าแม่ของเธอพูดถูกต้องแล้ว เธอไม่สามารถหย่ากับฉิงเฟิงได้ เพราะถ้าหากเธอทำเช่นนั้น หลิวหรูหยานจะเป็นผู้ชนะและได้ประโยชน์ที่สุดจากการหย่าของเธอ
หลินเสวี่ยไม่ใช่คนโง่เธอมั่นใจว่ายัยจิ้งจอกหลิวหรูหยานจะต้องแต่งงานกับฉิงเฟิงทันทีที่พวกเธอหย่ากัน
หลิวหรูหยานเธอ นังจิ้งจอก
!
เธอคิดว่าเธอจะได้แต่งงานกับเขาหลังจากมีอะไรกันแล้วงั้นรึ
เธอคิดผิดเกินไปแล้ว
หลินเสวี่ยกำหมัดและพูดกับตัวเอง
หลังจากชั่งน้ำหนักตัวเลือกทั้งหมดที่เธอได้คิดขึ้นในใจเธอก็ตัดสินใจได้แล้ว อย่างแรกเธอจะยังคงเฉยชาต่อฉิงเฟิงและไม่ให้อภัยเขาไปอีกระยะหนึ่ง สอง เธอจะไม่หย่า เพื่อไม่ยอมให้หลิวหรูหยานได้เป็นผู้ชนะ
มู่เสี่ยวหยุนยิ้มด้วยความโล่งใจเมื่อเห็นลูกสาวตัดสินใจได้ถูกต้องแล้วเธอกังวลว่าลูกสาวของเธอจะทำให้เรื่องทุกอย่างมันยิ่งเลวร้ายเกินไปอีกและหนีออกจากบ้านอีกครั้ง
ปัง!
ประตูห้องเปิดขึ้นและเป็นฉิงเฟิงนั่นเองที่เดินเข้ามาพร้อมกับก๋วยเตี๋ยวไข่มะเขือเทศ
มาแล้วที่รักดูสิ นี่ไง ผมซื้อของที่คุณชอบมาให้แล้ว
เฮอะ หลินเสวี่ยเชิดหน้าและเบือนหน้าหนี เธอยังคงแสดงท่าทีเย็นชาต่อฉิงเฟิง
ฉิงเฟิงชั้นจะป้อนเสวี่ยน้อยเอง ไปนอนพักก่อนเถอะ พรุ่งนี้เธอต้องไปแข่งกับเย่จวิน
ฉิงเฟิงคิดที่จะป้อนอาหารให้หลินเสวี่ยด้วยตัวเองแต่ในเมื่อแม่ยายของเขาเอ่ยปากจะทำเอง เขาจึงทำได้เพียงแค่ยิ้มอย่างกระอักกระอ่วน
แต่ถึงกระนั้นเขาก็รู้สึกยินดีที่แม่ยายของเขายอมพูดคุยด้วยอีกทั้งยังมีน้ำเสียงอ่อนโยนเหมือนเช่นเคย
มันโอเคที่หลินเสวี่ยยังคงเย็นชาตราบเท่าที่แม่ยายมีทัศนคติที่ดีต่อเขา
ฉิงเฟิงมีแผนเขาจะสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อมู่เสี่ยวหยุนและขอให้เธอพูดด้านดีของเขาต่อหน้าหลินเสวี่ยบ่อยๆ เพราะหลินเสวี่ยมักจะเชื่อฟังคำพูดของแม่เธอ
ณตอนนี้เป็นเวลากลางคืนแล้ว เขาจึงออกจากห้องผู้ป่วยเพื่อให้หลินเสวี่ยได้พักผ่อน
เขาไม่ได้ไปพักที่โรงแรมแม้ว่าเตียงนอนของโรงแรมจะทำให้หลับได้สบายกว่าก็ตาม หลินเสวี่ยต้องมีคนคอยปกป้อง และตอนนี้สมาชิกในทีมเขี้ยวหมาป่าคนอื่นๆต่างก็กำลังฝึกฝนวิชากันหมด เขาไปขอเบาะปูนอนที่แผนกพยาบาลปูนอนบนพื้นนอกประตูเพื่อคอยเฝ้ายามตอนกลางคืนให้หลินเสวี่ย
พยาบาลที่เดินผ่านไปมาต่างก็เต็มไปด้วยความอิจฉาและคิดว่ามันคงจะดีไม่น้อยถ้าหากสามีของพวกเธอทุ่มเทให้แบบที่ฉิงเฟิงกำลังทำอยู่
ฉิงเฟิงนอนไม่หลับในหัวเขาได้เต็มไปด้วยฉากแห่งความทรงจำมากมาย เช่น การอยู่ได้พร้อมหน้ากับพ่อแม่, ตอนที่อาจารย์สอนวิชาการต่อสู้และทักษะทางการแพทย์, การแต่งงานในวันแรกกับหลินเสวี่ยที่เมืองตงไห่, การใช้ชีวิตร่วมกันในวิลล่า
ฉากของความทรงจำต่างๆผุดขึ้นมาในหัวของเขา
เขาไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าใดก่อนที่จะหลับไปเขาฝันว่าเขากับหลินเสวี่ยได้อยู่ด้วยกันในคืนแต่งงาน พวกเขามีเซ็กส์กันตลอดทั้งคืน
แน่นอนว่ามันเป็นแค่ความฝันฉิงเฟิงเคยฝันกลางวันถึงฉากเหล่านี้และก็เป็นธรรมดาที่พวกมันจะเข้ามาในหัวเขาตอนกลางคืน
หลังจากฝันเกี่ยวกับหลินเสวี่ยแล้วฉิงเฟิงก็ยังฝันถึงหลิวหรูหยาน เธอได้คลอดทารกผู้งดงามออกมาและหัวเราะคิกคักให้เขา เขามีความสุขมาก
ช่วงนี้เขาเหนื่อยล้ามากเนื่องจากเดินทางไปสุสานเซียวหยุนและได้ต่อกรกับศัตรูมากมายเขาเสียพลังงานไปมาก
คืนนี้เขาฝันดีมากและมีรอยยิ้มในยามหลับเขาฝันว่าทั้งหลินเสวี่ยและหลิวหรูหยานพร้อมใจกันให้บริการเขาร่วมกัน
ขณะเดียวกันมู่เสี่ยวหยุนก็เดินออกจากห้องเพื่อมาหาน้ำให้หลินเสวี่ยเธอพบว่าฉิงเฟิงปูผ้านอนอยู่กับพื้น
มันเป็นคืนฤดูหนาวที่หนาวเย็นและมันก็หนาวเกินกว่าที่จะนอนในห้องโถงที่ไร้ความอบอุ่น
ทำไมฉิงเฟิงต้องมานอนเฝ้าเสวี่ยน้อยหน้าประตูแทนที่จะไปนอนโรงแรม
มู่เสี่ยวหยุนถอนหายใจและหยิบผ้าห่มบนพื้นขึ้นมาห่มให้ฉิงเฟิง
มู่เสี่ยวหยุนเคยพึงพอใจในตัวฉิงเฟิงในฐานะลูกเขยที่ดีเลิศก่อนที่จะมารู้เรื่องความสัมพันธ์ของเขากับหลิวหรูหยานซึ่งทำให้ลูกสาวของเธอต้องหนีออกจากบ้านและสลบไสลไร้สติ เรื่องที่เกิดขึ้นทำให้เธอโกรธเขามาก
อย่างไรก็ตามเมื่อได้เห็นฉิงเฟิงอุทิศกายใจทุกอย่างให้หลินเสวี่ย มู่เสี่ยวหยุนก็รู้ว่าเขารักหลินเสวี่ยไม่เสื่อมคลาย ส่วนเรื่องผู้หญิงนอกบ้านของเขานั้น เธอพูดอะไรไม่ออกเพราะแม้แต่สามีเธอก็ยังมีเมียน้อย
ผู้ชายทุกคนชอบรักสนุกไปทั่วในสมัยก่อนมันเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่ผู้ชายคนหนึ่งจะมีภรรยามากกว่าหนึ่งคน ถึงแม้ว่าในสังคมยุคใหม่จะไม่ยอมรับการมีภรรยาหลายคน แต่มันเป็นเรื่องปกติสำหรับผู้ชายที่จะมีแฟนมากหนึ่งคน อีกทั้งตอนไปเที่ยวอาบอบนวดพวกเขาก็สามารถมีเซ็กส์กับผู้หญิงได้ไม่อั้นตราบเท่าที่มีเงิน
แต่แน่นอนว่าย่อมมีผู้ชายที่ดีเลิศประเสริฐศรีที่ให้ความสำคัญแก่ผู้หญิงคนเดียวตลอดชีวิตของพวกเขาแต่ผู้ชายเหล่านั้นนับเป็นสายพันธุ์ที่หายากยิ่งกว่าหมีแพนด้าสมบัติของประเทศด้วยซ้ำ
มู่เสี่ยวหยุนถอนหายใจอีกครั้งและเดินไปยังห้องชงชาเพื่อเอาน้ำมาให้หลินเสวี่ย
……….
วันถัดมาดวงอาทิตย์ยามเช้าส่องแสงอุ่นๆมาบนพื้นโลกทิ้งจุดเงาบนพื้นเป็นสัญญาณที่ดีของวันใหม่
ฉิงเฟิงตื่นด้วยเสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นเขารู้สึกเหนื่อยล้ามาก เขามีความฝันที่ยอดเยี่ยมเมื่อคืนที่ผ่านมาซึ่งมีทั้งหลินเสวี่ยและหลิวหรูหยานอยู่บนเตียงเดียวกัน แน่นอนว่ามันเป็นแค่ความฝันแต่เขาก็มีความสุขมากเพราะในความฝันหลินเสวี่ยและหลิวหรูหยานปรนนิบัติเขาบนเตียงในเวลาเดียวกัน จนเขาแทบไม่อยากตื่น
เขาไม่รู้สึกยินดีแม้แต่น้อยที่ต้องตื่นขึ้นมาด้วยเสียงโทรศัพท์เขารับสายและกล่าวว่า
สวัสดีนั่นใครน่ะ
ฉิงเฟิงเธอลืมไปหรือเปล่าว่าวันนี้เธอมีนัดแข่งกับเย่จวินตอนเก้าโมงเช้า เสียงของจางหยุนเหอดังออกมาจากอีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ด้วยความรู้สึกวิตกกังวล
ชิบหาย! ฉันลืมไปเสียสนิทเลย ! ฉิงเฟิงกระโดดพรวดจากที่นอนและรีบแต่งตัว
ไม่น่าแปลกใจเลยที่มีคนกล่าวว่าผู้หญิงเป็นต้นกำเนิดของความหายนะเขาลืมเรื่องนัดแข่งเช้านี้ไปเสียสนิทเพราะมัวแต่เพลินกับความฝันอันแสนหวานที่มีหลินเสวี่ยและหลิวหรูหยานคอยปรนนิบัติอยู่บนเตียง
เขารีบวิ่งลงบันไดโดยไม่รอช้าซึ่งจางหยุนเหอกำลังรอเขาอยู่
ในขณะที่เขากำลังวิ่งลงมาฉิงเฟิงก็โทรหาสมาชิกในทีมเขี้ยวหมาป่าและบอกให้พวกเขามาคอยดูแลความปลอดภัยให้หลินเสวี่ย หลังจากผ่านการฝึกฝนมาหนึ่งคืน เขาคิดว่าพวกพ้องน่าจะมีการเปลี่ยนแปลงไปบ้างจากการได้ฝึกวิทยายุทธ์ คนเหล่านี้ต่างก็มีพรสวรรค์ พวกเขาน่าจะจับทางอะไรได้แล้ว
หลังจากโทรเสร็จฉิงเฟิงก็ออกจากโรงพยาบาลและพบจางหยุนเหอกำลังรออยู่ วันนี้เขาดูกังวลไม่น้อยเพราะมันเป็นวันที่ฉิงเฟิงจะต้องแข่งกับเย่จวิน ประธานสมาคมการแพทย์ของเมืองตงไห่
ศาสตราจารย์จางผมขอโทษด้วย ผมนอนดึกไปหน่อยเพราะเมื่อคืนฝันว่าได้มีอะไรกับภรรยา ฉิงเฟิงกล่าวขอโทษด้วยรอยยิ้มอายๆบนใบหน้าของเขา