มีเพียงความเงียบสงัดในเงาเบื้องหลังฉิงเฟิงแม้ว่าเขาจะเรียกให้ผู้สะกดรอยปรากฏตัวออกมา แต่คนผู้นั้นก็ยังคงซุ่มอยู่ในความมืด
วูบ!
ฉิงเฟิงคว้าก้อนกรวดบนพื้นด้วยมือขวาของเขาและโยนมันผ่านอากาศเข้าไปในความมืด
อย่างไรก็ตามก้อนกรวดกลับลอยขึ้นไปในอากาศเมื่อมันกระทบถึงขอบด้านนอกของเงา มันไม่สามารถทะลุผ่านเงาไปได้
อะไรกัน
ก้อนกรวดกลับลอยไปมาบนอากาศ
ความหวาดกลัวปรากฏขึ้นในดวงตาของฉิงเฟิงนี่คือพลังของเขตแดนซึ่งเป็นความสามารถเฉพาะของยอดฝีมือระดับแกรนด์มาสเตอร์ขึ้นไปเท่านั้น คนที่สะกดรอยผู้นี้คือแกรนด์มาสเตอร์!
เมื่อคิดถึงความเป็นไปได้นี้ฉิงเฟิงก็ไม่สามารถระงับอาการสั่นสะท้านที่แผ่กระจายไปทั่วร่างกายได้
ตูม!
ก้อนกรวดที่ลอยไปมาระเบิดออกเป็นชิ้นๆนับไม่ถ้วนและมีหญิงสาวผู้มีเสน่ห์คนหนึ่งเดินออกมา
ผู้หญิงคนนี้อายุราวๆยี่สิบปีเธอมีใบหน้าที่เย้ายวนใจ ความงามของเธอแตกต่างจากหลิวหรูหยานเพราะเธอดูเย้ายวนกว่ามาก เธอทำให้คนที่เห็นต้องร้อนรุ่มขึ้นด้วยดวงตาดำขลับของเธอ
เธอมีหน้าอกใหญ่ซึ่งไม่อาจปกปิดได้ด้วยชุดของเธอทำให้ผู้คนสามารถมองเห็นผิวขาวเนียนและร่องหุบเขาลึกของเธอได้อย่างชัดเจน
เมื่อมองอย่างใกล้ชิดชุดที่เธอใส่อยู่นั้นกลับเป็นชุดกิโมโนซึ่งเป็นเสื้อผ้าแบบดั้งเดิมของชาวเกาะแปซิฟิก
คุณเป็นชาวเกาะแปซิฟิก การแสดงออกของฉิงเฟิงเปลี่ยนไป
ถูกต้องชั้นคือซาโต้ โยชิโกะ นายหญิงน้อยของตระกูลนินจาแห่งเกาะแปซิฟิก
หญิงสาวผู้เต็มไปด้วยเสน่ห์กล่าวพร้อมทั้งร่องรอยของความเจ้ายศเจ้าอย่างในน้ำเสียงของเธอ
ตระกูลนินจาเป็นหนึ่งในห้าสุดยอดตระกูลบนเกาะแปซิฟิคมันเป็นตระกูลที่มีชื่อเสียงแม้แต่ในทั่วทั้งทวีปมังกร ยอดฝีมือที่แข็งแกร่งหลายคนก็มาจากตระกูลนี้
โยชิโกะถูกเรียกว่าอัจฉริยะแท้จริงของตระกูลในช่วงศตวรรษที่ผ่านมาเธอปลุกพลังสายเลือดจิ้งจอกสามหางได้ตั้งแต่อายุเพียงแค่ 10 ปี ด้วยพลังแห่งสายเลือดและเคล็ดวิชาจากสายเลือด เธอใช้เวลาเพียงไม่กี่ปีในการบ่มเพาะจนก้าวไปถึงขอบเขตแกรนด์มาสเตอร์ ซาโต้โยชิโกะ บุปผาแห่งเกาะแปซิฟิกฉายาสวยประหาร
การแสดงออกของฉิงเฟิงเปลี่ยนไปเขาไม่เคยพบโยชิโกะมาก่อน แต่เขาก็เคยได้ยินเกี่ยวกับชื่อเสียงของเธอในฐานะผู้หญิงที่สวยที่สุดคนหนึ่งบนเกาะแปซิฟิค เธอมีภูมิหลังเป็นตระกูลที่เข้มแข็ง มีคนกล่าวกันว่าผู้ชายหลายคนต้องจบชีวิตลงด้วยน้ำมือของเธอ
หลี่ฉิงเฟิงนายฆ่าราชานินจาของตระกูลนินจาของพวกเรา ชั้นจะให้โอกาสนาย ยอมเป็นคนรับใช้ของฉัน ไม่งั้นชั้นจะฆ่านาย โยชิโกะกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็นและเผยอรอยยิ้มที่มีเสน่ห์
การยอมเป็นคนรับใช้ของศัตรูนั้นเจ็บปวดยิ่งกว่าการถูกสังหาร
ฉิงเฟิงหัวเราะออกมาอย่างหยิ่งยโสชาวจีนและคนของเกาะแปซิฟิคเป็นศัตรูกัน เขายอมตายมากกว่ายอมทำหน้าที่เป็นคนรับใช้ของชาวเกาะแปซิฟิค
ซาโต้โยชิโกะ สาวงามไร้คู่เปรียบแห่งเกาะแปซิฟิค ฉันจะให้โอกาสเธอในการเป็นคนรับใช้และนวดเท้าของฉัน ถ้าเธอยอมรับมัน ฉันจะไว้ชีวิตเธอ คำพูดของฉิงเฟิงโอหังยิ่งกว่าโยชิโกะเสียอีก
นายกำลังรนหาที่ตายในฐานะแกรนด์มาสเตอร์ผู้หนึ่ง ชั้นจะทำตามความปรารถนาของนายเอง โยชิโกะแสยะยิ้มออกมา ดวงตาของเธอเป็นประกายแวววาวอย่างเย็นยะเยือก
ฉิงเฟิงทำให้โยชิโกะโกรธกริ้วเธอตัดสินใจที่จะจับชายคนนี้ล่ามโซ่และเฆี่ยนตี
โยชิโกะปลดปล่อยเขตแดนออกมาเตรียมที่จะโอบล้อมฉิงเฟิงไว้ในนั้น
ตูม!
ฉิงเฟิงกระทืบเท้าลงบนพื้นอย่างหนักจนเกิดหลุมขนาดใหญ่ขึ้นบนพื้นเขาหลบฉากด้วยการกระโดดถอยหลังออกไปไกลถึง 30 เมตรและหลบเลี่ยงแขตแดนแห่งแกรนด์มาสเตอร์ของเธอได้
ฉิงเฟิงรู้ว่าพลังเขตแดนของแกรนด์มาสเตอร์มักจะครอบคลุมพื้นที่ในรัศมีประมาณ30 เมตร ซึ่งโยชิโกะเพิ่งเข้าสู่ขั้นแรกของระดับแกรนด์มาสเตอร์ พลังของเธอยังไม่เสถียรมากนักซึ่งเป็นเหตุผลที่ทำให้ฉิงเฟิงสามารถหลบหนีได้
ซาโต้โยชิโกะ ถึงเธอจะเป็นแกรนด์มาสเตอร์แต่เธอก็ทำอะไรฉันไม่ได้หรอกถ้าฉันคอยระวังพลังเขตแดนของเธอ ฉิงเฟิงยิ้มอย่างเยือกเย็น ดวงตาเต็มไปด้วยการเยาะเย้ย
ดวงตาของโยชิโกะเป็นประกายระยิบระยับใบหน้าของเธอดูเกรี้ยวกราด เห็นได้ชัดว่าเธอประเมินความเร็วของฉิงเฟิงต่ำไปซึ่งทำให้เขาสามารถหลบได้ในขณะที่เธอปล่อยเขตแดนออกมา
หลี่ฉิงเฟิงถึงแม้ว่าชั้นจะไม่ใช้เขตแดน แต่ชั้นก็ยังสามารถฆ่านายได้อยู่ดี !
ดวงตาของเธอปรากฏแสงเย็น
ยอดฝีมือระดับแกรนด์มาสเตอร์ผู้หนึ่งนั้นมีพละกำลังถึง10,000 กิโลกรัมและมีเคล็ดวิชาที่ทรงพลังเกินพอในการจัดการกับนักสู้ในระดับครึ่งก้าว
ซาโต้โยชิโกะ เธอมีอะไรก็งัดออกมาเลย ฉันพูดไปแล้วว่าจะทำให้เธอเป็นทาสคืนนี้ และเธอจะต้องมานวดเท้าให้ฉัน ฉิงเฟิงยิ้มเล็กน้อยด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยมไปทั่วใบหน้า
คนอื่นๆอาจจะเรียกเขาว่าโคตรยโสโอหังถ้าหากได้ยินคำพูดของเขา เขากล้าพูดออกมาว่าจะทำให้นายหญิงน้อยแห่งตระกูลนินจาและหนึ่งในสี่สาวงามเป็นทาส
เห็นได้ชัดว่าโยชิโกะรู้สึกโกรธเคืองอย่างมากต่อคำพูดที่โอหังของเขาเธอชักดาบออกมาทันที
ดาบเล่มนี้เปล่งประกายแสงสีแดงเข้มออกมามันมีความยาวประมาณหนึ่งเมตรและกว้างสองนิ้ว บนพื้นผิวของมันถูกแกะสลักด้วยภาพของสุนัขจิ้งจอก และชื่อของมันคือดาบจิ้งจอกนภา หนึ่งในสิบดาบที่มีชื่อเสียงที่สุดของเกาะแปซิฟิก
วิชาดาบจิ้งจอกนภา
!
โยชิโกะโห่ร้องออกมาด้วยเสียงต่ำเธอผสานลมปราณของเธอเข้าไปในตัวดาบและฟาดฟันอย่างรุนแรงเข้าใส่ฉิงเฟิง
ดาบของเธอเฉือนอากาศออกเป็นสองส่วนแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของแกรนด์มาสเตอร์
แน่นอนว่าพลังที่แผ่ออกมาไม่เพียงมีแต่พลังระดับแกรนด์มาสเตอร์ของเธออย่างเดียวแต่มันยังมาจากวิชาดาบจิ้งจอกนภาอีกด้วย มันเป็นวิชาดาบในระดับแกรนด์มาสเตอร์และเป็นวิชาดาบที่ทรงคุณค่าที่สุดในตระกูลนินจา
วิชาดาบจิ้งจอกนภาเคยช่วยให้บรรพบุรุษของตระกูลนินจาพิชิตยอดฝีมือที่แข็งแกร่งนับไม่ถ้วนบนเกาะแปซิฟิกและก่อตั้งตระกูลนินจาขึ้นจากนั้นวิชาดาบนี้ก็ถูกส่งต่อมารุ่นสู่รุ่นจนถึงทุกวันนี้
ยอดเยี่ยมมากฉันก็อยากเห็นว่าวิชาไหนจะแกร่งกว่า วิชากระบี่แดงเพลิงคะนองของแนหรือวิชาดาบจิ้งจอกนภาของเธอ ดวงตาของฉิงเฟิงเปล่งประกายขึ้นเมื่อมองไปที่ดาบของโยชิโกะ ราวกับนักล่าที่พบเหยื่อ
ฉิงเฟิงในตอนนี้ไร้คู่ต่อสู้ในขอบเขตเดียวกันเขาต้องการท้าทายยอดฝีมือในระดับที่สูงขึ้นเพื่อทะลวงระดับซึ่งโยชิโกะที่อยู่ในระดับแกรนด์มาสเตอร์ขั้นแรกนั้นเป็นคู่มือที่เหมาะเจาะมากในตอนนี้
เช้ง!
ฉิงเฟิงชักกระบี่แดงเพลิงคะนองออกจากด้านหลังสายลมร้อนระอุพัดผ่านร่างกายของเขา
เขาโคจรลมปราณเข้าสู่ตัวกระบี่และตัดผ่านอากาศด้วยการโจมตีอย่างรุนแรงต่อดาบจิ้งจอกนภาของโยชิโกะ
ตูม !!
กระบี่แดงเพลิงคะนองและดาบจิ้งจอกนภาปะทะกันตามมาด้วยเสียงดังตูม! ในอากาศ พวกมันดูเหมือนจะได้พบกับศัตรูตามธรรมชาติและสู้กันราวกับสิ่งมีชีวิต
ฉิงเฟิงรู้สึกได้ขึ้นมาทันทีว่าอาวุธทั้งสองนี้เคยปะทะกันมาก่อนในอดีตตอนนี้ ราวกับว่าพวกมันได้พบศัตรูเก่า พวกเริ่มตอบโต้กันเองอย่างดุเดือด
เขามีข้อสงสัยว่าเมื่อ15 ปีก่อนราชันกระบี่เนี่ยอู๋ซวงต้องเคยไปเยือนเกาะแปซิฟิกและท้าทายตระกูลนินจา