เมื่อฉิงเฟิงมาถึงเมืองเทียนจิงลั่วหนี่ชิงก็กำลังยืนรอเขาอยู่ที่ทางเข้าของตระกูลลั่ว
ความงามของลั่วหนี่ชิงนั้นค่อนข้างแตกต่างจากหลิวหรูหยานแต่คล้ายคลึงกับโยชิโกะ พวกเธอทั้งคู่มีร่องรอยของความยั่วยวนที่ดึงดูดให้ผู้ชายเกิดความคิดที่ไม่เหมาะสม
ผิวขาวเนียนของลั่วหนี่ชิงนั้นราวกับดอกบัวที่งดงามมันดูไร้ตำหนิและเร้าอารมณ์ผู้ชายในการจูบเธอ จมูกที่งามได้รูปของเธอเชิดขึ้นเล็กน้อย และดวงตาคู่โต้ของเธอก็ส่องประกายแวววาวราวกับดวงดาว
ชุดเดรสสีแดงของเธอช่วยขับเน้นหน้าอกของเธอให้สูงขึ้นด้วยเอวเล็กๆเพียงหยิบมือและขาเรียวยาวเหยียดตรงของเธอ เธอคือสาวงามที่สมบูรณ์แบบคนหนึ่ง
ลั่วหนี่ชิงแต่งตัวงดงามเพื่อฉิงเฟิงอย่างเห็นได้ชัด มิสลั่ววันนี้คุณงามจนน่าตกตะลึง ดวงตาของฉิงเฟิงสว่างขึ้น
คุณนี่ปากหวานเหลือเกินนะ ลั่วหนี่ชิงเหลือบมองฉิงเฟิงอย่างมีเสน่ห์ เธอรู้สึกยินดีที่ได้รับคำชมของเขา
วูฟคิงเข้าไปข้างในกันเถอะ ท่านพ่ออยากพบคุณ ลั่วหนี่ชิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม
พ่อของคุณอยากพบผม
ฉิงเฟิงขมวดคิ้วเล็กน้อยและพบว่ามันค่อนข้างไม่ปกติทีเดียวพ่อของลั่วหนี่ชิงเป็นหัวหน้าตระกูลลั่ว ซึ่งเป็นหนึ่งในสี่สุดยอดตระกูลผู้ฝึกยุทธ์โบราณของเมืองเทียนจิง กล่าวได้ว่าเขาเป็นหนึ่งใน 81 ยอดฝีมือระดับแกรนด์มาสเตอร์ ทำไมเขาถึงอยากพบฉิงเฟิง
ฉิงเฟิงเดินตามลั่วหนี่ชิงเข้าไปในคฤหาสน์ตระกูลลั่วด้วยสีหน้างงงวยเขาอยากรู้ว่าหัวหน้าตระกูลลั่วต้องการอะไรจากเขา
ในฐานะหนึ่งในสี่สุดยอดตระกูลใหญ่แห่งเมืองเทียนจิงตระกูลลั่วมีคฤหาสน์หลังโตที่ล้อมรอบไปด้วยวิลล่ามากมาย จากนี้ยังมีทั้ง สวน สระว่ายน้ำและส่องอำนวยความสะดวกและบันเทิงครบทุกประเภท
คนรับใช้ของตระกูลลั่วบางส่วนกำลังรดน้ำต้นไม้ในขณะที่บางคนก็ปลูกต้นไม้หรือทำความสะอาดลานกว้าง ในตอนนี้ตระกูลลั่วคึกคักไปด้วยกิจกรรมประจำวัน
และในสนามฝึกฝนสมาชิกของตระกูลบางคนกำลังฝึกฝนวิชา พวกเขาเหล่านี้ต่างเป็นสมาชิกของตระกูลที่มากด้วยพรสวรรค์ พวกเขากำลังบ่มเพาะอย่างตั้งอกตั้งใจ
บางคนก็เว้นระยะห่างของเขาด้วยความหวาดกลัวในแววตาทันทีที่พวกเขาเห็นฉิงเฟิงพวกเขาเหล่านั้นได้รู้ซึ้งและพ่ายแพ้ต่อฉิงเฟิงไปแล้วเมื่อตอนที่มีการคัดเลือกสมาชิกเข้าทีมสำรวจสุสานราชายาทิพย์
วูฟคิงนี่ก็ผ่านไปหลายวันแล้วแต่พวกเขาดูเหมือนจะยังกลัวคุณอยู่เลย
ลั่วหนี่ชิงกล่าวพร้อมกับชี้ไปที่พวกเขา ฉิงเฟิงยิ้มเล็กน้อยอย่างไม่ใส่ใจยกเว้นหัวหน้าตระกูลลั่วและเหล่าอาวุโส ไม่มีใครสามารถดึงดูดความสนใจของเขาได้
ลั่วหนี่ชิงพาเขาไปที่ห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่ที่มีพื้นที่อย่างน้อย500 ตารางเมตร
เมื่อได้ยืนอยู่ในห้องนั่งเล่นที่มีเก้าอี้สีทอง,โซฟาสีทองและแม้แต่พื้นปูด้วยสีทอง ฉิงเฟิงก็พูดไม่ออกและสงสัยว่าทำไมตระกูลลั่วถึงได้ชอบสีทองมากขนาดนี้
มีชายวัยกลางคนคนหนึ่งกำลังนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นเขามีอายุ 40 ปีแต่ดูยังดูอ่อนเยาว์กว่านั้นร่วม 10 ปีด้วยการดูแลร่างกายเป็นอย่างดี เขามีใบหน้าที่หล่อเหลา คิ้วดกดำและจมูกโด่ง มั่นใจได้เลยว่าสมัยยังหนุ่มเขาต้องดูดีมากอย่างแน่นอน
ชายวัยกลางคนไม่ใช่ใครอื่นเขาคือลั่วอี้ซาน หัวหน้าตระกูลลั่วคนปัจจุบัน กล่าวกันว่าเขาเป็นสุดยอดฝีมือผู้ซึ่งสามารถระเบิดภูเขาได้ด้วยหมัดเดียว
ดวงตาของฉิงเฟิงเป็นประกายคมกริบเมื่อรู้สึกได้ถึงพลังที่แข็งแกร่งจากลั่วอี้ซานเขาประเมินพลังของหัวหน้าตระกูลลั่วผู้นี้ว่าอย่างน้อยต้องอยู่ในระดับแกรนด์มาสเตอร์ขั้นสูง
ระดับพลังของเขาสูงกว่าฉิงเฟิงถึง2 ขั้นย่อย ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาเป็นหัวหน้าตระกูลลั่วและเป็นหนึ่งในสี่สุดยอดผู้ฝึกยุทธ์ของเมืองเทียนจิง
วูฟคิงสินะยินดีต้อนรับสู่ตระกูลลั่ว ลั่วอี้ซานลุกขึ้นยืนด้วยรอยยิ้ม
เขามีความประทับใจแรกพบต่อชายหนุ่มรุ่นเยาว์ผู้นี้
เขาทราบเรื่องที่เกิดขึ้นในสุสานราชายาทิพย์จากลูกสาวแล้วและรู้ว่าฉิงเฟิงไม่ได้เป็นเพียงแค่ยอดฝีมือผู้แข็งแกร่งที่สามารถต่อสู้ข้ามระดับได้แต่เขายังเป็นเจ้าของสายเลือดราชันหมาป่าบรรพกาลและโลหิตมังกร หรือแม้แต่เป็นผู้ครอบครงตำราปรุงยาของราชายาทิพย์เซียวหยุนอีกด้วย
หัวหน้าตระกูลลั่วเป็นชายที่ภาคภูมิใจในตัวเองแต่ก็เคารพต่อยอดยุทธ์ที่แข็งแกร่งซึ่งฉิงเฟิงก็นับได้ว่าเป็นหนึ่งในนั้น
ท่านหัวหน้าตระกูลทำไมถึงคุณถึงอยากพบผม ฉิงเฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย
ถึงแม้ว่าลั่วหนี่ชิงจะเป็นสหายของเขาแต่ฉิงเฟิงก็ไม่เคยพบหัวหน้าตระกูลลั่วมาก่อน เขารู้ว่าการที่ชายคนนี้เรียกเข้ามาพบย่อมต้องมีจุดประสงค์บางอย่าง
วูฟคิงข้าจะไม่พูดอ้อมค้อม ข้าต้องการให้เจ้าสกัดยาแกรนด์มาสเตอร์ให้ข้า
ลั่วอี้ซานกล่าวเข้าประเด็นทันที
อะไรนะ เม็ดยาแกรนด์มาสเตอร์ ?
ฉิงเฟิงแข็งค้างด้วยความประหลาดใจเขาไม่คาดคิดว่าหัวหน้าตระกูลลั่วจะขอให้เขาสกัดเม็ดยาแกรนด์มาสเตอร์
ต้องกล่าวก่อนว่าเม็ดยาระดับแกรนด์มาสเตอร์นั้นสกัดกลั่นได้ยากมากนอกจากนี้ยังมีปัญหาอีกประการหนึ่งก็คือวัตถุดิบและสมุนไพรที่จำเป็น
ท่านหัวหน้าตระกูลขอกล่าวกับท่านตรงๆ ผมไม่มีทั้งเตาปรุงยาหรือวัตถุดิบที่จำเป็น แม้แต่เม็ดยาระดับใต้สวรรค์หรือเหนือสวรรค์ ผมก็ยังสกัดมันไม่ได้เลย
ฉิงเฟิงกล่าวพร้อมกับส่ายหัว
เมื่อได้ยินคำพูดของเขาลั่วอี้ซานก็ยิ้มและกล่าวว่า
วูฟคิงข้าแน่ใจว่าลูกสาวของข้าได้บอกเจ้าแล้วเกี่ยวกับเรื่องงานชุมนุมชาวยุทธ์ของเมืองเทียนจิง มีแกรนด์มาสเตอร์ผู้หนึ่งจะขายเตาปรุงยาที่นั่น ข้าจะซื้อมันมาให้เจ้าและจะจัดหาวัตถุดิบทั้งหมดให้แก่เจ้าอีกด้วย งานเดียวของเจ้าก็คือสกัดเม็ดยาแกรนด์มาสเตอร์ให้ข้า
ฉิงเฟิงพยักหน้าเห็นด้วยกับข้อตกลงของเขาอย่างไม่ต้องเสียเวลาคิดเขากล่าวว่า
ถ้าเป็นเช่นนั้นผมก็จะทำให้
ปัง!!! ในขณะที่ฉิงเฟิงและลั่วอี้ซานกำลังพูดคุยกันถึงเรื่องรายละเอียดเกี่ยวกับการสกัดยาและงานชุมนุมชาวยุทธ์ประตูห้องโถงก็ถูกเปิดออกด้วยเสียงดังปัง และมีชายชราผมสีเทาเดินเข้ามา
หลี่ฉิงเฟิงแกกล้าดียังไงถึงได้โผล่หัวมาที่ตระกูลลั่วหลังจากฆ่าหลานชายของข้า ! ชายชราตะโกนถามอย่างเกรี้ยวกราดด้วยเจตนาฆ่าในน้ำเสียงของเขา
ชายชราผู้นี้ก็คือลั่วเตียวปู่ของลั่วเทียนเฮาและเป็นผู้อาวุโสของตระกูลลั่ว เขาทรงอำนาจกว่าหัวหน้าตระกูลลั่วอย่างลั่วอี้ซานด้วยซ้ำ
ผู้อาวุโสตอนนี้วูฟคิงคือแขกคนสำคัญของข้า ท่านจะทำอะไร
ลั่วอี้ซานผุดลุกขึ้นยืนทันทีและถามด้วยน้ำเสียงที่ดูไม่พอใจ
ลั่วอี้ซานข้าไม่สนใจว่ามันคือวูฟคิงหรือไม่ มันฆ่าหลานชายของข้ามันก็ต้องตาย นี่คือกฏของยุทธภพ เลือดต้องล้างด้วยเลือด ลั่วเตียวกล่าวอย่างไม่แยแสเขาไม่ไว้หน้าและไม่ให้ความเคารพหัวหน้าตระกูลอย่างลั่วอี้ซานแม้แต่น้อย
เมื่อได้ยินเสียงทะเลาะกันภายในห้องนั่งเล่นสมาชิกตระกูลลั่วต่างก็มารวมตัวกันและได้เห็นผู้นำตระกูลกับผู้อาวุโสกำลังทะเลาะกันเพื่อคนนอกตระกูล ดวงตาของพวกเขาเปิดกว้าง พวกเขาเต็มไปด้วยความสับสนและไม่เข้าใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น