นายเยี่ยมมากที่สามารถบล็อกการโจมตีระดับแกรนด์มาสเตอร์ของชั้นได้
ร่องรอยแห่งความประหลาดใจปรากฏบนใบหน้าที่มีเสน่ห์ของโยชิโกะเห็นได้ชัดว่าเธอไม่ได้คาดคิดว่าชายหนุ่มคนนี้จะป้องกันดาบของเธอได้
ต้องเข้าใจว่าโยชิโกะเป็นยอดฝีมือไร้เทียมทานระดับสูงของตระกูลนินจาเธอเป็นนายหญิงน้อยที่ได้รับความโปรดปรานจากตระกูลมากที่สุด เธอได้รับการบ่มเพาะพลังอันยิ่งใหญ่โดยการฝึกฝนเคล็ดวิชาที่ดีที่สุดตั้งแต่ยังเด็ก รวมไปถึงได้ทานโอสถชั้นเลิศและปลุกพลังสายเลือดจิ้งจอกสามหางอีกด้วย
ในหมู่รุ่นเยาว์บนเกาะแปซิฟิคโยชิโกะแน่นอนว่าเป็นยอดฝีมืองำประกายที่แข็งแกร่งอย่างยิ่ง มีเพียงไม่กี่คนที่เป็นคู่ต่อกรของเธอ
เนี่ยเหรอพลังของยอดฝีมือระดับแกรนด์มาสเตอร์ เธออ่อนแอเกินไป
ฉิงเฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้มเล็กน้อยด้วยร่องรอยแห่งการดูถูกในดวงตาของเขา
ในสายตาของเขาโยชิโกะที่อยู่เพียงก้าวแรกระดับแกรนด์มาสเตอร์ไม่ได้ส่งผลคุกคามต่อเขามากอย่างที่คิด เธออ่อนแอกว่าพระคาร์ดินัลผ้าคลุมแดง(อัลบรอน)ของสันตะสำนักแห่งทวีปเสือเสียอีก
เมื่อตอนที่เขาอยู่ที่สันตะสำนักในทวีปเสือเพียงอัลบรอนปลดปล่อยเขตแดนออกมา ฉิงเฟิงก็ถูกแช่แข็งอย่างสิ้นเชิง เขาไม่สามารถแม้แต่จะกระดิกนิ้วได้ด้วยซ้ำ
แฟนท่อมจิ้งจอกนภา
!
โยชิโกะตะโกนออกมาและเหวี่ยงดาบจิ้งจอกนภาในอากาศอย่างต่อเนื่องภาพหลอนนับไม่ถ้วนของอสูรจิ้งจอกพุ่งเข้าหาฉิงเฟิงด้วยพลังอันรุนแรง การแสดงออกของฉิงเฟิงเปลี่ยนไปเพราะวิสัยทัศน์เบื้องหน้าของเขาได้แปรเปลี่ยนไปเป็นฉากต่างๆความมืดมิดและท้องถนนอันตธานหายไปและตัวเขาก็ยืนอยู่บนสถานที่ที่งดงามสุดขั้วที่เต็มไปด้วยดอกเชอรี่งดงามบานสะพรั่ง
ภายใต้ต้นเชอร์รี่สาวงามที่มีเสน่ห์เย้ายวนค่อยๆเดินมาหาเขาจากระยะไกล เธอมีใบหน้าที่ยั่วยวนและร่างกายที่น่าดึงดูดใจอย่างมาก ทำให้ผู้คนถูกกระตุ้นด้วยความคิดที่สกปรก
มันคือภาพลวงตาเคล็ดวิชาของดาบจิ้งจอกนภาสามารถสร้างภาพลวงตาที่ทำให้ฉิงเฟิงดื่มด่ำไปกับมันได้
แต่ด้วยจิตที่เข้มแข็งฉิงเฟิงได้สติอย่างรวดเร็วหลังจากสับสนกับภาพลวงตาที่งดงามเหล่านี้
ระเบิดเพลิงคะนองทลายมันซะ ! ฉิงเฟิงร้องตะโกนออกมาด้วยความดุดัน เขาฟาดกระบี่แดงเพลิงคะนองออกไปในอากาศและเกิดลูกไฟระเบิดขึ้น เผาต้นเชอรี่ทั้งหมดจนไหม้เป็นจุล
เมื่อต้นเชอรี่และดอกไม้ถูกเผาไหม้ภาพลวงตาก็หายไป ท้องถนนและความมืดที่คุ้นเคยก็กลับมา
บ้าชัดๆนายทำลายเขตแดนลวงตาของชั้นได้ โยชิโกะตะโกนออกมาด้วยความโกรธ
เธอโกรธมากที่การโจมตีของเธอถูกป้องกันและเขตแดนแห่งภาพลวงตาของเธอก็ถูกทำลายเธออยากจะกดฉิงเฟิงลงพื้นและเฆี่ยวตีอย่างดุร้าย
คนสวยฉันขอพูดอะไรหน่อยนะ เธอช่วยใช้วิชาที่มันจริงจังกว่านี้หน่อยได้ไหม วิชาชั้นต่ำแบบนี้มันไร้สาระ ฉิงเฟิงยิ้มเล็กน้อยและกล่าวด้วยร่องรอยแห่งการเยาะเย้ยถากถาง
ตอนนี้เขาเป็นยอดยุทธ์ระดับครึ่งก้าวแกรนด์มาสเตอร์และสามารถต่อสู้ข้ามขอบเขตได้ดังนั้นด้วยพลังในระดับแกรนด์มาสเตอร์ขั้นแรกไม่ใช่เรื่องหนักหนาสำหรับเขา เขาพ่ายเพียงแค่แกรนด์มาสเตอร์ขั้นสูงเท่านั้น
โยชิโกะเป็นอัจฉริยะในรุ่นเยาว์และเป็นนักสู้ที่แข็งแกร่งอย่างมากบนเกาะแปซิฟิคแต่ตอนนี้เธอได้เผชิญหน้ากับศัตรูที่เธอไม่สามารถเอาชนะได้ ชายตรงหน้าเธอมีพรสวรรค์มากกว่าทำให้เธอเหมือนเต้นอยู่บนฝ่ามือของเขา
หลี่ฉิงเฟิงชั้นคิดจะทำให้นายเป็นทาสจึงไม่ได้ใช้วิชาที่รุนแรงที่สุดเพราะกลัวจะพลั้งมือฆ่านาย โยชิโกะยิ้มอย่างเย็นชาด้วยเจตนาฆ่าในน้ำเสียงของเธอ
เธอทำให้เต็มที่เถอะถ้าเธอฆ่าฉันได้เธอก็สมควรได้รับชัยชนะ แต่ถ้าเธอล้มเหลวเธอจะกลายเป็นทาสของฉัน ฉิงเฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม
มันเป็นความจริงที่โยชิโกะไม่ได้ปล่อยการโจมตีที่ทรงพลังที่สุดของเธอออกมาแต่ฉิงเฟิงก็ไม่ได้ลงมือเต็มที่เช่นกันเขาได้เรียนรู้เคล็ดวิชากระบี่แดงเพลิงคะนองท่าที่ 3 แล้ว เขาไม่หวั่นเกรงผู้ใดที่อยู่ในระดับเดียวกับโยชิโกะ
ด้วยรอยยิ้มที่เยือกเย็นโยชิโกะแทนที่การแสดงออกที่มีเสน่ห์ของเธอด้วยเจตนาฆ่าที่เย็นยะเยือก
เคล็ดวิชาจิ้งจอกนภา,จิ้งจอกทอแสง ! เธอคำรามด้วยเสียงต่ำและเต็มไปด้วยเจตนาฆ่า
ดาบยาวในมือของเธอถูกโยนขึ้นอย่างทันทีทันใดมันเฉือนผ่านอากาศและกลายเป็นแสงอาทิตย์สีแดงที่พุ่งเข้าหาฉิงเฟิง
แน่นอนดวงอาทิตย์นี้ไม่ใช่ของจริงแต่มันเป็นแสงจากดวงอาทิตย์ที่เกิดขึ้นจากพลังลมปราณ
ต้องยอมรับว่าเคล็ดวิชาดาบของโยชิโกะทรงพลังมากจนแตะขอบมโนภาพของมนุษย์
มโนภาพคืออะไร มันคือสิ่งที่ไม่มีตัวตนแต่มีพลังทำลายที่ทรงอำนาจเช่นเดียวกับเขตแดนของแกรนด์มาสเตอร์ มันเป็นวิชาโจมตีที่คล้ายกันแต่แตกต่างกันเพราะมโนภาพนั้นโจมตีทางจิต
ฉิงเฟิงรู้สึกได้ถึงภัยคุกคามจากการโจมตีครั้งนี้เคล็ดวิชาจิ้งจอกทอแสงต้องมีพลังรุนแรงอย่างต่ำๆก็ 10,000 กิโลกรัมซึ่งหลักฐานก็คือการระเบิดในอากาศที่เกิดขึ้น
คลื่นเพลิงโหมกระหน่ำ!
ฉิงเฟิงไม่กล้าประมาทเขาโคจรลมปราณไปที่กระบี่ใช้วิชาที่รุนแรงที่สุดของเขาออกมาทันที
มือขวาของเขาใช้ออกด้วยกระบี่แดงเพลิงคะนองพลังลมปราณเปลี่ยนเป็นคลื่นเพลิงขนาดยักษ์ราวกับน้ำตกเพลิงและพุ่งเข้าหาจิ้งจอกทอแสงของโยชิโกะ
ตูม!!
พลังจากอาวุธทั้งสองที่เกิดจากลมปราณปะทะกันและกันก่อให้เกิดเสียงดังราวกับแผ่นดินไหว อากาศระเบิดออกและวังวนขนาดยักษ์ก่อตัวขึ้นรอบๆพวกเขา
พลังงานที่รุนแรงในวังวนระเบิดออกและกระจายออกไปรอบทิศทางซึ่งทำให้เศษหินดินทรายและก้อนกรวดบนทางเท้ารวมไปถึงอากาศโดยรอยฉีกขาดเป็นชิ้นๆนับไม่ถ้วน ต้นไม้ใหญ่หลุดออกทั้งราก พื้นดินเป็นหลุมเป็นบ่อปรากฏอยู่ทุกแห่งโดยรอบ
พลังทำลายล้างจากการโจมตีครั้งนี้เหนือจินตนาการของฉิงเฟิงไปไกลโขโชคดีที่เขาเรียนรู้กระบวนท่าที่สามของเคล็ดวิชากระบี่แดงเพลิงคะนองสำเร็จ มิฉะนั้นเขาคงไม่อาจรับการโจมตีที่รุนแรงถึงชีวิตในครั้งนี้ได้
หลังจากการโจมตีครั้งนี้บริเวณโดยรอบของท้องถนนถูกทำลายเละเทะจนจำสภาพเดิมไม่ได้ โชคดีที่มันเป็นเวลากลางดึกและแทบจะไม่มีคนอยู่ในระแวกนี้ ดังนั้นจึงไม่มีใครได้เป็นประจักษ์พยานการทำลายล้างที่กินวงกว้างขนาดนี้
การโจมตีครั้งนี้ลดทอนพลังของโยชิโกะไปไม่น้อยใบหน้าของเธอซีดลง ดวงตาเต็มไปด้วยความไม่อยากเชื่อเมื่อเธอเห็นฉิงเฟิงยังคงยืนหยัดอย่างสบายๆหลังจากรับการโจมตีของเธอ
นายรับมันได้! โยชิโกะหอบหายใจ เผยให้เห็นฟันขาวสะอาดของเธอ ดวงตาที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของเธอเต็มไปด้วยความตกใจ
โยชิโกะพบว่าเธอได้ประเมินความแข็งแกร่งของฉิงเฟิงต่ำเกินไปมากเขาราวกับปีศาจไร้พ่าย แม้แต่การโจมตีที่รุนแรงที่สุดของเธอก็ยังไม่มีผลต่อเขา
บนเกาะแปซิฟิกตราบเท่าที่โยชิโกะใช้จิ้งจอกนภาทอแสง ยอดฝีมือรุ่นเยาว์แทบทุกคนต่างก็พ่ายแพ้โดยไม่มีข้อยกเว้น เธอภาคภูมิใจและพอใจในตัวเองอย่างยิ่ง เธอคิดว่าเธอคืออันดับหนึ่งของรุ่นเยาว์ในยุคนี้
แต่เมื่อวันนี้เธอได้พบกับหลี่ฉิงเฟิงความมั่นใจในตัวเองและความภาคภูมิใจของเธอก็ถูกทำลายหมดสิ้นเพราะการโจมตีทั้งหมดของเธอนั้นไร้ประโยชน์ต่อเขา เธอไม่สามารถเอาชนะเขาได้
บ้าเอ้ยหมอนี่แกร่งเกินไปแล้ว การจะล้มมันคงมีเพียงต้องใช้พลังสายเลือด
การแสดงออกทางสีหน้าของโยชิโกะเปลี่ยนไปเป็นเย็นชาเธอสบถในใจอย่างเงียบงัน