ฉิงเฟิงออกจากคฤหาสน์เทียนซานและขับรถกลับเมืองตงไห่
เตาปรุงยาที่ฉินเซียนจื่อยกให้แก่เขานั้นมีขนาดใหญ่เกินไปสำหรับรถของฉิงเฟิงเขาจึงขอให้เธอส่งมันกลับไปยังเมืองตงไห่
ฉิงเฟิงคิดถึงหลินเสวี่ยอย่างสุดซึ้งตลอดช่วงเวลาที่เขาจากเธอมา
ในขณะเดียวกันข่าวที่หลี่ฉิงเฟิงสังหารเตี๋ยจงเทียนและข่มขู่เจียงเชียนเต๋าที่คฤหาสน์เทียนซานได้แพร่กระจายออกไป มันทำให้วงการผู้ฝึกยุทธ์ในเมืองเทียนจิงต่างก็ตกตะลึง ทุกคนต่างก็ไม่อยากเชื่อต่อข่าวนี้
คนหนุ่มที่ชื่อหลี่ฉิงเฟิงเป็นใครกัน เขาแกร่งขนาดไหนถึงสังหารเตี๋ยจงเทียนได้ ?
ข้าได้ยินมาว่าหลี่ฉิงเฟิงเป็นบุตรชายของคนผู้นั้นราชันผู้พิชิต ชายที่ซึ่งกวาดทั่ว 18 จังหวัดในภาคเหนือ พระเจ้า! ไม่น่าแปลกใจเลยที่เขาทรงพลังนัก พลังของผู้พิชิตทำลายล้างความภาคภูมิใจของเหล่าผู้ฝึกยุทธ์เมื่อสมัยก่อน ตอนนี้บุตรชายของเขากำลังจะเริ่มเดินตามรอยพ่อของเขาอีกครั้ง
เหล่าผู้ที่อยู่ในโลกวิทยายุทธต่างก็กำลังซุบซิบกันทุกคนกำลังถกเถียงกันว่าใครคือหลี่ฉิงเฟิงและเขามีพลังแค่ไหน เพราะเตี๋ยจงเทียนก็ไม่ใช่คนธรรมดา เขาเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดอันดับ 4 ในรายชื่อแกรนด์มาสเตอร์ แต่ก็ยังถูกสังหาร
ในยุทธภพมีบางคนแม้แต่ถกเถียงกันว่าและเปรียบเทียบกันระหว่างปรมาจารย์กระบี่จาวเกออี้กับหลี่ฉิงเฟิงว่าใครจะเป็นอัจฉริยะอันดับหนึ่งที่แท้จริง
ทั้งฉิงเฟิงและจาวเกออี้ต่างก็ใช้กระบี่และเป็นปรมาจารย์กระบี่ผู้คนจำนวนมากเริ่มให้ความสนใจและมีบางคนก็เริ่มปลุกระดมให้สาธารณชนเรียงร้องให้สองคนนี้ได้ประลองกัน จาวเกออี้เป็นหนึ่งในสิบผู้ที่แกร่งที่สุดในรายชื่อแกรนด์มาสเตอร์เขามีทักษะสูงเยี่ยม
แต่ฉิงเฟิงกลับไม่ได้ตระหนักถึงความปั่นป่วนเหล่านี้ในยุทธภาพแม้แต่น้อยถึงแม้เขาจะรู้ แต่เขาก็ไม่ได้ใส่ใจ
ทุกวันนี้ในยุทธภพหลี่ฉิงเฟิงกลายเป็นตัวตนที่เป็นที่รู้จักกันมากที่สุดอย่างไม่อาจปฏิเสธได้
………………….
ฉิงเฟิงขับรถเร็วมากในเวลาเพียงสองชั่วโมงเขาก็กลับมาถึงที่เมืองตงไห่จากเมืองเทียนจิง เขาไม่ได้กลับไปที่วิลล่าหรือบริษัทแต่ตรงไปยังโรงพยาบาลในเมืองตงไห่
ภายในโรงพยาบาล
หลินเสวี่ยได้ฟื้นตัวมากแล้วหลังจากได้รับการรักษาเธอสามารถเดินไปเดินมารอบๆ กินและนอนอย่างสบายโดยไม่ต้องมีใครช่วยดูแล
เธอคิดว่าถึงเวลาแล้วที่เธอจะต้องออกจากโรงพยาบาลเธอไม่ต้องการอยู่ที่นี่อีกต่อไป เธออยากกลับไปทำงาน
เธอถอนหายใจด้วยความคิดเกี่ยวกับบริษัทIce Snow เพราะเธอไม่ได้ไปทำงานมาพักใหญ่ๆแล้ว เธอไม่รู้ว่าที่บริษัทจะจัดการเรื่องงานกันอย่างไร
ถึงแม้ว่าหลินเสวี่ยจะสามารถติดต่อเลขานุการของบริษัทได้อย่างง่ายดายเช่นผู้อำนวยการฝ่ายขายเซี่ยหวั่นฉิวหรือคนอื่นๆ แต่การที่ไม่ไปบริษัทเลยนั้นทำให้เธอเครียดและเป็นกังวล เธอลงทุนด้านจิตใจไปที่บริษัทนี้เป็นอย่างมาก
คุณแม่หนูจะไปบริษัท หลินเสวี่ยยกริมฝีปากสีแดงของเธอขึ้นและกล่าวเบาๆกับมู่เสี่ยวหยุนที่อยู่ข้างๆเธอ
มู่เสี่ยวหยุนมีสีหน้าไม่พอใจและกล่าวว่า เสวี่ยน้อย ฉิงเฟิงไม่อยู่ เราควรจะรอจนเขากลับมาก่อน
ไม่ต้องหรอกหนูไม่อาจวางใจเรื่องในบริษัทได้เลย เสวี่ยน้อยทำไมลูกหัวดื้อแบบนี้ ลูกควรจะพักฟื้นอีกสักสองสามวันก่อนค่อยไป
แม่อย่าห้ามหนูเลยยังไงวันนี้หนูก็จะกลับบริษัทไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น หลินเสวี่ยไม่ยอม เธอเป็นคนหัวแข็ง เมื่อเธอตัดสินใจอะไรไปแล้วจะไม่มีทางเปลี่ยนแปลงได้ง่ายๆ ถ้าเธอตัดสินใจที่จะกลับบริษัท เธอก็ต้องไป
มู่เสี่ยวหยุนไม่มีทางเลือกเธอจึงทำได้เพียงต้องช่วยหลินเสวี่ยเก็บข้าวของ ขณะที่พวกเขาเดินออกจากประตู ทีมเขี้ยวหมาป่าได้มาเห็นและพยายามที่จะหยุดเธอไว้ แต่เมื่อหลินเสวี่ยยังคงยืนกรานที่จะกลับไปที่บริษัท พวกเขาจึงต้องยอม
ทันทีที่หลินเสวี่ยออกไปก็มีคนสองคนติดตามเธอในทันทีคนหนึ่งก็คือเหมียวซิยี้ ซึ่งเป็นคนที่หลินเสวี่ยรู้จักดีอยู่แล้วในฐานะบอดี้การ์ด ส่วนอีกคนเป็นสาวงามคนหนึ่งที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน
สาวงามคนนี้ดูชดช้อยยั่วสวาทมากใช่แล้ว ยั่วสวาท ใบหน้าที่เย้ายวนน่าดึงดูดของเธอเต็มไปด้วยความเซ็กซี่ ผิวขาวเนียนของเธอราวกับน้ำใสๆในบ่อน้ำ รวมไปถึงดวงตาที่เต็มไปด้วยความเย้ายวนและน่าดึงดูดใจ
นอกจากนี้เรือนร่างของเธอก็นับได้ว่าเพอร์เฟ็คด้วยหน้าอกคู่โตรอยแยกขาวหิมะ ทั้งมวลในตัวเธอนั้นช่างน่าดึงดูด และทำให้ผู้ที่พบเห็นปรารถนาจะยึดกุม
คุณเป็นใครคุณตามชั้นมาทำไม หลินเสวี่ยตึงคิ้วและบ่นออกมา
ผู้หญิงคนนี้งดงามอย่างน่าตกตะลึงแต่เธอก็เดินตามหลังเธอมาติดๆซึ่งทำให้หลินเสวี่ยรู้สึกอึดอัดบวกกับการที่เธอสวมชุดกิโมโนญี่ปุ่นจึงทำให้หลินเสวี่ยไม่ค่อยพอใจมากขึ้น
สวัสดีชั้นชื่อซาโต้ โยชิโกะ ชั้นได้รับคำสั่งจากนายท่านฉิงเฟิงเพื่อปกป้องคุณ
โยชิโกะอธิบายด้วยรอยยิ้มที่กระตุ้นความรู้สึก
โยชิโกะพ่ายแพ้ให้แก่ฉิงเฟิงและถูกสะกดจิตจนต้องอยู่ในภายอำนาจของเนตรแห่งราชันหมาป่าเธอจึงกลายมาเป็นทาสของฉิงเฟิงและภารกิจของเธอตอนนี้คือปกป้องหลินเสวี่ย แม้ว่าหลินเสวี่ยจะไม่เคยพบเธอมาก่อนก็ตาม
ชั้นมีซิยี้เป็นบอดี้การ์ดอยู่แล้วชั้นต้องการแค่นี้ หลินเสวี่ยขมวดคิ้วและกล่าว
หลินเสวี่ยไม่ได้อารมณ์เสียใส่โยชิโกะแต่เป็นฉิงเฟิงต่างหากเหตุผลก็เพราะฉิงเฟิงจ้างวานโยชิโกะนั่นเอง
ถึงแม้ว่าเหมียวซิยี้ก็ถูกฉิงเฟิงจ้างวานเช่นกันแต่หลินเสวี่ยก็ค่อนข้างสนิทสนมกับเธอมากกว่า เธอจึงปฏิเสธโยชิโกะโดยสัญชาตญาณ
โยชิโกะพยายามจะอธิบายแต่หลินเสวี่ยก็โบกมือของเธอทันทีและเข้าไปในรถพร้อมกับเหมียวซิยี้ พวกเขาทิ้งโยชิโกะไว้ที่โรงพยาบาล
จากนั้นไม่นานฉิงเฟิงก็มาถึงพอดีเมื่อเขามาถึงเขาก็เห็นโยชิโกะเดินไปเดินมารอบๆทางเข้าโรงพยาบาล โยชิโกะ,ฉันบอกให้เธอคอยปกป้องหลินเสวี่ยภรรยาของฉันไม่ใช่หรือไง เธอทำอะไรอยู่ตรงนี้ ฉิงเฟิงถามด้วยความสงสัยหลังจากเขาจอดรถ
เมื่อได้เห็นฉิงเฟิงใบหน้าที่แสนเย้ายวนของโยชิโกะก็เปล่งประกายด้วยความดีใจ
นายท่านคะชั้นก็อยากจะคอยปกป้องเธอแต่เธอไม่อนุญาต
แล้วหลินเสวี่ยไปไหน
เธอบอกว่าจะกลับไปทำงานที่บริษัทค่ะ
นี่มันบ้าชัดๆร่างกายของเธอเพิ่งฟื้นตัวได้ไม่นาน เธอจะกลับมาทำงานได้อย่างไร
ฉิงเฟิงกล่าวด้วยความผิดหวังอย่างชัดเจน
ทำไมหลินเสวี่ยถึงทำแบบนี้เธอควรจะนอนพักอยู่ในโรงพยาบาลไปก่อนไม่น่ารีบร้อนไปทำงาน ฉิงเฟิงเต็มไปด้วยความไม่สบายใจ
จากนั้นฉิงเฟิงก็ให้โยชิโกะนั่งข้างคนขับและขับไปที่บริษัท Ice Snow เขาต้องไปหาหลินเสวี่ย
สิบนาทีต่อมาฉิงเฟิงก็มาถึงบริษัทIce Snow และได้เผชิญหน้ากับอาคารสูงตระหง่านขนาดใหญ่อีกครั้ง
ตลอดเวลาในช่วงนี้ฉิงเฟิงต้องคอยวุ่นวายอยู่กับโลกแห่งผู้ฝึกยุทธ์เขาเข้าไปในสุสานราชายาทิพย์, ไปงานชุมนุมชาวยุทธ์ ชีวิตของเขากลายเป็นไม่ปกติอีกต่อไป
ยามนี้เขาได้เห็นบริษัทIce Snow ที่อยู่เบื้องหน้าอีกครั้ง ความทรงจำนับไม่ถ้วนก็กระพริบผ่านมาในสมองอีกครั้ง มันเป็นต้นเหตุแห่งความทรงจำมากมาย เขาจำได้ถึงครั้งแรกที่เขาไม่มีเงินสักแดงจนต้องมาสัมภาษณ์งานที่นี่ ในตอนนั้นผู้สัมภาษณ์คือเซี่ยหวั่นฉิว และเป็นครั้งแรกที่เขาได้พบกับจางเสี่ยวเยวี่ยกับลั่วเฮา
ฉิงเฟิงจอดรถของเขาที่ลานจอดรถแล้วเดินตรงไปที่บริษัทเขาถูกลั่วเฮาขวางไว้ทันที
พะพี่ใหญ่หลี่ พี่หายไปไหนมา ผมคิดถึงพี่มากเลย !
ลั่วเฮาถลาเข้ามาโจมตีฉิงเฟิงด้วยการกอดที่แนบแน่นและปล่อยโฮออกมา
เขาคิดถึงพี่ใหญ่หลี่อย่างสุดซึ้งแต่เขาก็ไม่เคยมาทำงานเลย