กรุณาเก็บอาการด้วยค่ะซีอีโอเสวี่ยชั้นมาที่นี่เพื่อหารือเกี่ยวกับปัญหาเรื่องค้าขายหยกดิบ ใบหน้าที่มีเสน่ห์ของหลินเสวี่ยมีร่องรอยของความขุ่นเคืองและกล่าวอย่างเย็นชา
ซีอีโอของบริษัทหยกมรกตคนนี้ทำตัวน่ารังเกียจดวงตาของเขาเปล่งประกายด้วยแสงสีเขียว เขาต้องการเอาเปรียบหลินเสวี่ย แต่แน่นอนว่าเธอย่อมไม่ยอมให้เขาแตะเนื้อต้องตัว
ประกายเย็นยะเยือกพาดผ่านดวงตาของเสวี่ยหลี่ก่อนที่เขาจะตอบเธออย่างเย็นชาว่า ซีอีโอหลินเสวี่ย คุณจริงๆหรือว่าการที่เราขอให้คุณมาที่นี่ก็เพื่อหารือเรื่องความร่วมมือทางธุรกิจจริงๆ
ทันใดนั้นเองหลังจากที่เขาพูดจบรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา เขาลุกขึ้นเตรียมคว้าตัวหลินเสวี่ย
ลุงเสวี่ยท่านลืมที่ข้าบอกกับท่านแล้วหรือว่าให้มอบตัวหลินเสวี่ยให้ข้า
ทันใดนั้นเองก็มีเสียงดังขึ้นจากห้องข้างๆจากนั้นเหลิ่งเสวี่ยก็เดินออกมา เขามองเสวี่ยหลี่ด้วยสีหน้าไม่พอใจ
นายน้อยผู้หญิงคนนี้ยังเป็นสาวบริสุทธิ์ กลิ่นเลือดจากร่างเธออย่างหอมหวานยิ่งนัก หากข้าได้ลิ้มลอง พลังของข้าจะเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอนขอรับ
ไม่ได้ท่านไม่สามารถดื่มเลือดของเธอได้
ทะทำไมละครับนายน้อย ไม่ใช่ว่าท่านบอกให้ข้าจับเธอไว้หรอกหรือ ?
ข้าตัดสินใจแล้วหล่อนมีประโยชน์ต่อแผนของข้า ทำตามที่สั่งก็พอ เหลิ่งเสวี่ยกล่าวขณะที่เขามองเสวี่ยหลี่ด้วยแววตาเย็นชา
วูบ!
ราวกับพายุทอร์นาโดที่พัดผ่านร่างของเหลิ่งเสวี่ยปรากฏขึ้นข้างๆหลินเสวี่ยในพริบตา หลินเสวี่ยยังไม่ทันได้ออกอาการก็ถูกทุบที่หลังคอและหมดสติไปทันที
หลินเสวี่ยที่น่าสงสารเธอไม่อาจต่อกรใดๆกับคนเหล่านี้ได้แม้แต่น้อย
ลุงเสวี่ยข้าจะพาตัวผู้หญิงคนนี้ไป ถ้าหากหลี่ฉิงเฟิงมาตามหาเธอที่นี่ บอกต่อมันว่าถ้าอยากช่วยเธอให้ไปที่ถ้ำโลหิตปีศาจ
ถ้ำโลหิตปีศาจ
!
เสวี่ยหลี่สะดุ้งตกใจทันทีหลังจากเขาได้ยินคำทั้งสามนี้
ผู้อื่นอาจไม่รู้จักถ้ำโลหิตปีศาจเหมือนเสวี่ยหลี่ที่นั่นเป็นเขตต้องห้ามของนิกายโลหิตสีชาด มีคนหลายหมื่นคนเสียชีวิตที่นั่น เลือดของพวกเขาทุกคนต่างถูกสูบออกจนหมดโดยเหล่าสมาชิกนิกายโลหิตสีชาด ที่นั่นเปรียบเสมือนขุมนรก
เสวี่ยหลี่ต้องการเก็บหลินเสวี่ยไว้กับตัวแต่เมื่อเขารู้ว่านายน้อยต้องการตัวเธอ เขาก็ไม่มีทางเลือก ………..
ภายในนิกายโลหิตสีชาดเหลิ่งเสวี่ยมีอำนาจสูงสุดเพียงรองจากจ้าวนิกายเท่านั้น
นิกายหลักของนิกายโลหิตสีชาดตั้งอยู่ภายในหุบเขายักษ์ในเขตชานเมืองของเจียงหนานมันเป็นภูเขายักษ์ที่ล้อมรอบไปด้วยหมอกสีขาวทำให้บุคลภายนอกไม่สามารถผ่านเข้ามาได้
บนโค้งของเนินเขาเป็นตำหนักขนาดใหญ่ที่ทำจากหินอ่อนสีแดงซึ่งเป็นที่ตั้งของนิกายโลหิตสีชาด
นายน้อยกลับมาแล้วหรือครับท่านจ้าวนิกายไปที่นิกายแวมไพร์เพื่อเข้าร่วมงานชุมนุมเหล่าผู้ฝึกยุทธ์สายอธรรม ผู้อาวุโสในชุดคลุมแดงแจ้งข่าวแก่เหลิ่งเสวี่ยด้วยความเคารพ
ผู้พิทักษ์ซ้ายข้าจะไปที่ถ้ำปีศาจโลหิต ท่านเฝ้าประตูไว้และอย่าให้ใครเข้ามา เหลิ่งเสวี่ยยิ้มอย่างเย็นชาและพาหลินเสวี่ยที่สลบไสลเข้าไปในถ้ำด้านหลังของตำหนัก ถ้ำแห่งนี้มีขนาดใหญ่มากทางเข้ากว้างสี่เมตรและขยายออกเมื่อเข้าไปข้างในสุดซึ่งภายในนั้นก็มีแท่นบูชาสีแดงขนาดมหึมา
มีสระปีศาจโลหิตอยู่ข้างๆแท่นซึ่งมีงูสีแดงเข้มนับไม่ถ้วนอยู่ข้างในพื้นรอบๆสระถูกปูไว้ด้วยกระดูกมนุษย์นับไม่ถ้วน เลือดของเหยื่อที่ถูกนำตัวมาที่นี่จะถูกสูบจนแห้งเหือดและจากนั้นงูสีแดงเหล่านี้ก็จะรุมกัดกิ้นเนื้อ
สระปีศาจโลหิตเดือดปุดๆเต็มไปด้วยเลือดและมีงูสีแดงเข้มอยู่ภายในสระมันเป็นฉากที่น่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่ง !
เหลิ่งเสวี่ยวางร่างของหลินเสวี่ยไว้บนแท่นบูชนในสระปีศาจโลหิตและคุกเข่าลงเพื่อฝึกวิชา
เหลิ่งเสวี่ยเปิดปากของเขาและดื่มเลือดสดๆภายในสระปีศาจโลหิตเข้าไปเพื่อเพิ่มพลัง
หลังจากที่เขาพ่ายแพ้ฉิงเฟิงที่สุสานเซียวหยุนเหลิ่งเสวี่ยก็อุทิศตนอย่างหนักเพื่อฝึกฝนอย่างขันแข็ง ความแข็งแกร่งทางร่างกายของเขาเพิ่มสูงขึ้นมากหลังจากที่เขาดื่มเลือดมนุษย์จำนวนมหาศาลและในที่สุดตอนนี้เขาก็มีพลังในขอบเขตแกรนด์มาสเตอร์ขั้นกลางเช่นเดียวกับฉิงเฟิง
ไม่เพียงแค่ความแข็งแกร่งของเขาที่เพิ่มขึ้นเหลิ่งเสวี่ยยังได้ฝึกฝนทักษะกระบี่เพิ่มเติ่ม เคล็ดวิชากระบี่โลหิตสีชาด ซึ่งเขาได้ค้นพบในสระปีศาจโลหิตแห่งนี้อีกด้วย
เหลิ่งเสวี่ยลักพาตัวและนำหลินเสวี่ยมาที่นี่ก็เพื่อล่อฉิงเฟิงเช่นกันเขาต้องการฆ่าฉิงเฟิงในที่แห่งนี้และดูดเลือดของเขาและใช้พลังจากในสระปีศาจเพื่อเสริมความแข็งแกร่งของเขา กล่าวได้ว่าในสถานที่แห่งนี้เขาได้เปรียบคู่ต่อสู้ทุกประตู
……….
หลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วโมงเครื่องบินของฉิงเฟิงก็ลงจอดในจังหวัดเจียงหนาน
โดยธรรมชาติแล้วฉิงเฟิงไม่เคยมาที่นี่เขาย่อมไม่คุ้นเคยกับเจียงหนานอย่างไรก็ตาม ด้วยเทคโนโลยีระบบ GPS ในปัจจุบันนี้ก็ทำให้เขาไปไหนมาไหนได้อย่างไม่ติดขัด ตราบใดที่คุณจ่ายเงินคนขับ เขาก็สามารถใช้ GPS เพื่อนำคุณไปได้ทุกที่
ฉิงเฟิงใช้เงินห้าร้อยหยวนเพื่อให้คนขับขับพาเขาไปที่อาคารของบริษัทหยกมรกต
คนขับรีบขับหนีออกจากที่นี่ทันทีที่เขาส่งฉิงเฟิงเสร็จเขาหวาดกลัวสถานที่แห่งนี้มากเพราะมีผู้คนหลายคนหายตัวไป
ฉิงเฟิงเชิดศีรษะแหงนหน้ามองและเขาก็ได้เห็นตึกสีแดงเข้มขนาดใหญ่ต่อหน้าต่อตาเขาตัวอาคารนั้นสูงกว่าสามสิบชั้นมันดูยิ่งใหญ่ลึกลับและมีกลิ่นเหม็นของเลือดอย่างรุนแรง ซึ่งกลิ่นคาวเลือดประเภทนี้มีเพียงติดตัวคนบางประเภทเท่านั้น เช่นตัวเขาที่เคยฆ่าคนมานับไม่ถ้วน
มียามแปดคนยืนอยู่หน้าประตูทางเข้าฉิงเฟิงรู้ว่าพวกเขาไม่ได้เป็นยามจริงๆ พวกเขาเป็นผู้ฝึกยุทธ์ที่แข็งแกร่งในระดับเหนือสวรรค์แต่เดินในสายอธรรม หรือที่เรียกกันว่าผู้ฝึกยุทธ์สายแยกย่อย ผู้ฝึกยุทธ์สายแยกย่อยนั้นแตกต่างจากผู้ฝึกยุทธ์สายดั้งเดิมร่างกายของพวกเขาเต็มไปด้วยความชั่วร้ายและกลิ่นคาวเลือด นั่นคือร่องรอยที่หลงเหลือจากการฆ่าคนเป็นจำนวนมาก
หยุดอยู่ตรงนั้นที่นี่คือบริษัทหยกมรกต บุคลภายนอกห้ามเข้า ยามในชุดสีแดงขวางฉิงเฟิงไว้และกล่าวด้วยความเย่อหยิ่ง
เฮอะนิกายโลหิตสีชาดใช้ยอดฝีมือขั้นเหนือสวรรค์มาเป็นยามเฝ้าประตู ช่างทรงอำนาจซะจริง ฉิงเฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม
ใบหน้ายามชุดแดงแปรเปลี่ยนไปหลังจากที่เขาได้ยินสิ่งที่ฉิงเฟิงพูดดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความตกใจ ชายหนุ่มตรงหน้าผู้นี้เป็นใครกัน ทำไมเขาถึงบอกระดับพลังของพวกเขาอีกทั้งยังสามารถระบุตัวตนของพวกเขาได้ ?
ยามชุดแดงขวางทางฉิงเฟิงในขณะที่เขาพยายามจะฝ่าเข้าไป
เปรี้ยง !!!
ฉิงเฟิงทุบหัวยามคนนั้นอย่างรวดเร็วในพริบตาหัวของเขาแหลกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยและตกตายทันที
สำหรับฉิงเฟิงการฆ่าผู้ฝึกยุทธ์ขั้นเหนือสวรรค์ในตอนนี้นั้นง่ายดายราวกับบี้แมลงวัน
ฉิงเฟิงสามารถฆ่าพวกเขาทุกคนได้อย่างง่ายดายแต่ยามที่เหลืออีกเจ็ดคนงงเป็นไก่ตาแตกด้วยความไม่เข้าใจ ยามเสื้อแดงคนนั้นคือหัวหน้าที่นี่ เขาเป็นสาวกหลักของนิกายโลหิตสีชาดด้วยความแข็งแกร่งสุดขั้ว ทำไมเขาถึงตายอย่างง่ายดายภายในน้ำมือของชายหนุ่มคนนี้
ฆะฆ่ามัน ! ยามเสื้อแดงที่เหลืออีกเจ็ดคนโห่ร้องออกมาและพุ่งเข้าโจมตีฉิงเฟิงพร้อมกันหมายจะล้างแค้นให้กับพี่น้องที่ตาย
โพล๊ะๆ ๆ
ฉิงเฟิงกระโดดและเหินร่างขึ้นซัดฝ่ามือออกไป7 ครั้ง ทุกฝ่ามือเข้าเป้าที่ศีรษะของยามทั้งเจ็ดคนอย่างรวดเร็วราวและง่ายดายราวกับตบแมลง ศีรษะของยามทั้งเจ็ดแหลกเป็นชิ้นๆและตายตามกันไปทันที
ภายในวินาทีเดียวหลังจากเริ่มลงมือยามเสื้อแดงทั้งเจ็ดก็ตายเรียบ ดวงตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัวในช่วงเวลาที่ตาย