ฉิงเฟิงรู้สึกเศร้ามากเมื่อได้เห็นคิงคอง,ชายผู้ที่ร่างสูงใหญ่ถึงหกฟุตสองนิ้วกำลังร้องไห้ สมาชิกที่ตายไปทั้งหมดต่างก็เป็นสมาชิกกลุ่มแรกที่ติดตามคิงคองมาโดยตลอด ตั้งแต่สมัยที่พวกเขายังเป็นแค่อันธพาลตามท้องถนน
คิงคองรู้สึกผิดมากต่อลูกน้องที่ตายไปพวกเขาตายโดยไม่มีศพ ทั้งๆที่เขาเป็นบอสแต่กลับต้องทนดูลูกน้องตายไปทีละคน
คิงคองรู้สึกเจ็บปวดอย่างมากและฉิงเฟิงก็รู้สึกเช่นเดียวกัน
พวกแกเป็นใคร ทำไมพวกแกถึงต้องฆ่าคนของฉัน ? ฉิงเฟิงกล่าวอย่างเคียดแค้น
เขารู้จักเพียงแค่เหลิงเสวี่ยที่ตายไปแล้วเท่านั้นเขาไม่เคยเห็นจ้าวนิกายโลหิตสีชาดและลูกน้องของเขามาก่อน ดังนั้นฉิงเฟิงไม่รู้จักคนเหล่านี้ ถึงแม้ว่าฉิงเฟิงจะไม่รู้จักพวกเขาแต่เขาก็รู้สึกได้ถึงออร่าที่เป็นปฏิปักษ์อย่างรุนแรงจากตัวพวกเขา บรรยากาศรอบๆตัวพวกเขานั้นแข็งกร้าวอย่างไม่น่าเชื่อ จนถึงจุดที่เขายังรู้สึกตื่นตระหนกไม่น้อย
ข้าคือเซวี่ยอู่เต๋าจ้าวนิกายโลหิตสีชาด ข้ามาที่นี่เพื่อแก้แค้นให้ลูกชายข้า !
เซวี่ยอู่เต๋ากล่าวอย่างดุร้าย
เซวี่ยอู่เต๋า…
เมื่อฉิงเฟิงได้ยินชื่อนี้ใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย เขาไม่เคยเห็นเซวี่ยอู่เต๋ามาก่อน แต่เคยได้ยินมาว่าเซวี่ยอู่เต๋าเป็นหนึ่งใน 81 ซาตานนอกรีต เขาถูกจัดอยู่ใน 20 อันดับแรกในฐานะสุดยอดซาตาน มีบางคนกล่าวว่าความแข็งแกร่งของเขาอยู่ที่จุดสูงสุดของขอบเขตแกรนด์มาสเตอร์
ไม่ว่าจะเป็นผู้ฝึกยุทธ์สายธรรมะหรืออธรรมเซวี่ยอู่เต๋าคือยอดฝีมือระดับสุดยอดคนหนึ่ง ผู้ซึ่งเหล่ายอดฝีมือที่แข็งแกร่งนับไม่ถ้วนต่างก็ต้องแหงนหน้ามองเขา ผู้ฝึกยุทธ์มากมายต่างก็มาถึงภูเขาLone ในเวลานี้ พวกเขามาที่นี่เพื่อชมการล้างสังหาร แต่เมื่อพวกเขาได้ยินชื่อเซวี่ยอู่เต๋า ใบหน้าของพวกเขาก็ซีดเซียวลงทันที
เซวี่ยอู่เต๋าเป็นหนึ่งในสุดยอดซาตานของผู้ฝึกยุทธ์นอกรีตเขาเชี่ยวชาญเทคนิคการบ่มเพาะอสูรโลหิต เขามักจะล้างสังหารผู้คนตามหมู่บ้านและดูดเลือดทุกคนตั้งแต่ 20 ปีก่อน ครั้งหนึ่งมีผู้ยุทธ์ฝ่ายธรรมะทนต่อความชั่วร้ายของเขาไม่ไหวจึงร่วมมือกันด้วยแกรนด์มาสเตอร์ถึง 3 คน เซวี่ยอู่เต๋าไม่เพียงแค่หลบหนีไปได้ แต่เขายังสังหารแกรนด์มาสเตอร์ฝ่ายธรรมะไปคนหนึ่งอีกด้วย !
หลี่ฉิงเฟิงต้องตายแน่คราวนี้เซวี่ยอู่เต๋าคือสุดยอดซาตานและมีเคล็ดวิชาอสูรโลหิตอันเลื่องชื่อ
ถูกแล้วครั้งก่อนหลี่ฉิงเฟิงเอาชนะครึ่งก้าวแกรนด์มาสเตอร์ทั้งสามคนได้ แต่คนเหล่านั้นก็แค่แกรนด์มาสเตอร์ระดับล่างๆ แต่เซวี่ยอู่เต๋าไม่เหมือนกัน เขาคือแกรนด์มาสเตอร์ขั้นสุดยอด
เจ้าเห็นชายชราสองคนที่ยืนอยู่ข้างๆเซวี่ยอู่เต๋าหรือไม่ สองคนนั้นคืออาวุโสหนึ่งและอาวุโสสองแห่งนิกายโลหิตสีชาด พวกเขาทั้งคู่ต่างก็เป็นสุดยอดซาตานบนเส้นทางของเหล่าผู้ฝึกยุทธ์นอกรีตเช่นกัน
ผู้คนรอบข้างต่างก็พูดคุยกันด้วยความประหลาดใจในดวงตาของพวกเขาพวกเขาต่างขนหัวลุกและตกใจมากที่ได้เห็นซาตานถึง 3 คนที่ภูเขา Lone แห่งนี้
เมื่อคิงคองและเหล่าสมาชิกของสมาพันธ์ฉิงเฟิงได้ยินการสนทนาเหล่านี้ใบหน้าของพวกเขาก็ซีดเผือด ก่อนหน้านี้พวกเขาไม่รู้ว่าสามคนนี้เป็นใคร แต่ตอนนี้เห็นได้ชัดเจนแล้วว่าคนเหล่านี้ไม่ใช่ผู้ฝึกยุทธ์ธรรมดา แต่เป็นถึงสุดยอดผู้ฝึกยุทธ์นอกรีต
เซวี่ยอู่เต๋าพวกแกอุตสาห์ถ่อมาถึงที่นี่เพื่อฆ่าฉัน แล้วจะรออะไรอยู่เล่า ก็เข้ามาเลยซี่ ฉิงเฟิงแสยะยิ้มและกล่าวยั่วยุ
เขารู้ว่าการต่อสู้ในวันนี้จะต้องยากลำบากไม่น้อยฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต้องตาย
ท่านจ้าวนิกายให้ข้าน้อยได้ลงมือหักแขนหักขาของมันก่อนก็แล้วกัน จากนั้นจะมอบตัวให้ท่านสูบเลือดมันจนเหือดแห้ง อาวุโสสองเซวี่ยเถาก้าวออกมาข้างหน้าและกล่าวกับเซวี่ยอู่เต๋า
เซวี่ยอู่เต๋าพยักหน้าและกล่าวว่า เจ้าไป แต่อย่าเพิ่งฆ่ามันง่ายๆ ข้าจะค่อยๆดูดเลือดมันและทำให้มันทุกข์ทรมานไปเรื่อยๆจนร้องขอชีวิต !
ผู้อาวุโสสองผงกศีรษะและแสยะยิ้มอย่างดุร้ายเขาเดินไปหาฉิงเฟิงโดยมีจิตวิญญาณชั่วร้ายที่แข็งแกร่งแผ่กระจายออกมา
ผู้อาวุโสสองมีพลังในระดับแกรนด์มาสเตอร์ขั้นปลายเขาอยู่ในอันดับที่ 40 จาก 81 ซาตาน ระดับพลังของเขาใกล้เคียงกับเตี๋ยจงเทียน แต่เคล็ดวิชาอสูรโลหิตของเขานั้นดุร้ายกว่า
ฉิงเฟิงแอบยิ้มในใจถ้าหากซาตานทั้งสามคนนี้บุกเข้ามาลงมือต่อเขาพร้อมกัน เขาก็ต้องตึงมือไม่น้อยในการจัดการกับพวกเขา อย่างไรก็ตาม ผู้อาวุโสสองต้องการที่จะลงมือเพียงลำพัง นั่นทำให้เขาเบามือลง
ฉิงเฟิงรู้ว่าเขาต้องฆ่าผู้อาวุโสสองโดยเร็วที่ถ้าเขาทำได้จำนวนศัตรูของเขาจะเหลือแค่สองคน
แม้ฉิงเฟิงจะเป็นคนอวดดีแต่เขาก็ไม่มั่นใจในตัวเองจนเกินขอบเขตเขาว่าต้องทำอย่างไรจึงจะเซฟที่สุด เพราะจ้าวนิกายที่ยืนจับจ้องอยู่ตรงนั้นแข็งแกร่งกว่าเขามาก
ฝ่ามืออสูรโลหิต
!
อาวุโสสองคำรามออกมาฝ่ามือขวาของเขาใช้ออกและกลายเป็นหมอกสีเลือด มันโจมตีเข้าใส่ฉิงเฟิงด้วยพลังอันรุนแรง
ฉิงเฟิงยังคงยืนหยัดอย่างมั่นคงเขาไม่ได้ชักกระบี่แดงเพลิงคะนองออกมา จนกระทั่งการโจมตีของอาวุโสสองมาถึงตรงหน้าเขา
เพลิงจันทร์เงิน
!
เพื่อที่จะฆ่าอาวุโสสองในคราเดียวฉิงเฟิงใช้กระบวนท่าที่แข็งแกร่งที่สุดของเคล็ดวิชากระบี่แดงเพลิงคะนองและถ่ายเทลมปราณสู่ตัวกระบี่
กระบี่สีแดงที่เต็มไปด้วยเปลวเพลิงลุกโชนแปรเปลี่ยนเป็นดวงจันทร์สีเงินขนาดมโหฬารที่สว่างไสวและฟาดตรงเข้าใส่อาวุโสสองด้วยกลิ่นอายที่รุนแรง
ใบหน้าของอาวุโสสองซีดเผือดในทันทีเมื่อเขาสัมผัสได้ถึงลมปราณอันแข็งแกร่งที่อัดแน่นอยู่ในตัวกระบี่ของฉิงเฟิงเขาต้องการจะถอยหนีแต่ก็ไม่ทันการแล้ว ด้วยระยะห่างที่ใกล้กันเพียงนี้ เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะล่าถอย ฉัวะ
!!
ศีรษะของอาวุโสสองถูกฟันขาดสะบั้นด้วยกระบี่ของฉิงเฟิงดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความสยดสยองและไม่อยากเชื่อ
เพียงหนึ่งกระบี่กลับสามารถตัดศีรษะของแกรนด์มาสเตอร์ขั้นปลายได้! ทุกคนต่างตกตะลึงไปด้วยความกลัว
บ้าชัดๆหลี่ฉิงเฟิงคนนี้เหนือความเข้าใจไปแล้ว เขาแข็งแกร่งขนาดนี้ได้อย่างไร
ใช่เขาเพิ่งจะฆ่าครึ่งก้าวแกรนด์มาสเตอร์ไปเมื่อไม่นานมานี้เองแท้ๆ ตอนนี้เขาแกร่งขึ้นจนสามารถฆ่าแกรนด์มาสเตอร์ขั้นปลายได้แล้ว !
เจ้าเห็นไหมว่าวิชากระบี่ของเขาทรงพลังแค่ไหน ข้าคิดว่าอย่างน้อยย่อมเป็นเคล็ดวิชาระดับแกรนด์มาสเตอร์ขั้นสูงสุด
ผู้คนในฝูงชนต่างก็คุยกันเรื่องการต่อสู้ที่เกิดขึ้นในชั่วพริบตาพวกเขาจ้องมองไปที่ฉิงเฟิงด้วยความไม่เชื่อ
ทุกคนที่นี่ต่างก็เป็นผู้ฝึกยุทธ์ที่มากความสามารถจากทุกกลุ่มในยุทธภพมันเป็นเรื่องยากสำหรับพวกเขาที่จะกล่าวชื่นชมผู้ใดผู้หนึ่ง แต่หลี่ฉิงเฟิงเป็นคนแรกที่ทำให้พวกเขายอมรับได้ เป็นเพราะว่าไม่เคยมีผู้ใดพิชิตแกรนด์มาสเตอร์ขั้นปลายได้ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว
การฆ่าอาวุโสสองในกระบี่เดียวทำให้ฉิงเฟิงรู้สึกสิ้นเปลืองลมปราณไปไม่น้อยแต่เพื่อที่จะจบการต่อสู้ให้ไวที่สุด เขาจำเป็นต้องใช้การโจมตีที่รุนแรงที่สุดของเขา
อะ…อาวุโสสอง ! อาวุโสหนึ่งตะโกนออกมาด้วยความเสียใจเมื่อเขาเห็นอาวุโสสองเสียชีวิต
อาวุโสหนึ่งและอาวุโสสองสนิทกันมากพวกเขาเคยทำเรื่องชั่วร้ายด้วยกันมามากมายในอดีตรวมไปถึงการดูดเลือดสดๆของมนุษย์ด้วยกัน ในเมื่อตอนนี้เขาได้เห็นอาวุโสสองที่เป็นดั่งพี่น้องต้องถูกฆ่าก็ทำให้ในใจเขาเต็มไปด้วยความโกรธ
ดวงตาของอาวุโสหนึ่งเปลี่ยนเป็นสีแดงเลือดเข้าก้าวไปข้างหน้าเตรียมที่จะโจมตีฉิงเฟิง แต่ทันใดนั้นเองเซวี่ยอู่เต๋ากลับห้ามเขาไว้
ท่านจ้าวนิกายท่านห้ามข้าเพราะเหตุใด
เฮอะโง่เขลานัก ! เจ้าเองก็อยู่ในระดับเดียวกับอาวุโสสอง เจ้าอยากตายหรือไง
ท่านจ้าวนิกายแต่ยังไงข้าก็ต้องไป ข้าต้องล้างแค้นให้อาวุโสสอง
แน่นอนว่าพวกเราย่อมต้องทำแต่หลี่ฉิงเฟิงแข็งแกร่งมาก พวกเราต้องลงมือพร้อมกัน เซวี่ยอู่เต๋ากล่าวอย่างมืดมน
ในฐานะที่เป็นจ้าวนิกายโลหิตสีชาดและแกรนด์มาสเตอร์ขั้นสูงสุดเซวี่ยอู่เต๋านั้นหยิ่งผยองอวดดีมาก ยามที่เขาจะฆ่าใครสักคนเขามักจะลงมือเพียงผู้เดียว ไม่เคยร่วมมือกับใคร
แต่ในวันนี้เมื่อได้เห็นว่าหลี่ฉิงเฟิงแกร่งเพียงใดเซวี่ยอู่เต๋าก็ตกตะลึงอย่างมาก เขายอมรับว่าชายหนุ่มคนนี้สมแล้วที่ได้รับการขนานนามว่าไร้เทียมทานในขอบเขตเดียวกัน ดังนั้นการที่จะฆ่าชายหนุ่มคนนี้เขาจะต้องร่วมมือกับอาวุโสหนึ่งเท่านั้น
ฝูงชนรู้สึกประหลาดใจเมื่อได้ยินสิ่งที่เซวี่ยอู่เต๋ากล่าวเขาขอความร่วมมือจากอาวุโสหนึ่งเพื่อกรุ้มรุมชายหนุ่มรุ่นเยาว์เพียงคนเดียว นี่คือสุดยอดซาตาน เซวี่ยอู่เต๋าเชียวนะ !
เมื่อได้คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้การที่มีสุดยอดซาตานแห่งนิกายนอกรีตต้องยอมลดตัวลงมาขอความร่วมมือจากผู้อื่นเพื่อฆ่าหลี่ฉิงเฟิง หลี่ฉิงเฟิงควรจะภูมิใจแล้ว