หลี่ฉิงเฟิงจบสิ้นแล้ว! สามแกรนด์มาสเตอร์กำลังจู่โจมเขาพร้อมกัน เขาตายแน่ !
เจ้ากล่าวไม่ผิดพวกเขาทุกคนล้วนแต่เป็นหนึ่งใน 81 แกรนด์มาสเตอร์สายดั้งเดิมที่แข็งแกร่ง และเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงในยุทธภพ
เช่นนี้…หลี่ฉิงเฟิงทำได้เพียงแค่โทษตัวเองที่เย่อหยิ่งอวดดีเกินไป
ท่านคิดว่าหลี่ฉิงเฟิงจะถูกสังหารแบบใดกัน หมัดเดียวสิ้นหรือว่าถูกกระบี่ศีรษะขาดสะบั้น ?
ผู้คนรอบข้างมีหลายคนที่ไม่ได้เป็นแค่คนธรรมดาพวกเขาเป็นผู้ฝึกยุทธ์โบราณและพวกเขาทั้งหมดต่างมองฉิงเฟิงอย่างเย้ยหยัน
ใบหน้าที่งดงามของหลินเสวี่ยเต็มไปด้วยความกังวลเมื่อเธอได้ยินการสนทนาของผู้คนรอบข้างเธอเกือบจะวิ่งเข้าไปในวงแต่เธอกลับถูกลั่วหนี่ชิงขวางไว้
ลั่วหนี่ชิงเตือนสติหลินเสวี่ยและบอกว่าเธอเป็นแค่คนธรรมดาหากเข้าไปกลางวงจะเป็นภาระของฉิงเฟิงเสียเปล่าๆ
เมื่อได้ยินเช่นนั้นถึงแม้ว่าหลินเสวี่ยจะเป็นห่วงแต่ก็ไม่มีอะไรที่เธอทำได้ เธอทำได้เพียงทอดสายตามองการต่อสู้ที่ดุเดือดได้จากระยะไกลเท่านั้น
ความจริงแล้วลั่วหนี่ชิงและฉินเซียนจื่อก็ร้อนรนไม่น้อยไปกว่าหลินเสวี่ยพวกเธอทั้งคู่ติดต่อตระกูลเพื่อขอความช่วยเหลือ แต่ทำไมพวกเขาถึงยังไม่มาอีก
ลั่วหนี่ชิงและฉินเซียนจื่อไม่รู้เลยว่าลั่วอี้ซานและอาวุโสฉินกำลังถูกขัดขวางการมาที่นี่เพื่อสังหารฉิงเฟิง กู่เจิ้นเทียนได้เริ่มวางแผนมานานแล้ว และได้สมรู้ร่วมคิดอย่างลับๆกับผู้อาวุโสหนึ่งของตระกูลลั่วและเฮลคิงจากตำหนักโกสคิง ฉิงเฟิงไม่กล้าประมาทเมื่อเขาสัมผัสได้ถึงพลังอันน่าสะพรึงกลัวจากกระบี่ยาวของกู่เจิ้นเทียนในฐานะผู้นำของตระกูลกู่ กู่เจิ้นเทียนมีชัยเหนือผู้ฝึกยุทธ์ที่แข็งแกร่งมามากมายนับไม่ถ้วน
วูบ!
กระบี่เพลิงคะนองของฉิงเฟิงเจาะทะลุอากาศและเปล่งประกายแสงสีแดงคมกระบี่กระพริบฟาดฟันผ่านอากาศและมุ่งหน้าเข้าหากระบี่ยาวของกู่เจิ้นเทียน
ตูม!
กระบี่ยาวทั้งสองเล่มปะทะกันเสียงดังคลื่นพลังงานกระจายไปสู่พื้นที่โดยรอบและล้มโต๊ะเก้าอี้ทั้งหมดแตกกระจายเป็นเสี่ยงๆ
ถึงแม้ว่ากระบี่เพลิงคะนองของฉิงเฟิงจะเป็นอุปกรณ์จิตวิญญาณแต่พลังวิญญาณทั้งหมดภายในกระบี่นั้นถูกใช้ออกโดยจักรพรรดิราตรีเท่านั้น ตราผนึกทั้งสามยังคงไม่เสื่อมสลาย ดังนั้นมันจึงยังนับเป็นแค่เพียงอาวุธระดับแกรนด์มาสเตอร์อยู่เช่นเดิม ยามที่ตราผนึกบนกระบี่ถูกปลดปล่อยมันจะกลายเป็นอาวุธจิตวิญญาณ ยิ่งผนึกถูกปลดมากเท่าใด กระบี่ก็จะทรงอานุภาพมากขึ้นเท่านั้น
ในขณะนี้พลังโจมตีของกระบี่เพลิงคะนองเท่าเทียมกับกระบี่ยาวของกู่เจิ้นเทียนดังนั้นพวกเขาทั้งคู่ต่างไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บจากการปะทะกันในยกแรก
ในระหว่างที่ฉิงเฟิงกับกู่เจิ้นเทียนกำลังประมือกันจ้าวนิกายเจ็ดล้ำลึก, ซวนเทียนจือก็ปล่อยเขตแดนพายุของเขาออกมา
โดมแสงครอบคลุมพื้นที่โดยรอบร่วมร้อยฟุตภายใต้โดม สายลมสีขาวที่เกรี้ยวกราดก็พุ่งเข้าใส่ฉิงเฟิง
สายลมดาบที่ทรงพลังผ่าอากาศจนเฟอร์นิเจอร์ทั้งหมดภายในหนึ่งร้อยฟุตถูกผ่าทำลายกลายเป็นชิ้นบางๆ
บ้าชิบนี่มันเขตแดนพายุนี่นา ฉิงเฟิงพึมพัมในขณะที่ดวงตาของเขาส่องแสงเย็นเยียบ ดูเหมือนว่าจ้าวนิกายเจ็ดล้ำลึกผู้นี้ได้สืบเรื่องเขาอย่างละเอียดเพื่อแก้แค้น
เขตแดนโจมตีของฉิงเฟิงคือเขตแดนเพลิงพินาศบริเวณโดยรอบจะถูกปกคลุมไปด้วยเปลวไฟเมื่อเขตแดนถูกใช้ออก อย่างไรก็ตาม ศัตรูโดยธรรมชาติของไฟก็คือลม ลมสามารถทำให้ไฟเผาไหม้กินวงกว้างได้มากขึ้น แต่ก็ดับมันได้เช่นกัน
ฉิงเฟิงรู้ว่าเขาไม่สามารถใช้เขตแดนเพลิงพินาศออกมาได้เนื่องจากเขตแดนพายุของซวนเทียนจือกำลังสะกดข่มไว้อยู่
หลี่ฉิงเฟิงวันนี้เจ้าไม่รอดแน่ เขตแดนพายุของข้าจะเฉือนร่างเจ้าเป็นล้านๆชิ้น !
ซวนเทียนจือกล่าวพร้อมกับยิ้มอย่างเย็นชา
กู่เจิ้นเทียนและถังเจียงเฮอยิ้มอย่างเย็นชาพวกเขาเคยสู้กับฉิงเฟิงมาก่อนและรู้ถึงพลังของเขตแดนเพลิงพินาศของฉิงเฟิงเป็นอย่างดี ดังนั้นพวกเขาจึงเชิญซวนเทียนจือมาร่วมมือในวันนี้เพราะเขตแดนของเขาสามารถยับยั้งเขตแดนของฉิงเฟิงได้
ต้องพูดว่ากู่เจิ้นเทียนใช้ทุกอย่างที่มีเพื่อฆ่าฉิงเฟิงเขาคิดคำนวณการโจมตีของฉิงเฟิงรวมไปถึงมิตรสหายที่เขามีอีกด้วย
ซวนเทียนจือแกคิดว่าด้วยเขตแดนพายุของแกจะยับยั้งทุกอย่างของฉันได้งั้นหรือ ตลกเกินไปแล้ว ฉิงเฟิงกล่าวเยาะเย้ย
ถูกต้องแล้วที่เขตแดนพายุนั้นแข็งแกร่งและสามารถยับยั้งเขตแดนเพลิงพินาศได้อย่างไรก็ตามฉิงเฟิงไม่ได้มีเพียงแค่เขตแดนเพลิงพินาศ แต่ตอนนี้เขามีไพ่ในมือเพิ่ม
เขตแดนแรงโน้มถ่วง
!
ฉิงเฟิงกล่าวขณะที่เขาปล่อยเขตแดนแรงโน้มถ่วงออกมา
รัศมีรอบร้อยฟุตถูกล้อมรอบไปด้วยโดมพลังงานสีดำพลังงานภายในโดมนั้นคือแรงดึงดูดที่มากกว่าปกติถึง 5 เท่า ถึงแม้ว่าเขตแดนพายุจะทรงพลังแต่เขตแดนแรงโน้มถ่วงนั้นแข็งแกร่งกว่า แรงโน้มถ่วงดึงดูดเงาดาบสายลมของเขตแดนพายุลงสู่พื้นจนไม่เหลือสิ่งใดโจมตีใส่ฉิงเฟิง
นิ…นี่มัน
เขตแดนแรงโน้มถ่วง
ซวนเทียนจือตกตะลึงเขตแดนแรงโน้มถ่วงคือดาวข่มของเขตแดนพายุ เขาจะไม่ตกใจอย่างไร
ซวนเทียนจือหันขวับไปมองกู่เจิ้นเทียนด้วยความโกรธในสายตาของเขาเขากล่าวว่า ท่านบอกว่าหลี่ฉิงเฟิงเป็นผู้ใช้เขตแดนเพลิงเท่านั้น แล้วมันใช้เขตแดนแรงโน้มถ่วงได้อย่างไร !
กู่เจิ้นเทียนโกรธต่อการขึ้นเสียงตั้งคำถามของซวนเทียนจือแต่เขาก็ไม่กล้าปลดปล่อยความโกรธออกมาเพราะกล่าวมาทั้งหมด เขาเป็นฝ่ายเชื้อเชิญซวนเทียนจือเข้าร่วมการต่อสู้เอง ซวนเทียนจือเขตแดนแรงโน้มถ่วงเป็นเขตแดนในครอบครองของจ้าวนิกายหมัดเหล็กเตี๋ยจงเทียน หลี่ฉิงเฟิงต้องได้มันมาหลังจากฆ่าเขา กู่เจิ้นเทียนอธิบายขณะที่เขาขมวดคิ้ว
ซวนเทียนจือรู้สึกสงสัยเล็กน้อยหลังจากได้ฟังคำอธิบายของกู่เจิ้นเทียนเขารู้อยู่แล้วว่าเตี๋ยจงเทียนครอบครองเขตแดนแรงโน้มถ่วง แต่ถึงแม้ว่าหลี่ฉิงเฟิงจะได้เคล็ดวิชาเขตแดนนี้มา เขาฝึกฝนมันได้อย่างไร
แม้เขาที่เป็นจ้าวนิกายเจ็ดล้ำลึกก็มีเพียงแค่เขตแดนเดียวซึ่งก็คือเขตแดนพายุเท่านั้นรวมไปถึงแกรนด์มาสเตอร์คนอื่นๆก็เพียงครอบครองได้แค่เขตแดนเดียวเช่นกัน แล้วชายหนุ่มผู้นี้ครอบครองสองเขตแดนได้อย่างไร
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นซวนเทียนจือรู้สึกขุ่นแค้นมากที่เขตแดนพายุอันทรงพลังของเขาต้องถูกสะกดข่มด้วยเขตแดนแรงโน้มถ่วงของฉิงเฟิง ทุกอย่างมันผิดแผนไปหมดสิ้น
เขตแดนวารีกระจ่าง
!
ถังเจียงเฮอคำรามและปลดปล่อยเขตแดนของเขาออกมาเมื่อเห็นว่าเขตแดนพายุของซวนเทียนจือถูกสะกดไว้
ถังเจียงเฮอเป็นผู้นำตระกูลถังพลังเขตแดนของเขาก็คือเขตแดนวารีกระจ่าง เขาสามารถสร้างน้ำตกขนาดใหญ่ขึ้นได้ในรัศมีร้อยฟุต
น้ำตกที่ก่อเกิดขึ้นจากอนุภาคน้ำมีพลังมหาศาลมันมีพลังมหาศาลที่จะบดขยี้ร่างกายคนผู้หนึ่งให้แหลกเป็นเสี่ยงๆได้
เขตแดนเพลิงพินาศ
!
ฉิงเฟิงปล่อยเขตแดนเพลิงของเขาอย่างรวดเร็วเมื่อเขาเห็นน้ำตกขนาดมหึมาจากเขตแดนวารีกระจ่างของถังเจียงเฮอ
โดมขนาดมหึมาที่กำลังลุกเป็นไฟปรากฏอยู่ด้านหลังเขาและลมปราณเพลิงที่ร้อนระอุก็กำลังเผาไหม้อยู่ภายในนั้น
แกร๊ก~
เขตแดนเพลิงพินาศและเขตแดนวารีกระจ่างปะทะกันพร้อมกับเสียงแกร๊กดังสนั่น!
น้ำกับไฟเป็นศัตรูกันตามธรรมชาติเปลวไฟให้ความร้อนกับน้ำและทำให้น้ำระเหยไปในอากาศ
ฉิงเฟิงต่อสู้เพียงลำพังกับแกรนด์มาสเตอร์ระดับจ้าวนิกายถึงสามคนเขาใช้เขตแดนแรงโน้มถ่วงสะกดเขตแดนพายุของซวนเทียนจือ และใช้เขตแดนเพลิงพินาศหลอมละลายเขตแดนวารีกระจ่างของถังเจียงเฮอ