!
เซวี่ยอู่เต๋าถึงเวลาตายของแกแล้ว ฉิงเฟิงยิ้มอย่างเยือกเย็นและมืดมนในขณะที่ก้าวเท่าเข้าหาเขา จิตสังหารเพิ่มขึ้นทุกฝีก้าวของเขาจนกระทั่งในที่สุดมันก็รวมตัวเป็นควันดำจำนวนมาก
ครั้งหนึ่งในอดีตลู่ซวนจี๋เคยบอกฉิงเฟิงให้ลดการฆ่าฟันให้น้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพราะจิตสังหารที่ยิ่งกร้าวแกร่งจะยิ่งเป็นอันตรายต่อร่างกาย ที่จริงแล้วมันสร้างความเสียหายให้กับร่างกายของเขา แต่เหตุผลที่มันไม่ได้ปะทุออกมาชั่วคราวก็เป็นเพราะมันถูกสะกดข่มไว้โดยเส้นโลหิตของเขา
มาถึงตอนนี้เซวี่ยอู่เต๋าได้ใช้กลยุทธ์ทั้งหมดของเขาหมดแล้ว ร่างกายของเขาก็ยังได้รับบาดเจ็บสาหัสอีกด้วย ถึงแม้ว่าเขาจะใช้เคล็ดวิชาในการโจมตี เขาก็ไม่เหลือพลังเพียงพอ
ทันใดนั้นเองรูม่านตาของเซวี่ยอู่เต๋าก็หดเล็กลงแววตาเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก เขารู้สึกได้ถึงลมหายใจแห่งความตายที่รดต้นคอของเขา อีกทั้งจิตสังหารรุนแรงของฉิงเฟิงก็ทำให้เขารู้สึกหวาดกลัว
หนีข้าต้องหนี
ข้าจะตายที่นี่ไม่ได้
!
แสงที่เย็นชาส่องผ่านดวงตาของเขา
แผดเผาแก่นแท้โลหิต,อสูรโลหิตหลีกหนี ! เซวี่ยอู่เต๋าตะโกนออกมาด้วยความโกรธ เขาเผาผลาญแก่นแท้โลหิตของเขาก่อนที่จะหันหลังไปและหลบหนีด้วยความเร็วสูงราวกับสายฟ้า
ส่วนที่สำคัญที่สุดของร่างกายมนุษย์ก็คือแก่นแท้โลหิตและมันมีอยู่น้อยยิ่งกว่าน้อยการใช้มันแม้เพียงหยดเดียวก็ก่อให้เกิดความเสียหายต่อร่างกายได้แล้ว อีกทั้งการเผาผลาญแก่นโลหิตโดยตรงเช่นนี้ของเซวี่ยอู่เต๋าก็จะทำให้เกิดความเสียหายรุนแรงต่อร่างกาย ถ้าเขาไม่ได้อยู่ในสถานการณ์เป็นตายเซวี่ยอู่เต๋าจะไม่มีทางผลาญแก่นโลหิตโดยเด็ดขาดเพราะเขารู้ว่าเมื่อทำเช่นนั้นแล้วความแข็งแกร่งของเขาก็จะลดลงจากแกรนด์มาสเตอร์ขั้นสูงสุดไปอยู่ที่ขั้นต้น
ถึงแม้ว่าขอบเขตพลังของเขาจะลดลงมากแต่เพื่อความอยู่รอดเซวี่ยอู่เต๋าจำต้องทำเพราะหลี่ฉิงเฟิงแข็งแกร่งจนน่ากลัวเกินไปความเร็วของเขาหลังจากเผาแก่นโลหิตนั้นเร็วมากราวกับสายฟ้าสายฟ้าสีแดง เขาสามารถบินได้ไกลกว่าสิบเมตรภายในเวลาวินาทีเดียว
วูบ~
ฉิงเฟิงเคลื่อนไหวเช่นกันและความเร็วของเขานั้นเร็วกว่าเขาแปรเปลี่ยนเป็นภาพลวงตาและพุ่งตามเซวี่ยอู่เต๋าไปทันที
ตั้งแต่ที่สายเลือดของเขาพัฒนาไปสู่ระดับที่สองความเร็วของฉิงเฟิงก็เพิ่มมากขึ้นเป็นสองเท่าจากเมื่อก่อน
ถ้าเป็นเมื่อก่อนไม่มีทางที่ฉิงเฟิงจะตามติดเซวี่ยอู่เต๋าที่เผาแก่นโลหิตทันแต่ตอนนี้มันง่ายมากที่จะตามเขาทัน
บ้าอะไรเช่นนี้
มันตามข้าทัน
!
เมื่อเห็นฉิงเฟิงอยู่เบื้องหลังไม่ไกลใบหน้าของเซวี่ยอู่เต๋าก็ซีดเผือดลง ความเร็วของฉิงเฟิงนั้นเร็วเกินไป มันเร็วกว่าตัวเขาที่เผาแก่นโลหิตเสียด้วยซ้ำ
ในขณะนี้ทั่วร่างทั้งหมดของเซวี่ยอู่เต๋ากำลังสั่นเทาไปด้วยความหวาดผวาเขากลัวมาก ความแข็งแกร่งของฉิงเฟิงแข็งแกร่งเกินจินตนาการของเขา
กระบี่เพลิงคะนองในมือของฉิงเฟิงพุ่งปาดออกไปเหมือนอุกกาบาตมันเข้าหาคอของเซวี่ยอู่เต๋าในพริบตา
ฉัวะ! ~ เซวี่ยอู่เต๋ากำลังอยู่บนอากาศเมื่อหัวของเขาถูกแยกออกจากร่างกายในขณะที่บินอยู่บนท้องฟ้าเลือดฉีดพุ่งไปทั่วจนกระเซ็นไปถึงผู้ชมใกล้เคียง แต่ไม่มีใครกล้าพูดอะไรออกมา ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความสยดสยอง
ริมฝีปากของเซวี่ยอู่เต๋าขยับเหมือนต้องการพูดอะไรบางอย่างแต่ในที่สุดก็พูดไม่ออก ดวงตาสีแดงเลือดของเขาจ้องไปที่ฉิงเฟิงด้วยความเกลียดชังและค่อยๆสูญเสียสัญญาณแห่งชีวิตไป
สุดยอดซาตานนอกรีตเซวี่ยอู่เต๋า,จ้าวนิกายโลหิตสีชาด ตายแล้ว
การตายของเซวี่ยอู่เต๋ายังเป็นการประกาศถึงการล่มสลายของนิกายโลหิตสีชาด,หนึ่งในนิกายนอกรีตที่ทรงอำนาจที่สุดในยุทธภพ
ความเงียบ
เงียบจนเข็มตกก็ยังได้ยิน ทั่วทั้งภูเขาLone จมลงสู่ความเงียบ ปากของทุกคนเปิดกว้างจนสามารถยัดไข่เป็ดเข้าไปได้ ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก เซวี่ยอู่เต๋าตายแล้ว ! เขาถูกผู้ฝึกยุทธ์รุ่นเยาว์อย่างหลี่ฉิงเฟิงสังหาร ข่าวนี้น่าตกใจและน่ากลัวเกินไป
หลี่ฉิงเฟิงผู้นี้แข็งแกร่งขนาดไหนกัน! เขาสามารถฆ่าเซวี่ยอู่เต๋าได้ก็หมายความว่าเขาสามารถฆ่าแกรนด์มาสเตอร์ทุกรูปนามได้ใช่หรือไม่
ภูเขาLone ไม่เคยเงียบสงัดเช่นนี้มาก่อน คุณสามารถได้ยินแม้แต่เสียงเข็มตกพื้น แม้แต่นกบนต้นไม้ก็ยังหวาดกลัวและตัวสั่นจากความแข็งแกร่งอันยิ่งใหญ่ของฉิงเฟิงจนไม่กล้าส่งเสียงใดๆ
ส่วนคนของสมาพันธ์ฉิงเฟิงต่างมองไปที่ฉิงเฟิงราวกับกำลังมองเทพเจ้า
ท่านปู่หลี่ไร้เทียมทานท่านปู่หลี่ไร้เทียมทาน … ไม่รู้ว่าสมาชิกคนใดที่ส่งเสียงตะโกนออกมาก่อน แต่สมาชิกของสมาพันธ์ฉิงเฟิงทุกคนต่างก็คุกเข่าลงต่อหน้าฉิงเฟิงและตะโกนออกมา
ฉิงเฟิงยืนอยู่ตรงกลางร่างกายของเขาเปล่งแสงสีน้ำเงินที่แพรวพราวออกมาจับสายตาของทุกคน
หลังจากการต่อสู้ครั้งนี้หลี่ฉิงเฟิงจะเข้าครอบงำโลกแห่งผู้ฝึกยุทธ์และไม่ใครกล้าที่จะดูถูกเขา
เรื่องนี้ถูกต้องอย่างยิ่งข้าต้องรีบกลับไปที่ตระกูลและบอกพวกเขาให้เป็นมิตรกับชายหนุ่มคนนี้และไม่ไปยุแหย่เขา
ใช่แล้วอัจฉริยะวัยหนุ่มที่ไร้คู่เปรียบเช่นนี้ร้อยปีจะมีสักคน ภายภาคหน้าเขาต้องรวบรวมเหล่าผู้ฝึกยุทธ์ให้เป็นหนึ่งเดียวกันได้อย่างแน่นอน
เรื่องนี้เป็นไปไม่ได้หรอกโลกแห่งผู้ฝึกยุทธ์เป็นหนึ่งเดียวได้ด้วยน้ำมือของจักรพรรดิราตรีเมื่อหนึ่งร้อยปีก่อนเพียงครั้งเดียวเท่านั้น หลังจากนั้นจู่ๆจักรพรรดิราตรีก็หายสาบสูญไป ยุทธภพก็เริ่มแบ่งแยกกันอีกครั้ง ข้าแค่พูดว่าอาจจะเป็นไปได้มันก็ไม่แน่เสมอไป
เหล่าผู้ฝึกยุทธ์โดยรอบต่างก็มาจากสำนักนิกายที่ทรงพลังพวกเขามีความรอบรู้อย่างมากโดยเฉพาะความลับมากมายของโลกใบนี้
มีหลายคนให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อฉิงเฟิงแม้แต่เอาไปเปรียบเทียบตัวเขากับจักรพรรดิราตรี !
จักรพรรดิราตรีคือยอดฝีมือไร้เทียมทานเมื่อ100 ปีก่อน เขาเข้าสู่ขอบเขตแห่งแกรนด์มาสเตอร์ตอนอายุ 20 ปี เขาคว่ำแกรนด์มาสเตอร์ทุกคนทั่วโลกและไร้เทียมทาน ไร้คู่ต่อกรในขอบเขตนี้มายาวนาน
จักรพรรดิราตรีเอาชนะผู้เชี่ยวชาญฝ่ายธรรมะทุกคน,อยู่เหนือยุทธภพฝ่ายธรรมะ เขารวบรวมยุทธภพเป็นหนึ่งเดียวเมื่อ 100 ปีก่อนและเป็นอันดับ 1 ในโลกหล้า
หลังจากนั้นน้องสาวของจักรพรรดิราตรีถูกสังหารอย่างโหดเหี้ยวโดยผู้ฝึกยุทธ์นอกรีตฝ่ายอธรรมจักรพรรดิราตรีพิโรธโกรธกริ้วจนบุกเดี่ยวเข้าสู่ดินแดนของพวกมัน เขาสัปประยุทธ์กับซาตานทั้ง 81 ตนเพียงลำพัง ในที่สุดเขาก็สังหารซาตานระดับแกรนด์มาสเตอร์ทั้ง 81 ตนได้หมดสิ้น นี่คือตำนานเมื่อ 100 ปีก่อน !
การต่อสู้ครั้งนั้นเป็นอะไรที่เหนือจินตนาการของมนุษย์อย่างเหลือเชื่อภูเขา แม่น้ำพังพินาศแม้กระทั่งเมืองใหญ่ยังหายอย่างสมบูรณ์ ผลที่ตามมาหลังจากการต่อสู้ในวันนั้นทำให้เราสามารถคาดเดาได้เลยว่าการต่อสู้ครั้งนั้นดุเดือดสะเทือนสวรรค์แค่ไหน
ในที่สุดซาตานนอกรีตทั้ง81 ก็ถูกจักรพรรดิราตรีสังหารสิ้นและจักรพรรดิราตรีก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย บางคนกล่าวว่าเขาสิ้นลมปราณและดับสูญไปพร้อมกับซาตานทั้ง 81 ตน แต่บางคนก็บอกว่าเขาทะลวงขั้นเข้าสู่ขอบเขตที่สูงยิ่งกว่าแกรนด์มาสเตอร์และไปดินแดนอื่นแล้ว กล่าวให้รวบรัดหลังจากการต่อสู้ครั้งใหญ่ในวันนั้น จักรพรรดิราตรีก็หายสาบสูญไป และยุทธภพก็ถูกแบ่งแยกอีกครั้งเพราะพื้นที่ยึดครองและผลประโยชน์ของตนเอง
ถึงแม้ว่าซาตานทั้ง81 ตนจะสูญสิ้นไปในการต่อสู้ แต่หน่ออ่อนยังคงเหลืออยู่ 100 ปีต่อมาหลังจากการสร้างใหม่ จิตวิญญาณชั่วร้ายก็ฟื้นคืนชีพ อัจฉริยะรุ่นเยาว์ในยุคนั้นบางคนก็กลายมาเป็น 81 ซาตานรุ่นใหม่
ฉิงเฟิงได้เข้าสู่โลกแห่งผู้ฝึกยุทธ์โบราณมาระยะหนึ่งแล้วเขาเคยได้ยินเรื่องราวบางอย่างเกี่ยวกับจักรพรรดิราตรี บุรุษผู้นั้นเป็นสุดยอดนักสู้ที่ไร้คู่เปรียบเมื่อกว่า 100 ปีก่อน พลังฝีมือและความสามารถของเขาเป็นที่ 1 ทั้งฝ่ายธรรมะและอธรรม วันนี้การที่มีคนเอาเขาไปเปรียบกับจักรพรรดิราตรีก็ทำให้เขาปลื้มไม่น้อย
อย่างไรก็ตามหลังจากตรึกตรองดูดีๆ ถ้าให้เขาไปสู้กับซาตานทั้ง 81 เพียงลำพังเฉกเช่นจักรพรรดิราตรี เขาจะเอาชนะได้หรือไม่ เห็นได้ชัดว่าไม่
แน่นอนความแข็งแกร่งของฉิงเฟิงในเวลานี้ยังไม่สามารถทำได้แต่หากให้เวลาเขาได้ฝึกฝนบ่มเพาะไปอีกสักระยะหนึ่งจนไปถึงจุดสูงสุดของขอบเขตแกรนด์มาสเตอร์ ตลอดจนพัฒนาพลังสายเลือดอย่างสมบูรณ์ เขาอาจจะสามารถทำได้เช่นเดียวกับจักรพรรดิราตรีในตำนาน
ถึงแม้ว่าจักรพรรดิราตรีจะเป็นอัจฉริยะเหนืออัจฉริยะที่ไร้คู่เปรียบแต่คนผู้นั้นก็ฝึกฝนวิทยายุทธ์มาตั้งแต่ยังเด็ก ส่วนฉิงเฟิงนั้นแตกต่างกับเขา เนื่องจากเขาเพิ่งเข้าสู่โลกแห่งการฝึกยุทธ์ได้ไม่นาน ก่อนหน้านี้เขายังเป็นแค่ราชันในโลกปุถุชน
หากมองในแง่ระยะเวลาที่ฝึกฝนวิทยายุทธ์จะเห็นได้ว่าหลี่ฉิงเฟิงมีความสามารถเหนือกว่าจักรพรรดิราตรีและความสำเร็จของเขาในอนาคตจะไร้ขีดจำกัด !
��
