My Cold and Elegant CEO Wife – ตอนที่ 834 การต่อสู้ที่เขย่าปฐพี

ตอนที่ 834 การต่อสู้ที่เขย่าปฐพี

  เมื่อต้องเผชิญกับการโจมตีจากสามยอดฝีมือในขอบเขตแกรนด์มาสเตอร์ผู้แข็งแกร่งสีหน้าของฉิงเฟิงก็ดูเคร่งขรึมมาก เขารู้ว่าเขาสามารถฆ่าคนเหล่านี้ได้หากเขาใช้พลังสายเลือด เพราะสายเลือดของเขาพัฒนาไปสู่ขั้นที่สองแล้ว

  อย่างไรก็ตามเขาไม่ต้องการใช้พลังสายเลือดในตอนนี้ก็ด้วยเหตุผลสองประการ หนึ่งคือเขาจะได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงหลังจากการเปิดใช้พลังสายเลือด และเหตุผลอีกข้อหนึ่งก็คือเขาต้องการที่จะใช้โอกาสนี้ในการฝึกฝนเคล็ดวิชาและศักยภาพในการต่อสู้

  

  เพลิงจันทร์เงิน

  !

  

  ฉิงเฟิงตะโกนออกมาด้วยความโกรธเกรี้ยวและใช้ออกด้วยกระบวนท่าที่สี่

  มันเป็นกระบวนท่าที่ทรงพลังที่สุดของวิชากระบี่แดงเพลิงคะนองเขาไม่ค่อยใช้มันบ่อยนักเมื่อเทียบกับกระบวนท่าอื่นๆเพราะมันผลาญพลังงานมากเกินไป อย่างไรก็ตามในตอนนี้เมื่อเขาต้องเผชิญหน้ากับการกลุ้มรุมจากสามแกรนด์มาสเตอร์ เขาก็ไม่มีทางเลือก

  ดวงจันทร์ขนาดยักษ์ปรากฏตัวขึ้นรอบๆฉิงเฟิงแน่นอนว่าดวงจันทร์เหล่าไม่ได้มีสีขาวแต่มันเป็นสีแดงเพลิง และพลังงานอันทรงพลังที่อยู่ในเปลวเพลิงก็ปัดป้องขัดขวางการโจมตีทั้งหมดจากคู่ต่อสู้ทั้งสามของเขา

  ตูม! ตูม ! ตูม ! ตูม !

  พลังของคนทั้งสี่ปะทะกันจนทำให้แม้แต่ท้องฟ้าก็มืดมนลงด้วยการปะทะของพวกเขาเสียงที่เกิดขึ้นสร้างแรงสั่นสะเทือนราวกับแผ่นดินไหวและทำให้หูอื้อจากเสียงระเบิดในอากาศ

  คลื่นพลังงานขนาดมหึมาแผ่ออกไปสู่ด้านนอกกินบริเวณกว้างกว่าก่อนหน้านี้ทิ้งรอยหลุมอุกกาบาตจำนวนนับไม่ถ้วนบนพื้นในทุกที่ที่

  นอกจากพื้นดินแล้วกำแพงรอบๆรวมไปถึงเพดานก็ยังเต็มไปด้วยรอยแตกร้าวราวกับว่าพวกมันกำลังอยู่ในเหตุการณ์แผ่นดินไหวคนที่ขลาดเขลาต่างมีสีหน้าซีดเผือดดุจกระษาและตัวสั่นเทาอย่างไม่อาจควบคุม

  ครืดดด!

  ฉิงเฟิงถอยไปหนึ่งก้าวซึ่งทำให้เกิดหลุมลึกประมาณครึ่งเมตร

  ในการปะทะคราวนี้ในที่สุดฉิงเฟิงก็ถูกกดดันจนต้องถอยหลังไปหนึ่งก้าว ด้วยการรวมพลังกันของแกรนด์มาสเตอร์ทั้งสามคน และคู่ต่อสู้ทั้งสามของเขานั้นก็ยังคงยืนอยู่กับที่อย่างมั่นคง

  แต่แกรนด์มาสเตอร์ทั้งสามคนดูไม่มีความสุขกับสิ่งนี้ตรงกันข้าม ใบหน้าของพวกเขามืดครึ้มลงด้วยความเคร่งขรึม

  ต้องรู้ก่อนว่าพวกเขาทุกคนคือแกรนด์มาสเตอร์ขั้นปลายด้วยระดับพลังและประสบการณ์ในการต่อสู้ที่สูงล้ำการรวมพลังของพวกเขาสามารถทำให้นิกายหนึ่งล่มสลายได้ แต่มันทำได้เพียงแค่กดดันให้ฉิงเฟิงถอยไปได้ก้าวเดียวเท่านั้น

  มันแสดงให้เห็นถึงพลังที่แข็งแกร่งของหลี่ฉิงเฟิงและความจริงที่ว่าหากวัดกันหนึ่งต่อหนึ่งไม่มีพวกเขาคนใดที่เป็นคู่ต่อสู้ของหลี่ฉิงเฟิงได้

  ท่านหัวหน้าตระกูลกู่ชายหนุ่มคนนี้เป็นปีศาจที่มากด้วยพรสวรรค์ วันนี้พวกเราต้องฆ่ามันให้ได้ มิฉะนั้นจะเป็นปัญหาตามมามากมายสำหรับพวกเราในอนาคต

  ซวนเทียนจือกล่าวอย่างมืดมนเจตนาฆ่าที่รุนแรงกระพริบผ่านดวงตาของเขา

  ท่านจ้าวนิกายซวนกล่าวถูกต้องด้วยพรสวรรค์อันมากล้นของมัน เป็นไปได้อย่างสูงว่าหลี่ฉิงเฟิงผู้นี้จะพิชิตทั่วทั้งยุทธภพได้ภายในเวลาไม่กี่ปี วันนี้พวกเราต้องฆ่ามัน

  กู่เจิ้นเทียนกล่าวเสริมพร้อมกับเจตนาฆ่าที่แผ่ซ่านไปทั่วใบหน้าของเขาครั้งก่อนเขาถูกอาวุโสฉินของตำหนักโห่วเย่อหวงตี้ขวางไว้ แต่คราวนี้จะไม่มีใครมาขัดขวางเขาในการฆ่าฉิงเฟิงอีกต่อไป

  เป็นที่ชัดเจนสำหรับพวกเขาว่าวันนี้เป็นโอกาสสุดท้ายและโอกาสที่ดีที่สุดในการฆ่าฉิงเฟิงหากวันนี้ฉิงเฟิงรอดไปได้ ในอนาคตก็เป็นไปไม่ได้อีกแล้วที่พวกเขาจะฆ่าฉิงเฟิงได้

  กู่เจิ้นเทียนรู้สึกประหลาดใจกับความสามารถของฉิงเฟิงเวลาผ่านไปเพียงไม่นานเท่านั้นนับจากวันที่พบกันที่ตำหนักโห่วเย่อหวงตี้ และฉิงเฟิงก็ก้าวหน้าไปจนถึงจุดที่สามารถรับมือกับแกรนด์มาสเตอร์ขั้นปลายได้ถึงสามคนพร้อมกัน เขาไม่อยากจินตนาการเลยว่าหากผ่านไปอีกเดือน ฉิงเฟิงจะกลายเป็นตัวตนที่ทรงพลังขนาดไหน

  เป็นเรื่องน่าเสียดายที่กู่เจิ้นเทียนไม่รู้ว่าฉิงเฟิงยังมีอาวุธลับที่สำคัญที่สุดอีกชิ้นหนึ่งนั่นก็คือพลังสายเลือด ซึ่งถ้าหากเขาใช้มันออกมา พวกเขาทั้งสามตายไปเนิ่นนานแล้ว  ตาย!

  ตาย!

  ตาย!

  ด้วยเจตนาฆ่าที่รุนแรงพวกเขาทั้งสามคนคำรามออกมาพร้อมกัน พวกเขาเหวี่ยงอาวุธในมือและใช้กระบวนท่าที่รุนแรงออกมา หมายจะฆ่าเขาในทันที

  ด้วยการแสดงออกที่เคร่งขรึมจริงจังฉิงเฟิงฟาดฟันกระบี่แดงเพลิงคะนองของเขาออกมาอย่างต่อเนื่อง ประกายกระบี่ที่ราวกับสายฟ้าพาดผ่านท้องฟ้าอย่างเกรี้ยวกราด

  เปรี้ยง

  !

  เปรี้ยง

  !

  เปรี้ยง

  !

  เปรี้ยง  !

  กระบี่แดงเพลิงคะนองเข้าปะทะหักหาญกับอาวุธระดับแกรนด์มาสเตอร์อีกสามชิ้นอย่างต่อเนื่องทำให้เกิดเสียงอึกทึกดังสนั่นผู้คนที่อยู่รอบข้างเริ่มใบหน้าซีดเผือดเมื่อถูกพลังตกค้างกระแทกถอยหลัง และบางคนที่อ่อนแอกว่าก็ทรุดตัวลงกับพื้นและหมดสติไป

  หลินเสวี่ยก็เช่นเดียวกันเธอเริ่มทนต่อแรงปะทะอันทรงพลังของพวกเขาไม่ได้ เธอหน้าซีดเผือดและกำลังจะหมดสติไป

  ในช่วงเวลาที่สำคัญนี้เองลั่วหนี่ชิงใช้ออกด้วยลมปราณสร้างเกราะป้องกันขึ้นมาและล้อมหลินเสวี่ยไว้ในนั้น

  มิสหลินเป็นอะไรไหมคะ  ลั่วหนี่ชิงถามหลินเสวี่ยหลังจากถ่ายลมปราณเข้าสู่ร่างกายของเธอ

  หลินเสวี่ยพยักหน้าและพูดว่าชั้นไม่เป็นไรแล้ว ขอบคุณมาก

  เมื่อเห็นสามีของเธอถูกล้อมกรอบไปด้วยยอดฝีมือระดับปรมาจารย์ถึงสามคนหลินเสวี่ยก็เป็นกังวลมาก

  ถึงแม้เธอจะรู้ว่าสามีของเธอต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่อันตรายหลายอย่างแต่เธอก็ไม่เคยรู้ถึงความรุนแรงในเหตุการณ์เหล่านั้นแม้แต่น้อยจนกระทั่งวันนี้ที่เธอได้เห็นด้วยตาของตัวเอง

  ตอนนี้เมื่อเห็นว่ายอดฝีมือที่มีอำนาจสะเทือนฟ้าสะเทือนดินเหล่านั้นล้วนแต่ต้องการชีวิตของเขาหลินเสวี่ยก็เริ่มเข้าใจถึงอันตรายมากมายที่เขาต้องเผชิญมาตลอด

  เธอรู้สึกผิดเล็กน้อยที่ไม่เข้าใจเขามาก่อนหน้านี้ฉิงเฟิงได้ขัดขวางการลอบสังหารนับครั้งไม่ถ้วนเพื่อเธอ และเธอก็ไม่เคยช่วยอะไรเขาได้เลย

  มิสลั่วคุณคิดว่าสามีชั้นจะเป็นอันตรายมั้ย  หลินเสวี่ยถามออกมาด้วยมือที่สั่นเทาที่กำลังกำหมัดไว้แน่น

  มิสหลินคุณไม่ต้องกังวล ราชันหมาป่าคือผู้ที่แข็งแกร่งที่สุด ลั่วหนี่ชิงปลอบโยนเธอด้วยรอยยิ้ม เธอสะกดข่มความกังวลของเธอเอาไว้

  แน่นอนว่าลั่วหนี่ชิงมีความเชื่อมั่นในตัวฉิงเฟิงเป็นอย่างมากแต่ตอนนี้เขากำลังเผชิญหน้ากับการรวมพลังของสุดยอดแกรนด์มาสเตอร์ถึงสามคน มันทำให้เธออดเป็นกังวลไม่ได้

  ลั่นหนี่ชิงหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาและโทรหาพ่อของเธออีกครั้งแต่ก็ยังไม่มีใครรับสาย เธอฉลาดพอที่จะคาดเดาได้ว่าพ่อของเธอจะต้องถูกใครบางคนขัดขวางจนไม่สามารถมาที่นี่ได้

  คุณหนูฉินคุณติดต่อคนของตำหนักได้ไหม  ลั่วหนี่ชิงถามพร้อมกับขมวดคิ้ว

  ฉินเซียนจื่อส่ายหัวและกล่าวว่าติดต่อใครไม่ได้เลย ถ้าข้าเดาไม่ผิด คนของข้าก็ย่อมถูกขวางไว้เช่นกัน

  พวกเธอแลกเปลี่ยนสายตาและเข้าใจกันได้อย่างรวดเร็วหลังจากเห็นความเคร่งขรึมในแววตาของกันและกันคู่แข่งทั้งสองนี้กำลังแชร์ความกังวลที่มีต่อฉิงเฟิง

  ดูเหมือนว่าฉิงเฟิงกำลังตกอยู่ในอันตรายร้ายแรงเห็นได้ชัดว่ากู่เจิ้นเทียนเจ้าเล่ห์กลิ้งกลอกนัก เขาให้คนไปขวางหัวหน้าตระกูลลั่วและคนของตำหนักโห่วเย่อหวงตี้

  ตอนนี้ฉิงเฟิงทำได้เพียงพึ่งพาตัวเองในการต่อสู้กับแกรนด์มาสเตอร์ทั้งสามคนนี้เท่านั้น

  ในตอนแรกฉิงเฟิงสามารถรับมือกับพวกเขาได้อย่างสบายแต่พอเวลาผ่านไป พลังลมปราณของเขาก็ถูกใช้ออกอย่างรวดเร็วเพราะเขาต้องใช้พลังที่มากพอในการรับมือการโจมตีที่ดุดันของพวกเขาแต่ละคน ในขณะที่คู่ต่อสู้ของเขาสูญเสียลมปราณไปไม่มากนักในหนึ่งการปะทะ สถานการณ์เริ่มไม่สู้ดีนักสำหรับฉิงเฟิง

  ไอ้เด็กเหลือขอในกระบี่เพลิงคะนองเล่มนี้มีผนึกอยู่ 3 ชั้น ยามที่ผนึกถูกทำลาย กระบี่จะกลายเป็นอุปกรณ์จิตวิญญาณและจะแกร่งขึ้นตามระดับของผนึกที่ทำลายไป   ทันใดนั้นเองในช่วงเวลาคับขัน เสียงของจักรพรรดิราตรีก็ดังขึ้นในหัวของฉิงเฟิง

 

My Cold and Elegant CEO Wife

My Cold and Elegant CEO Wife

เรื่องย่อ : เรื่องราวของหลี่ฉิงเฟิง ราชันหมาป่าแห่งทวีปแอฟริกา สุดยอดนักสู้ผู้อยากล้างมือจากวงการมาเฟียมาใช้ชีวิตเป็นหนุ่มออฟฟิศอย่างสงบสุขและทำตามความตั้งใจของปู่ที่เคารพโดยการแต่งงานกับหลินเสวี่ย สาวงามอันดับหนึ่งแห่งเมืองทะเลตะวันออก แต่เขาก็ไม่อาจควบคุมชะตาชีวิตของตนเองได้ สุดท้ายเขาต้องผจญเรื่องราวการฆ่าฟันจากบรรดาศัตรูเก่าใหม่ ตลอดจนมีสัมพันธ์รักกับหญิงสาวอีกมากมายที่ผ่านเข้ามา มาร่วมติดตามเส้นทางชีวิตของหลี่ฉิงเฟิงว่าสุดท้ายเขาจะเป็นผู้ยิ่งใหญ่ในโลกหล้าขนาดไหน !

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท