สมาชิกของทีมเขี้ยวหมาป่าต่างประสบความสำเร็จในการเลื่อนระดับสู่ขั้นเหนือสวรรค์หลังจากกินโอสถที่ฉิงเฟิงมอบให้ซึ่งทำให้เขามีความสุขมาก เขารู้ว่าทีมเขี้ยวหมาป่าเสมือนเป็นไม้ตายของเขาและสามารถสร้างความได้เปรียบอย่างมหาศาลให้กับเขาเมื่อถึงคราวที่ต้องปะทะกับกองกำลังผู้ฝึกยุทธ์
ฉิงเฟิงมอบวิชากระบี่ตระกูลกู่ซึ่งเขาได้มาจากการฆ่ากู่เจิ้นเทียนให้แก่ลู่ซวนจี๋มันเป็นวิชาระดับแกรนด์มาสเตอร์ และมีความสามารถสูงกว่าวิชาดาบที่ได้จากโยชิจิโร่
ฉิงเฟิงมอบวิชาอีกสองเล่มให้แก่เจ้าโล้นและเทพมรณะด้วยเช่นกัน
เขาพูดคุยกับสมาชิกเกี่ยวกับการตัดผ่านไปสู่ขอบเขตแกรนด์มาสเตอร์อีกเล็กน้อยจากนั้นก็ยืนขึ้นและกล่าวลา
เมื่อกลับมาถึงบ้านฉิงเฟิงก็ได้พบกันแขกไม่ได้รับเชิญเขาใส่ชุดเหมือนตำรวจ แต่ก็แตกต่างจากชุดเครื่องแบบเล็กน้อย
ชายคนนี้มีลักษณะที่ดูเฉียบคมคิ้วเข้มตาโต ผิวสีแทนและหลังตั้งตรง เขามีออร่าที่เข้มแข็งเปล่งประกายออกมาจากร่างกายของเขา
มีสาวสวยอีกคนที่มีผิวขาวนวลกำลังนั่งอยู่ข้างๆชายวัยกลางคนเธอคือเย่หงตี้นั่นเอง
หลินเสวี่ยกำลังนั่งอยู่บนโซฟาเธอเสิร์ฟชาให้ชายคนนั้นและเย่หงตี้
เธอยืนขึ้นและยิ้มออกมาเมื่อเห็นฉิงเฟิงกลับมาถึง ที่รัก พวกเขากำลังรอพบคุณอยู่
ฉิงเฟิงพยักหน้าขณะที่เขาเดินเข้ามาเขามองเย่หงตี้จากนั้นก็หันไปมองชายวัยกลางคน
เขาสังเกตเห็นว่าชายวัยกลางคนผู้นี้เป็นถึงแกรนด์มาสเตอร์ขั้นสูงสุดจากกลิ่นอายที่เขาปลดปล่อยออกมา
เขารู้สึกถึงบรรยากาศที่ผิดปกติเมื่อได้มาเห็นแกรนด์มาสเตอร์ระดับสูงสุดมาพร้อมกับเย่หงตี้
วูฟคิงดิฉันขอแนะนำให้ท่านรู้จัก ท่านผู้นี้คือจางหยวนเล่ยจากหน่วยรักษาความปลอดภัยพิเศษหัวเซี่ย
หน่วยรักษาความปลอดภัยพิเศษ
ฉิงเฟิงขมวดคิ้วในชื่อองค์กรที่เขาได้ยินเป็นครั้งแรกเขารู้เกี่ยวกับสถานีตำรวจ ตำรวจอาชญากรรมและทีมเขี้ยวมังกรแต่ไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับหน่วยรักษาความปลอดภัยพิเศษแม้แต่น้อย
เย่หงตี้ยังคงแนะนำต่อไปว่า วูฟคิง ดิฉันขออธิบายให้คุณเข้าใจ พวกเราในฐานะทีมเขี้ยวมังกรเป็นผู้ดูแลเรื่องทางโลกปุถุชนในการปกป้องประธานาธิบดี ส่วนหน่วยรักษาความปลอดภัยพิเศษมีหน้าที่ดูแลเกี่ยวกับโลกของผู้ฝึกยุทธ์โบราณ(ยุทธภพ) และตอนนี้ท่านดราก้อนคิง(ราชันมังกร)ก็เป็นสมาชิกของหน่วยนี้
ฉิงเฟิงรู้สึกประหลาดใจเมื่อได้ยินเย่หงตี้พูดถึงดราก้อนคิงที่ปัจจุบันนี้กลายเป็นสมาชิกของหน่วยรักษาความปลอดภัยพิเศษเขาไม่ได้พบคู่ปรับผู้นี้มานาน
วูฟคิงพวกเราจากหน่วยความปลอดภัยพิเศษรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับคุณ ทุกสิ่งที่คุณทำในยุทธภพ พวกเราต้องการให้คุณเข้าร่วมกับเราในฐานะผู้มีความสามารถพิเศษและมีส่วนร่วมต่อประเทศชาติ จางหยวนเล่ยลุกขึ้นยืนและกล่าวด้วยรอยยิ้ม
เขารู้อย่างแน่ชัดว่าหลี่ฉิงเฟิงเป็นอย่างไรเขาฆ่าแกรนด์มาสเตอร์ไปมากมายในยุทธภพ ตอนนี้เขาสามารถติดหนึ่งในยี่สิบอันดับได้อย่างง่ายดาย หน่วยความปลอดภัยพิเศษต้องการดึงตัวอัจฉริยะเช่นนี้ไว้
ผมต้องขอโทษด้วยแต่ผมไม่มีความตั้งใจที่จะเข้าร่วมกับกองกำลังใดๆ
ฉิงเฟิงส่ายหัวและปฏิเสธข้อเสนอ
เขาคาดเดาได้จากการสนทนาว่าหน่วยความปลอดภัยพิเศษเป็นหน่วยงานพิเศษที่จัดตั้งขึ้นสำหรับกำกับดูแลเรื่องราวของเหล่าผู้ฝึกยุทธ์โบราณในหัวเซี่ยฉิงเฟิงไม่ต้องการมีส่วนร่วมในองค์การเหล่านี้
วูฟคิงคุณอย่าเพิ่งรีบด่วนตัดสินใจนัก พวกเราเป็นชาวหัวเซี่ย ในฐานะประชาชน จำต้องคิดถึงผลประโยชน์สูงสุดของประเทศ พวกเราจะไม่ตั้งเงื่อนไขจำกัดอะไรต่อคุณตราบเท่าที่คุณไม่ก้าวก่ายเรื่องภายใน
นอกจากนี้หูตาของเราก็กว้างไกลมากด้วยเครือข่ายกองกำลังผู้ฝึกยุทธ์มากมายในหัวเซี่ยยกตัวอย่างเช่น พวกเรารู้ว่าใครเป็นคนสังหารอาวุโสฉินแห่งตำหนักโห่วเย่อหวงตี้
วูฟคิงเพื่อแสดงให้เห็นถึงความจริงใจของพวกเรา ผมขอบอกกับคุณว่าฆาตกรคือเฮลคิงแห่งตำหนักโกสคิง คู่ปรับเก่าของคุณ สายรายงานมาว่าไม่นานนี้เขาได้รับอาวุธจิตวิญญาณนอกรีตที่ทรงพลังมา
เป็นที่ชัดเจนว่าจางหยวนเล่ยมอบคำเชิญให้ฉิงเฟิงอย่างจริงใจเขายังเปิดเผยความลับบางอย่างที่แม้แต่ตระกูลใหญ่ๆก็ยังไม่ทราบให้ฉิงเฟิงได้รู้ก่อน อะไรกัน
เฮลคิงฆ่าอาวุโสฉินงั้นหรือ
ฉิงเฟิงชะงักไปชั่วครู่ดวงตาสาดประกายเย็นเฉียบ เขาไม่รู้และคาดไม่ถึงว่าฆาตกรคือเฮลคิง, คู่ปรับที่ยาวนานของเขานั่นเอง อีกทั้งชายผู้นั้นก็ได้รับอาวุธวิญญาณเช่นกัน
เฮลคิงแกสมควรตาย
ดวงตาของฉิงเฟิงเต็มไปด้วยความเย็นยะเยือกและมีจิตสังหารแผ่ออกมา
วูฟคิงหากคุณเข้าร่วมกับเรา เราไม่จำกัดสิทธิ์ใดๆของคุณ เราให้สิทธิ์อิสระเต็มที่ในยุทธภพ คุณจะฆ่าใครก็เรื่องของคุณ พวกเราจะไม่ก้าวก่ายตราบเท่าที่คนผู้นั้นไม่ใช่คนที่สร้างคุณงามความดีให้แก่ประเทศชาติ ซึ่งเรารู้ดีว่าคุณไม่ทำร้ายคนดีและหาเรื่องสำนักไหนก่อนอยู่แล้ว นอกจากนี้เราจะเลื่อนตำแหน่งให้คุณจากพลเรือนเป็นพลเอกทันที
พลเอก
ลมหายใจของฉิงเฟิงเร่งถี่ขึ้นเมื่อได้ยินจางหยวนพูดถึงตำแหน่งของพลเอกเนื่องจากเขารู้ว่ามันเป็นตัวแทนความไว้วางใจของประเทศชาติที่มีต่อตัวเขาเขาจะเหมือนมียันต์คุ้มภัยชั้นสูง
ด้วยความแข็งแกร่งของเขาในตอนนี้จะกล่าวว่าแข็งแกร่งแทบที่จะสุดก็คงไม่ผิดแต่เขาก็ไม่อาจยิงขีปนาวุธหรือระเบิดนิวเคลียร์ได้ การเป็นของคนรัฐบาลแต่ในนามบางทีอาจจะเป็นประโยชน์ต่อเขาในสถานการณ์พิเศษก็เป็นได้
ฉิงเฟิงใช้เวลาครุ่นคิดข้อดีข้อเสียอยู่สักพักและกล่าวในท้ายที่สุดว่า ก็ได้ ผมตกลงเข้าร่วมหน่วยความปลอดภัยพิเศษหัวเซี่ย
เยี่ยม! ขอแสดงความยินดีด้วย นับแต่นี้คุณเป็นหนึ่งในสมาชิกของเราแล้ว วูฟคิง รับนี่ไป นี่เป็นตราประจำตัวของคุณที่บ่งบอกถึงสถานะ จางหยวนเล่ยกล่าวพร้อมกับหยิบตราให้ฉิงเฟิง
ในหน่วยความปลอดภัยพิเศษนี้มีสามทีมทีมใต้สวรรค์ ทีมเหนือสวรรค์และทีมแกรนด์มาสเตอร์ มันแบ่งตามระดับของยุทธภพ ซึ่งทีมแกรนด์มาสเตอร์ที่ฉิงเฟิงอยู่นั้นแข็งแกร่งที่สุด
เป็นเรื่องปกติที่ฉิงเฟิงจะได้เข้าร่วมทีมแกรนด์มาสเตอร์ทันทีโดยไม่ต้องไต่เต้าเพราะเขามีพลังในขอบเขตแกรนด์มาสเตอร์อยู่แล้วเขารู้ว่าดราก้อนคิงก็เป็นส่วนหนึ่งขององค์กรนี้เช่นกัน แต่ก็ไม่รู้ว่าอยู่ทีมไหน
มันเป็นการสนทนาที่น่าพึงพอใจระหว่างฉิงเฟิงและจางหยวนเล่ยพวกเขาแลกเปลี่ยนข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องราวในยุทธภพ ผลประโยชน์ที่แบ่งปันกันลงตัวทำให้การพบกันครั้งแรกเป็นไปอย่างมีความสุข
ที่รักตอนนี้คุณได้เป็นนายพลใหญ่แล้วหรือคะ หลินเสวี่ยดูเหมือนจะตื่นเต้นมากหลังจากที่ทุกคนจากไป
เธอรู้ว่าสิ่งนี้คืออะไรแม้ว่าจะไม่ได้เป็นคนในกองทัพการได้เป็นเจ้าหน้าที่ถือเป็นเกียรติยศอย่างยิ่งแก่ชายทุกคนในหัวเซี่ย มันเป็นสิ่งที่ทุกคนฝันถึง หลินเสวี่ยภาคภูมิใจในตัวสามีของเธอมากเมื่อได้เห็นว่าแม้แต่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของทางการก็ยังต้องมาเชิญสามีเธอเข้าร่วมด้วยตัวเอง
แน่นอนว่าเหตุผลที่พวกเขาทำเช่นนั้นก็เป็นเพราะวีรกรรมที่โดดเด่นและน่าอัศจรรย์ของฉิงเฟิงในช่วงนี้
แม้แต่ฉิงเฟิงก็ยังอดยิ้มด้วยความตื่นเต้นเล็กน้อยไม่ได้เขาใฝ่ฝันที่จะเป็นทหารและเป็นนายพลตั้งแต่ยังเด็ก อย่างไรก็ตาม เขาถูกนำตัวไปยังทวีปหมาป่าโดยอาจารย์ของเขา จากนั้นด้วยเหตุผลหลายประการความฝันของเขาก็สลายไปในหมอกควันเมื่อเขาได้ขึ้นเป็นราชันหมาป่าแห่งทวีปแอฟฟริกา
ตอนนี้เขาได้รับการเลื่อนตำแหน่งให้เป็นพลเอกโดยตรงเนื่องจากความแข็งแกร่งของเขาจนไปเข้าตาหน่วยงานของทางการเรื่องนี้ทำให้เขามีความสุขมาก
ทันใดนั้นเองโทรศัพท์จากราชาอสูรสิงโตก็ดังขึ้น ฉิงเฟิงเคยสั่งให้ราชาอสูรสิงโตและราชาอสูรมังกรเขียวออกตามหาราชาอสูรคนที่เหลือการที่เขาโทรมาตอนนี้แสดงว่าย่อมมีเบาะแสเกี่ยวกับคนที่เหลือแล้ว
