กู่เจิ้นเทียนถูกสังหารแล้ว…ด้วยกระบี่เดียวของหลี่ฉิงเฟิง !
ดวงตาของข้ามีปัญหาหรือไม่ กู่เจิ้นเทียนเป็นถึงหัวหน้าตระกูลกู่อีกทั้งยังเป็นบุคคลสำคัญของยุทธภพในช่วงยี่สิบปีที่ผ่านมา เขาจะตายง่ายๆเช่นนี้ได้อย่างไร ?
ท้องฟ้าของยุทธภพในเมืองเทียนจิงกำลังจะเปลี่ยนไปเนื่องจากการตายของกู่เจิ้นเทียนมันรวมไปถึงการล่มสลายของตระกูลกู่อีกด้วย
ผู้คนรอบๆพูดคุยกันด้วยความประหลาดใจและความกลัวที่สำคัญที่สุดคือความตื่นเต้น
พวกเขาประหลาดใจเมื่อได้เห็นการตายอย่างกะทันหันของกู่เจิ้นเทียนและหวาดกลัวต่อพลังอำนาจของหลี่ฉิงเฟิง
ในฐานะหนึ่งในสี่ตระกูลแห่งผู้ฝึกยุทธ์โบราณตระกูลกู่ดำรงอยู่ในเมืองเทียนจิงอย่างยิ่งใหญ่มั่นคงมาเป็นเวลาหลายร้อยปี พวกเขาได้สะสมที่ดิน บริษัท และทรัพย์สินมากมาย
ตอนนี้ด้วยการตายของกู่เจิ้นเทียน ดินแดนและทรัพย์สินของตระกูลกู่จะเป็นที่ปรารถนาของทุกคน
เมื่อได้เป็นพยานถึงการตายของกู่เจิ้นเทียนซวนเทียนจือและถังเจียงเฮอสีหน้าดำทะมึนราวกับขี้เถ้า ดวงตาเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ
เมื่อไม่นานนี้ทั้งสามคนเพิ่งจะกดดันหลี่ฉิงเฟิงจนต้องล่าถอยอย่างต่อเนื่องและได้รับบาดเจ็บด้วยซ้ำทำไมจู่ๆเขาถึงทรงพลังขึ้น
กระบี่ในมือของฉิงเฟิงพวยพุ่งประกายของรังสีกระบี่และปลดปล่อยพลังอันเหนือชั้นออกมา
เป็นไปได้ไหมว่ากระบี่นั้นกลายเป็นอาวุธจิตวิญญาณจริงๆแล้ว
ซวนเทียนจือขมวดคิ้วและขบคิดในใจด้วยความประหลาดใจในฐานะผู้นำนิกายเจ็ดล้ำลึก นิกายชั้นหนึ่ง เขาเคยได้ยินเกี่ยวกับตำนานของอุปกรณ์จิตวิญญาณ ซึ่งสามารถควบคุมได้โดยผู้ฝึกฝนตนเท่านั้น เขาสงสัยว่าโลกใบนี้มีผู้ฝึกตนจริงๆหรือ
ผู้ฝึกตนและผู้ฝึกยุทธโบราณนั้นเป็นสองโลกที่แตกต่างกันดังนั้นกลุ่มคนประเภทหลังย่อมไม่อาจเข้าใจถึงพลังนั้นได้ เช่นเดียวกับในกรณีของผู้ฝึกยุทธโบราณและนักสู้ปุถุชน
หลี่ฉิงเฟิงกระบี่ให้มือเจ้าเป็นอาวุธจิตวิญญาณใช่ไหม ถึงแม้ว่าจะสงสัยอยู่ในใจ แต่ซวนเทียนจือก็จำต้องถามออกมา
ฉิงเฟิงรู้สึกประหลาดใจที่ซวนเทียนจือซึ่งน่าจะเป็นไม่กี่คนในหมู่ผู้ฝึกยุทธโบราณที่รู้เรื่องเกี่ยวกับอุปกรณ์จิตวิญญาณ
ถูกต้อง
ฉิงเฟิงตอบกลับด้วยรอยยิ้มจางๆและพูดอย่างภาคภูมิใจ
อุปกรณ์จิตวิญญาณ….มันเป็นอุปกรณ์จิตวิญญาณจริงๆ
!
ใบหน้าของซวนเทียนจือซีดเผือดราวกับคนตายด้วยความสิ้นหวังเขาเคยอ่านบันทึกจากในแผ่นหยกโบราณเกี่ยวกับอุปกรณ์จิตวิญญาณ มันระบุไว้ว่าอุปกรณ์เหล่านี้จะมีพลังและแข็งแกร่งกว่าอุปกรณ์ระดับแกรนด์มาสเตอร์ อย่างน้อยมีพลังโจมตีและความเร็วสูงกว่าถึงสามเท่า !
ไม่น่าแปลกใจว่าทำไมกู่เจิ้นเทียนถึงตกตายอย่างไร้ปฏิกิริยาตอบสนองเพราะเขาไม่อาจปัดป้องพลังโจมตีและความเร็วของกระบี่จิตวิญญาณของฉิงเฟิงได้นั่นเอง
ตอนนี้แกก็เตรียมตัวตายได้แล้วฉิงเฟิงยิ้มอย่างสงบในขณะที่ดวงตาเต็มไปด้วยเจตนาฆ่า
กระบี่เพลิงคะนองสะบัดวูบในพริบตารังสีกระบี่ที่คมกร้าวพุ่งออกไปดั่งสายฟ้าตรงเข้าที่คอของซวนเทียนจือ ฉัวะ
!!
ซวนเทียนจือพยายามสกัดกั้นแต่กระบี่เพลิงคะนองนั้นเร็วเกินไป เพียงพริบตาศีรษะของเขาก็ลอยขึ้นฟ้า ตามมาด้วยเลือดที่สาดกระเซ็นไปทั่ว
ซวนเทียนจือ,จ้าวนิกายเจ็ดล้ำลึกและหนึ่งในแกรนด์มาสเตอร์ระดับสูง ตายแล้ว
แข็งแกร่ง
!
หลี่ฉิงเฟิงแข็งแกร่งเกินไปแล้ว
!
ฝูงชนที่สังเกตการต่างได้เห็นการสังหารของฉิงเฟิงพวกเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและตกใจ
ถังเจียงเฮอเป็นเพียงผู้เดียวที่เหลืออยู่จากสามแกรนด์มาสเตอร์เมื่อเห็นพันธมิตรที่ทรงพลังของเขาถูกฉิงเฟิงฆ่าตายไปทีละคน เขาก็ตัวสั่นกับพลังที่เหนือกว่าตรงหน้า เขาคิดว่าตัวเองคือรายต่อไปอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตามคนเรามีเพียงชีวิตเดียว ถังเจียงเฮอยังไม่อยากตาย เขามีทรัพย์สมบัติและสตรีมากมายที่รอให้เขาได้เพลิดเพลิน
ละ….หลี่ฉิงเฟิงได้โปรดไว้ชีวิตข้าด้วย ถังเจียงเฮอกล่าวขอชีวิตด้วยใบหน้าซีดเซียว
ในฐานะหัวหน้าของหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ของเมืองเทียนจิงถังเจียงเฮอเป็นคนที่หยิ่งผยอง แต่ตอนนี้เขากลับต้องก้มหัวและร้องขอชีวิตต่อหน้าชายหนุ่มผู้หนึ่ง อย่างไรก็ตามฉิงเฟิงยังคงนิ่งสงบไม่ไหวติง เขามุ่งมั่นที่จะฆ่าถังเจียงเฮอเพื่อขุดรากถอนโคน
ทันใดนั้นเองก่อนที่เขาจะขยับตัว จักรพรรดิราตรีก็ส่งข้อความทางจิตเข้ามาในหัวของเขาว่า เจ้าเด็กน้อย ยั้งมือก่อน อย่าบ้าคิลนัก ตระกูลถังยังมีประโยชน์ มันเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ของเหล่าผู้ฝึกยุทธ์ เจ้าสามารถปราบให้มันเป็นทาสรับใช้ก็ได้
หลังจากได้ยินคำพูดของจักรพรรดิราตรีฉิงเฟิงก็ชะงักไปชั่วครู่หนึ่ง เขาเข้าใจเจตนาของจักรพรรดิราตรี การฆ่าถังเจียงเฮอนั้นง่ายมาก แต่ฆ่าเขาแล้วยังไง สักวันหนึ่งก็ต้องมีคนขึ้นเป็นหัวหน้าตระกูลถังแทนและตามล้างแค้นเขาอยู่ดี ดังนั้นการไว้ชีวิตและให้เขาเป็นทาสรับใช้ย่อมดีกว่า
อีกอย่างถังเจียงเฮอนั้นค่อนข้างแตกต่างจากกู่เจิ้นเทียน เพราะลูกชายของกู่เจิ้นเทียนถูกฉิงเฟิงฆ่า ระหว่างพวกเขาไม่มีทางญาติดีกันได้ แต่เขาไม่ได้มีเรื่องบาดหมางจนถึงขั้นคอขาดบาดตายกับถังเจียงเฮอ
ถังเจียงเฮอฉันจะไว้ชีวิตแกก็ได้แต่แกต้องยอมสวามิภักเป็นข้ารับใช้ของฉัน
ฉิงเฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้มจางๆเขาเอ่ยเงื่อนไขออกมาอย่างหยิ่งผยอง
อะไรนะ
!
ให้เป็นข้ารับใช้ของเจ้า..
การแสดงออกของถังเจียงเฮอเปลี่ยนไปเขารู้สึกเหมือนโดนฉิงเฟิงดูถูกเหยียดหยามเป็นอย่างมาก
เขาได้รับการยกย่องและชื่นชมจากยอดยุทธทั่วหล้าในฐานะหัวหน้าตระกูลใหญ่แห่งเมืองเทียนจิงเขาเป็นถึงแกรนด์มาสเตอร์ขั้นปลายและเป็นหนึ่งใน 81 สุดยอดแกรนด์มาสเตอร์
แกรนด์มาสเตอร์ทุกคนต่างก็มีศักดิ์ศรีและความภาคภูมิใจในตัวเองถังเจียงเฮอก็เช่นกัน เขาจะไม่ลังเลเลยหากฉิงเฟิงเรียกเงินหมื่นล้านหยวน แต่เขาโกรธเคืองมากที่ชนรุ่นหลังอย่างฉิงเฟิงบอกให้เขาเป็นข้ารับใช้
ลังเล ก็ได้ ในเมื่อแกไม่รับคำเสนอ งั้นฉันจะฆ่าแกกับลูกสาวแก จากนั้นฉันจะฆ่าล้างตระกูลถังให้หมดสิ้นเพื่อป้องกันการแก้แค้นในอนาคต
ฉิงเฟิงกล่าวย้ำทีละคำด้วยจิตสังหารที่เต็มเปี่ยม
เพื่อกำจัดวัชพืชคุณต้องขุดรากทั้งหมดเพื่อขจัดปัญหาในอนาคต ฉิงเฟิงเชื่อมั่นในแนวคิดนี้ เขาตั้งใจจะล้างโคตรตระกูลถังทุกชีวิตจริงๆถ้าหากถังเจียงเฮอไม่ยอมจำนนต่อเขา
เมื่อรับรู้ได้ถึงจิตสังหารที่แข็งกร้าวของฉิงเฟิงใบหน้าของถังเจียงเฮอก็มืดมนราวกับขี้เถ้า เขารู้ว่าฉิงเฟิงไม่ลังเลที่จะทำแน่นอนถ้าหากเขาไม่ยอมจำนน
ปึง!
ถังเจียงเฮอทิ้งตัวลงคุกเข่ากับพื้นและกล่าวว่าขอคารวะนายท่าน ข้าน้อยถังเจียงเฮอหัวหน้าตระกูลถัง นับแต่นี้ไปขอเป็นทาสผู้ซื่อสัตย์
เขาตัดสินใจยอมจำนนเพื่อลูกสาวและสมาชิกทุกคนในตระกูล
นะ…นี่มันอะไรกัน ! หัวหน้าตระกูลถังคุกเข่าและนับถือหลี่ฉิงเฟิงในฐานะข้ารับใช้งั้นหรือ ?
บ้าชัดๆ! ถังเจียงเฮอขลาดเขลาเช่นนี้ได้อย่างไร เขาเป็นถึงหัวหน้าตระกูลของหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่เชียวนะ ! เจ้าโง่เขาต้องยอมนั่นแหละถูกแล้ว เพื่อช่วยชีวิตของคนในตระกูล ลองขัดขืนดูสิ ตระกูลเขาต้องล่มสลายหายไปจากยุทธภพด้วยน้ำมือหลี่ฉิงเฟิงแน่นอน
มีเหตุผลแต่นี่มันก็น่าสงสารถังเจียงเฮอไม่น้อย ในฐานะแกรนด์มาสเตอร์ขั้นปลาย การที่ต้องมาคุกเข่าต่อหน้าชายหนุ่มคนหนึ่งมันช่างน่าอับอายนัก
ผู้คนรอบๆต่างก็พูดคุยกันท่ามกลางสายตาที่เต็มไปด้วยความตกใจและความประหลาดใจ
หลี่ฉิงเฟิงเป็นปีศาจจริงๆเขาทำในสิ่งที่ไม่อาจจินตนาการได้และทำให้แกรนด์มาสเตอร์กลายมาเป็นทาสรับใช้
จากวันนี้เป็นต้นไปชื่อเสียงของหลี่ฉิงเฟิงในฐานะ ปีศาจ จะเริ่มแพร่กระจายไปทั่วยุทธภพ แม้ว่าหลายคนอาจจะแสดงให้เห็นว่าพวกเขาเคารพ แต่ภายในกลับถือว่าหลี่ฉิงเฟิงผู้นี้คือปีศาจร้าย