ผู้พิชิต,หลี่ซานเย่ช่างร้ายกาจจริงๆ เขาสามารถสลักแฟนท่อมสายเลือดของราชาอสูรทั้งสิบคนใว้ในตราผู้พิชิตด้วยวิธีการที่ไม่น่าเชื่อ
ฉิงเฟิงประสบความสำเร็จในการเปิดใช้งานสายเลือดของราชาอสูรสิงโตด้วยแฟนท่อมของบรรพบุรุษที่สลักไว้บนตราผู้พิชิต
ตูม!
พลังมหาศาลแผ่กระจายออกมาจากตัวราชาอสูรสิงโตเมื่อสายเลือดถูกกระตุ้นมันเป็นพลังมหาศาลจากยุคโบราณกาล พลังยังคงแผ่ขยายออกไปจนล้มต้นไม้ทั้งหมดและทำให้ก้อนหินปลิวกระเด็น
ใต้สวรรค์ขั้นสูงสุด นี่พลังของเขาพุ่งพรวดมาถึงขั้นสูงสุดใต้สวรรค์ในพริบตาเดียวเลยหรือ ? ฉิงเฟิงรู้สึกอัศจรรย์ใจกับพลังอันแข็งแกร่งที่ราชาอสูรสิงโตเปล่งออกมา ตามจริงแล้วราชาอสูรสิงโตเป็นเพียงแค่นักสู้ปุถุชนระดับSSS ขั้นสูงสุดเท่านั้น แต่ขณะนี้ระดับพลังของเขาข้ามขั้นพรวดพราดมาหนึ่งขอบเขตใหญ่และสี่ขั้นย่อยโดยตรง มันทำให้เขากลายเป็นผู้ฝึกยุทธ์เหนือสวรรค์ขั้นสูงสุดภายในพริบตาหลังจากปลุกพลังสายเลือด
เห็นได้ชัดเจนว่าสายเลือดราชสีห์ทองคำต้องแข็งแกร่งสุดขั้วมันจะต้องเคยเป็นตัวตนระดับนักบุญเมื่อสมัยบรรพกาล
เอาละมังกรเขียวตอนนี้ถึงตาคุณแล้ว ฉิงเฟิงยิ้มเล็กน้อยขณะที่หันไปมองราชาอสูรมังกรเขียว
ราชาอสูรมังกรเขียวรีบวิ่งเข้าหาฉิงเฟิงอย่างสุดความสามารถเขารู้สึกอิจฉามากเกี่ยวกับพลังที่ราชาอสูรสิงโตได้รับ เขาจึงรีบไปหาฉิงเฟิงเพื่อรอรับการปลุกพลังสายเลือด
บรรพบุรุษของข้ามังกรเขียวสามหัว ผู้เป็นเจ้าของพลังที่นำทางด้วยก้อนเมฆและหมอกด้วยสายเลือดอันบริสุทธิ์ของท่าน …
ฉิงเฟิงมอบบทสวดให้แก่ราชาอสูรมังกรเขียวในการปลุกพลังสายเลือด
จากนั้นฉิงเฟิงก็ทำแบบเดียวกันกับราชาอสูรสิงโตแฟนท่อมมังกรสามหัวขนาดมหึมาปรากฏขึ้นเพื่อทำให้ราชาอสูรมังกรเขียวได้รู้สึกถึงการปรากฏตัวของบรรพบุรุษของเขา
ปฏิเสธไม่ได้ว่ามังกรเขียวสามหัวนี้แตกต่างจากราชสีห์ทองคำอย่างสิ้นเชิงมันมีสามหัวและแผ่กระจายพลังอันยิ่งใหญ่จนเกือบจะยกตัวเองขึ้นไปในอากาศ
ราชาอสูรมังกรเขียวพูดพึมพำถึงคำพูดที่ฉิงเฟิงมอบให้เพื่อใช้ในการเปิดใช้สายเลือดจากนั้นเขาก็เริ่มรู้สึกถึงพลังของบรรพบุรุษจากการนำทางของสายเลือดของบรรพบุรุษในขณะที่จ้องมองที่แฟนท่อมมังกรเขียวสามหัวบนตราผู้พิชิต
ตูม!!
ภายในวินาทีต่อมาสายเลือดภายในร่างกายของราชาอสูรมังกรเขียวก็ถูกเปิดใช้งานเช่นกัน เขาบินขึ้นไปบนต้นไม้ด้วยการกระโดดเพียงเล็กน้อย
โดยปกติมีเพียงยอดฝีมือในระดับแกรนด์มาสเตอร์เท่านั้นที่สามารถบินได้ในระยะสั้นๆแต่ตอนนี้มันค่อนข้างน่าประหลาดใจที่ราชาอสูรมังกรเขียวก็สามารถบินได้เช่นเดียวกันหลังจากเปิดใช้งานพลังสายเลือดของเขา
ในขณะเดียวกันกระแสพลังงานมหาศาลเริ่มกระจายออกจากร่างของราชาอสูรมังกรเขียว กวาดเอาใบไม้ทั้งหมดจากต้นไม้ เขาได้มาถึงขั้นสูงสุดใต้สวรรค์อย่างเป็นทางการแล้ว
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทั้งบรรพบุรุษของราชาอสูรสิงโตและมังกรเขียวไร้เทียมทานพวกเขาสามารถผลักดันให้ราชาอสูรทั้งสองคนนี้เพิ่มระดับพลังไปจนถึงขั้นสูงสุดใต้สวรรค์ได้หลังจากปลุกพลังสายเลือดได้เพียงแค่หนึ่งในสิบเท่านั้น ฉิงเฟิงรู้สึกตื่นเต้นและได้หยิบเม็ดยาเหนือสวรรค์ของเขาออกมาทันทีหลังจากได้เห็นทั้งสองคนนี้ตัดผ่านไปยังขั้นใต้สวรรค์ระดับสูงสุดได้
สิงโตมังกรเขียว นี่คือยาเม็ดเหนือสวรรค์สองเม็ดสุดท้ายของฉัน พวกคุณจะสามารถไปถึงขั้นเหนือสวรรค์ได้ทันทีหลังจากกินมัน
ยิ่งคุณมีพลังมากเท่าไหร่ความสามารถในการปกป้องตัวเองบนเกาะทมิฬที่เต็มไปด้วยอันตรายแห่งนี้ก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น
ราชาอสูรทั้งสองต่างรู้สึกตื่นเต้นยินดีที่จะได้รับยาเม็ดเหนือสวรรค์หลังจากที่พวกเขากลืนมันลงไปก็รู้สึกได้ถึงพลังแท้ที่เต็มเปี่ยมในร่างกายของพวกเขา
ในที่สุดราชาอสูรทั้งสองคนนี้ก็ก้าวมาถึงขั้นเหนือสวรรค์ภายในเวลาไม่ถึงวัน
มาถึงตอนนี้ฉิงเฟิงและลูกทีมของเขาต่างก็ประสบความสำเร็จในการทะลวงระดับ ฉิงเฟิงมาถึงแกรนด์มาสเตอร์ขั้นปลาย โยชิโกะอยู่ในขั้นปลายแกรนด์มาสเตอร์อยู่แล้ว ส่วนทีมเขี้ยวหมาป่าและราชาอสูรทั้งสองคนนั้นเติบโตอย่างก้าวกระโดดในขั้นเหนือสวรรค์
ในทางเทคนิคก็กล่าวได้ว่าฉิงเฟิงมีทีมที่แข็งแกร่งอยู่ในมือแล้วซึ่งพวกเขาจะเป็นแขนขาที่สำคัญในการรวมยุทธภพให้เป็นหนึ่งเดียวในอนาคต
เอาละไปใจกลางเกาะกันต่อเถอะ ฉิงเฟิงยิ้มเล็กน้อยในขณะที่นำทีมมุ่งหน้าไปยังศูนย์กลางเกาะทมิฬเพื่อหาโอกาสชิงอุปกรณ์จิตวิญญาณอันทรงพลัง
อย่างไรก็ตามการที่อุปกรณ์วิญญาณชิ้นนี้สามารถดึงดูดคนจำนวนมากมาตามหามันได้ย่อมแสดงให้เห็นว่ามันต้องมีระดับสูงมาก แม้แต่ว่ากันว่าอุปกรณ์วิญญาณชิ้นนี้ต้องเป็นอุปกรณ์วิญญาณระดับสวรรค์ !
อุปกรณ์วิญญาณในระดับนี้โดยปกติแล้วจะเป็นของผู้ฝึกตนผู้แข็งแกร่งเท่านั้นซึ่งการที่มันปรากฏขึ้นบนเกาะทมิฬแห่งนี้ย่อมนำมาซึ่งการต่อสู้แย่งชิงที่โหดเหี้ยมในหมู่ผู้ที่หมายปองมันอย่างแน่นอน
เปรียบกับกระบี่เพลิงคะนองของฉิงเฟิงที่เพิ่งจะทลายผนึกแรกมันยังคงเป็นเพียงอุปกรณ์วิญญาณระดับสูงธรรมดา แต่เมื่อใดก็ตามที่ทลายผนึกทั้งสามลงได้ มันจะกลายเป็นอุปกรณ์วิญญาณสวรรค์ทันที
กระบี่เพลิงคะนองเป็นอาวุธจิตวิญญาณที่ถูกใช้โดยจักรพรรดิราตรีในอดีตลองคิดดูว่ามันน่าดึงดูดใจแค่ไหนในขณะที่มันอยู่ในระดับเดียวกับอุปกรณ์วิญญาณบนเกาะทมิฬ
ฉิงเฟิงพาลูกทีมของเขามุ่งหน้าสู่ใจกลางเกาะพวกเขาได้พบสัตว์ป่าวิวัฒนาการมากมายระหว่างทาง ซึ่งฉิงเฟิงก็ปล่อยให้ทีมเขี้ยวหมาป่าเป็นคนลงมือเพื่อฝึกฝนไปในตัว
นอกจากนี้สัตว์ป่าวิวัฒนาการเหล่านี้แตกต่างจากสัตว์ธรรมดาตัวอื่นๆพวกมันมีพลังมากพอสำหรับให้ทีมเขี้ยวหมาป่าได้ลับเขี้ยวเล็บ
แน่นอนว่าถ้าพวกเขาพบสัตว์ร้ายที่แข็งแกร่งในระดับแกรนด์มาสเตอร์ฉิงเฟิงก็จะเป็นคนลงมือเอง
ตอนนี้ฉิงเฟิงมองว่ามีเพียงสัตว์อสูรเท่านั้นที่พอจะเป็นคู่ต่อสู้ของเขาได้สัตว์วิวัฒนาการทั่วไปไม่เป็นภัยคุกคามสำหรับเขาแม้แต่น้อย
เมื่อฉิงเฟิงฆ่าอินทรีทมิฬวิวัฒนาการซึ่งอยู่ในระดับแกรนด์มาสเตอร์เสร็จจักรพรรดิราตรีก็กระซิบมาในหัวของเขาว่า เจ้าหนู สัตว์ตัวนี้มีแกนอสูรอยู่ภายในร่าง เจ้าสามารถดูดซับพลังแท้ของมันได้
ฉิงเฟิงรู้สึกตกใจเมื่อได้ยินคำพูดของจักรพรรดิราตรีทันใดนั้นเองเขาก็ตระหนักได้ถึงเหตุผลที่หญิงสาวชุดเขียวทำท่าทางแปลกๆกับฮวาเซียนจือ ก็เพราะเธอพยายามจะลอบเก็บแกนอสูรจากแมงมุมหน้าคนนั่นเอง น่าเสียดายที่ตอนนั้นฉิงเฟิงยังไม่รู้เรื่องนี้
จากนั้นเขาก็ปฏิบัติตามวิธีการที่จักรพรรดิราตรีอธิบายเขาหั่นกระเพาะอาหารของอินทรีทมิฬออกและก็พบกับผลึกสีดำที่มีขนาดเท่ากับไข่ฟองหนึ่ง แน่นอนว่าผลึกสีดำนี้เป็นแกนอสูรถึงแม้ว่ามันจะมีขนาดเล็กเท่ากับไข่ไก่ แต่มันก็แผ่กลิ่นอายพลังแท้อันเข้มข้นออกมา
น่าเสียดายที่ธาตุของแกนอสูรนี้เป็นธาตุลมฉิงเฟิงที่มุ่งเน้นไปที่ธาตุไฟจึงไม่อาจใช้ประโยชน์จากมันได้ในเวลานี้
อย่างไรก็ตามมันมีประโยชน์สำหรับราชาอสูรมังกรเขียวเนื่องจากเขาได้รับการปรับแต่งพลังแท้ธาตุลม มันจะเป็นประโยชน์ต่อเขามากที่สุดเพราะเขาเพิ่งปลุกพลังสายเลือดได้
มังกรเขียวแกนอสูรนี้มอบให้คุณ แต่อย่าเพิ่งขัดเกลาดูดซับพลังของมันในตอนนี้ คุณควรจะรอจนกว่าจะรากฐานมั่นคงและอยู่ในขั้นสูงสุดเหนือสวรรค์เสียก่อน จากนั้นค่อยทะลวงผ่านไปยังขอบเขตแกรนด์มาสเตอร์ในคราเดียว
ฉิงเฟิงรู้ว่าความแข็งแกร่งของผู้ฝึกยุทธ์จะไม่มั่นคงหากไม่มีรากฐานที่แน่นพอเนื่องจากราชาอสูรทั้งสองได้กลายมาเป็นผู้ฝึกยุทธ์โดยการเปิดใช้งานสายเลือดรวมถึงกินยาเหนือสวรรค์ มันจะเป็นการดีกว่าสำหรับพวกเขาที่จะไม่เพิ่มระดับพลังอย่างเร่งร้อนในช่วงนี้ มิฉะนั้นมันอาจจะมีผลเสียต่อร่างกายของพวกเขาและทำให้เสียรากฐานการบ่มเพาะพลังในอนาคต
ราชาอสูรสิงโตรู้สึกอิจฉามากเมื่อเขาเห็นแกนอสูรในมือของมังกรเขียวเขาเคยมีพลังเหนือกว่ามังกรเขียวในอดีต กระนั้น ตอนนี้เขารู้แล้วว่ามังกรเขียวจะไปถึงขั้นแกรนด์มาสเตอร์ก่อนเขาทันทีที่ดูดซับพลังจากแกนอสูร