ฮวาเซียนจือใครกันที่ขอให้คุณเข้าร่วมทีมหัวเซี่ย ทำไมผมถึงไม่รู้เรื่องนี้ ?
จางหยวนเล่ยถามพร้อมกับขมวดคิ้ว
เขาเป็นผู้นำของหน่วยความมั่นคงพิเศษอีกทั้งเขายังเป็นคนที่รับผิดชอบในการนำทีมนี้ เขาจะไม่รู้ว่าเรื่องสำคัญเช่นนี้ได้อย่างไร
ฮวาเซียนจือยิ้มเล็กน้อยและยังไม่ทันได้พูดอะไรออกมาก็มีเสียงเย็นชาดังขึ้นว่า
ชั้นเองที่เป็นคนเชิญฮวาเซียนจือและฉินเซียนจื่อทำไม คุณข้องใจเหรอ ?
เมื่อคำพูดจบลงผู้หญิงคนหนึ่งในชุดเครื่องแบบทหารก็เดินเข้ามาในห้อง เธออายุประมาณยี่สิบปี ใบหน้าของเธอเคร่งครึมจริงจังและมีผิวสีแทนที่ดูสุขภาพดีดั่งเสือดาวตัวหนึ่ง
เธอนั้นตัวสูงเพรียวและมีกลิ่นอายแบบทหารขาคู่งามของเธอยาวเหยียดตรงและหน้าอกคู่โตของเธอก็ดูเหมือนจะปริแตกออกจากชุดเครื่องแบบของเธอ เธอมีกลิ่นอายที่แกร่งกร้าวที่ทำให้ผู้คนแทบจะต้องหลบสายตาเธอ
ผู้หญิงคนนี้เป็นเหมือนเสือตัวเมียที่ดุร้ายเธอสวยแต่ก็แข็งแกร่ง อีกทั้งยังเคร่งขรึมจริงจังและดูเฉียบคม
ฉิงเฟิงตระหนักว่าความงามของผู้หญิงคนนี้แตกต่างจากผู้หญิงคนอื่นๆฮวาเซียนจืองดงามเย้ายวนในขณะที่ฉินเซียนจื่อมีเสน่ห์ ในทางตรงกันข้ามผู้หญิงคนนี้มีความงามที่แข็งแกร่ง
สีหน้าของจางหยวนเล่ยเปลี่ยนไปเมื่อเขาเห็นผู้หญิงคนนี้เขาถามด้วยความเคารพว่า ผู้อำนวยการครับ ทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่ได้
ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้อำนวยการหน่วยความมั่นคงพิเศษชาวเฟิงอู่เธอเป็นที่รู้จักกันในนามเทพีสงครามแห่งหัวเซี่ย ยอดยุทธ์หมายเลขหนึ่งของหน่วยความมั่นคงพิเศษแห่งหัวเซี่ย !
แม้ว่าจางหยวนเล่ยจะเป็นยอดฝีมือแกรนด์มาสเตอร์ขั้นสุดยอดแต่เขาก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของชาวเฟิงอู่ ครั้งหนึ่งเคยประลองกัน เขาถูกเธอคว่ำด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว เธอทุบตีเขาจนน่วมเหมือนหัวหมูด้วยซ้ำ
ในหน่วยความมั่นคงพิเศษทุกคนต่างก็เกรงกลัวชาวเฟิงอู่
ฉิงเฟิงก็ตกใจไม่น้อยยามได้เห็นเธอเขาสามารถสัมผัสได้ถึงพลังงานอันทรงพลังในร่างกายเธอซึ่งทำให้เขาหวาดหวั่นเล็กน้อย
หัวหน้าจางชั้นเชิญฮวาเซียนจือและฉินเซียนจื่อเป็นพิเศษเพื่อเข้าร่วมทีมในการแข่งขันครั้งนี้ ชาวเฟิงอู่กล่าวด้วยรอยยิ้มเย็น
เสียงของชาวเฟิงอู่ก็ยังแตกต่างจากผู้หญิงคนอื่นๆอีกด้วยฮวาเซียนจือมีโทนเสียงที่เย้ายวนซึ่งทำให้ผู้อื่นหลงเสน่ห์ ขณะที่ชาวเฟิงอู่มีน้ำเสียงแกร่งกร้าวของนักรบ ส่งผลให้ผู้อื่นรู้สึกเสียวสันหลัง ผู้อำนวยการครับเราได้ตัดสินใจเกี่ยวกับสมาชิกสิบคนในทีมแล้ว มันคงจะไม่ดีนักถ้าหากเราเตะคนออกจากทีมตอนนี้
หัวหน้าจางชั้นเพิ่งได้รับข่าวด่วนมาว่ารางวัลการแข่งขันเปลี่ยนไป ผู้ชนะจะได้รับตราประทับจักรพรรดิเก้ามังกร รางวัลที่สองคือหญ้ามังกร ส่วนรางวัลที่สามเป็นอุปกรณ์วิญญาณระดับกลาง
อะไรนะครับ! คุณพูดว่ารางวัลชนะเลิศคือตราประทับจักรพรรดิเก้ามังกร !?
จางหยวนเล่ยเบิ่งตากว้างและถามด้วยความประหลาดใจ
ชาวเกาะแปซิฟิกช่างโอหังบังอาจนักพวกมันกล้าดียังไงถึงใช้ตราประทับจักรพรรดิเก้ามังกรเป็นรางวัลในการแข่งขัน
ย้อนกลับไปในสมัยโบราณจักรพรรดิฉินได้ตั้งอาณานิคมในหัวเซี่ยและสร้างตราประทับเก้ามังกรขึ้นมา ตราประทับเป็นสัญลักษณ์ของจักรพรรดิ จักรพรรดิฉันเป็นจักรพรรดิคนแรกของหัวเซี่ย ตราประทับเก้ามังกรจึงนับได้ว่าเป็นสมบัติประจำชาติของหัวเซี่ย
อย่างไรก็ตามในอดีตที่ผ่านมา ตราประทับนี้ถูกขโมยไปโดยชาวเกาะแปซิฟิก แต่ตอนนี้ชาวเกาะแปซิฟิกกลับใช้ตราประทับเก้ามังกรเป็นรางวัลสำหรับผู้ชนะ นี่คือการตบหน้าชาวหัวเซี่ยชัดๆ !
บุคลระดับสูงของหัวเซี่ยต่างก็โมโหโกรธเกรี้ยวกันยกใหญ่พวกเขาสั่งให้ชาวเฟิงอู่นำทีมไปที่เกาะแปซิฟิกเพื่อเอาชนะการแข่งขันและช่วงชิงตราประทับเก้ามังกรกลับคืนมาให้ได้
หัวหน้าจางตอนนี้คุณเข้าใจเรื่องทั้งหมดแล้วใช่มั้ย สมาชิกในทีมของคุณไม่แข็งแกร่งพอ ดังนั้นชั้นจึงเชิญฮวาเซียนจือและฉินเซียนจื่อมาเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับทีมหัวเซี่ยของเรา
ในฐานะผู้อำนวยการหน่วยความมั่นคงพิเศษชาวเฟิงอู่มีความเข้าใจเป็นอย่างดีเกี่ยวกับเหล่ายอดฝีมือ เธอรู้ว่าฮวาเซียนจือและฉินเซียนจื่อล้วน ด้วยการให้พวกเธอทั้งสองเข้าร่วมทีม โอกาสชนะย่อมมีมากขึ้น
หลายสิบประเทศต่างเข้าร่วมในการแข่งขันครั้งนี้ทั้งหมดมีผู้เข้าแข่งขันกว่า 500 คน นักสู้เหล่านี้ล้วนเป็นสุดยอดฝีมือและทรงพลังมาก
จางหยวนเล่ยพยักหน้าด้วยความเข้าใจเขาเข้าใจคำพูดของชางเฟิงอู่เป็นอย่างดี ในครั้งนี้ทีมหัวเซี่ยจะต้องชนะการแข่งขัน ซึ่งทีมของเขาตอนนี้อ่อนแอเกินไป ดังนั้นผู้อำนวยการจึงพาฮวาเซียนจือและฉินเซียนจื่อมาเข้าร่วมทีม
หวังอี้เฮอขมวดคิ้วเมื่อเขาได้ยินว่าจะมีคนในทีมอีกสองคนต้องถูกไล่ออกเขากล่าวขึ้นว่า มีคนหนึ่งออกจากทีมไปแล้วและหลี่ฉิงเฟิงมาแทนที่ แต่ข้าไม่คิดว่าตอนนี้จะมีใครยินดีนักที่จู่ๆจะมาถูกเขี่ยออกจากทีมกระทันหัน
ชาวเฟิงอู่ยิ้มอย่างเยือกเย็นและกล่าวว่า ภารกิจของพวกเราคือการชนะการแข่งขันและนำตราประทับเก้ามังกร สัมบัติของประเทศกลับมา ผู้ใดอ่อนแอย่อมต้องออกจากทีมไป พวกคุณสามารถประมือกับฮวาเซียนจือและฉินเซียนจื่อดูได้ ผู้ใดแพ้ก็ออกไป
ชาวเฟิงอู่พูดตรงประเด็นอย่างยิ่งเธอไม่ให้โอกาสหวังอี้เฮอได้โต้แย้ง เธอบอกให้ฮวาเซียนจือและฉินเซียนจื่อเลือกคู่ต่อสู้ทันที
ฮวาเซียนจือยิ้มอย่างมีเสน่ห์และเลือกคนที่เก้าเนื่องจากฉิงเฟิงเป็นคนที่สิบ เธอเลือกที่จะไม่ท้าทายฉิงเฟิง
ผลลัพธ์ที่ได้นั้นคาดเดาได้ง่ายมากฮวาเซียนจือเอาชนะสมาชิกในทีมคนที่เก้าได้อย่างง่ายดายด้วยการโจมตีที่ขาวสะอาด
ต้องพูดว่าฮวาเซียนจือแข็งแกร่งมากในบรรดาทุกคนในห้องนี้นอกจากฉิงเฟิงและชาวเฟิงอู่ไม่มีใครเป็นคู่ต่อสู้ของเธอได้
จากนั้นเป็นตาของฉินเซียนจื่อเธอเลือกที่จะต่อสู้กับสมาชิกคนที่แปดนอกจากนี้เธอยังเอาชนะเขาได้ด้วยการโจมตีที่ขาวสะอาดเพียงครั้งเดียวเช่นกัน สิ่งนี้ทำให้ทุกคนต้องตื่นตะลึง
คุณหนูฉินดูเหมือนจะแข็งแกร่งขึ้นมากนัก
ฉิงเฟิงคิดในใจด้วยรอยยิ้มเขาพบว่าผนึกในร่างของฉินเซียนจื่อดูเหมือนจะคลายออกเล็กน้อยแล้ว เธอจะใกล้จะทลายผนึกพลังและพัฒนาสู่ขีดขั้นต่อไปในไม่ช้า
เป็นไปตามที่คาดไว้คนของกองกำลังระดับสูงต่างก็ไม่ธรรมดา ในฐานะสมาชิกของกองกำลังระดับสูง ฮวาเซียนจือและฉินเซียนจื่อมีพลังแฝงที่ลึกลับและความลับของพวกเธอนี้มีเพียงฉิงเฟิงเท่านั้นที่สามารถมองเห็น
ฉิงเฟิงรู้ว่ายอดฝีมือทุกคนต่างก็มีโอกาสบางอย่างในชีวิตเขาได้รับกระบี่เพลิงคะนองและได้พบกับอดีตยอดยุทธ์อันดับหนึ่ง, จักรพรรดิราตรี ดังนั้นก็ไม่น่าแปลกใจถ้าหากฮวาเซียนจือและฉินเซียนจื่อจะมีโอกาสเช่นเดียวกับเขา ในที่สุดชาวเฟิงอู่ก็เป็นคนนำทีมที่ประกอบไปด้วยหวังอี้เฮอฉิงเฟิง ฮวาเซียนจือ ฉินเซียนจื่อและคนอื่นๆ
เรือรบมุ่งหน้าต่อไปยังเกาะแปซิฟิกอย่างรวดเร็ว
……….
หกชั่วโมงต่อมาเรือรบก็มาถึงที่ท่าเรือซากุระของเกาะแปซิฟิกมันเป็นเมืองอันดับหนึ่งที่ติดกับมหาสมุทรของเกาะแปซิฟิก
ฉิงเฟิงและคนอื่นๆเดินลงจากเรือและมองไปที่เกาะแปซิฟิกดวงตาของพวกเขาทั้งหมดพวยพุ่งไปด้วยเปลวเพลิงแห่งความโกรธ
ความขัดแย้งระหว่างหัวเซี่ยและชาวเกาะแปซิฟิกส่งต่อกันมารุ่นสู่รุ่น
ฉิงเฟิงมองไปที่พลเมืองของเกาะแปซิฟิกที่สวมชุดกิโมโนด้วยความเย็นชาในสายตาของเขา
ในเวลาเดียวกันเรือรบของประเทศอื่นๆก็จอดเทียบท่าเช่นกัน ฉิงเฟิงมองไปและเห็นเรือของเกาหลี ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์
โดยรวมทั้งหมดมี48 ประเทศที่เป็นตัวแทนของทวีปมังกร พวกเขาทั้งหมดต่างมารวมตัวกันที่นี่เพื่อเข้าร่วมการแข่งขันศิลปะการต่อสู้ครั้งใหญ่ของทวีป !
ทันใดนั้นเองฉิงเฟิงก็สัมผัสได้ถึงจิตสังหารของคนๆหนึ่งจากบนเรือลำหนึ่ง เขาหันไปมองและพบชายวัยกลางคนกำลังมองเขาด้วยเจตนาฆ่าจากบนเรือของประเทศเกาหลี