ปาร์คเทียนยังถูกครอบงำไปด้วยความกลัวเมื่อได้เห็นสายฟ้าที่อยู่เหนือหัวของเขา
มะ…มีจริง ๆ ….. สายฟ้า ? ปาร์คเทียนยังพึมพัมตะกุกตะกักออกมาด้วยความกลัวและเสียใจ พายุฟ้าคะนองเช่นนี้จู่ๆพลันเกิดขึ้นได้อย่างไรในวันที่มีแดดจัด ?
เขาไม่เชื่อจนกระทั่งได้เห็นด้วยตาตนเองตอนนี้เขาเชื่อแล้ว หลี่ฉิงเฟิงสามารถเรียกสายฟ้าออกมาได้อย่างเหนือความคาดหมายราวกับปีศาจ !
ใบหน้าของปาร์คเทียนยังเปลี่ยนเป็นซีดเผือดในพริบตาเขาหันหลังกลับและเตรียมจะหนี แต่สายฟ้านั้นเร็วเกินไป มันผ่าเข้าใส่เขตแดนวารีละมุนของปาร์คเทียนยังในทันที
น้ำเป็นสื่อนำกระแสไฟฟ้ามันแพร่กระจายไฟฟ้าด้วยความเร็วยิ่งยวดทำให้การโจมตีของสายฟ้าในครั้งนี้ทวีคูณเข้าไปอีก ร่างกายของปาร์คเทียนยังถูกฟ้าผ่าใส่และเกิดเสียงแตกดังออกมาเขตแดนวารีละมุนของเขากลายเป็นตัวช่วยขยายอำนาจการทำลายของสายฟ้าซึ่งทำให้ปาร์คเทียนยังที่โดนฟ้าผ่าต้องทุกข์ทรมานและชักกระตุกอย่างต่อเนื่อง ร่างของเขาถูกเผาตั้งแต่หัวจรดเท้าและปกคลุมไปด้วยสีดำไหม้เกรียม เขามองไปที่ฉิงเฟิงราวกับมองปีศาจ
ฉันบอกแกแล้วแต่แกก็ยังหัวรั้นอวดดีไม่เข้าท่า เป็นไงละ ดูสภาพแกตอนนี้สิ
ฉิงเฟิงแสร้งทำเป็นสงสาร
แกแก ปาร์คเทียนยังพยายามจะพูด แต่ทั้งหมดที่เขาทำได้คือมองฉิงเฟิงด้วยความกลัว
ร่างกายของเขากำลังกระตุกเหมือนมีอาการชักและเต็มไปด้วยความทุกข์ทรมานทันใดนั้นเขาก็เกิดความคิดที่น่ากลัวขึ้นมาว่า แท้จริงแล้วหลี่ฉิงเฟิงอาจจะควบคุมสายฟ้าได้จริงๆ
โอ้ แกกำลังจะบอกว่ามันเจ็บปวดจนตายเสียดีกว่าใช่ไหมละ ? ย่อมได้ ฉันชอบช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ ฉันจะช่วยให้แกหายเจ็บเอง ฉิงเฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยนบนใบหน้าที่เต็มไปด้วยเจตนาฆ่า
ปาร์คเทียนยังรู้สึกหวาดกลัวต่อสิ่งที่ฉิงเฟิงพูดมันทำให้ร่างกายของเขากระตุกมากขึ้น เขามองไปที่ฉิงเฟิงด้วยแววตาอ้อนวอนขอความเมตตา แต่เขาไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้
แกร่ก!!
ฉิงเฟิงหักคอของปาร์คเทียนยังด้วยท่าเดียว,เป็นการจบชีวิตและทำให้เขากลายเป็นศพ
ฉิงเฟิงไม่เคยแสดงความเมตตาต่อศัตรูของเขา
ไม่เลวดับไปเก้าก็เท่ากับตอนนี้ฉันมีโทเค็นนักสู้เก้าอันแล้ว ฉิงเฟิงยิ้ม เขาพบโทเค็นนักสู้จากศพของปาร์คเทียนยังและลูกน้องของเขา จากนั้นเขาก็เดินออกไปอย่างเงียบงัน ฉิงเฟิงเพิ่งได้โทเค็นมาเก้าอันบวกกับหนึ่งอันจากสายลับชุดดำในตอนแรกและของเขาเองอีกหนึ่งอันสรุปว่าตอนนี้เขามีโทเค็นทั้งหมด 11 อันแล้ว
การต่อสู้และความขัดแย้งมักเกิดขึ้นภายในภูเขาอัสนีเพลิงนรกแห่งนี้เนื่องจากการแย่งชิงโทเค็นนักสู้ผู้คนตกตายมากมายเพื่อสิ่งนี้
แต่นอกเหนือไปจากเหล่ายอดฝีมือแล้วมันยังมีสิ่งมีชีวิตที่วิวัฒนาการแล้วซึ่งออกโจมตีมนุษย์ในบางครั้งอีกด้วยเพราะฉิงเฟิงก็เพิ่งจะเจอหมูป่าวิวัฒนาการทันทีที่เดินออกมาก
หมูป่าตัวนี้มีลักษณะแปลกมากมันสูงถึงห้าเมตรและมีเขี้ยวขาวที่แหลมคมถึงแปดซี่ มันดูน่าหวาดกลัวมาก
หมูป่าที่สังเกตเห็นมนุษย์อย่างฉิงเฟิงมันรีบพุ่งเข้าหาเขาด้วยพลังทั้งหมดของมัน
เจ้าหนูลองใช้พลังของกายามนุษย์แทนการโจมตีดูสิ เสียงของจักรพรรดิราตรีปรากฏขึ้นในใจของฉิงเฟิง
ฉิงเฟิงพยักหน้าเขาเพิ่งเรียนรู้เคล็ดวิชาของกายามนุษย์และกำลังต้องการดูว่ามันทรงพลังแค่ไหน
หมูป่าวิวัฒนาการตัวนี้ทรงพลังมากหลุมขนาดใหญ่สี่หลุมที่มีความลึกเกือบ 30 เซนติเมตรปรากฏขึ้นบนพื้นจากการตะกุยพื้นอันทรงพลังของมัน
ตัวมันมีน้ำหนักเกือบหมื่นปอนด์นั่นคือความแข็งแกร่งที่เกือบจะเทียบเท่ากับแกรนด์มาสเตอร์เลยทีเดียว
ฉิงเฟิงยังคงสงบนิ่งและเปิดใช้งาน‘กายาแดนชำระมนุษย์’ [Mortal Purgatory Body] ในใจ ในขณะที่จ้องไปที่หมูป่าที่วิวัฒนาการตัวนั้น
******
แดนชำระ
(อังกฤษ: Purgatory) หรือ
ไฟชำระ คือ สภาวะหรือขั้นตอนที่วิญญาณได้รับการชำระให้บริสุทธิ์หรือการลงโทษชั่วคราว เป็นที่เชื่อกันว่าดวงวิญญาณที่ตายขณะได้รับการปลดปล่อยจะได้ไปสวรรค์ นี่เป็นความคิดเชิงทฤษฎีที่มีพื้นฐานและได้รับการยอมรับในศาสนาคริสต์ยุคแรก ในขณะที่ในแนวคิดเชิงวรรณกรรม แดนชำระคือสถานที่ทางภูมิศาสตร์ขนาดใหญ่ในความเชื่อและจินตนาการของคริสตชนสมัยกลาง
แนวคิดเกี่ยวกับแดนชำระเชื่อมโยงกับคริสตจักรละตินในนิกายโรมันคาทอลิก(เป็นปรัชญาหลักในคริสตจักรที่บรรลุนิติภาวะแล้วหรือในทางพิธีกรรม ถึงแม้บ่อยครั้งจะไม่ได้ใช้ชื่อว่า แดนชำระ ก็ตาม) ชาวแองกลิคันแห่งแองโกลคาทอลิกมักถือตามนี้ จอห์น เวสลีย์ ผู้ก่อตั้งคณะเมทอดิสต์ เชื่อในสถานะกลางระหว่างความตายกับการพิพากษาครั้งสุดท้ายและเชื่อว่าเป็นไปได้ที่จะมี การเติบโตอย่างต่อเนื่องของพระคุณ ณ ที่แห่งนั้น คริสตจักรอีสเทิร์นออร์ทอดอกซ์เชื่อในความเป็นไปได้ที่จะเกิดการแลกเปลี่ยนสภาวะของดวงวิญญาณผู้ที่ตายไปแล้วผ่านทางผู้อธิษฐานและการสวดอ้อนวอนอันศักดิ์สิทธิ์ และชาวออร์โธด็อกซ์จำนวนมากโดยเฉพาะผู้บำเพ็ญตน หวังและภาวนาเพื่อฟื้นคืนความสัมพันธ์กับพระเจ้า อีกความเชื่อที่คล้ายกันคือเชื่อในโอกาสรอดครั้งสุดท้ายโดยชาวมอร์มอน ชาวยิวยังเชื่ออีกว่าเป็นไปได้ที่จะมีการชำระล้างหลังความตาย และยังใช้คำว่า แดนชำระ เพื่อสร้างความเข้าใจความหมายของคำว่า เกเฮนนา (ปลายทางของคนชั่วช้า-ในความหมายของชาวยิวและคริสเตียน) อย่างไรก็ตามความเชื่อเกี่ยวกับ การชำระดวงวิญญาณ อาจถูกปฏิเสธอย่างชัดเจนจากในประเพณีความเชื่ออื่น ๆ
คำว่าpurgatory ได้รับอิทธิพลมาจากภาษาแอลโกล-นอร์แมน และภาษาฝรั่งเศสเก่า จากคำละตินว่า
purgatorium
ถูกใช้กันเป็นวงกว้างเพื่ออ้างถึงแนวคิดทางประวัติศาสตร์และแนวคิดสมัยใหม่ของ การทนทุกข์ทรมานสั้นๆ หลังความตายจากการสาปแช่งอันเป็นนิรันดร์ และถูกใช้อย่างไม่เฉพาะเจาะจงเพื่อหมายถึงสถานที่หรือสภาวะของความทุกข์ทรมานหรือความเจ็บปวดที่ไม่ยืนยาว *******
ตูม!!!
เขี้ยวหมูป่าพุ่งแทงเข้าใส่ร่างของฉิงเฟิงอย่าหนักหน่วงตามมาด้วยเสียงอันดัง แต่ผลที่ออกมากลับกลายเป็นเขี้ยวที่แหลมคมน่าหวาดผวาเหล่านั้นกลับร้าวในทันทีส่วนฉิงเฟิงไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วน
ฉิงเฟิงรู้สึกว่าร่างกายของเขาทรงพลังและแข็งแกร่งขึ้นเป็นสองเท่า!
กายาแดนชำระนั้นทรงพลังอย่างสุดขั้วเคยมีคำร่ำลือกันว่าถ้าหากผู้ใดก็ตามที่ฝึกจนถึงขั้นสุดท้าย มันจะทรงพลังพอที่จะกักนรกได้เลยทีเดียว
เป็นที่แน่นอนว่ากายาของฉิงเฟิงในตอนนี้ยังไม่ถึงขั้นกักนรกได้แต่การกักหมูป่าวิวัฒนาการนั้นง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก
ฮู่มมมมมมมมมมมมม!
หมูป่าวิวัฒนาการส่งเสียงคำรามออกมาด้วยความเจ็บปวดเมื่อเขี้ยวของมันร้าวเขี้ยวเป็นอาวุธและอวัยวะที่สำคัญของหมูป่า แต่ตอนนี้กลับถูกมนุษย์ทำลายต่อหน้า มันเต็มไปด้วยความโกรธ
หมูป่าคำรามออกมาอีกครั้งด้วยไฟโทสะที่โหมกระหน่ำและพุ่งเข้าหาฉิงเฟิงอย่างดุดัน
หัวหมูป่ากระแทกเข้ากับร่างกายของฉิงเฟิงแต่ผลที่ออกมาคือมันเองที่เป็นฝ่ายหัวกะโหลกแตกและตายคาอกฉิงเฟิงในทันที !
ฉิงเฟิงยังคงยืนนิ่งและมองไปที่หมูป่าที่ตายไปแล้วบนร่างของเขา
พระเจ้า…ผิวหนังของฉันโคตรหนาเลยตอนนี้ บางทีอาจจะหนากว่ากำแพงเมืองด้วยซ้ำ แม้แต่หมูป่าวิวัฒนาการก็ยังหัวกระโหลกแตกตายหลังจากกระแทกผิวฉัน !
ฉิงเฟิงคิดในใจ
ในความเป็นจริงควรจะต้องกล่าวว่าผิวหนังของเขาทนทานยิ่งกว่าอุกกาบาตมากกว่าจะบอกว่าหนาด้วยซ้ำไป !
ฉิงเฟิงรู้ว่าตอนนี้เขามาถึงการบ่มเพาะกายาในขั้นแรก‘กายาแดนชำระ’ แล้วขั้นตอนต่อไปคือ ‘กายาจิตวิญญาณ’ จากนั้นก็จะเป็น ‘กายาจักรพรรดิ’ ยิ่งระดับขั้นสูงขึ้น ร่างกายของเขาก็จะยิ่งแข็งแกร่งขึ้น
ฉิงเฟิงยังก้าวต่อไปเพื่อบรรลุความสำเร็จเหล่านี้เมื่อถึงวันนั้นเขาจะเป็นผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดในใต้หล้า !
ฉิงเฟิงเงยหน้าขึ้นมองและเห็นพลุสัญญาณบนท้องฟ้าซึ่งห่างจากจุดที่เขาอยู่ราวๆ200 ไมล์ทางเหนือ เขารู้ว่านั่นเป็นสัญญาณจากฮวาเซียนจือเพราะเขาก็มีมันอยู่ชิ้นหนึ่ง
หรือว่าฮวาเซียนจือจะพบปัญหา
ฉิงเฟิงขมวดคิ้วและมีท่าทีเป็นกังวล
เขารู้ว่าผู้แข็งแกร่งอย่างฮวาเซียนจือย่อมไม่ส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือออกมาง่ายๆแน่ถ้าหากไม่พบปัญหาจริงๆ
ตอนนี้ฉันสามารถควบคุมสายฟ้ากับครอบครองไข่มุกอัสนีอีกทั้งยังบรรลุการบ่มเพาะกายาขั้นแรกแล้ว ฉันควรจะไปช่วยฮวาเซียนจือ…
ฉิงเฟิงพึมพำกับตัวเองและมุ่งหน้าไปยังทิศทางที่ฮวาเซียนจือส่งสัญญาณ
ในขณะเดียวกันประมาณ 200 ไมล์ทางเหนือจากจุดที่หลี่ฉิงเฟิงอยู่
ทีมหัวเซี่ยของฮวาเซียนจือกำลังเผชิญกับปัญหาบางอย่างเกิดปรากฏการณ์ฟ้าร้องและฟ้าผ่าอย่างต่อเนื่องในหุบใหญ่เบื้องหน้าพวกเขา
ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์สีแดงต้นหนึ่งซึ่งเป็นที่รู้จักกันในชื่อดอกไม้จิตวิญญาณสายฟ้าตั้งตระหง่านอยู่ที่สุดทางของหุบเขามันเป็นพืชหายากที่สามารถพบได้เพียงในหุบเขาอัสนีเพลิงนรกแห่งนี้เท่านั้น พืชชนิดนี้สามารถใช้ชะล้างร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกทั้งยังสามารถชำระจิตวิญญาณได้อีกด้วย
มนุษย์โดยทั่วไปสามารถกลายเป็นผู้ฝึกยุทธ์โบราณได้หลังจากดูดซับพืชเหล่านี้แต่ถ้าผู้ฝึกยุทธ์โบราณได้ดูดซับพืชพวกนี้ มันจะทำให้รากฐานของร่างกายแข็งแกร่งและมั่นคงยิ่งขึ้นในการก้าวไปสู่ระดับต่อไป
เนื่องจากผลประโยชน์อันดีเลิศของมันทำให้ทุกคนต่างก็ปรารถนา
จากข้อเท็จจริงนี้นอกเหนือไปจากทีมหัวเซี่ยแล้ว ทีมอื่นๆจากประเทศอื่นๆเช่น ชาแมน ตระกูลเคนโด้ สมาคมนักฆ่ารัสเซียล้วนมารวมตัวกันที่นี่แทบทั้งสิ้น