อิซุนากาโกะ เตรียมตัวตายได้แล้ว ฉิงเฟิงยิ้มอย่างเย็นชาในขณะที่กำลังถือกระบี่ไว้ในมือ ลำแสงของพลังกระบี่พุ่งออกมาเต็มไปทั่วทั้งพื้นที่
ฉัวะ!
นากาโนะตกตายในทีดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความสยดสยอง
เร็ว..กระบี่นี้เร็วเกินไป
นี่คือความคิดสุดท้ายและอย่างเดียวที่เกิดขึ้นในใจของนากาโนะนอกเหนือจากความหวาดกลัว เขาก็ยังรู้สึกเสียใจก่อนตาย เขาเสียใจที่เกิดความละโมภจนไปล่วงเกินชายหนุ่มผู้นี้จนต้องเอาชีวิตมาทิ้งที่นี่
ผู้อาวุโสสาม,อิซุ โอโนะ ที่ได้เห็นอาวุโสสองตกตายก็รู้สึกหวาดกลัว เขาไม่เคยเห็นแกรนด์มาสเตอร์คนไหนที่ทรงพลังเท่าหลี่ฉิงเฟิงมาก่อน พลังของเขาอยู่เหนือจินตนาการของเขาไปไกลลิบ
ผู้อาวุโสสามรู้ว่าฉิงเฟิงแข็งแกร่งยิ่งกว่าผู้นำตระกูลเคนโด้เพราะไม่มียอดฝีมือคนใดในประเทศที่สามารถปลิดปลงชีวิตของอาวุโสสองได้ด้วยกระบี่เดียวอย่างเขา
วูบ!
อาวุโสสามหันร่างเตรียมหนีโดยไม่พูดอะไรอีกเขารู้ว่าตนเองไม่ใช่คู่มือของฉิงเฟิง ดังนั้นการหนีจึงเป็นตัวเลือกเดียวของเขา
ฉัวะ!
อย่างไรก็ตามผู้อาวุโสสามก็เพียงแค่หนีไปได้สองก้าวเท่านั้นก่อนที่เขาจะถูกฉิงเฟิงบั่นคอตามไปอีกคน
เพียงสองกระบี่นั่นคือทั้งหมดที่ฉิงเฟิงใช้ในการฆ่าผู้อาวุโสของตระกูลเคนโด้สองคน ทุกคนต่างตกตะลึงโดยเฉพาะโยชิโกะ
เธอรู้ดีว่าผู้อาวุโสทั้งสองคนนี้มีพลังเพียงใดเพราะเธอก็เป็นชาวเกาะแปซิฟิกและเป็นส่วนหนึ่งของตระกูลนินจาพวกเขาต่างมีพลังพอๆกับพ่อของเธอ แต่ก็ยังไม่มีใครเทียบได้กับฉิงเฟิง
ในขณะนี้โยชิโกะรู้สึกโล่งใจมากโชคดีที่เธอยอมเป็นข้ารับใช้ของฉิงเฟิงตั้งแต่เขายังเป็นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นเหนือสวรรค์ ถ้าหากวันนี้เธอยังคงเป็นศัตรูเขา จุดจบของเธอก็คงไม่ต่างจากคนพวกนี้
ไม่สิชั้นไม่ได้เป็นข้ารับใช้ของหลี่ฉิงเฟิงอีกต่อไป เขาบอกว่าชั้นเป็นสหายของเขาและ… เขาก็ยังจูบชั้นอีกด้วย
โยชิโกะคิดถึงตอนที่ฉิงเฟิงจูบริมฝีปากเธอและใบหน้าของเธอก็กลายเป็นแดงก่ำ
ขึ้นชื่อว่าผู้หญิงไม่ว่าเธอจะแข็งแกร่งหรือมีพลังเพียงใดเมื่อต้องเผชิญหน้ากับคนที่ตนเองสนใจ เธอก็ย่อมมีอาการเขินอายเป็นธรรมดา น่าเสียดายที่ฉิงเฟิงไม่ได้สังเกตเห็นการแสดงออกของเธอในขณะนี้แม้แต่น้อย
ฉิงเฟิงพาทุกคนออกไปหลังจากที่เขาตรวจดูอาการบาดเจ็บของโยชิโกะพวกเขาทุกคนมุ่งหน้ากลับไปยังโรงแรมซากุระ ฉิงเฟิงต้องชิงตราประทับเก้ามังกรซึ่งเป็นสมบัติของหัวเซี่ยที่ถูกขโมยไปกลับคืนมา
………….
โรงแรมซากุระเป็นโรงแรมที่ใหญ่ที่สุดบนเกาะแปซิฟิกมันได้รับการจัดอันดับว่าอยู่ในระดับห้าดาวทีเดียว มันสวยงามอย่างยิ่ง
เมื่อฉิงเฟิงและผู้ติดตามของเขามาถึงที่โรงแรมซากุระฉินเซียนจื่อและคนอื่นๆต่างก็กำลังรอเขาอยู่ที่นั่น
คุณหนูฉินผู้อำนวยการชาวอยู่ไหนหรือ ฉิงเฟิงเอ่ยปากถามเมื่อเขาสังเกตเห็นว่าผู้อำนวยการหน่วยความมั่นคงพิเศษไม่อยู่ด้วย
ฉินเซียนจื่อขมวดคิ้วและกล่าวว่า ตราประทับเก้ามังกรเป็นสมบัติของชาติซึ่งตอนนี้มันถูกขโมยไป ผู้บริหารระดับสูงของหัวเซี่ยต่างก็โกรธจัด พวกเขาเรียกร้องต่อทางการของเกาะแปซิฟิกให้คืนของกลับมาโดยสมบูรณ์ จากนั้นเธอก็ออกไปตามหาตามสถานที่ที่น่าสงสัยที่สุดบนเกาะแปซิฟิก ฉิงเฟิงพยักหน้าแน่นอนว่าเขารู้ว่าทำไมผู้บริหารระดับสูงของหัวเซี่ยถึงได้โกรธแค้นขนาดนี้ ตราประทับหยกเก้ามังกรเป็นสมบัติของชาติ มันถูกขโมยมาโดยชาวเกาะแปซิฟิกมาก่อนและถูกเก็บรักษาไว้ที่เกาะแปซิฟิกจนกระทั่งฉิงเฟิงและทีมหัวเซี่ยเอาชนะการแข่งขันและได้รับมันกลับคืนมาในฐานะรางวัล แต่ตอนนี้มันกลับถูกคนของเกาะแปซิฟิกขโมยไปอีก ไม่แปลกที่พวกเขาจะโกรธกริ้ว
ฉินเซียนจื่อก็รู้สึกเป็นกังวลอยู่ไม่น้อยเนื่องจากหัวขโมยผู้นี้ได้ขโมยมันไปโดยปลอมตัวเป็นเธอและหลอกหวังอี้เฮอรวมถึงคนอื่นๆดังนั้นเธอจึงรู้สึกผิดและกลัวจะเป็นผู้ต้องสงสัย
ไม่ต้องกังวลไปฉันจะเอาตราประทับกลับคืนมาให้ได้ ฉิงเฟิงกล่าวอย่างแน่วแน่ เขาไม่เพียงต้องการช่วยฉินเซียนจื่อ แต่ยังต้องการทำเพื่อประเทศ
เกาะแปซิฟิกมักจะกลั่นแกล้งรังแกหัวเซี่ยมาเสมอแต่ครั้งนี้ไม่ใช่ ฉิงเฟิงคิดที่จะปลดปล่อยความโกรธแค้นของเขาลงบนเกาะแปซิฟิกเพื่อแสดงความรักชาติของเขา
โยชิโกะมานี่ พาฉันไปที่ตระกูลนินจาที ฉิงเฟิงยิ้มเล็กน้อยในขณะที่พูดกับโยชิโกะ
โยชิโกะได้แจ้งให้เขาทราบแต่แรกแล้วว่าลุงของเธอคือกระเรียนเหินซาโต้ซึ่งเป็นจอมโจรหมายเลขหนึ่งบนเกาะแปซิฟิกเขาเป็นผู้ต้องสงสัยคนสำคัญเพราะเขามีความเชี่ยวชาญด้านภาพลวงตาและการดำดิน
มีตระกูลใหญ่ห้าตระกูลบนเกาะแปซิฟิกแต่มีเพียงสี่ตระกูลเท่านั้นที่เข้าร่วมการแข่งขันของทวีปมังกรในครั้งนี้ ตระกูลนินจาไม่ได้เข้าร่วม ดังนั้นฉิงเฟิงไม่ค่อยคุ้นเคยกับพวกเขาและต้องอาศัยโยชิโกะเป็นคนนำทาง
แน่นอนว่านอกเหนือจากตระกูลนินจาฉิงเฟิงยังไม่เคยพบประกับอีกตระกูลหนึ่งนั่นก็คือตระกูลดาบปีศาจ พวกเขาเป็นหนึ่งในตระกูลใหญ่ของเกาะแปซิฟิกที่ลึกลับและมีอิทธิพลเป็นอย่างมาก แต่พวกเขาไม่ได้มีเรื่องขัดแย้งอะไรกับฉิงเฟิง ข้าจะไปกับท่านด้วยข้าต้องการพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเอง ฉินเซียนจื่อเผยอริมฝีปากสีแดงของเธอและกล่าวขึ้นในทันที
ถึงแม้ว่าฉินเซียนจื่อจะไม่ได้ถูกทุกคนตำหนิต่อเรื่องที่ตราประทับถูกขโมยไปแต่เธอก็ไม่พอใจอย่างมากเพราะหัวขโมยได้ปลอมตัวเป็นเธอ เธอสาบานว่าจะหาตราประทับให้พบและลงโทษคนที่ขโมยมัน
ฉิงเฟิงพยักหน้าจากนั้นเขาก็เดินทางไปยังตระกูลนินจาพร้อมกับโยชิโกะและฉินเซียนจื่อในขณะที่บอกให้คนอื่นๆพักที่โรงแรมซากุระ
………
ในฐานะหนึ่งในห้าตระกูลใหญ่ที่สุดของเกาะแปซิฟิกตระกูลนินจายังคงลึกลับอยู่เสมอเพราะนินจาเป็นผู้ฝึกศิลปะการต่อสู้โบราณที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครในเกาะแปซิฟิก
ถึงแม้ว่าตระกูลนินจาจะไม่มีความสามารถในเคล็ดวิชาโจมตีที่รุนแรงทรงพลังเช่นเดียวกับตระกูลเคนโด้แต่เทคนิคการซ่อนตัวและลวงตาของพวกเขานั้นล้ำเลิศที่สุดในเกาะแปซิฟิก
ในขณะนี้ภายในห้องนั่งเล่นห้องหนึ่งของตระกูลนินจา
มีคนห้าคนอยู่ภายในห้องนั่งเล่นซาโต้ ไมโกะ ผู้นำตระกูลนินจาและที่นั่งอยู่ข้างๆเขาก็คือน้องชายของเขา, กระเรียนเหินซาโต้
กระเรียนเหินซาโต้เป็นชายวัยกลางคนร่างผอมที่มีใบหน้าเล็กด้วยดวงตาเล็กๆและนิ้วมือเล็กๆ เขาเป็นผู้ที่มีลักษณะครบถ้วนสำหรับการเป็นปรมาจารย์หัวขโมย ร่างกายที่ผอมบางของเขาทำให้เขาสามารถลอดเข้าไปตามตรอกช่องได้อย่างง่ายดาย
ที่นั่งอยู่ข้างใต้ของกระเรียนเหินซาโต้ก็คือผู้อาวุโสอีกสามคนหนึ่งในนั้นคือผู้อาวุโสของตระกูลเคนโด้ อีกคนหนึ่งคือผู้อาวุโสของตระกูลคาราเต้และคนสุดท้ายคือผู้อาวุโสของตระกูลซามูไร
อย่างไรก็ตามตระกูลสุดท้าย, ตระกูลดาบปีศาจกลับไม่ปรากฏตัว เพราะตระกูลนี้มีความขัดแย้งกับทั้งสี่ตระกูลที่เหลือ
กระเรียนเหินเจ้าได้ตราประทับเก้ามังกรมาหรือไม่ ซาโต้ ไมโกะถามด้วยรอยยิ้ม
ท่านพี่แค่ขโมยตราอันนึงไม่ใช่ปัญหาใหญ่สำหรับข้า กระเรียนเหินกล่าวด้วยรอยยิ้มที่มั่นใจ
จากนั้นกระเรียนเหินก็ล้วงเข้าไปในเสื้อของเขาและนำตราประทับเก้ามังกรออกมา
ฮ่าๆๆกระเรียนเหิน ท่านสมแล้วที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นจอมโจรอันดับหนึ่งของเกาะแปซิฟิกเรา ท่านสามารถขโมยตราประทับมาจากชาวหัวเซี่ยหน้าโง่พวกนั้นได้จริงๆด้วย ผู้อาวุโสของตระกูลอื่นๆต่างก็กล่าวขึ้นด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าของพวกเขา
ถ้าเป็นเรื่องความแข็งแกร่งพวกเขาทุกคนต่างมีพลังมากกว่ากระเรียนเหินซาโต้ แต่ถ้าพูดถึงเรื่องการโจรกรรมและลวงตา ต่อให้พวกเขาทั้งหมดรวมพลังกันก็ไม่อาจเทียบกับกระเรียนเหินผู้นี้ได้
สุดยอดจอมโจรระดับท็อบของเกาะแปซิฟิกเป็นที่รู้จักกันดีทั่วประเทศมีข่าวลือว่าเขาสามารถขโมยได้แม้กระทั่งเสื้อผ้าของจักรพรรดิ
…
ครึ่งชั่วโมงต่อมาฉิงเฟิงก็มาถึงตระกูลนินจาพร้อมกับโยชิโกะและฉินเซียนจื่ออย่างไรก็ตาม ยามด้านนอกขวางทางพวกเขาไว้และไม่ยอมปล่อยให้พวกเขาเข้าไป