ตูม
!!
ร่างกายของซากุระระเบิดเป็นสายฝนโลหิตไม่มีแม้แต่ซากสังขารเหลืออยู่เลยนอกจากกลิ่นเหม็นคาวเท่านั้น
ทุกคนในกลุ่มผู้ชมต่างตกตะลึงเมื่อพวกเขาได้เห็นอัจฉริยะจากตระกูลบูชิโดแห่งเกาะแปซิฟิกร่างระเบิดด้วยหมัดเดียว
ผู้การ….ไม่ใช่ว่าหลี่ฉิงเฟิงโหดเหี้ยมเกินไปหน่อยหรือครับ
จางหยวนเล่ยกล่าวพร้อมกับมองไปที่ชาวเฟิงอู่ด้วยคิ้วที่ขมวดเป็นปม
ชาวเฟิงอู่เงียบไปครู่หนึ่งและมีรูปลักษณ์แปลกๆปรากฏบนใบหน้าของเธอจากนั้นเธอก็เอ่ยขึ้นว่า เขาตั้งใจน่ะ เขาพยายามสร้างความตกตะลึงให้แก่ชาวเกาะแปซิฟิก และให้พวกเขาเลือกว่า [จะยอมแพ้หรือจะโดนระเบิดตาย]
ชาวเฟิงอู่ฉลาดมากและคาดเดาความตั้งใจของฉิงเฟิงได้อย่างถูกต้อง
*หมายถึงช่วงสงครามโลกครั้งที่2 ครับ ญี่ปุ่นไม่ยอมแพ้สงครามเลยถูกระเบิดนิวเคลียร์ของสหรัฐ ฉิงเฟิงทำเหมือนตอกย้ำญี่ปุ่น*
ผู้ชมทั้งหลายต่างเป็นตัวแทนจากประเทศต่างๆและนี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้เห็นความรุนแรงโหดเหี้ยมของฉิงเฟิงในที่สุดพวกเขาก็เข้าใจว่าทำไมผู้เข้าแข่งขันถึงได้ประกาศยอมแพ้เกือบทั้งสิ้น
เหงื่อเย็นไหลบนหน้าผากของหัวหน้าทีมสิงคโปร์ด้วยความเสียใจอย่างสุดซึ้งที่เขาพยายามบังคับให้หลี่เทียนหมิงต่อสู้กับหลี่ฉิงเฟิงแต่โชคยังดีที่หลี่เทียนหมิงไม่เชื่อฟังเขา มิเช่นนั้นเขาจะต้องรับผิดชอบต่อการตายของหลี่เทียนหมิงทันทีที่กลับประเทศ
แน่นอนว่าความรุนแรงโหดเหี้ยมที่ฉิงเฟิงแสดงออกมานั้นจำกัดเฉพาะในหมู่ชาวเกาะแปซิฟิกเท่านั้นมันเป็นวิธีทำให้ศัตรูตกตะลึง
ในขณะนี้ผู้เข้าร่วมการแข่งขันทุกคนต่างมองไปที่ฉิงเฟิงด้วยความกลัวและสยดสยอง
แม้แต่ผู้อาวุโสสองกับผู้อาวุโสสามก็ดูหวาดผวาการระเบิดร่างซากุระซึ่งเป็นแกรนด์มาสเตอร์ขั้นสุดยอดด้วยหมัดเดียวนับว่าทรงพลังเหนือความเข้าใจของพวกเขา
พวกเขาหันไปมองหน้ากันและเห็นความสยองในสายตาของกันและกันพวกเขารู้ว่าแม้จะลงมือเองก็ไม่อาจเอาชนะหลี่ฉิงเฟิงได้
แต่ถึงกระนั้นก็ตามพวกเขาทั้งสองคนต่างก็ต้องการอุปกรณ์วิญญาณขั้นสูงของฉิงเฟิง
ผู้อาวุโสสามโปรดกลับไปที่ตระกูลและนำผู้เชี่ยวชาญข่ายอาคมมา เราจะฆ่าหลี่ฉิงเฟิงหลังจากวางกับดักเขาไว้ในข่ายอาคม ผู้อาวุโสสองกระซิบกับอาวุโสสาม
ผู้เชี่ยวชาญข่ายอาคมสามารถสร้างข่ายอาคมที่ทรงพลังและดักจับผู้คนไว้ก่อนที่จะโจมตี
ผู้อาวุโสสามพยักหน้าตกลงเขารู้ว่าการที่ใช้ผู้เชี่ยวชาญข่ายอาคมจะมีโอกาสที่จะเอาชนะฉิงเฟิงได้ดีกว่าใช้พลังของแกรนด์มาสเตอร์
เขาจ้องมองฉิงเฟิงอย่างเย็นยะเยือกก่อนที่จะจากไป
หลังจากได้เห็นร่างของซากุระระเบิดเป็นชิ้นๆผู้เข้าแข่งขันคนอื่นๆต่างก็ประกาศยอมแพ้
ระหว่างเกาะแปซิฟิกและหัวเซี่ยนั้นมีความบาดหมางกันอย่างลึกซึ้งผู้เข้าแข่งขันจึงไม่ยอมแพ้ง่ายๆ
เพื่อเป็นเกียรติแก่จักรพรรดิของพวกเขาและจิตวิญญาณแห่งบูชิโดชาวเกาะแปซิฟิกจะต้องต่อสู้กับฉิงเฟิงแม้ว่าค่าใช้จ่ายจะเป็นชีวิตของพวกเขาก็ตาม พวกเขาคิดว่าอาจจะมีความเป็นไปได้ที่จะเอาชนะฉิงเฟิงได้เล็กน้อยก็ตาม แต่ฉิงเฟิงนั้นทรงพลังเกินไปสำหรับพวกเขาและความเป็นไปได้นั้นคือศูนย์
ถึงแม้จะมีตัวช่วยอย่างอาวุธวิญญาณขั้นต่ำ,ดาบไซโคลน แต่ซากุระก็ถูกฉิงเฟิงระเบิดร่างตาย แล้วคนที่เหลือที่ไม่มีอาวุธวิญญาณจะเอาอะไรไปสู้ ดังนั้นพวกเขาทำได้เพียงเดินขึ้นลานประลองเป็นพิธีจากนั้นก็ประกาศยอมแพ้ไปทีละคน
ท้ายที่สุดรอบที่สามก็จบลงด้วยชัยชนะของทีมหัวเซี่ยฉิงเฟิงชนะทุกแมชต์โดยไม่ต้องอาศัพความช่วยเหลือจากฮวาเซียนจือและฉินเซียนจื่อแม้แต่น้อย
เมื่อฉิงเฟิงเดินลงจากเวทีกลับมาที่ทีมหัวเซี่ยหลังจากสิ้นสุดการแข่งขันสมาชิกในทีมทุกคนต่างมองเขาด้วยความชื่นชมเนื่องจากมันถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งสำหรับชาวหัวเซี่ยที่เอาชนะชาวเกาะแปซิฟิกได้
หลี่ฉิงเฟิงท่านแข็งแกร่งมาก ในขอบเขตแกรนด์มาสเตอร์ไม่มีผู้ใดเอาชนะท่านได้อีกต่อไป
ฮวาเซียนจือกล่าวด้วยเสียงเล็ก เธอครอบครองพลังลึกลับในร่างกายและสามารถวิเคราะห์ระดับความแข็งแกร่งของฉิงเฟิงได้
เธอรู้ว่าแม้เธอจะมีอุปกรณ์วิญญาณแต่หากปะทะกันขึ้นมาจริงๆก็ไม่แน่ว่าจะเอาชนะฉิงเฟิงได้ เธอคิดว่าความแข็งแกร่งทางร่างกายที่ไม่ธรรมดาของเขาเป็นผลมาจากการบ่มเพาะเคล็ดวิชาลึกลับบางอย่าง
ฉิงเฟิงยิ้มอย่างแผ่วเบาและไม่ตอบอะไรเขาค่อนข้างเห็นด้วยกับคำพูดของเธอที่ว่าไร้เทียมทานในขอบเขตแกรนด์มาสเตอร์ ยกเว้นการปะทะกับผู้ฝึกตนขึ้นไป
ฉินเซียนจื่อเดินมาหาฉิงเฟิงและพูดด้วยเสียงต่ำว่า หลี่ฉิงเฟิง ตามข้ามาหน่อย ข้ามีบางเรื่องที่ต้องพูดคุยกับท่าน
ฉิงเฟิงงงงันวูบหนึ่งและเดินตามเธอไปที่มุมๆหนึ่ง
คุณหนูฉินคุณมีเรื่องอะไรหรือ
หลังจากที่ท่านได้ตำแหน่งแชมป์ข้ามีเรื่องข้อร้องต่อท่าน ข้าต้องการหญ้ามังกร มันเป็นวัตถุดิบปรุงยาอายุวัฒนะที่ช่วยยืดอายุขัยได้
เรื่องนั้นเองหรือคุณไม่ต้องห่วงหรอก ผมคิดจะมอบหญ้าให้คุณอยู่แล้วต่อให้คุณไม่เอ่ยปาก ผมจะปรุงยาอายุวัฒนะให้พ่อของคุณเอง
ฉินเซียนจื่อมองฉิงเฟิงด้วยความซาบซึ้งเธอรู้ว่าถ้าหากฉิงเฟิงเรียกร้องขอหญ้ามังกรเป็นรางวัล เขาจะไม่ได้รับอะไรอีกเลยจากการแข่งขันครั้งนี้
หลังจากพักเบรกระยะสั้นๆฉิงเฟิงก็ก้าวขึ้นไปบนเวทีอีกครั้ง
เมื่อได้เห็นเขาบนเวทีอีกครั้งผู้เข้าแข่งขันของเกาะแปซิฟิกก็ไม่มีทางเลือกนอกจากต้องยอมรับความพ่ายแพ้เพราะไม่มีใครอยากตายเหมือนซากุระ
ใช่พวกเขากลัวและยังไม่อยากตาย อีกทั้งพวกเขายังแข็งแกร่งน้อยกว่าซากุระ ดังนั้นทางเลือกเดียวของพวกเขาก็คือยอมรับความพ่ายแพ้โดยสดุดี
ในทำนองเดียวกันผู้เข้าแข่งขันทั้งหมดจากประเทศอื่นๆต่างก็พร้อมใจกันยอมแพ้ทันทีที่ก้าวขึ้นสู่เวที
ในเมื่อไร้คู่ต่อสู้หลี่ฉิงเฟิงจึงได้อันดับหนึ่งและทำให้ทีมหัวเซี่ยกลายเป็นทีมอันดับหนึ่งของการแข่งขันบนทวีปมังกรในปีนี้ โดยที่ฮวาเซียนจือและฉินเซียนจื่อรวมไปถึงสมาชิกในทีมหัวเซี่ยทุกคนไม่ได้มีโอกาสก้าวขึ้นสู่เวทีแม้แต่ครั้งเดียว
แชมป์ของการแข่งขันผู้ฝึกยุทธ์โบราณแห่งทวีปมังกรสมัยที่ห้าสิบคือหลี่ฉิงเฟิง
ผู้ตัดสินวัยกลางคนประกาศด้วยเสียงดังกึกก้อง
ทุกคนต่างมองไปที่ฉิงเฟิงด้วยความอิจฉาริษยาและความประหลาดใจ
เขาเป็นแชมป์ที่มีชัยมากที่สุดในรอบห้าสิบปีที่ผ่านมานับตั้งแต่ก่อตั้งการแข่งขันในทวีปมังกร ฉิงเฟิงเดินไปที่แท่นรับรางวัลและรับตราประทับเก้ามังกรซึ่งเป็นสมบัติของชาติที่ถูกชาวเกาะแปซิฟิกช่วงชิงมาและตกอยู่ในมือของกองกำลังผู้ฝึกยุทธโบราณของประเทศ
ชาวเกาะแปซิฟิกได้วางแผนที่จะหลอกล่อกองกำลังผู้ฝึกยุทธ์โบราณของหัวเซี่ยด้วยตราประทับเก้ามังกรให้มายังเกาะแปซิฟิกและสังหารพวกเขาแต่พวกเขาไม่เคยคิดเลยว่ากองกำลังของพวกเขาจะถูกหลี่ฉิงเฟิงสังหารแทน จนในที่สุดก็สูญเสียตราประทับกลับคืนสู่เจ้าของอีกด้วยทวนระดับพลัง
นักสู้ปุถุชน
S-SSS– ความแข็งแกร่ง – ไม่เกิน 500 กิโลกรัม – ปรากฏตั้งแต่แรก
ผู้ฝึกยุทธโบราณ/ นักรบโบราณ
ใต้สวรรค์ต้น กลาง ปลาย สูงสุด
–ปรากฏตั้งแต่