เมื่อเห็นเฮ่าหมิงหลบหนีฉิงเฟิงก็มีปฏิกิริยาและไล่ตามติดในทันที เขาไม่มีทางปล่อยให้คนผู้นี้หนีรอดไปได้แน่นอน
เมื่อเป็นศัตรูของเขาเขาไม่มีทางเลือกอื่นให้มันนอกจากความตาย !
มังกรเหินนภา
!!
ฉิงเฟิงโห่ร้องออกมาขณะที่เหวี่ยงหมัด
กล่าวอย่างมีเหตุผลฉิงเฟิงน่าจะใช้พลังมังกรแท้จริงของเขาไปหมดตั้งแต่ออกหมัดที่แล้ว อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เขาเพิ่งได้กินหญ้ามังกรเข้าไป พลังงานมังกรแท้จริงในร่างกายของเขาจึงได้รับการฟื้นฟู
เป็นที่ชัดเจนว่าทันทีที่ฉิงเฟิงใช้เพลงหมัดมังกรเพลิงอีกครั้งพลังแท้ทั้งร่างจะเหือดแห้งหมดสิ้นและอาจจะหมดสติไป ถึงกระนั้นก็ตาม เขาไม่มีทางเลือกอื่นและจำต้องกัดฟันใช้พลังเฮือกสุดท้ายเพื่อสังหารเฮ่าหมิงก่อนที่มันจะหลบหนีไปได้
ฉิงเฟิงออกหมัดขวาของเขาและแปรเปลี่ยนเป็นมังกรเพลิงสีทองยาวสิบเมตรด้วยเปลวเพลิงขนาดมหึมามันเผาผลาญชั้นบรรยากาศโดยรอบและกักขังเฮ่าหมิงไว้ข้างในทันที
อั่ก… !
ด้วยเสียงกรีดร้องโหยหวนเพียงสั้นๆร่างของเฮ่าหมิงก็ถูกแผดเผาไปด้วยเปลวเพลิงสีทองโดยไม่เหลือแม้แต่อนุภาคเดียว
หลังจากการชกออกไปเพียงหนึ่งมันหัวหน้าตระกูลบูชิโด, เฮ่าหมิงก็สูญสลายไม่เหลือซากไปจากโลกนี้
อะไรวะเนี่ย! หลี่ฉิงเฟิง… ฆ่าเฮ่าหมิงไปด้วยอีกคน?
หลี่ฉิงเฟิงผู้นี้ช่างไร้เหตุผลสิ้นดีเขาได้สังหารสุดยอดฝีมือผู้เชี่ยวชาญของเกาะแปซิฟิกไปถึงสามคนแล้ว
ใช่ทั้งสามคนต่างก็เป็นยอดฝีมือระดับครึ่งก้าววิญญาณแท้จริง ข้าไม่อยากเชื่อเลยว่าพวกเขาจะถูกหลี่ฉิงเฟิงปลิดชีพจนหมดสิ้น ชายหนุ่มคนนี้ทรงพลังเกินไปแล้ว
ทุกคนโดยรอบต่างพูดคุยกันด้วยความหวาดกลัวและตกใจอย่างสุดซึ้ง
หลี่ฉิงเฟิงเปลี่ยนทั้งเกาะแปซิฟิกจากหน้ามือเป็นหลังมือด้วยการสังหารผู้เชี่ยวชาญที่ยิ่งใหญ่ถึงสามคน
การพลิกเกาะแปซิฟิกนั้นฟังดูน่าเกรงขามแต่ตอนนี้ฉิงเฟิงไม่มีเวลาใส่ใจคำพูดพวกเขา เขารู้สึกอึดอัดเล็กน้อย เพลงหมัดมังกรเพลิงนั้นทรงพลังอย่างไม่น่าเชื่อ แต่มันก็สูบแก่นพลังแท้ของเขาจนหมดสิ้น เขาเซไปเซมาและกำลังจะหมดสติในไม่ช้า
ฉินเซียนจื่อขมวดคิ้วเรียวงามเธอรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติกับฉิงเฟิง เธอเหินร่างราวกับผีเสื้ออันงดงามมาถึงที่ด้านข้างของเขาทันที
ท่านเป็นอะไร ฉินเซียนจื่อเอ่ยปากถาม เสียงของเธอเบามากจนได้ยินแค่เพียงสองคนเท่านั้น
ฉันหมดสิ้นพลังแท้ในร่างแล้ว…และกำลังจะหมดสติในไม่ช้า รบกวนคุณช่วยพาฉันขึ้นเรือที อย่าให้พวกมัน…รู้ ฉิงเฟิงตอบด้วยใบหน้าซีดเซียวและแทบจะหมดสติไป
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ฉินเซียนจื่อก็เหยียดมือที่ละเอียดอ่อนโอบกอดร่างของฉิงเฟิงไว้และรีบพาเขาขึ้นเรือ
ในฐานะที่เป็นบุตรสาวคนโตของตำหนักโห่วเย่อหวงตี้เธอตระหนักได้ถึงสภาพอาการในปัจจุบันของฉิงเฟิง เขากำลังจะหมดสติในไม่ช้า
มันเป็นครั้งแรกที่ฉินเซียนจื่อโอบกอดผู้ชายเช่นนี้ใบหน้าของเธอแดงก่ำราวกับองุ่นแดงด้วยความเขินอาย
เมื่อเห็นฉินเซียนจื่อพยุงฉิงเฟิงเข้ามาใกล้สาวกหลายพันคนที่รุมล้อมรอบท่าเรือซากุระก็แตกฮือและวิ่งหนีไป ขนาดยอดฝีมือผู้ฝึกตนระดับครึ่งก้าวจิตวิญญาณแท้จริงก็ยังถูกหลี่ฉิงเฟิงฆ่าตาย พวกเขาต่างเผ่นป่าราบและไม่กล้าต่อต้านเขาอีก
ฮือฮา …
ภายในพริบตาฝูงชนหลายพันคนก็แตกฮือหลบหนีไปหมดไม่มีเหลือแม้แต่คนเดียว
ฉินเซียนจื่อช่วยพยุงฉิงเฟิงกลับขึ้นเรือในสายตาของคนอื่นพวกเขาทั้งสองดูราวกับคู่รักกัน (อ้าว……)
ทันทีที่พวกเขาขึ้นเรือฉิงเฟิงก็มึนหัวจนตกลงสู่อ้อมอกของฉินเซียนจื่อ ศีรษะของเขาอยู่บนหน้าอกขนาดใหญ่ของเธอ
โคตรใหญ่….แถมยังโคตรนิ่ม
นี่คือความคิดของเขาก่อนที่จะหมดสติไป ฉินเซียนจื่อดูภายนอกแล้วไม่น่าจะเป็นผู้ที่ครอบครองหน้าอกอันเลอเลิศเช่นนี้ ฉินเซียนจื่อดวงตาเบิกกว้างไปด้วยความอับอายเมื่อเธอรู้สึกว่าใบหน้าของฉิงเฟิงซุกอยู่บนหน้าอกของเธอเธออยากจะร่ำร้องออกมา เพราะเธอยังเป็นหญิงพรหมจรรย์ที่ไม่เคยแตะต้องชายใด แต่ด้วยการที่ฉิงเฟิงหมดสติและทำไปโดยไม่รู้ตัว เธอจึงไม่สามารถพูดอะไรได้
เอาเถอะ…ข้าจะละเว้นให้เพียงครั้งนี้ครั้งเดียว
ใบหน้าของเธอแดงก่ำด้วยความอับอาย จากนั้นเธอก็พาฉิงเฟิงกลับเข้าห้องในเรือทันที
การที่ได้เห็นฉินเซียนจื่อโอบกอดผู้ชายทุกคนบนเรือต่างก็สตั๊นและคิดในใจว่า
แม่เจ้าช่างเป็นสตรีที่เปิดเผยนัก หล่อนจะข่มขืนชายคนนี้หรือเปล่าเนี่ย
! เมื่อได้เห็นสีหน้าที่แปลกประหลาดจากทุกคนใบหน้าของฉินเซียนจื่อก็แดงจนไม่รู้จะแดงอย่างไรอีก เธอไม่เคยโอบกอดผู้ชายมาก่อน นี่เป็นครั้งแรก เข่าของเธอเริ่มสั่นระริกจากกลิ่นอายอันเข้มแข็งของบุรุษเพศ
ฉินเซียนจื่อพาฉิงเฟิงเข้าห้องและให้เขานอนบนเตียงหลังจากนั้นชาวเฟิงอู่ ฮวาเซียนจือ ราชาอสูรสิงโต ราชาอสูรมังกรเขียว ราชาอสูรค้างคาวม่วงและทุกคนในทีมเขี้ยวหมาป่าก็ตามมาถึงห้องนี้เช่นกัน
แม่นางฉินบอสเป็นอะไรอะ ลู่ซวนจี๋เคยพบกับฉินเซียนจื่อมาก่อน เขาจึงถามเธอทันที
ใบหน้าของเธอยังยังแดงก่ำด้วยความอับอายเธอกล่าวว่า เขาใช้พลังแท้ทั้งหมดในร่างจนเหือดแห้งเพื่อสังหารเฮ่าหมิง เขาไม่เหลือพลังแท้จึงอ่อนแอและหมดสติไป
ลู่ซวนจี๋หน้านิ่วคิ้วขมวดด้วยความกังวลเขารู้ดีถึงอาการที่สูญสิ้นพลังแท้ หากไม่ได้รับการฟื้นฟูโดยด่วน มันอาจจะมีผลกระทบต่อร่างกาย
ฉินเซียนจื่อรู้ดีว่าเวลาไม่คอยท่าฉิงเฟิงไม่อาจรีรอหรือนอนเฉยๆให้พลังแท้ฟื้นฟูมิฉะนั้นเขาอาจจะได้รับบาดเจ็บมากขึ้น เธอรีบหยิบโอสถบำรุงออกมาทันทีและป้อนให้กับฉิงเฟิง
โอสถบำรุงกำลังนั้นเป็นโอสถระดับแกรนด์มาสเตอร์ขั้นสูงฉินเซียนจื่อมีมันเพียงเม็ดเดียวเท่านั้น เธอเตรียมไว้ให้สำหรับพ่อของเธอเผื่อกรณีฉุกเฉิน แต่ตอนนี้เธอไม่มีทางเลือกนอกจากต้องป้อนมันให้กับฉิงเฟิง
โชคไม่ดีที่ตอนนี้ฉิงเฟิงสูญสิ้นพลังแท้อย่างร้ายแรงโอสถบำรุงพลังเพียงเม็ดเดียวไม่เพียงพอที่จะฟื้นฟูพลังแท้ของเขา เขายังคงไม่ได้สติ
เมื่อได้เห็นว่าฉิงเฟิงยังไม่ฟื้นฮวาเซียนจือก็หยิบโอสถของเธอออกมาและมอบให้กับฉินเซียนจื่อพร้อมทั้งกล่าวว่า นี่เป็นโอสถพลังแท้ ป้อนให้เขาสิ
โอสถพลังแท้ ฉินเซียนจื่อขมวดคิ้วเรียวงามเมื่อได้ยินชื่อโอสถชนิดนี้ความประหลาดใจถูกเขียนขึ้นทั่วใบหน้าของเธอ
โอสถพลังแท้เป็นโอสถระดับวิญญาณมันหาได้ยากยิ่งและอาจจะมีเพียงแค่ไม่กี่เม็ดในตำหนักร้อยบุปผา เป็นที่น่าแปลกใจที่ฮวาเซียนจือมอบมันให้กับฉิงเฟิงง่ายๆ
พวกเราต่างเป็นชาวหัวเซี่ยหลี่ฉิงเฟิงสร้างเกียรติยศชื่อเสียงให้แก่ประเทศชาติของเรา การมอบยานี้เพื่อช่วยเขานับเป็นสิ่งสมควรแล้ว ฮวาเซียนจือกล่าวด้วยรอยยิ้มที่งดงาม
ชัยชนะของฉิงเฟิงเหนือทวีปมังกรนำมาซึ่งเกียรติยศแก่ชาวหัวเซี่ยและเป็นแรงบันดาลใจตลอดจนเป็นศักดิ์ศรีของประเทศพลเมืองชาวหัวเซี่ยทุกคนภาคภูมิใจในตัวเขา
นอกจากนี้หัวเซี่ยและเกาะแปซิฟิกก็ยังเป็นศัตรูคู่แค้นกันด้วยการที่ชาวเกาะแปซิฟิกเคยสังหารหมู่พลเมืองชาวหัวเซี่ยมากมายในอดีตซึ่งฉิงเฟิงนับว่าได้แก้แค้นให้ชาวหัวเซี่ยไปบ้างแล้ว ด้วยการกระทำของเขาทำให้ฮวาเซียนจือเคารพเขาอย่างมาก
ฉินเซียนจื่อพยักหน้าในขณะที่เธอป้อนโอสถพลังแท้ให้แก่ฉิงเฟิง
โอสถพลังแท้ไหลเข้าสู่ปากของเขามันแปรเปลี่ยนเป็นพลังงานขนาดมหาศาลที่พรั่งพรู มันเป็นโอสถชั้นสูงระดับจิตวิญญาณที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังอันยิ่งใหญ่ราวกับมหาสมุทร มันช่วยฟื้นฟูพลังแท้ของฉิงเฟิงได้อย่างรวดเร็ว
ครู่ต่อมาแก่นพลังแท้ในร่างของฉิงเฟิงก็ได้รับการฟื้นฟูดวงตาของเขาเปิดขึ้นช้าๆ
บอสครับฟื้นแล้วหรือ ! ลู่ซวนจี๋รู้สึกตื่นเต้นดีใจมากที่ได้เห็นฉิงเฟิงฟื้นขึ้นมา ในฐานะหนึ่งในทีมเขี้ยวหมาป่า เขาสนิทสนมกับฉิงเฟิงมาก
เกิดอะไรขึ้นกับฉัน ฉิงเฟิงยังคงรู้สึกอึดอัดแปลกๆเพราะเพิ่งฟื้นขึ้นมา
บอสครับคุณหมดสติไปหลังจากที่ใช้พลังแท้จนเหือดแห้ง การที่คุณฟื้นเนี่ยต้องขอบคุณแม่นางฉินกับฮวาเซียนจือเลยนะ พวกเธออุตสาห์มอบโอสถล้ำค่าเพื่อช่วยบอส ลู่ซวนจี๋อธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นให้ฉิงเฟิงฟัง