เพลงหมัดมังกรเพลิงทั้ง9
หมัดที่1 มังกรเหินนภา
หมัดที่2
หมัดที่3 บดปฐพีขยี้สวรรค์
หมัดที่4 พินาศนภาลัย
หมัดที่5 เคลื่อนคล้อยสวรรค์โลกา
หมัดที่6 ทลายสุญตา
หมัดที่7
หมัดที่8
หมัดที่9
ฉิงเฟิงหยิบเอาหญ้ามังกรออกมาและอ้าปากกินมันเข้าไปทันทีหญ้ามังกรเติบโตขึ้นในบริเวณใกล้เคียงกับถ้ำมังกรและได้ดูดซับกลิ่นอายของมังกรแท้จริง ดังนั้นหญ้ามังกรจึงเต็มไปด้วยพลังแท้ของมังกรแท้จริง
หญ้ามังกรนี้มีลักษณะเหมือนหญ้าจริงๆแต่มันละลายทันทีเมื่อกินเข้าปากและแปรสภาพกลายเป็นกลุ่มก้อนของพลังมังกรที่แท้จริงซึ่งช่วยเติมเต็มการเผาผลาญพลังในการใช้เพลงหมัดมังกรเพลิงของฉิงเฟิงไปเมื่อครู่
หญ้ามังกรมีร่องรอยของกลิ่นมังกรแท้จริงซึ่งส่งผลสะท้อนกับโลหิตมังกรภายในร่างของฉิงเฟิงไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่าหญ้ามังกรควรคู่แก่การได้รับยกย่องว่าเป็นสมุนไพรวิญญาณล้ำค่าชนิดหนึ่ง พลังงานที่บรรจุอยู่ภายในนั้นรุนแรงมากจนทำให้ฉิงเฟิงสามารถเติมเต็มพลังที่หายไปได้ทันที
ไม่ได้การหลี่ฉิงเฟิงกำลังจะเติมเต็มพลังแท้!
เจิ้นเทียนหัวหน้าตระกูลเคนโด้หน้าซีดลงและเพิ่งตระหนักได้ถึงสถานการณ์ตรงหน้าหลังจากอึ้งอยู่พักใหญ่
เจิ้นเทียนเพิ่งจะตระหนักได้ว่าถึงแม้ฉิงเฟิงจะฆ่าหลางเทียนได้ด้วยหมัดเดียวแต่เขาก็ต้องผลาญพลังแท้ไปมหาศาล ที่จริงแล้วเขาไม่มีแม้เรี่ยวแรงจะออกหมัดที่สอง แต่ตอนนี้เขากำลังฟื้นพลังแล้ว
เจิ้นเทียนไม่สามารถปล่อยให้ฉิงเฟิงฟื้นฟูพลังได้มิฉะนั้นจะเป็นอันตรายใหญ่หลวง ร่องรอยของประกายตาที่เย็นเยียบพาดผ่านดวงตาของเขา และนี่คือโอกาสสุดท้ายที่จะฆ่าฉิงเฟิงได้ หากไม่จบชีวิตเขาซะเดี๋ยวนี้ ในอนาคตก็ไม่อาจเป็นไปได้อีกแล้ว
หวือ!!
เจิ้นเทียนออกท่าร่างและสะบัดชาวเฟิงอู่ออกไปจากนั้นเขาก็พุ่งเข้าหาฉิงเฟิงด้วยความเร็วทั้งหมดที่สามารถทำได้
เพลงกระบี่เขย่านภา!!
เจิ้นเทียนคำรามและใช้ออกด้วยเพลงกระบี่เขย่านภาซึ่งเป็นการโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุดของเขาแล้ว
กระบี่เขย่านภาเป็นอาวุธวิญญาณระดับสูงที่ทรงพลังมากทั่วทั้งตัวกระบี่เป็นสีขาวเงินด้วยลอดลายแกะสลักที่อยู่บนนั้น ซึ่งดูราวกับว่ามันกำลังสั่นสะเทือนอยู่ตลอดเวลา วืด!!
เจิ้นเทียนฟาดกระบี่ตัดขวางออกมาในทันทีมันทำให้อากาศสั่นสะท้านอย่างรุนแรงและทิ้งรอยแตกห้ารอยไว้บนอากาศ มันเล็งเข้าหาฉิงเฟิงด้วยพลังกระบี่ยาวนับสิบเมตรอันน่าสะพรึงกลัว
แม้ว่าตัวกระบี่ยังมาไม่ถึงแต่มันก็ทำให้เกิดรอยร้าวปรากฏขึ้นกลางอากาศ พลังงานอันน่ากลัวแผ่กระจายออกไป
ผู้คนรอบๆทุกคนต่างรู้สึกหวาดผวาด้วยความตกใจกระบี่เขย่านภาทรงพลังมาก เพียงแค่ฟาดฟันออกมาครั้งเดียวก็ทำให้สวรรค์และปฐพีสั่นคลอนได้ราวกับว่าเกิดแผ่นดินไหวที่รุนแรง
นี่เป็นพลังของผู้ฝึกตนที่สามารถอาศัยพลังของสวรรค์และโลกมาช่วยโจมตีได้!
ฉิงเฟิงจ้องมองอย่างจริงจังและตระหนักได้ถึงพลังอันรุนแรงจากกระบี่นี้เขาเพิ่งใช้หมัดมังกรเพลิงออกไปจึงไม่สามารถใช้มันได้อีกครั้งในตอนนี้ ฉิงเฟิงรู้ว่าตนเองไม่สามารถใช้ออกด้วยวิชาที่แข็งแกร่งที่สุดอีกทั้งระดับพลังของเขาก็ยังอยู่แค่ระดับแกรนด์มาสเตอร์ขั้นสูงเท่านั้น นอกจากนี้เขาก็ไม่สามารถใช้หมัดทลายนรกานต์ได้อีกด้วย เพราะวันนี้เขาใช้มันไปถึงสองครั้งแล้ว
แม้ว่าฉิงเฟิงจะเต็มไปด้วยเคล็ดวิชาและเทคนิคการบ่มเพาะพลังที่ทรงพลังมากมายแต่วิชาเหล่านี้ต่างก็ต้องใช้พลังแท้ในปริมาณมหาศาล ดังนั้นด้วยพลังแท้และขอบเขตพลังที่มี ทำให้เขาไม่อาจต่อสู้ข้ามขั้นได้นานเกินไป
จริงสิฉันมีมุกอัสนีฟ้าอยู่นี่นา
ทันใดนั้นเองฉิงเฟิงก็นึกขึ้นได้ว่าตนเองนั้นมีมุกอัสนีฟ้าซึ่งได้รับมาจากข่ายอาคมภายในภูเขาอัสนีเพลิงนรก
มุกอัสนีฟ้าเป็นอุปกรณ์วิญญาณรูปแบบสายฟ้าซึ่งสามารถกักเก็บสายฟ้าได้ถึงหนึ่งร้อยสาย แต่ฉิงเฟิงยังไม่แข็งแกร่งพอจึงทำได้เพียงยิงสายฟ้าออกไปได้แค่สิบสายเท่านั้น ซึ่งเขาก็ใช้มันไปหมดแล้วตอนที่อยู่ในภูเขาอัสนีเพลิงนรก
ในเมื่อตอนนี้ไม่มีสายฟ้าบนท้องฟ้าให้ดูดซับฉิงเฟิงทำได้เพียงยิงสายฟ้าออกมาสายเดียวเท่านั้น แต่ถึงแม้จะแค่ครั้งเดียวมันก็เพียงพอแล้ว เพราะสายฟ้านั้นเต็มไปด้วยพลังของสวรรค์และปฐพี มันสามารถทำลายสิ่งมีชีวิตได้แทบทุกชนิด
สายฟ้าฟาด!! ฉิงเฟิงหยิบมุกอัสนีฟ้าและใช้ออกด้วยเคล็ดบ่มเพาะสายฟ้าที่ได้เรียนรู้มาตอนที่ได้มุกอัสนีฟ้า
ประกายกระแสไฟฟ้าจางๆเริ่มปรากฏขึ้นภายในร่างกายของฉิงเฟิงและไหลรวมเข้าสู่มุกอัสนีฟ้าโดยตรง จากนั้นลำแสงสายฟ้าสีแดงอันเกรี้ยวกราดก็พวยพุ่งออกมาจากมุกอัสนีฟ้าทันที
เปรี้ยง !!!
ประกายสายฟ้าสีแดงยิงออกมาจากมุกอัสนีฟ้าพวยพุ่งภายในพริบตาและผ่าใส่ร่างของเจิ้นเทียนอย่างหนัก
อ้ากกกกกกกกกกกก
!!
เจิ้นเทียนกรีดร้องอย่างน่าสังเวชในขณะที่ร่างของเขาถูกฟ้าผ่าผมเผ้าของเขาชี้ชัน ร่างกายถูกเผาจนไหม้เป็นสีดำ ตัวเขาในตอนนี้ดูคล้ายกับถ่านสีดำก้อนใหญ่
มันก็เป็นโศกนาฏกรรมสำหรับเจิ้นเทียนเช่นกันในขณะที่เขาพุ่งปรี่เข้าหาฉิงเฟิง เขาก็ถูกสายฟ้าผ่าเข้าใส่อย่างรุนแรงโดยมิได้คาดคิด
ถึงแม้ว่าเจิ้นเทียนจะเป็นผู้ฝึกตนแต่เขาก็ยังไม่อาจต่อกรกับสายฟ้าได้เนื่องจากสายฟ้าเป็นพลังงานที่แท้จริงของสวรรค์และปฐพีซึ่งแข็งแกร่งมาก แม้นมันจะเป็นแค่ส่วนหนึ่งก็ตาม ทั่วทั้งร่างของเจิ้นเทียนไหม้เป็นเถ้าถ่านดำเกรียมและชักกระตุกอีกทั้งอวัยวะภายในก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากสายฟ้า
เมื่อโอกาสมาถึงฉิงเฟิงก็ไม่รอช้า เขาชักกระบี่เพลิงคะนองออกมาทันทีและสะบัดออกไปที่คอของเจิ้นเทียนด้วยพลังกระบี่อันน่าหวาดกลัว
เจิ้นเทียนดวงตาเบิกกว้างและต้องการจะหลบหลีกแต่เขาก็ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เลยแม้แต่น้อยร่างกายของเขายังคงชาจากอำนาจสายฟ้า เขาทำได้เพียงมองรังสีกระบี่ที่พุ่งเข้าหาด้วยความหวาดกลัว
ฉูด!!
ศีรษะและคอของเจิ้นเทียนถูกแยกออกจากกันด้วยเลือดที่สาดกระเซ็นไปทั่วดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความสยดสยองก่อนที่จะตาย
เจิ้นเทียนหัวหน้าตระกูลเคนโด้ ตายแล้ว
ผู้คนรอบข้างต่างตกใจกับการตายของเจิ้นเทียนมันเป็นเรื่องที่น่าตกใจยิ่งกว่าการตายของหลางเทียนเสียอีก
อย่างที่ทราบกันดีว่าเจิ้นเทียนเป็นหัวหน้าตระกูลเคนโด้,กองกำลังระดับซุปเปอร์ที่มีความแข็งแกร่งในระดับผู้ฝึกตนครึ่งก้าวจิตวิญญาณแท้จริงและเป็นยอดฝีมือชั้นนำของเกาะแปซิฟิก แต่ตอนนี้เขาถูกฆ่าตายโดยหลี่ฉิงเฟิงที่มีพลังแค่ระดับแกรนด์มาสเตอร์ มันเป็นไปไม่ได้ที่คนเหล่านี้จะสงบสติอารมณ์
แม้แต่ผู้อำนวยการหน่วยความปลอดภัยพิเศษ,ชาวเฟิงอู่ก็มีสีหน้าตกตะลึงปรากฏบนใบหน้าที่งดงามของเธอ ดวงตาที่มีเสน่ห์เต็มไปด้วยความรู้สึกที่ไม่น่าเชื่อ
การปะทะระหว่างเธอกับเจิ้นเทียนนั้นกินเวลายืดเยื้อยาวนานมากเธอรู้ว่าคู่ต่อสู้คนนี้แข็งแกร่งเพียงใด เจิ้นเทียนไม่เพียงแค่บรรลุจิตวิญญาณแท้จริง แต่เขายังครอบครองอาวุธวิญญาณชั้นสูงรวมไปถึงเคล็ดวิชาบ่มเพาะของผู้ฝึกตนที่ทรงพลังอีกด้วย
เมื่อรวมเหตุผลทั้งหมดเข้าด้วยกันเธอจะไม่ตกตะลึงได้อย่างไรว่าเจิ้นเทียนที่เธอยังไม่อาจทำอะไรได้กลับถูกฆ่าด้วยน้ำมือของฉิงเฟิง
ชาวเฟิงอู่เริ่มรู้สึกว่าหลี่ฉิงเฟิงผู้นี้ไม่เพียงแค่แข็งแกร่งกว่ายอดฝีมือระดับเดียวกันเท่านั้นแต่เขายังลึกลับเกินไปที่สามารถครอบครองอุปกรณ์บางอย่างที่เรียกสายฟ้าออกมาได้ แม้จะแค่สายเดียวแต่มันก็ทรงอำนาจเหนือจินตนาการ
ฮวาเซียนจือที่อยู่ไม่ไกลก็ได้สังเกตเห็นการต่อสู้ของฉิงเฟิงเช่นกันร่องรอยแห่งความประทับใจปรากฎบนใบหน้าที่น่าหลงใหลของเธอ ในฐานะนักบุญหญิงของกองกำลังระดับซุปเปอร์ แน่นอนว่าเธอย่อมมีสายสัมพันธ์กับผู้ฝึกตน
ในบรรดาเหล่าผู้ฝึกตนมีเพียงสุดยอดฝีมือที่เปี่ยมด้วยพรสวรรค์เท่านั้นจึงจะสามารถควบคุมสายฟ้าได้ และเมื่อพิจารณาจากการที่ฉิงเฟิงสามารถทำได้เช่นนี้ อนาคตในเชิงบ่มเพาะพลังของเขาก็ไร้ขีดจำกัด ฮวาเซียนจือจ้องมองฉิงเฟิงอย่างไม่หยุดหย่อนด้วยดวงตาที่งดงามของเธอในใจเธอตอนนี้กำลังพิจารณาอยู่ว่าจะชักชวนเขาเข้าร่วมกับกองกำลังของเธอดีหรือไม่
ฉิงเฟิงไม่เสียเวลาแม้แต่น้อยนิดที่จะใส่ใจร่างไร้วิญญาณของเจิ้นเทียนเขาเคลื่อนไหวร่างในพริบตาและพุ่งเข้าหาหัวหน้าตระกูลบูชิโด, เฮ่าหมิง
ตามหลักในการกำจัดวัชพืชเขาต้องขุดรากถอนโคนให้สูญสิ้น วันนี้ฉิงเฟิงได้สังหารหัวหน้าตระกูลผู้ยิ่งใหญ่ของเกาะแปซิฟิกไปถึงสองคนแล้ว มันเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะปล่อยคนที่สามให้หลุดรอดไปได้ !
เมื่อได้เห็นว่าฉิงเฟิงพุ่งเข้าหาเขาด้วยความรวดเร็วเฮ่าหมิงก็สะดุ้งตกใจ เขาได้เห็นกับตาว่าฉิงเฟิงฆ่าหัวหน้าตระกูลไปสองคนแล้ว เขาเริ่มหวาดกลัว
แม้จะเป็นผู้ชายอกสามศอกที่ทรงพลังแค่ไหนก็ต้องกลัวตายแม้แต่หัวหน้าตระกูลระดับสุดยอดก็เช่นกัน ต่อให้เฮ่าหมิงเป็นยอดฝีมือระดับจิตวิญญาณแท้จริงแต่เขาก็กลัวเป็น เขาหันหน้าเตรียมจะหนีด้วยความเร็วสูงสุดทันทีที่เห็นฉิงเฟิงพุ่งเข้ามา นอกจากนี้เขาก็ยังหวาดกลัวอย่างสุดใจว่าฉิงเฟิงจะโจมตีเขาด้วยสายฟ้าฟาด ซึ่งเขาไม่ได้รู้เลยว่าฉิงเฟิงใช้สายฟ้าได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น