ยูเรนัสเดินตรงไปหาฉิงเฟิงเพื่อกดดันเขาหมัดแสงศักดิ์สิทธิ์ของเขานั้นทรงพลังอย่างที่สุดและสามารถบีบให้ฉิงเฟิงต้องถอยได้
ในทวีปเสือหมัดแสงศักดิ์สิทธิ์นั้นเป็นเคล็ดเพลงหมัดที่ทรงพลังอย่างยิ่ง มันแผ่แรงกดดันอย่างยิ่งและยูเรนัสก็ใช้มันเพื่อเอาชนะผู้บ่มเพาะพลังมาแล้วมากมายหลายต่อหลายคน
ผู้บ่มเพาะพลังที่อยู่รอบๆต่างก็ขยับตัวถอยห่างออกไปเพราะหวั่นเกรงที่จะได้รับบาดเจ็บจากหมัดแสงศักดิ์สิทธิ์
ในขณะนี้ฉิงเฟิงกำลังขบคิดในสมองอย่างรวดเร็วถึงวิธีรับมือกับหมัดแสงศักดิ์สิทธิ์ของยูเรนัส
ฉันรู้สึกราวกับว่าหมัดแสงศักดิ์สิทธิ์ของหมอนี่มันมีพลังที่ตรงข้ามกับหมัดทลายนรกานต์ของฉัน… ฉิงเฟิงกล่าวพึมพัมกับตัวเอง
เขารู้สึกว่าพลังแท้ที่ปลดปล่อยออกมาหลังจากการปะทะหมัดนั้นให้ความรู้สึกที่คุ้นเคยเป็นอย่างยิ่ง
เมื่อคนผู้หนึ่งฝึกหมัดทลายนรกานต์จนสมบูรณ์คนผู้นั้นจะสามารถสะกดการโจมตีอันชั่วร้ายจากขุมนรกได้ เช่นเดียวกับความอันตรายของสิ่งชั่วร้ายทั้งหมด
หมัดแสงศักดิ์สิทธิ์นั้นเค้าเตอร์ความชั่วร้ายได้เช่นกันแต่กระบวนการในการโจมตีของทั้งสองหมัดนั้นแตกต่างกัน
ใต้สรวงสวรรค์อันศักดิ์สิทธิ์นั้นคือขุนเขาและแม่น้ำ…….หืม …
!
ทันใดนั้นเองจิตใจของฉิงเฟิงก็เข้าถึงความศักดิ์สิทธิ์และเข้าใจเคล็ดเพลงหมัดชุดที่สองของหมัดทลายนรกานต์:
[
บดภูผาขยี้ปฐพี ]
ครืนนนนนน
!
~
แรงกดดันมหาศาลที่ปล่อยออกมาจากร่างกายของฉิงเฟิงด้วยการเข้าถึงเคล็ดเพลงหมัดชุดที่สองทำให้แก่นพลังแท้ของเขาเพิ่มขึ้นอย่างมากเขาใกล้จะบรรลุขอบเขตจิตวิญญาณแท้จริงขั้นต้นแล้ว ทุกสิ่งที่เขาต้องการในตอนนี้คือการรู้แจ้งและโอกาส
ฉิงเฟิงสามารถเรียนรู้หมัดที่สองจากพลังของหมัดแสงศักดิ์สิทธิ์ของยูเรนัสตอนนี้เขามีความแข็งแกร่งใกล้เคียงกับยูเรนัสแล้วเนื่องจากการเพิ่มพูนของพลังแท้
จุดแข็งที่ยิ่งใหญ่ของฉิงเฟิงนอกจากพรสวรรค์ก็คือเขาสามารถเรียนรู้จากจุดแข็งของผู้อื่นและปรับใช้กับตัวเองได้
พูดตามตรงฉิงเฟิงรู้สึกขอบคุณยูเรนัสมาก เป็นเพราะได้ประมือกับเขา ฉิงเฟิงจึงสามารถพัฒนาทักษะและมีพลังเพิ่มขึ้น
เจ้า….แกร่งขึ้น ยูเรนัสรู้สึกประหลาดใจเมื่อเขารู้สึกได้ถึงแรงกดดันที่เพิ่มขึ้นจากฉิงเฟิง
ในการปะทะกันยกแรกฉิงเฟิงไม่ได้มีพลังเท่ากับยูเรนัสแต่เขากลับมามีพลังพอๆกับยูเรนัสเพียงชั่วพริบตา ชายทั้งสองคนนี้อยู่ห่างจากขอบเขตจิตวิญญาณแท้จริงขั้นต้นอีกไม่ไกล
ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือของนายฉันจะล้มนายด้วยหมัดเดียวเป็นการตอบแทน ฉิงเฟิงยิ้มบางและกล่าวอย่างมั่นอกมั่นใจ
หือ
เอาชนะข้าด้วยหมัดเดียว
ยูเรนัสโกรธกริ้วและขมวดคิ้วเป็นปมเพราะเขารู้สึกว่าฉิงเฟิงทำให้เขาอัปยศมันไม่ได้เป็นแค่เพียงความอัปยศอดสูต่อยูเรนัส แต่มันเป็นความอัปยศต่อศาสนจักรอันศักดิ์สิทธิ์เช่นกัน
ฝูงชนต่างหัวเราะเยาะฉิงเฟิงเงียบๆในใจและคิดว่าเขาหยิ่งผยองเกินเหตุจากการปะทะกันเมื่อครู่เขาถูกยูเรนัสบีบให้ต้องถอยจนใครๆก็ดูออกว่าเขาแพ้ แต่ตอนนี้เขากลับกล้าโอหังพูดว่าจะเอาชนะยูเรนัสด้วยหมัดเดียว ใครจะไปเชื่อ
ไม่สำคัญว่าคนอื่นจะคิดอย่างไรอลิซเต็มเปี่ยมไปด้วยความเชื่อมั่นในตัวฉิงเฟิง เธอรู้ดีว่าบอสของเธอเป็นคนอย่างไร เขาไม่เคยโอ้อวดหากไม่มั่นใจ
หมัดแสงศักดิ์สิทธิ์
!
ยูเรนัสโกรธมากในเวลานี้เขาควบแน่นพลังแท้ทั้งมวลไปที่หมัดของเขาและก่อให้เกิดแสงสว่างสีขาวในขณะที่เขาเหวี่ยงหมัดเข้าหาฉิงเฟิง
หมัดแสงในครั้งนี้มีพลังเหนือกว่าครั้งที่แล้วมากมันหลอมละลายทุกสิ่งที่มันสัมผัสด้วยออร่าอันทรงพลังที่เปล่งออกมา
เข้ามายูเรนัส
!
หมัดที่สอง
,
บดภูผาทลายปฐพี
!!
ฉิงเฟิงคำรามลั่นและง้างหมัดเหวี่ยงออกไปด้วยเคล็ดเพลงหมัดที่สองของหมัดทลายนรกานต์ทันทีมันนำพามาซึ่งพลังอันมหาศาล
การสั่นไหวของพลังธรรมชาติอันไพศาลปรากฏขึ้นในรัศมีหมัดของเขามันเป็นแรงกดดันที่หนักหน่วงดั่งขุนเขาและปะทะเข้าอย่างรุนแรงกับลำแสงสีขาวจากหมัดแสงศักดิ์สิทธิ์
ครืนนนนน
!!
~
การปะทะกันครั้งนี้ทำให้เกิดการระเบิดที่รุนแรงยิ่งกว่าครั้งที่แล้วแสงสีขาวนั้นถูกลบล้างเมื่อมันสัมผัสกับการสั่นไหวของพลังธรรมชาติ
อั่ก!
เมื่อหมัดแสงศักดิ์สิทธิ์ของยูเรนัสถูกลบล้างเขาลอยละลิ่วและตกลงกับพื้นอย่างรุนแรงจนกระอักเลือดออกมาจากปาก
ยูเรนัสพ่ายแพ้ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียวและได้รับบาดเจ็บอย่างหนักทำให้ทุกคนต้องประหลาดใจ
ผู้คนในฝูงชนบางคนขยี้ตาเพราะพวกเขาไม่เชื่อว่าเกิดอะไรขึ้นแต่แล้วความจริงก็ปรากฏต่อสายตาของพวกเขา
เป็นไปได้อย่างไร พลังของเจ้าเพิ่มขึ้นอย่างมากหลังจากประหมัดกับข้าเพียงครั้งเดียว ยูเรนัสกล่าว เขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่ามันเพิ่งเกิดอะไรขึ้น
ฉิงเฟิงยิ้มเล็กน้อยและไม่พูดอะไรออกมาเหตุผลก็คือเขาบรรลุหมัดที่สองของเคล็ดเพลงหมัดทลายนรกานต์ด้วยความช่วยเหลือของยูเรนัส
ฉิงเฟิงชักกระบี่เพลิงคะนองออกมาและเหวี่ยงมันไปทางยูเรนัสเขาไม่ได้มุ่งเป้าไปที่ศีรษะของยูเรนัส แต่เป็นชุดเกราะสีดำของเขา
แกร่ก! ~
ชุดเกราะถูกตัดเป็นสองส่วนและตกลงที่พื้นแต่ร่างกายของยูเรนัสไม่ได้มีบาดแผลใดๆแม้แต่น้อย
ฉันจะไม่ฆ่านายเพราะนายเป็นคู่หมั้นของแคทเธอรีนแต่จะไม่มีครั้งที่สองถ้านายมาขวางทางฉันอีก ฉิงเฟิงมองยูเรนัสด้วยใบหน้าเย็นชาและเดินต่อไป ใบหน้าของยูเรนัสกลายเป็นสีเขียวคล้ำเพราะเขารู้สึกถูกหยามไม่เพียงแค่พ่ายแพ้ แต่ศัตรูยังไว้ชีวิตอีก สำหรับเขาแล้วมันเลวร้ายยิ่งกว่าการความตาย
หัวหน้าอัศวินศักดิ์สิทธิ์ควรจะทรงพลังและมีศักดิ์ศรีแต่ตอนนี้เขารอดชีวิตเพราะผู้หญิง
ในตอนแรกฉิงเฟิงก็คิดจะฆ่าเขาแต่เขาก็เปลี่ยนใจมาไว้ชีวิตเพราะเขายังจดจำได้ถึงมิตรภาพและความช่วยเหลือตลอดหลายปีที่แคนเธอรีนมีให้เขา ยังไงซะยูเรนัสก็เป็นคู่หมั้นของแคทเธอรีน, เพื่อนสนิทของเขา
ทุกคนต่างมองไปที่ฉิงเฟิงด้วยความตกใจและหวาดกลัวชายหนุ่มคนนี้แข็งแกร่งเหนือจินตนาการ
ในขณะที่ฉิงเฟิงเดินหน้าต่อไปฝูงชนก็แยกออกเป็นทางเพื่อหลีกทางให้เขา พวกเขากลัวว่าอาจจะถูกฉิงเฟิงฆ่าถ้าหากเขาขุ่นเคือง
อลิซเรากลับกันเถอะ ฉิงเฟิงเดินมาหาอลิซด้วยรอยยิ้มและจับมือเธอ ค่าาาาบอส อลิซแย้มยิ้มและพยักหน้า เธอกำลังจะจากไปพร้อมกับฉิงเฟิง
ออกัสตินรู้สึกราวกับว่าร่างกายของเขาเต็มไปด้วยควันเพราะความโกรธวันนี้เป็นงานแต่งงานของเขา แต่คู่หมั้นของเขากลับถูกชายอีกคนหนึ่งกุมมือไว้ ไม่มีใครยอมรับสถานการณ์เช่นนี้ได้ !
หลี่ฉิงเฟิง,อลิซคือคู่หมั้นของข้า ! แกกล้าดียังไงถึงหยามหน้าข้าเช่นนี้ !
ออกัสตินถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา
ฉันจะบอกให้นายได้ยินอีกครั้งอลิซเป็นผู้หญิงของฉัน ฉิงเฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม
หลังจากพูดจบฉิงเฟิงก็จูบหน้าผากอลิซ
อลิซเป็นเจ้าหญิงของราชวงศ์แห่งทวีปเสือเธอเป็นผู้หญิงที่สวยมากและเป็นผู้หญิงที่มีกลิ่นอายประเภทเดียวกันกับหลิวหรูหยาน ; เธอเป็นดั่งเทพธิดาของทุกคน
ดูนั่นสิหลี่ฉิงเฟิงช่างยโสนัก เขากล้าจูบเจ้าหญิงอลิซต่อหน้าทุกคน ! ใช่ๆเจ้าหญิงอลิซเป็นคู่หมั้นของคุณชายออกัสติน ฉันเห็นใจเขาจังเลย
เขาคงรู้สึกแย่แน่เลยพรุ่งนี้ข่าวเรื่องนี้คงแพร่ไปทั่วทั้งทวีปเสือ
ฝูงชนกำลังพูดคุยกันและทุกคนก็มองไปฉิงเฟิงกับอลิซด้วยความอิจฉา
