ถ้ายาสลบไม่ได้ผลแล้วยังไง พวกข้าจะฆ่าเจ้าอยู่ดี ! ชายร่างผอมสูงในชุดดำอีกคนหนึ่งโจมตีฉิงเฟิงด้วยมีดสั้นอีกครั้ง
ฉิงเฟิงคีบจับมีดสั้นและออกแรงบีบจนมันหักเป็นสองส่วนท่ามกลางสายตาที่ตกใจของชายชุดดำทั้งสองคน
เมื่อเห็นอาวุธที่แตกเป็นสองส่วนชายชุดดำก็หันหลังเตรียมจะหนีทันที อย่างไรก็ตามปฏิกิริยาของฉิงเฟิงรวดเร็วกว่า เขาเหยียดมือขวาออกไปคว้าคอของชายชุดดำทันที
กร๊อบ!
ฉิงเฟิงออกแรงบีบและหักคอชายชุดดำจนตายทันที
เมื่อได้เห็นเพื่อนร่วมงานถูกฆ่าชายอย่างง่ายดายชายชุดดำอีกคนก็ตกตะลึงอย่างสิ้นเชิง
โครม! ฉิงเฟิงโยนร่างไร้วิญญาณของชายร่างผอมสูงที่เขาหักคอทิ้งไปและแย่งมีดสั้นจากชายชุดดำคนที่เหลือไปจ่อคอของเขาเขาถามอย่างสบายใจว่า บอกฉัน ใครส่งพวกแกมา
ชายชุดดำส่ายหัวไม่ยอมพูดพวกเขาทั้งคู่เป็นทหารกล้าที่ซื่อสัตย์และไม่หวั่นต่อความตาย พวกเขาไม่มีทางยอมทรยศเจ้านายของตัวเองแน่นอน
เนตรแห่งราชันหมาป่า!
ฉิงเฟิงคุ้นเคยกับความปากแข็งของพวกทหารกล้าเหล่านี้ดีเขาจึงใช้พลังของเนตรแห่งราชันหมาป่าซึ่งเป็นวิชาทางจิตวิญญาณลับ เพื่อควบคุมบงการจิตใจของมนุษย์ให้ตกอยู่ภายใต้อำนาจของเขา
ดวงตาของฉิงเฟิงเปลี่ยนเป็นสีแดงชาดมันเปล่งประกายแสงสีแดงเข้มและพุ่งเข้าไปควบคุมจิตใจของชายชุดดำทันที
บอกฉันมาใครส่งพวกแกมาฆ่าฉัน
พวกเราถูกส่งมาโดยกลุ่มแมงมุมครับ…
กลุ่มแมงมุม หนึ่งในสิบตระกูลใหญ่ของสมาพันธ์เทพนภา ?
ใช่ครับนายท่าน
ภายใต้การควบคุมจิตใจของฉิงเฟิงชายชุดดำบอกทุกสิ่งที่เขารู้ออกมา
ดวงตาของฉิงเฟิงดูเย็นชาหลังจากทราบเรื่องเขาคุ้นเคยกับกลุ่มแมงมุม พวกมันคล้ายกับตระกูลกาโตร์ซึ่งเป็นหนึ่งในสิบกองกำลังใหญ่ของสมาพันธ์เทพนภาแห่งทวีปเสือ
แล้วทำไมพวกมันถึงส่งมือสังหารมาลอบสังหารเขา ฉิงเฟิงคิดได้ถึงเหตุผลสองประการ ข้อแรกอาจจะเป็นเพราะตระกูลกาโตร์ร้องขอ ข้อสองอาจจะเพราะการแก้แค้น เนื่องจากฉิงเฟิงได้ฆ่าทั้งราชันเสือและแมงมุมพิษไป ทั้งคู่เป็นคนของกลุ่มแมงมุมนั่นเอง
กร๊อบ!
เมื่อรู้ตัวการแล้วฉิงเฟิงก็หักคอชายชุดดำเพื่อจบชีวิตเขาทันที นักฆ่าทั้งสองคนที่ถูกส่งมาฆ่าฉิงเฟิงล้วนแต่เป็นยอดฝีมือระดับสูงอย่างไรก็ตาม ต่อหน้าพลังของฉิงเฟิงในตอนนี้ พวกเขายังอ่อนแอเกินไป
การปะทะกันของพวกเขาทำให้เกิดเสียงดังเล็กน้อยในห้องซึ่งทำให้ค้างคาวม่วงและทีมเขี้ยวหมาป่าต่างก็รู้สึกตัวพวกเขาทั้งหมดรีบมาที่ห้องของฉิงเฟิงทันที
บอสครับนักฆ่ามาฆ่าคุณเหรอ ! ลู่ซวนจี๋ถามอย่างเป็นกังวลขณะที่มองไปที่ชายชุดดำที่นอนตายอยู่
ฉิงเฟิงพยักหน้าและกล่าวเบาๆว่า พวกมันถูกกลุ่มแมงมุมส่งมา แต่ฉันเก็บพวกมันไปล่ะ
สมาชิกของทีมเขี้ยวหมาป่าต่างถอนหายใจด้วยความโล่งใจจากคำพูดของฉิงเฟิงนับตั้งแต่ที่พวกเขาเผชิญหน้ากับสิบตระกูลใหญ่ของสมาพันธ์เทพนภาแห่งทวีปเสือ พวกเขาก็รู้สึกกดดันอย่างใหญ่หลวง สมาชิกของทั้งสิบตระกูลต่างก็แข็งแกร่งมาก ค้างคาวม่วงขมวดคิ้วของเขาและถามว่า นายน้อยครับ พวกเราจะบุกงานแต่งพรุ่งนี้ คุณมีแผนอะไรไหมครับ
ค้างคาวม่วงคิดว่าพวกเขาจำเป็นต้องวางแผนสำหรับการทำลายงานแต่งงานในวันพรุ่งนี้อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าฉิงเฟิงจะยังไม่ได้วางแผนอะไรไว้
แผนเหรอ ไม่จำเป็นหรอก พรุ่งนี้ฉันจะเดินดุ่ยๆเข้าไปพาตัวอลิซกลับมาต่อหน้าคนทั้งทวีปเสือให้ดู ฉันต้องการให้พวกมันรู้ว่าเจ้าหญิงอลิซเป็นของฉันคนเดียวเท่านั้น ไม่มีใครแตะต้องเธอได้ ฉิงเฟิงกล่าวอย่างเย่อหยิ่งจองหอง
เขาได้คิดแผนไว้แล้วซึ่งมันเป็นแผนที่ง่ายมาก เขาจะพาอลิซไปต่อหน้าทุกคนตอนกลางวันแสกๆนี่ล่ะ หากจะให้เขาลักลอบเข้าไปและชิงตัวอลิซกลับมา เขาจะถูกมองว่าเป็นผู้ชายแบบไหน
มันเป็นความตั้งใจของเขาที่จะส่งไปถึงสมาพันธ์เทพนภาและสิบตระกูลใหญ่ตลอดจนกองกำลังอื่นๆของทวีปเสือ เจ้าหญิงอลิซเป็นผู้หญิงของเขา ใครแตะต้องเธอเขาจะฆ่ามันให้หมด !
ค้างคาวม่วงประทับใจต่อการกระทำและบุคลิกของฉิงเฟิงมากเมื่อได้ยินคำพูดที่อหังการท้าทายอำนาจใหญ่ของเขาเขารู้สึกราวกับว่ากำลังได้ติดตามราชันผู้พิชิตอีกครั้งหนึ่ง, เหมือนเมื่อสิบห้าปีก่อน
ราชันผู้พิชิตเป็นชายผู้ไร้เทียมทาน,กดขี่, โหดเหี้ยมและทรงพลังมหาศาล โลกตกอยู่ใต้แทบเท้าของเขาและไม่มีใครกล้าหาเรื่องหรือข่มขู่เขา
หลังจากฉิงเฟิงบอกให้ทีมเขี้ยวหมาป่าจัดการกับศพแล้วเขาก็นอนพักผ่อน เขาต้องการนอนหลับให้เต็มอิ่มเพราะพรุ่งนี้อาจจะเกิดศึกใหญ่ขึ้น
….
เช้าวันต่อมาสภาพอากาศแจ่มใสมากดวงอาทิตย์สีแดงลอยขึ้นอยู่เหนือเส้นขอบฟ้าและเปล่งประกายแสงอันอบอุ่นสู่โลกใบนี้ ทั่วทั้งทวีปเสือต่างก็วุ่นวายผู้สื่อข่าวจากทุกสำนักและเกือบทุกประเทศมารวมตัวกันที่ประเทศฝรั่งเศสเพื่อรอรายงานข่าวการแต่งงานอันยิ่งใหญ่ของคุณชายออกัสตินและเจ้าหญิงอลิซ
ออกัสตินเป็นคุณชายใหญ่ของสมาพันธ์เทพนภาซึ่งเป็นบุตรของโป๊ปแห่งสันตะสำนัก, สุดยอดกองกำลังระดับซุปเปอร์ของทวีปเสือที่มีอิทธิพลต่อทุกสิ่งในทวีปนี้
อลิซเป็นเจ้าหญิงแห่งสวีเดนของทวีปเสือเธอเป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดในราชวงศ์ เธอมีผู้หมายปองมากมาย แต่ในที่สุดก็ต้องแต่งงานกับออกัสตินโดยการบังคับของตระกูล ราชวงศ์สวีเดนเลือกเขาเพราะเขาคือจักรพรรดิโลกใต้ดินของทวีปเสือ
งานแต่งงานของพวกเขาทำให้ทั่วทั้งทวีปเสือต้องสั่นสะเทือนแทบทุกคนทั่วโลกต่างก็จับจ้องการแต่งงานระดับโลกในครั้งนี้ตามทีวีหรือทางสื่อออนไลน์
ณกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ในสถานที่จัดงานแต่งงานของออกัสตินทั่วทั้งเมืองเต็มไปด้วยผู้คน ทุกคนออกจากบ้านและมุ่งหน้าไปยังสถานที่จัดงานแต่งงาน
สถานที่จัดงานแต่งงานคือโบสถ์น็อทร์-ดามเดอปารีส(Notre-Dame de Paris) ซึ่งเป็นโบสถ์เก่าแก่ที่มีชื่อเสียงที่สุดในทวีปเสือ
แน่นอนว่าย่อมไม่ใช่ทุกคนที่ได้รับเชิญไปงานแต่งงานครั้งนี้มีเพียงสิบตระกูลใหญ่แห่งสมาพันธ์เทพนภา, หัวหน้ากลุ่มบางกลุ่ม, ซีอีโอใหญ่ของบริษัทระดับโลกเท่านั้นที่ได้รับเชิญ ประชาชนทั่วไปและกองกำลังทั่วๆไปจะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปในสถานที่จัดงาน
ซึ่งประชาชนทั่วไปสามารถมองดูพิธีในวันนี้ได้จากที่ไกลๆเท่านั้นถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ยังมีความสุขมากที่ได้เห็นเจ้าหญิงอลิซผู้งดงามตัวเป็นๆ
มีรถยนต์หรูหราจำนวนนับไม่ถ้วนจอดอยู่ด้านนอกของโบสถ์ทุกคันเป็นรุ่นลิมิเต็ดของแบรนด์ระดับโลก ไม่ว่าจะเป็น Rolls Royce, Maybach, Lamborghini, Ferrari และแบรนด์หรูอื่นๆอีกมากมาย
ไม่เพียงแค่มีรถยนต์หรูนับไม่ถ้วนเท่านั้นแต่ยังมีแม้กระทั่งเฮลิคอปเตอร์อีกนับโหลที่จอดอยู่ในสนามหญ้าด้านหน้าของมหาวิหาร หัวหน้าตระกูลและหัวหน้ากลุ่มของกองกำลังระดับซุปเปอร์คลาสต่างก็เดินทางมาที่นี่โดยเฮลิคอปเตอร์
ณกลางมหาวิหาร
ชายหนุ่มผมสีบลอนด์ดวงตาสีฟ้ากำลังยืนอยู่เขาแต่งตัวในชุดที่หรูหรางามสง่าและหล่อเหลาอย่างหาที่ติไม่ได้ วงหน้าของเขาดูราวกับถูกสรรค์สร้างมาโดยเทพเจ้า ใบหน้าได้รูป จมูกสูงโด่ง คางเรียวรับกับรูปหน้า ดวงตาที่ไม่ใช่แค่สีฟ้าธรรมดา แต่ดวงตาของเขาเป็นสีฟ้าน้ำทะเลที่ดูลึกล้ำยิ่งกว่ามหาสมุทร เขาทั้งเปี่ยมไปด้วยมนต์เสน่ห์และชวนมอง
ชายหนุ่มผู้นี้ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากออกัสตินคุณชายแห่งสมาพันธ์เทพนภาผู้มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วทั้งทวีปเสือ ออกัสตินมีฉายามากมายในทวีปเสือไม่ว่าจะเป็น ชายหนุ่มผู้หล่อเหลาที่สุด, ชายหนุ่มสุดฮอต, ชายหนุ่มผู้มีอำนาจทางการเมืองมากที่สุด, ชายหนุ่มผู้เลอค่ายิ่งของสมเด็จพระสันตะปาปา และสุดยอดฝีมือรุ่นเยาว์แห่งยุคนี้
เขาคือดาวที่เจิดจรัสที่สุดของทวีปเสือเขาดึงดูดความสนใจของทุกคนในขณะที่ยืนอยู่ท่ามกลางฝูงชน
ในขณะเดียวกันฉิงเฟิงอยู่ห่างออกไปหนึ่งกิโลเมตรและกำลังดูสถานการณ์ผ่านกล้องส่องทางไกลกำลังสูง เขาสังเกตเห็นออกัสตินในทันทีเพราะชายหนุ่มผู้นี้โดดเด่นเปล่งประกายแพรวพราวเกินไป