ว่าไงนะ! สมาพันธ์เทพนภาบ้าไปแล้วหรือไง ? พวกมันจะใช้ขีปนาวุธยิงเครื่องบินลำนี้ ?
ฉิงเฟิงรู้สึกว่าเขากำลังตกอยู่ในอันตรายอย่างใหญ่หลวง
หากชาวเฟิ่งอู่ไม่โทรสายด่วนเข้ามาเตือนฉิงเฟิงคงคาดไม่ถึงว่าสมาพันธ์เทพนภาจะเล่นหนักข้อถึงเพียงนี้
ทุกคนรีบไปสวมร่มชูชีพเร็วเข้า เตรียมกระโดดลงจากเครื่องบินเดี๋ยวนี้ !
ทันทีที่วางสายฉิงเฟิงรีบบอกสมาชิกทุกคนอย่างรวดเร็ว
ครับบอส
ครับนายน้อย
ถึงแม้ว่าทุกคนจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นแต่พวกเขาก็ทำตามคำสั่งของฉิงเฟิงทันทีโดยไร้ข้อสงสัย ที่ความสูงในระดับสูงกว่าพื้นดินนับหมื่นเมตรอากาศจะเย็นเยือกหนาวเหน็บถึงกระดูก คนธรรมดาทั่วไปที่ไม่แข็งแกร่งพอจะไม่อาจทนไหว แต่โชคดีที่ฉิงเฟิงและพรรคพวกของเขาไม่ใช่คนธรรมดา ร่างกายของพวกเขาสามารถต้านทานคลื่นลมแรงและอากาศที่เยือกแข็งเบาบางในระดับความสูงนี้ได้
โดดเลย! ฉิงเฟิงตะโกนลั่นและกระโดดลงไปเป็นคนแรก
อลิซกระโดดตามฉิงเฟิงทันทีโดยไม่ลังเลเธอเชื่อมั่นใจตัวฉิงเฟิงอย่างหมดหัวใจ หลังจากอลิซก็ตามด้วยลู่เต๋าซาง เจ้าโล้น เทพมรณะ ค้างคาวม่วงและลู่ซวนจี๋ พวกเขาทุกคนกระโดดลงจากเครื่องบินมาตามๆกัน
ไม่นานหลังจากที่พวกเขากระโดดลงมาขีปนาวุธลูกหนึ่งก็บินมาจากระยะไกลและพุ่งเข้าชนเครื่องบินอย่างไร้ความปราณี
ตูม
!!! หลังจากเสียงตูมที่ดังสนั่นทั่วท้องฟ้าเครื่องบินลำใหญ่ก็ถูกเป่าเป็นชิ้นๆ มันกลายเป็นเมฆหมอกและตกลงไปในทะเล ทุกคนที่อยู่บนเครื่องบินต่างก็ตายหมด ไร้ผู้รอดชีวิต
แน่นอนว่ายกเว้นเพียงกลุ่มของฉิงเฟิงเท่านั้น
คุณพระคุณเจ้า!!! โชคดีที่เชื่อบอส ไม่งั้นฉันคงม่องเท่งกลางอากาศอย่างไม่รู้ตัวแหง เสียวเว้ย เมื่อมองไปที่เครื่องบินที่ระเบิดเป็นชิ้นๆ ลู่ซวนจี๋ก็กล่าวอย่างขนลุก
ไม่ได้มีแค่เพียงลู่ซวนจี๋เท่านั้นที่ตกใจแต่ยังรวมไปถึงคนอื่นๆเช่นกัน โชคดีที่พวกเขาเชื่อฉิงเฟิงและทำตามอย่างรวดเร็ว มิฉะนั้นหากมัวแต่ถามเหตุผลตอนอยู่บนเครื่อง ป่านนี้คงกอดคอกันตายทั้งหมด
ฉิงเฟิงและพรรคพวกลอยต่ำลงเรื่อยๆใต้เท้าของพวกเขาคือมหาสุทรที่ไร้ขอบเขต มองไปทางไหนก็เจอแต่ทะเล
หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมงทุกคนก็ตกลงมาในมหาสมุทรพวกเขาทุกคนคุ้นเคยกับสถานการณ์เช่นนี้เป็นอย่างดีสมัยอยู่ในทวีปหมาป่า เมื่อใดที่พวกเขาพบศัตรูที่แข็งแกร่ง ทางหนีที่ง่ายที่สุดคือหนีลงทะเล
ร่มชูชีพมีประโยชน์บนอากาศแต่มันอันตรายอย่างมากเมื่ออยู่ในน้ำ วัสดุของมันทำจากผ้าใบเมื่อโดนน้ำแล้วจะหนักมาก มันสามารถถ่วงน้ำหนักจนอาจจมน้ำตายได้
ทุกคนถอดร่มชูชีพและเสื้อผ้าให้หมด เหลือแค่ชุดชั้นในพอ ฉิงเฟิงกล่าวกับทุกคนอีกครั้ง
เมื่อได้ยินปุ๊บทุกคนก็ทำตามทันที พวกเขาถอดร่มชูชีพและถอดเสื้อผ้าที่ไม่จำเป็นออก หลังจากการระเบิดของเครื่องบิน พวกเขาไว้วางใจฉิงเฟิงมากยิ่งขึ้น
ซวนจี๋ใช้ผังแปดทิศหาตำแหน่งของพวกเราและค้นหาเกาะที่ใกล้ที่สุดโดยด่วน ฉิงเฟิงตะโกนบอกลู่ซวนจี๋
ลู่ซวนจี๋พยักหน้าเขาหยิบเข็มทิศออกมาและพูดว่า อืม… เราตกลงมาบนมหาสมุทรแปซิฟิก ปัจจุบันเราอยู่ที่ลองจิจูด 145 องศาทางตะวันออกและละติจูด 15 องศาทางเหนือ เกาะที่ใกล้ที่สุดคือเกาะเพลิงระอุครับบอส
เกาะเพลิงระอุ
!
ฉิงเฟิงขมวดคิ้วเขาประหลาดใจอย่างเห็นได้ชัด เขาไม่คิดเลยว่าจะตกลงมาใกล้ๆเกาะเพลิงระอุ
เกาะเพลิงระอุเป็นหนึ่งในสิบเกาะที่อันตรายที่สุดในมหาสมุทรแปซิฟิกเช่นเดียวกับเกาะทมิฬ มันเต็มไปด้วยความลึกลับและน่าสะพรึงกลัว
บอสครับเกาะนี้ใกล้ที่สุดสำหรับเรา เกาะอื่นๆอยู่ห่างไปอีกไกลโคตร
ลู่ซวนจี๋กล่าวพร้อมกับขมวดคิ้ว
พวกเขาคุ้นเคยกับเกาะเพลิงระอุและรู้ถึงความน่ากลัวของมันเป็นอย่างดีทหารรับจ้างมากมายเดินทางมาที่เกาะนี้แล้วหายตัวไป
เข้าใจแล้วคงต้องไปที่นั่นก่อน พวกเราอยู่ในมหาสมุทรและไม่มีพื้นดิน ขืนลอยคอต่อไปคงหนาวตายไม่ก็อดตายพอดี ฉิงเฟิงกล่าว
การที่พวกเขารีบกระโดดลงจากเครื่องบินทำให้ไม่ได้หยิบอะไรติดตัวมาเลยนอกจากร่มชูชีพไม่มีอาหาร ไม่มีน้ำดื่ม ท่ามกลางมหาสมุทรสุดลูกหูลูกตาแห่งนี้ พวกเขาจะตายเร็วขึ้นหากไม่อาหารและน้ำจืด
ฉิงเฟิงขบคิดถี่ถ้วนแทนที่จะตายในมหาสมุทร สู้ไปตายเอาดาบหน้าที่เกาะเพลิงระอุยังดีเสียกว่า ไม่แน่อาจจะมีทางรอด
ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วย
ลู่ซวนจี๋มีความเชี่ยวชาญทั้งในด้านดาราศาสตร์และภูมิศาสตร์ตลอดจนธาตุทั้งห้าและผังแปดทิศ ฉิงเฟิงจึงให้เขานำหน้า ตนเองอยู่ลำดับที่สอง และทุกคนตามหลังมา
ทุกคนว่ายน้ำสุดกำลังเพื่อมุ่งหน้าไปยังเกาะเพลิงระอุ
อลิซเป็นผู้หญิงและอ่อนแอที่สุดในกลุ่มเธออ่อนล้ามากหลังจากว่ายน้ำติดต่อกันเป็นชั่วโมง ใบหน้าของเธอเริ่มซีด
ฉิงเฟิงสังเกตเห็นสภาพไม่สู้ดีนักของอลิซเขาว่ายเข้าหาเธอและพูดว่า เธอเกาะหลังฉันเอาไว้ ฉันจะช่วยเธอเอง
อลิซส่ายหัวและพูดว่า บอสก็เหนื่อยเหมือนกัน ชั้นยังไหว ชั้นจะว่ายเอง
ว่ายเองอะไรเธออ่อนล้าจนหน้าซีดขนาดนี้แถมยังมีพลังแท้ไม่มากพอ ที่สำคัญเธอเป็นผู้หญิงของฉัน ฉันจะแบกเธอไปเอง ฉิงเฟิงแบกอลิซไว้กลางหลังและว่ายน้ำต่อไปอย่างไม่ลังเล
แม้ว่าฉิงเฟิงจะเป็นยอดฝีมือระดับจิตวิญญาณแท้จริงขั้นต้นและทรงพลังมากแค่ไหนก็ตามแต่การว่ายน้ำในขณะที่แบกคนไว้บนหลังก็นับว่าเป็นเรื่องยาก
แน่นอนว่าสิ่งที่เป็นภาระให้เขามากที่สุดไม่ใช่อลิซที่เกาะหลังเขาแต่มันคือความเย็นยะเยือกของน้ำทะเลต่างหาก มันหนาวเย็นเสียดกระดูกจนทำให้เขาอึดอัดมาก อลิซเกาะหลังและซบแผ่นหลังของฉิงเฟิงเธอเฝ้ามองเขาว่ายน้ำไปเรื่อยๆอย่างไม่ลดละ ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความอบอุ่นและความรัก
ในระยะไกลๆฉลามฝูงหนึ่งเห็นกลุ่มของฉิงเฟิงว่ายน้ำ พวกมันเป็นฝูงฉลามกินเนื้อที่ซ่อนตัวอยู่ในทะเลลึก พวกมันแหวกว่ายเข้าหาพวกฉิงเฟิงอย่างรวดเร็ว หมายจะกัดกินพวกเขาทั้งเป็น
ฉิงเฟิงและพรรคพวกตั้งสมาธิกับการว่ายน้ำในระยะทางไกลพวกเขาไม่ได้สังเกตเห็นฉลามฝูงนี้แม้แต่น้อย อันตรายกำลังคืบคลานเข้าหาพวกเขา
…… …
ทวีปมังกร, หัวเซี่ย
ทุกประเทศในทวีปมังกรต่างก็ตกใจกับข่าวเครื่องบินตก
แน่นอนว่าชาวหัวเซี่ยเป็นประเทศที่ช็อคที่สุดพวกเขาสั่นสะท้านไปถึงแก่นหัวใจจากข่าวนี้
สำหรับคนส่วนใหญ่นี่เป็นเพียงอุบัติเหตุเครื่องบินตกอย่างไรก็ตาม สำหรับหลินเสวี่ยและหลิวหรูหยาน ข่าวนี้มันเหมือนท้องฟ้ากำลังพังทลายลงมา
หลินเสวี่ยกำลังนั่งดูทีวีอยู่ในห้องนั่งเล่นของเธอพร้อมกับเหมียวซิยี้
พี่สาวเสวี่ยดู ! ข่าวรายงานว่าเที่ยวบินที่ 747 จากกรุงปารีสมายังเมืองตงไห่เกิดระเบิด ทุกคนบนเครื่องตายหมด ! เหมียวซิยี้กล่าวพร้อมกับชี้ไปที่โทรทัศน์
มีเพียงหลินเสวี่ยและหลิวหรูหยานเท่านั้นที่รู้ว่าฉิงเฟิงโดยสารเที่ยวบินที่747 เหมียวซิยี้ไม่รู้
อะอะไรนะ
!
เที่ยวบินที่
747
เกิดระเบิดทุกคนเสียชีวิต !
ทันใดนั้นหลินเสวี่ยก็สติกระเจิงแก้วกาแฟที่อยู่ในมือของเธอตกลงบนพื้นจนแตกเป็นเสี่ยงๆ น้ำกาแฟร้อนๆหกลวกต้นขาอันเรียวงามของเธอ แต่เธอกลับไม่รู้สึกอะไรแม้แต่น้อย
สะ..สามีชั้น…. เขาอยู่บนเครื่องบินลำนั้น… ใบหน้าของหลินเสวี่ยซีดเผือดราวกับหิมะ แววตาของเธอดูเหม่อลอยเหนื่อยล้าและแทบจะล้มลงกับพื้น