บอสครับมีอะไรหรือ ลู่ซวนจี๋สังเกตเห็นสีหน้าที่เปลี่ยนไปของฉิงเฟิงจึงถามขึ้น
ทุกคนหยุดก่อนคอยดูรอบๆด้วย มีอันตรายกำลังเข้ามาใกล้ ฉิงเฟิงตะโกนออกมาเมื่อรู้สึกได้ว่าบางอย่างกำลังเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ
ทุกหยุดว่ายตามคำสั่งของฉิงเฟิงและรวมกลุ่มกันเป็นวงกลมโดยที่อลิซมองผิวน้ำของท้องมหาสมุทรโดยรอบด้วยความตื่นตัว
ซูม…
ฝูงฉลามเข้าหาพวกเขาจากใต้น้ำแต่ละตัวมีความยาวมากกว่าสิบเมตร ปากของพวกมันเรียงรายไปด้วยฟันที่แหลมคม พวกมันอ้าปากกว้างใส่พวกเขาอย่างดุร้าย พวกมันต้องการกัดกินพวกเขา
เหวอ! บอสครับ นี่มันฝูงฉลามนี่นา ! ลู่ซวนจี๋กล่าวด้วยความหวาดกลัว
ฝูงฉลามเป็นหนึ่งในสิ่งที่น่ากลัวที่สุดที่พบได้ในท้องมหาสมุทรเนื่องจากความก้าวร้าวและมีโอกาสสูงในการโจมตีมนุษย์
รออยู่ที่นี่อย่าขยับไปไหน ฉันจะไปเล่นกับพวกมันสักหน่อย ฉิงเฟิงบอกให้ทุกคนรอ
เขาเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่พรรคพวกด้วยระดับจิตวิญญาณแท้จริงขั้นต้น ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจลุยเอง เขาเริ่มเหินไปบนอากาศและเตรียมลงมือก่อนที่พวกมันจะเข้ามาใกล้
แน่นอนว่ามีเหตุผลอีกประการหนึ่งที่ฉิงเฟิงชิงลงมือก่อน เลือดของฉลามอาจดึงดูดสัตว์อสูรทะเลที่อันตรายยิ่งกว่าให้มารวมกัน
หากฉลามถูกฆ่าตายใกล้พวกเขาสัตว์อสูรทะเลอาจจะพุ่งเข้ามาทำร้ายพวกเขา
ฟุ่บ!
ฉิงเฟิงโคจรพลังแท้,กระโดดขึ้นไปกลางอากาศและพุ่งเข้าหาฝูงฉลามในเสี้ยววินาที
ฝูงฉลามทั้งหมดล้วนแต่งงงันพวกมันสงสัยว่ามนุษย์คนนี้บินได้อย่างไร เขาไม่เหมือนกับมนุษย์คนอื่นๆที่พวกมันเคยกินมาก่อน
ควบแน่นเพลิงภูเขาไฟ
!
ฉิงเฟิงใช้ออกด้วยกระบวนท่าแรกของวิชากระบี่เพลิงภูเขาไฟทันทีเนื่องจากเขาไม่ต้องการเสียเวลา
เขาหยุดใช้วิชากระบี่เพลิงคะนองหลังจากทำความเข้าใจกับเคล็ดวิชากระบี่เพลิงภูเขาไฟเพราะมันเหนือกว่าด้วยการโจมตีที่ทรงพลังยิ่งกว่า
เงาร่างอันมหึมาของภูเขาไฟก่อตัวขึ้นในอากาศด้วยอุณหภูมิที่น่าสะพรึงกลัวของแม็กม่าและพลังอันยิ่งใหญ่มันฉีกผ่านอากาศและกระแทกเข้าหาฝูงฉลามอย่างรุนแรง
ตูม..ตูม..ตูม…
ฉลามทั้งหมดระเบิดเป็นเศษเนื้อและกองเลือดลอยขึ้นไปบนท้องฟ้าและร่วงกลับสู่มหาสมุทร มันเป็นฉากที่น่าสยดสยองมาก
อดพูดไม่ได้ว่าวิชากระบี่เพลิงภูเขาไฟนั้นทรงพลังมากมันฆ่าฉลามทั้งฝูงได้ด้วยกระบวนท่าเดียว ย้อมสีมหาสมุทรจนแดงฉาด
เหล่าสัตว์อสูรทะเลเช่น วาฬ ปลาหมึกยักษ์และงูทะเลถูกดึงดูดโดยกลิ่นเลือดเนื้อของฉลาม อย่างไรก็ตาม เมื่อพวกมันสัมผัสได้ถึงพลังอันน่าสะพรึงกลัวของฉิงเฟิง พวกมันจึงเพียงแค่กัดกินชิ้นเนื้อของเหล่าฉลามแทนที่จะโจมตีเขา
เช่นเดียวกับแผ่นดินใหญ่ที่ซึ่งมีไว้ฝั่งศพสิ่งมีชีวิตที่ตกตาย แต่มหาสมุทรนั้นโหดร้ายกว่าในแบบของมัน ทุกสิ่งทุกอย่างที่ตายลงจะถูกสิ่งมีชีวิตชนิดอื่นกัดกินแทน
บอสครับโคตรเจ๋ง คุณฆ่าไอ้หลามพวกนี้ซะเกลี้ยงด้วยกระบวนท่าเดียว !
ลู่ซวนจี๋กล่าวอย่างมีความสุขในขณะที่ชูนิ้วโป้งให้
ไม่เพียงแค่ลู่ซวนจี๋แต่ทุกคนในกลุ่มก็มองเขาด้วยดวงตาเป็นประกาย ยิ่งฉิงเฟิงแข็งแกร่งมากเท่าไหร่พวกเขาก็ยิ่งปลอดภัยเท่านั้น
พวกเขาเชื่อมั่นในตัวฉิงเฟิงอย่างไร้ข้อแม้ว่าเขาจะแก้ปัญหาและภยันตรายทั้งหมดให้พวกเขาได้
อย่ามัวเสียเวลาคุยกันอยู่เลยว่ายกันต่อเถอะ อีกประมาณร้อยไมล์พวกเราคงจะถึงเกาะเพลิงระอุ ฉิงเฟิงว่ายไปข้างๆอลิซและกล่าวกับทุกคน
พวกเขารู้สึกดีใจเมื่อยินเช่นนี้พวกเขาทั้งเหนื่อยล้าและหิวโหยหลังจากว่ายน้ำมาเป็นเวลานาน ทุกคนหวังว่าจะได้ขึ้นเกาะโดยเร็วเพื่อที่พวกเขาจะได้อบอุ่นร่างกาย พักผ่อนสมองและหาของกิน อลิซมานี่เกาะหลังฉัน ฉันจะพาเธอว่ายต่อ ฉิงเฟิงบอกให้อลิซเข้ามาใกล้ๆและพาเธอว่ายน้ำต่อไป
อลิซเปิดเผยส่วนโค้งเว้าที่สมบูรณ์แบบของเธอภายใต้เสื้อผ้าที่เปียกโชกหน้าอกคู่โตของเธอดึงดูดความสนใจของทุกคน แขนเรียวงามและขาวเหมือนดอกบัว รวมถึงขาที่เรียวเล็กของเธอโอบรอบหลังของฉิงเฟิงเหมือนปลาหมึกยักษ์ ริมฝีปากเล็กๆเข้ารูปที่เซ็กซี่ของเธอก็พ่นอากาศอุ่นๆใส่ข้างหูของฉิงเฟิง มันทำให้เขารู้สึกจักกะจี้
ถึงแม้ว่าเขาจะว่ายน้ำอยู่แต่ฉิงเฟิงก็รู้สึกตื่นเต้นเร้าใจจากการที่ใช้มือขวาคว้าหมับไปที่ช่วงล่างอันอ่อนนุ่มของอลิซ
ฉิงเฟิงสนุกสนานกับการที่มีอลิซเกาะหลังโดยที่มือของเขาซุกซนไปตามร่างกายที่สมส่วนของเธอ
ใบหน้าที่ซีดเซียวของอลิซเปลี่ยนเป็นสีแดงเหมือนแอปเปิ้ลลมหายใจของเธอถี่รัวขึ้น
สามชั่วโมงต่อมา พวกเขาก็มาถึงหนึ่งในสิบเกาะที่อันตรายที่สุดในมหาสมุทรแปซิฟิก— เกาะเพลิงระอุ
เกาะเพลิงระอุนั้นมีขนาดใหญ่โตด้วยเส้นผ่านศูนย์กลางร่วมหนึ่งร้อยกิโลเมตรโดยมีหินสีแดงล้อมรอบภูเขาไฟขนาดยักษ์เกาะแห่งนี้ได้ชื่อว่าเกาะเพลิงระอุก็เนื่องมาจากแม็กม่าที่ไหลออกมาจากภูเขาไฟอยู่ตลอดเวลา
ตำนานเล่าว่ามี มนุษย์แม็กม่า [Magma men] อาศัยอยู่ภายใต้แม็กม่าของเกาะเพลิงระอุแห่งนี้ ซึ่งไม่มีผู้ใดรู้ว่าจริงหรือนิทานหลอกเด็ก
(ชั่วโมงนี้จะมีแบทแมนทะลุมิติมาแอดก็ไม่แปลกใจละ….กระทั่งเทพยังอัญเชิญมาตบกันได้)
ทุกคนมาถึงชายฝั่งด้วยอาการอ่อนล้าหมดเรี่ยวแรงพวกเขาจึงแผ่หราบนทะเลทันทีที่มาถึงชายฝั่ง มีเพียงฉิงเฟิงคนเดียวที่ยังคงดูคึกคักและเต็มเปี่ยมไปด้วยพละพลังกำลัง มันราวกับว่าเขามีพลังงานของสรรพสิ่งในโลก
อูววววววววววว !
ฮู่มมมมมมมมม
!
เสียงหมาป่าร้องโหยหวนพร้อมกับเสียงคำรามของสัตว์อื่นๆดังออกมาจากทั่วทั้งเกาะแห่งนี้มันแสดงให้เห็นว่าฉิงเฟิงและพรรคพวกไม่ได้อยู่บนเกาะนี้ตามลำพัง
หืม
ทรายกำลังเคลื่อนไหว
ทันใดนั้นเองฉิงเฟิงก็สังเกตเห็นว่าไม่ไกลออกไปกองหินกำลังเคลื่อนผ่านผืนทรายเข้าหาพวกเขา
ทรายไม่ควรจะขยับได้พวกเขานั่งบนชายหาดหลังจากมาถึงไม่นาน แต่ผืนทรายรอบๆพวกเขาก็ค่อยๆเคลื่อนเข้าหาพวกเขาทีละน้อย มันช้ามากๆแต่ฉิงเฟิงก็ยังคงรู้สึกได้
ปัง!
เขาเอื้อมมือไปหยิบกระบี่เพลิงคะนองและเหวี่ยงมันเข้าหาทรายที่อยู่ด้านหน้างูสีแดงเพลิงพุ่งออกมาจากทรายแล้วพุ่งเข้าหาฉิงเฟิง
งูสีแดงเพลิงยาวครึ่งเมตรและพ่นลมหายใจร้อนๆออกมา
ฟุ่บฟุ่บ ฟุ่บ …
ฉิงเฟิงวาดกระบี่ออกไปเจ็ดครั้งติดต่อกันงูเพลิงตัวนั้นก็ถูกสับเป็นชิ้นๆบนพื้นทราย
ฉิงเฟิงรู้ว่างูนั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังชีวิตแม้จะถูกสับเป็นสองส่วนมันก็ยังคงแว้งกัดได้ ดังนั้นเขาจึงสับมันเป็นหลายๆชิ้นให้ตายอย่างแน่นอน
โอวไม่นะบอส ชิบหายแล้ว ! มันคืองูเกล็ดเพลิงและปกติจะอยู่รวมกันเป็นฝูง บอสฆ่ามันไปตัวนึง มันจะโผล่มาอีกเป็นพันเลยนะ ! ลู่ซวนจี๋กล่าวด้วยความกลัว