ข้าจะพูดอีกครั้ง,ราชาอสูรเพลิง ที่นี่คือถิ่นของพวกข้าและเจ้ามีเวลาหนึ่งนาทีในการไสหัวไป มิฉะนั้นข้าจะต้องใช้กำลังเพื่อแสดงให้เจ้าเห็นว่าที่นี่ใครใหญ่สุด
ชายวัยกลางคนกล่าวอย่างไร้ความอดทนในขณะที่แสงสีแดงพุ่งออกมาจากดวงตาของเขา
ฮิฮิ ข้าก็พูดไปแล้วนี่นา ข้าไม่ไปไหนจนกว่าเจ้าจะมอบผลเพลิงให้ข้าผลนึง
ราชาอสูรเพลิงเลียริมฝีปากที่มีเสน่ห์ของเธอด้วยรอยยิ้มและกล่าวอย่างหนักแน่น
ผลไม้เพลิงเป็นผลไม้ระดับจิตวิญญาณที่หาได้ยากมากมันเติบโตในแม็กม่าของภูเขาไฟเท่านั้นและสามารถเก็บเกี่ยวได้ทุกๆร้อยปี ราชาอสูรเพลิงต้องการผลไม้ผลนี้มากเพราะไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะมีโอกาสพบมันอีก
นอกจากนี้ผลเพลิงก็เป็นประโยชน์สำหรับการพัฒนาระดับพลังของเธอเช่นกัน
เวลาหนึ่งนาทีหมดลงแล้วในเมื่อเจ้าไม่ยอมจากไปดีๆงั้นข้าจะสั่งสอนเจ้า !
ชายผมแดงกระโดดขึ้นไปกลางอากาศและเหินลงที่ตรงหน้าของราชาอสูรเพลิง
วูบ!
ชายผมแดงเหวี่ยงดาบใหญ่สีแดงกว้างห้านิ้วไปที่ราชาอสูรเพลิงมันฉีกผ่านอากาศและมาถึงโดยหัวของเธอในเวลาไม่นาน
หืมๆ เป็นอาวุธวิญญาณระดับสูงงั้นหรือ ไม่เลว ไม่เลว ราชาอสูรเพลิงยิ้มอย่างไม่แยแส ในขณะที่มองดาบในมือของเขา
ตูม!!
ราชาอสูรเพลิงก้าวอย่างแผ่วเบาลงบนพื้นในขณะที่เธอหมุนตัวเหมือนผีเสื้อและหลบการโจมตีของเขาในพริบตา
จากนั้นเธอก็ใช้เท้าเล็กๆของเธอเตะเข้าที่หน้าอกของชายวัยกลางคนจนทำให้เขาผงะไปหลายก้าว เหล่ามนุษย์แม็กม่าที่อยู่ข้างหลังเขารู้สึกประหลาดใจเมื่อเห็นว่าหัวหน้าถูกบีบให้ถอยอย่างง่ายดายด้วยลูกเตะเดียว
นี่เหรอจ้ะความแข็งแกร่งของมนุษย์แม็กม่าที่เจ้าว่าจะโชว์ น่าผิดหวังจัง
ราชาอสูรเพลิงกล่าวพร้อมกับส่ายหัว
อันที่จริงแล้วราชาอสูรเพลิงยังไม่ได้ใช้พลังเต็มที่ด้วยซ้ำเพราะถ้าเธอเอาจริงกระดูกของชายคนนี้คงแหลกสลายไปแล้ว เธอต้องการเพียงแค่ผลเพลิงเท่านั้น เธอไม่ได้ต้องการเป็นศัตรูกับเหล่ามนุษย์แม็กม่า
เฮ้อ….มนุษย์แม็กม่ามีแต่อ่อนแอลงและอ่อนแอลง…. เสียงถอนหายใจดังขึ้นข้างๆอย่างฉับพลัน
เสือที่มีใบหน้าเป็นมนุษย์ยืนอยู่ไม่ไกลจากพวกเขาดวงตาของมันเปล่งประกายไปด้วยแสงสีแดง เห็นได้ชัดว่ามันได้บ่มเพาะพลังไปสู่ระดับสูงจนมีศีรษะเหมือนมนุษย์คนหนึ่ง ราชาเสือสีชาดเจ้าก็มาที่นี่เพื่อชิงผลเพลิงเช่นกันหรือ ราชาอสูรเพลิงมองไปที่มัน
ถูกต้องผลเพลิงคือผลไม้ระดับจิตวิญญาณมันช่วยเพิ่มพลังให้ข้าได้ ที่สำคัญมันสุกหง่อมเพียงทุกๆหนึ่งร้อยปีเท่านั้น ข้าไม่ยอมพลาดโอกาสนี้หรอก ราชาเสือสีชาดกล่าวอย่างเย่อหยิ่งดุร้าย
ชายผมแดงดูโกรธมากเพียงลำพังราชาอสูรเพลิงคนเดียวก็สร้างปัญหาให้เขาแล้ว ตอนนี้ยังมีราชาเสือสีชาดเพิ่มมาอีกหนึ่ง
คำแนะนำของข้าคือพวกเราสามคนแบ่งผลเพลิงกันคนละผล ซึ่งมันก็ยุติธรรมดี พวกเจ้าว่าอย่างไร ราชาเสือสีชาดกล่าวด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าของมัน
ไม่มีกองกำลังฝ่ายอื่นนอกจากกลุ่มมนุษย์แม็กม่าราชาเสือสีชาดและราชาอสูรเพลิง พวกเขาทั้งสามมีคุณสมบัติพอที่จะได้รับผลเพลิงเนื่องจากพวกเขาเป็นผู้ที่ทรงพลังที่สุดบนเกาะแห่งนี้
ชายผมแดงเห็นได้ชัดว่ากำลังครุ่นคิดพิจารณาถึงความเป็นไปได้ของคำแนะนำนี้ด้วยใบหน้าที่มีมืดครึ้มถึงแม้ว่าเหล่ามนุษย์แม็กม่าจะทรงอำนาจ แต่อาวุโสสูงสุดของพวกเขาก็ยังคงเก็บตัวไม่ยุ่งเกี่ยวกับโลกภายนอก ลำพังเขาเพียงคนเดียวที่ไม่มีอาวุโสสูงสุดเป็นแบ็คอัพให้นั้นก็ไม่อาจต่อกรกับราชาอสูรเพลิงหรือราชาเสือสีชาดได้แม้แต่น้อย
ทันใดนั้นเองผลเพลิงทั้งสามผลก็ถูกเด็ดจากต้นในขณะที่ทั้งสามฝ่ายกำลังเจรจากัน
พวกเราโชคดีจริงๆที่ได้เห็นผลเพลิงฉันขอรับมันไปละนะ น้ำเสียงที่หยิ่งผยองและข่มเหงผู้คนดังขึ้นทำให้ชายวัยกลางคนผมแดงรู้สึกหงุดหงิด
ฉิงเฟิงเดินเข้ามาพร้อมกับราชาอสูรค้างคาวม่วงและทีมเขี้ยวหมาป่าโดยมีราชางูเกล็ดเพลิงเป็นคนนำทาง
หากฉิงเฟิงไม่ได้งูเกล็ดเพลิงนำทางคงจะต้องใช้เวลานานกว่านี้จึงจะหาสถานที่แห่งนี้พบโชคดีที่เขาไม่ได้ฆ่ามัน
พวกเจ้าเข้ามาที่นี่ได้อย่างไร, มนุษย์ ! ชายผมแดงกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ไม่เป็นมิตร
ชาวมนุษย์แม็กม่านั้นต่อต้านและเป็นศัตรูกับมนุษย์มาโดยตลอดพวกเขามองว่ามนุษย์ทุกคนคือศัตรู
ฉิงเฟิงชี้ไปที่ราชางูเกล็ดเพลิงและกล่าวว่า เจ้านี่พาฉันมา
ราชางูเกล็ดเพลิงแทบจะร้องไห้เมื่อได้ยินฉิงเฟิงโบ้ยมาที่มันมันคิดในใจว่า
โถ…ลูกพี่มนุษย์ พี่เป็นคนสั่งให้ข้าพามาที่นี่เองไม่ใช่รึไง ทำไมเอาข้ามาเป็นไม้กันหมาแบบนี้ ข้าไม่ได้คนอยากพามาเสียหน่อย
!
ชายผมแดงกลอกตาไปที่ราชางูเกล็ดเพลิงด้วยความไม่พอใจ
เฮอะแกมันขี้ขลาดที่ฟังคำขู่ของมนุษย์ ! ราชาเสือสีชาดแค่นเสียงเย็นชาและหัวเราะเยาะ
สัตว์อสูรบนเกาะเพลิงระอุแห่งคือถือกำเนิดมาเพื่อเป็นศัตรูกับมนุษย์พวกเขาคุ้นชินกับการโจมตีมนุษย์ในทันทีที่เห็นย่างกรายเข้ามาบนเกาะ
ราชางูเกล็ดเพลิงมีสีหน้าโกรธแค้นแต่มันก็ต้องกล้ำกลืนความโกรธเมื่อคิดได้ว่าราชาเสือสีชาดนั้นเข้มแข็งเพียงใด
ราชาเสือสีชาดนั้นเป็นราชาแห่งเสือบนเกาะนี้และแข็งแกร่งกว่าราชางูเกล็ดเพลิงมันไม่กล้าหือ
ถ้าแกเกลียดชังมนุษย์ขนาดนั้นทำไมแกไม่วิวัฒนาการเป็นหน้าหมาแทนที่จะเป็นหน้ามนุษย์ล่ะ,เจ้าเสือ ฉิงเฟิงตอกกลับราชาเสือสีชาด
เจ้ามนุษย์สารเลว! แกกล้าเล่นตลกกับข้าได้อย่างไร ! ราชาเสือสีชาดมองไปที่ฉิงเฟิงอย่างดุเดือด
แหมๆใจเย็นๆ ทำไมเจ้าถึงได้ไปตะคอกใส่หนุ่มน้อยน่ารักแบบนั้นล่ะเจ้าเสือ
ราชาอสูรเพลิงหัวเราะอย่างมีเสน่ห์ในขณะที่เธอมองไปที่ฉิงเฟิงด้วยความรู้สึกคุ้นเคยต่อใบหน้าอันหล่อเหลาของเขา
ค้างคาวม่วงกลอกตาและพูดไม่ออกกับคำพูดเจ้าชู้ของราชาอสูรเพลิง
นี่หล่อนกล้าทำตัวเจ้าชู้กับนายน้อยทั้งที่ไม่รู้ว่าเขาเป็นใครงั้นหรือ
พี่หญิงเพลิงคุณจำผมได้ไหม ค้างคาวม่วงก้าวออกมาและกล่าวกับราชาอสูรเพลิง
นี่ไม่ใช่แผนเดิมของเขาแต่ราชาอสูรเพลิงกลับทำตัวเกี้ยวพาราสีน้อยนายไม่หยุด เขาต้องห้ามเธอจากการกระทำเช่นนี้
เจ้าเจ้าคือ … ค้างคาวน้อยงั้นเหรอ ราชาอสูรเพลิงถาม เธอพบว่าชายหนุ่มหน้ามนคนนี้มีใบหน้าคล้ายคลึงกับราชาอสูรค้างคาวม่วงตัวน้อยของเธอเมื่อสิบห้าปีก่อน
เธอไม่แน่ใจเพราะว่าไม่ได้พบหน้ากันมาตั้งเกือบสิบห้าปีแล้ว
คุณจำไม่ได้เหรอว่าเคยซื้ออมยิ้มให้ผมบ่อยๆเมื่อสิบห้าปีก่อน,พี่หญิงเพลิง ค้างคาวม่วงมีสีหน้าไม่ค่อยแฮปปี้ที่เห็นว่าราชาอสูรเพลิงจำเขาไม่ได้เมื่อก่อนเธอดีต่อเขามากสมัยยังเด็กๆ
อ้า….. ! ข้าจำได้แล้ว ฮิๆ ไม่เจอกันเกือบสิบห้าปี ค้างคาวม่วงตัวน้อยของพี่โตขึ้นกลายเป็นหนุ่มหล่อเหลาเช่นนี้เชียวหรือ ! ตอนนี้เจ้ามีแฟนรึยังล่ะ ถ้ายังไม่มีแฟนพี่สาวคนนี้จัดให้เจ้าสักดอกได้นะถ้าเจ้าต้องการ !
ราชาอสูรค้างคาวม่วงพูดไม่ออกเกี่ยวกับพี่สาวใหญ่คนนี้เธอยังคงเจ้าชู้ขี้เล่นเหมือนสมัยก่อนไม่ผิดเพี้ยน แต่ที่สำคัญ เธอจำหน้านายน้อยที่ยืนหัวโด่อยู่ตรงนั้นไม่ได้ได้อย่างไร