ตอนที่ 964 ฉวยโอกาส
แม้ว่าราชินีอสูรเพลิงจะมองฉิงเฟิงด้วยความรังเกียจแต่เขากลับมองเธอด้วยแววตาที่เร่าร้อน ในขณะที่กำลังคิดว่าหากเธอยอมติดตามเขา เธอจะเป็นบอดี้การ์ดขั้นเทพเลยทีเดียวด้วยระดับพลังที่สูงล้ำจนสะกดข่มหัวหน้าเผ่าแม็กม่าได้
ในตอนที่เขายังคงสนุกสนานกับความคิดนี้ฉิงเฟิงก็มองราชินีอสูรเพลิงด้วยแววตาที่ร้อนแรง
ราชินีอสูรเพลิงสังเกตเห็นถึงแววตาที่ร้อนรุ่มของฉิงเฟิงจึงเอ่ยถามว่า หยุดจ้องข้าได้แล้ว ! ไม่งั้นข้าจะควักตาเจ้าออกมา
เช่นเดียวกับผู้หญิงคนอื่นๆเธอย่อมรู้สึกหงุดหงิดอึดอัดเมื่อมีผู้ชายคนหนึ่งจ้องเธออย่างมีเลศนัย
สุภาพบุรุษทุกรูปนามย่อมตามติดหญิงสาวมันแปลกตรงไหน นอกจากนี้คุณยังไม่ใช่เพียงแค่หญิงงามธรรมดา แต่ยังเป็นหญิงงามที่แข็งแกร่งอีกด้วย ยอมสวามิภักดิ์และเป็นสาวใช้ของฉันดีมั้ย ? ฉิงเฟิงกล่าวอย่างเอาแต่ใจ
ด้วยคำพูดนี้ทุกคนรอบๆต่างมองเขาราวกับเป็นตัวโง่งม พวกเขาคิดในใจว่า
เฮ้…พี่ชาย นังมารร้ายคนนี้เป็นถึงยอดฝีมือระดับจิตวิญญาณแท้จริงขั้นปลาย และแข็งแกร่งกว่าเจ้ามาก หากเจ้ายังเอาแต่พูดจาเกี้ยวพาราสีนางอย่างไร้ยางอายต่อไป ระวังนางจะฉีกเจ้าเป็นชิ้นๆ…
แล้วก็เป็นไปตามที่ทุกคนคิดราชินีอสูรเพลิงเริ่มเดือดดาลกับความเจ้าชู้ไก่แจ้ของเขา
หลี่ฉิงเฟิงสินะเจ้าคิดว่าข้าไม่กล้าทำอะไรเจ้าเพราะเจ้าเป็นบุตรชายของราชันผู้พิชิตหรือไง ! เธอก้าวเข้าหาเขาและกล่าวอย่างเย็นชา
คนสวยเราทั้งคู่ต่างก็ต้องการผลเพลิงถ้าคุณสู้กับฉันผู้ที่ได้ประโยชน์ที่สุดก็คือเหล่ามนุษย์แม็กม่า เธอจะยอมตัดใจจากผลเพลิงที่เฝ้ารอมาถึงสิบห้าปีเชียวหรือ
คำพูดของฉิงเฟิงกระแทกกลางใจของเธอ
เธอรอคอยผลเพลิงอยู่ที่เกาะนี้มาถึงสิบห้าปีซึ่งผลเพลิงนี้จะเก็บเกี่ยวได้ทุกร้อยปีเท่านั้นหากพลาดโอกาสนี้ไปชั่วชีวิตนี้เธอก็จะไม่สามารถหามันได้อีก เธอไม่อาจรอถึงร้อยปีข้างหน้าได้
ฮึ! ข้าจะจัดการกับเจ้าทีหลัง ราชินีอสูรเพลิงกล่าวพร้อมกับมองเขาอย่างไม่เป็นมิตร
เธอตัดสินใจจะสั่งสอนบทเรียนให้ฉิงเฟิงหลังจากได้ผลเพลิง
ราชินีอสูรเพลิงไม่สนใจฉิงเฟิงและมุ่งความสนใจไปที่หัวหน้าเหล่ามนุษย์แม็กม่า,จูฮัวเธอก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับออร่าที่น่าหวาดหวั่น จูฮัวข้าจะพูดอีกครั้ง มอบผลเพลิงมาและข้าจะจากไปทันที ราชินีอสูรเพลิ่งกล่าวข่มขู่
เฮอะฝันไปเถอะ ! จูฮัวส่ายหัวด้วยความรังเกียจ
ถ้าเช่นนั้นข้าจะไปชิงมันเอง ราชินีอสูรเพลิงย่างก้าวขึ้นไปบนท้องฟ้าและบินไปที่ต้นผลเพลิง
วิชาดาบแม็กม่า
,
คลื่นพิฆาต
!
จูฮัวหัวหน้าเหล่ามนุษย์แม็กม่าคำรามลั่นและเหวี่ยงดาบยาวสีแดงของเขาออกไป มันสร้างคลื่นแม็กม่าที่สูงกว่าสิบเมตรและพุ่งไปที่ราชินีอสูรเพลิงอย่างดุดัน
แส้เก้าวิญญาณ
!
ราชินีอสูรเพลิงโห่ร้องเสียงต่ำและหยิบฉวยแส้สีแดงของเธอออกมา
มันเป็นสีแดงดั่งเปลวไฟ,แส้นี้ยาวเกินกว่าสามเมตรและมีลวดลายที่ซับซ้อนสลักอยู่บนพื้นผิว มันเป็นอาวุธวิญญาณระดับโลกา
ด้วยแส้เก้าวิญญาณชิ้นนี้มันมีชื่อเสียงในด้านหลังอำนาจอันยิ่งใหญ่
ราชินีอสูรเพลิงเหวี่ยงแส้ของเธอไปยังดาบแม็กม่ามันสร้างกระแสลมร้อนในอากาศทุกที่ที่มันฟาดไป
ตูม
!!
ดาบและแส้ปะทะเข้าหากันตามมาด้วยเสียงดังสนั่นสะเทือนโลกส่งผลให้แม็กม่าทั้งหมดลอยขึ้นมาอย่างน่าทึ่ง
ขณะที่พวกเขาทั้งสองต่างก็เป็นยอดฝีมือขอบเขตจิตวิญญาณแท้จริงขั้นปลาย,จูฮัวและราชินีอสูรเพลิงสร้างโล่แสงด้วยพลังแท้ของพวกเขาเพื่อต้านทานพลังของแม่น้ำแม้กม่าที่พุ่งกระเซ็นออกมา มิฉะนั้นแล้วพวกเขาอาจจะถูกเผาด้วยลาวาอันร้อนระอุได้
เมื่อมองดูแม็กม่าที่พุ่งสูงขึ้นไปในอากาศดวงตาของฉิงเฟิงก็คมกริบเป็นประกายขึ้น ความคิดโลดแล่นในสมองอย่างรวดเร็ว
เขาเห็นความคล้ายคลึงกันระหว่างวิชากระบี่เพลิงภูเขาไฟของเขากับลาวาที่พุ่งทะยานจากใต้ภูเขาไฟลูกใหญ่ที่เหล่ามนุษย์แม็กม่าอาศัยอยู่
วิชากระบี่เพลิงภูเขาไฟนั้นมีสี่กระบวนท่าจนถึงบัดนี้ฉิงเฟิงเพิ่งเข้าใจกระบวนท่าแรกก็คือ ควบแน่นเพลิงภูเขาไฟ เท่านั้น
เมื่อมองดูแม็กมาที่พลุกพล่านเหล่านี้เขาก็เข้าใจกระบวนท่าที่สองในทันที,ภูเขาไฟพังทลาย
เขาฟาดกระบี่เพลิงคะนองออกไปด้วยการเคลื่อนไหวที่ผิดธรรมดาแม็กม่าในแม่น้ำบินสูงขึ้นไปบนอากาศนับสิบเมตรทันที ด้วยกระบวนท่าภูเขาไฟพังทลายทำให้ฉิงเฟิงสามารถควบคุมการเคลื่อนไหวและพลังของแม็กม่ารวมทั้งสามารถสร้างการปะทุของภูเขาไฟด้วยพลังแท้ของเขาอีกด้วย
ต้องขอบคุณการต่อสู้ระหว่างราชินีอสูรเพลิงและจูฮัวหัวหน้ามนุษย์แม็กม่าที่ทำให้แม็กม่าในแม่น้ำพลุ่งพล่านและพังทลายจนทำให้ฉิงเฟิงรู้แจ้งในกระบวนท่าที่สองของวิชากระบี่เพลิงภูเขาไฟ
เขารู้สึกได้ถึงกระแสของพลังที่กำลังไหลเวียนในร่างกายของเขา
ในเวลาเดียวกันทั้งราชินีอสูรเพลิงและจูฮัวต่างก็ปะทะกันมากกว่าร้อยกระบวนท่า เนื่องจากพวกเขาทั้งสองเป็นยอดฝีมือระดับจิตวิญญาณแท้จริงขั้นปลายแถมยังครอบครองอาวุธวิญญาณระดับโลกา การต่อสู้ของพวกเขาจึงยังไม่มีผู้ใดเหนือกว่ากันมากนัก
ตูมตูม
! การปะทะกันด้วยกระบวนท่าที่รุนแรงที่สุดของพวกเขาต่างทำให้อีกฝ่ายได้รับบาดเจ็บแต่พวกเขาก็ยังไม่หยุดต่อสู้และพุ่งเข้าปะทะหักหาญกันอีกคำรบ
หึหึเวลานี้แหละเหมาะเจาะในการลอบไปชิงผลเพลิงอย่างยิ่ง ! ดวงตาของฉิงเฟิงเป็นประกายแวววาว
เขาจะไม่มีทางได้รับโอกาสนี้ถ้าหากราชินีอสูรเพลิงและจูฮัวไม่ได้สู้กันเนื่องจากเขาไม่ใช่คู่มือของทั้งสองแม้แต่น้อย
วูบ!
ฉิงเฟิงกระโจนขึ้นฟ้าเหมือนลูกศรที่ยิงไปสุดแรงและพุ่งเข้าหาผลเพลิงในทันที
ผลเพลิงอยู่บนก้อนหินกลางแม่น้ำแม็กม่าฉิงเฟิงเหินร่างข้ามแม่น้ำแม็กม่าไปครึ่งทางและหยุดลงบนก้อนหินก้อนหนึ่งที่ห่างจากเป้าหมายเพียงหนึ่งเมตร
ทันทีที่เขายื่นมือขวาออกไปหยิบผลเพลิงเขาก็สัมผัสได้ถึงการโจมตีจากใครบางคน เขารีบหลบฉากไปด้านข้างอย่างเร่งรีบ
บ้าเอ้ยลอบกัดงั้นเหรอไอ้เสือบัดซบ ! แสงเย็นยะเยือกพาดผ่านดวงตาของฉิงเฟิง
ถ้าไม่ใช่เพราะสัญชาตญาณระวังภัยที่เฉียบคมของเขาฉิงเฟิงก็คงจะตายไปอย่างไม่รู้ตัวแล้ว
เจ้ามนุษย์ที่น่ารังเกียจผลเพลิงต้องเป็นของข้า ไสก้นของเจ้าไปไกลๆซะ !
ราชาเสือสีชาดกล่าวอย่างหยิ่งยะโสด้วยเจตนาฆ่าในดวงตาของเขา
