ตอนที่ 967 ลวนลามสาวงามผู้ดุร้าย
เนื่องจากไม่ต้องการให้ตันเถียนของตนเองถูกทำลายจูฮัวจึงหยิบไข่มุกสีแดงออกมาและมอบให้แก่ฉิงเฟิง
มันมีขนาดเท่ากันกับมุกอัสนีของเขาแต่สีของมันนั้นแตกต่างกัน มุกอัสนีเป็นสีดำที่มีสีแดงแซมอยู่เล็กน้อย ในขณะที่มุกนี้เป็นสีแดงทั้งหมดและมีประกายสีแดงส่องผ่านแกนกลางของมัน
อัญมณีนี้คือไข่มุกภูเขาไฟและเป็นสมบัติของเหล่าชนเผ่ามนุษย์แม็กม่า
มันมีค่ามากสำหรับเผ่าของพวกเขาและพวกเขาจะไม่นำมันออกมาในสถานการณ์ปกติ อย่างไรก็ตามเพื่อที่จะรักษาชีวิตของตนเอง จูฮัวต้องยอมนำไข่มุกออกมาในที่สุด เพราะอย่างไรก็ตามสิ่งของทรัพย์สมบัติย่อมมีค่าน้อยกว่าชีวิต
ช่างเป็นพลังงานธาตุไฟที่แข็งแกร่งอะไรเช่นนี้! ดวงตาของฉิงเฟิงเต็มไปด้วยความเร่าร้อนจากการสัมผัสมุกภูเขาไฟเพียงแค่นิดเดียว
ไข่มุกแห่งภูเขาไฟมีคุณสมบัติตามชื่อของมัน มันก่อตัวขึ้นภายในภูเขาไฟและมีอำนาจในการยับยั้งความร้อนจากแม่น้ำลาวา
ฉิงเฟิงใช้พละกำลังทางจิตในการหยั่งรู้ถึงอุณหภูมิภายในไข่มุกเม็ดนี้
หากเป็นผู้ฝึกตนคนอื่นๆอาจจะดวงจิตถูกแผดเผาจากความร้อนไปแล้วแต่ฉิงเฟิงนั้นแตกต่างกัน ร่างกายและจิตใจของเขาแข็งแกร่งมากและสามารถทนความร้อนได้
ขอบคุณสำหรับมุกภูเขาไฟฉันจะทำตามคำสัญญาก็แล้วกัน ฉิงเฟิงกล่าว
ฉิงเฟิงพอใจกับสิ่งแลกเปลี่ยนของจูฮัวดังนั้นเขาจึงไว้ชีวิต
จูฮัวมองฉิงเฟิงด้วยสีหน้าที่ซับซ้อนและกล่าวสัญญาว่า งั้นข้าก็สัญญาว่าจะไม่ไล่ล่าเจ้าหรือแย่งชิงผลเพลิงหลังจากบาดแผลหายดี ฉิงเฟิงยิ้มตอบต่อคำสัญญาของจูฮัวจากนั้นเขาก็กระโดดลงไปในแม่น้ำลาวาต่อหน้าสายตาที่จ้องมองของทุกคน
เฮ้ย! บอส !!! การแสดงออกของลูซวนจี๋เปลี่ยนไปและกรีดร้องออกมา
ซวนจี๋อย่าขัดจังหวะบอส บางทีเขาอาจจะกำลังฝึกฝนอะไรบางอย่าง อลิซจ้องลู่ซวนจี๋และกล่าวเตือน
อลิซเข้าใจฉิงเฟิงและรู้ว่าเขาจะไม่ทำสิ่งที่ไร้เหตุผล
เธอคาดเดาถูกต้องแล้วฉิงเฟิงกำลังจะฝึกวิชา
เมื่อร่างของเขาตกลงสู่ลาวาไข่มุกแห่งภูเขาไฟก็ก่อตัวเป็นโล่สีแดงและปิดกั้นลาวาทั้งหมดจากการสัมผัสร่างกายของเขา
ถึงแม้ว่าลาวาจะถูกสกัดกั้นเอาไว้แต่คลื่นความร้อนก็ยังคงผ่านทะลุเข้ามาในโล่ได้
ฉิงเฟิงเริ่มเปิดใช้งานกายาแดนชำระในขั้นที่สองทันทีด้วยระดับนี้ผู้ฝึกจะต้องใช้ความร้อนจากลาวาเพื่อทำให้ร่างกายของเขาอุณหภูมิสูงขึ้น
ผิวของฉิงเฟิงกลายเป็นสีแดงมากจนเกือบเหมือนกุ้งลอบสเตอร์สุกอย่างสมบูรณ์เส้นเลือดของเขาสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าและกลายเป็นสีแดงก่ำเช่นกัน
เนื่องจากอุณหภูมิ,ผิวของเขาจึงเริ่มแห้งและชิ้นส่วนที่ตายแล้วก็หลุดลอกออกมา ร่างกายทั้งหมดของเขากลายเป็นสีแดงเหมือนลาวาที่อยู่รอบตัวเขา ไม่เพียง แค่ผิวของเขาจะพัฒนา กล้ามเนื้อ, กระดูกและอวัยวะทั้งหมดของเขาก็พัฒนาและกลายเป็นสีเดียวกับลาวา
กระบวนการนี้เจ็บปวดอย่างสุดแสนแต่ฉิงเฟิงก็ต้องผ่านมันไป เขารู้ว่าเขาต้องทนต่อความเจ็บปวดในระหว่างกระบวนการฝึกฝนนี้ให้ได้
หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมงฉิงเฟิงก็รู้สึกว่าร่างกายทั้งหมดของเขาก็บรรเทาความเจ็บปวดลง เขาลองใช้นิ้วชี้สัมผัสกับลาวาด้านนอกของเกราะและไม่มีอะไรเกิดขึ้นเขาไม่รู้ร้อนแม้แต่น้อย
ในที่สุดฉันก็ประสบความสำเร็จในการบ่มเพาะกายาแดนชำระขั้นที่สองจนได้…
ฉิงเฟิงพึมพำเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้นในขณะที่เขาแทบไม่รู้สึกร้อนลวกจากลาวา
ในปัจจุบันพละกำลังของกล้ามเนื้อและผิวหนังของฉิงเฟิงนั้นแทบจะอยู่ยงคงกระพัน แม้แต่ลาวาอันร้อนระอุยังทำอะไรเขาไม่ได้
ฟุ่บ~
ฉิงเฟิงกระโดดกลับขึ้นไปบนฝั่งจากใต้แม่น้ำลาวา
บอสครับทำไมผิวของคุณถึงแดงก่ำขนาดนี้ ลู่ซวนจี๋เป็นคนแรกที่ได้เห็นรูปลักษณ์แปลกๆของฉิงเฟิง
ฉิงเฟิงโบกมือและกล่าวว่า ไม่มีอะไรต้องห่วงหรอก ที่จริงฉันคิดว่าเป็นแบบนี้ก็หล่อดีนะ
จูฮัวกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ดูตกใจว่า ผิวของเจ้าเป็นสีเดียวกับลาวา หรือว่าเจ้าสามารถทนความร้อนของลาวาได้งั้นหรือ !
เหตุผลที่จูฮัวสามารถทนต่อความร้อนได้ก็เพราะเขาเกิดและเติบโตขึ้นในสภาพแวดล้อมนี้แต่ฉิงเฟิงนั้นมาจากแผ่นดินใหญ่เบื้องบนและย่อมไม่สามารถทนต่อความร้อนได้
เป็นไปได้ไหมว่าเจ้าหนุ่มคนนี้กำลังฝึกฝนหนทางสู่กายาอมตะในตำนาน…
จูฮัวคิดในใจการแสดงออกของเขาเปลี่ยนไป แววตาที่มองฉิงเฟิงเปลี่ยนไปเป็นความนับถือและความเคารพ
ฉิงเฟิงไม่ได้สนใจในสิ่งที่จูฮัวคิดเขาเดินกลับไปหาราชินีอสูรเพลิงแทน
พี่สาวคนสวยคุณต้องการให้ผมช่วยมั้ย ท้องของคุณถูกเจาะเป็นรูด้วยดาบใหญ่ขนาดนั้นนี้ ฉิงเฟิงมองราชินีอสูรเพลิงและยิ้มกรุ้มกริ่ม
ราชินีอสูรเพลิงรู้สึกเขินอายต่อสายตาที่จ้องมองของฉิงเฟิงเธอกล่าวว่า เจ้ามองบ้าอะไร ไปไกลๆเลย ข้าไม่ต้องการความช่วยเหลือจากเจ้า
พี่สาวคนสวย,คุณถือว่าเคยเป็นหนึ่งในสิบอสูรของพ่อฉันมาก่อน จะให้ฉันทนดูคุณเจ็บปวดจากบาดแผลเช่นนี้ได้อย่างไร มามะ ฉันจะพาคุณออกไปรักษา
ฉิงเฟิงยิ้มแย้มและเหยียดฝ่ามือออกไป
ราชินีอสูรเพลิงต้องการจะหลบหนีจากฝ่ามือมารนี้แต่เธอก็เคลื่อนไหวไม่ได้รวดเร็วเหมือนอย่างเคยจากอาการบาดเจ็บ เธอถูกฉิงเฟิงคว้าหมับเข้าในทันที
ฉิงเฟิงยิ้มและกล่าวว่า ไหนดูซิ เมื่อไม่กี่วินาทีก่อนยังจองหองอยู่เลย ตอนนี้เป็นไงล่ะ
ราชินีอสูรเพลิงถูกฉิงเฟิงหยอกจนหน้าแดงก่ำด้วยความโมโหเธอคิดจะชกหน้าเขา แต่เขาก็คว้าจับหมัดน้อยๆของเธอได้อย่างง่ายดาย
คุณไม่ได้มีพลังพอจะขัดขืนฉันได้ด้วยอาการบาดเจ็บขนาดนี้ยอมแพ้เถอะ
ฉิงเฟิงกล่าว
ฉิงเฟิงก็รู้สึกเคืองต่อราชินีอสูรเพลิงผู้งดงามคนนี้ไม่น้อยเพราะก่อนหน้านี้เธอดูถูกเขาเขาจึงคิดจะใช้โอกาสนี้สั่งสอนบทเรียนให้เธอหราบจำ เขาต้องการให้เธอจำฝังใจว่าการทำให้เขาหงุดหงิดจะได้รับผลอะไรตามมา !
ฉิงเฟิงได้พานพบสาวงามมานับไม่ถ้วนหลินเสวี่ยงดงามเย็นชา หลิวหรูหยานงดงามเย้ายวนกระตุ้นอารมณ์ จางเสี่ยวเยวี่ยบริสุทธิ์สดใส และราชินีอสูรเพลิงนางนี้ที่งดงามเต็มสาว พวกเธอทั้งหมดที่กล่าวมาสามารถดึงดูดผู้ชายได้ทุกรูปนาม
หลี่ฉิงเฟิงปล่อยข้าเดี๋ยวนี้ ! ราชินีอสูรเพลิงผู้ร้อนแรงกล่าวอย่างอับอาย ถึงแม้ว่าเธอจะเป็นสุดยอดสาวงามคนหนึ่งแต่เธอไม่เคยมีความสัมพันธ์กับชายใดมาก่อน เธอรู้สึกอายกับการที่ได้มีปฏิสัมพันธ์ใกล้ชิดกับฉิงเฟิง
โชคไม่ดีที่เธอได้รับบาดเจ็บไม่เช่นนั้นเธอจะสั่งสอนบทเรียนให้เขาแน่
ไม่ปล่อยตราบใดที่คุณสัญญาว่าจะเป็นคนรับใช้ของฉัน ฉันถึงจะปล่อย
ฉิงเฟิงกล่าวอย่างเอาแต่ใจ
ฉิงเฟิงรู้ว่าเขาต้องทำให้เธอเป็นผู้ติดตามให้ได้ในขณะที่เธอยังได้รับบาดเจ็บและขัดขืนไม่ได้หากเขารอให้เธอหายดีแล้วคงจะโดนเธอทุบตีแทนอย่างแน่นอน
ฝันไปเถอะ!! ข้าจะไม่รับใช้เจ้าเด็ดขาด ! ราชินีอสูรเพลิงจ้องเขม็งไปที่ฉิงเฟิง หากการจ้องมองสามารถฆ่าคนได้ ฉิงเฟิงคงตายไปนับสิบครั้งแล้ว