ตอนที่ 1004 พื้นที่รอบนอก
ฉิงเฟิงมีรอยยิ้มเมื่อได้เห็นใบหน้าอันงดงามของฉินเซียนจื่อเขากล่าวทักทายว่า คุณหนูฉิน คุณสวยขึ้นนะ
ท่านก็พูดมากจัง…. ฉินเซียนจื่อมองไปที่ฉิงเฟิงด้วยใบหน้าที่มีรอยแดง
ฉิงเฟิงแซวเธอทุกครั้งที่พบหน้าเขาไม่สนใจเหล่าสาวกนิกายกระบี่สวรรค์ที่อยู่โดยรอบหรือ
ข้าบอกให้เจ้าไสหัวไปไม่ได้ยินหรือไง จ้าวไค่ซวนกล่าวเมื่อเห็นว่าฉิงเฟิงไม่สนใจคำพูดของเขา แต่หันไปเกี้ยวพาราสีฉินเซียนจื่อแทน
เขาเป็นถึงศิษย์คนสำคัญของนิกายกระบี่สวรรค์และไม่เคยถูกข้ามหัวเช่นนี้มาก่อน
ฉันคิดว่านายไม่ได้แปรงฟันเมื่อเช้าที่ไหนได้ ทั้งเดือนนี่หว่า ถึงว่าสิกลิ่นปากนายเหม็นยังกับส้วม บัดซบ! เจ้ารู้ไหมว่าข้าเป็นใคร กล้าดียังไงถึงได้มาด่าทอข้าเช่นนี้ ? การแสดงออกของจ้าวไค่ซวนกลายเป็นเย็นชา
แล้วนายเป็นใครละ
ข้าคือจ้าวไค่ซวนศิษย์ที่ยอดเยี่ยมของนิกายผู้ฝึกตนระดับโลกา, นิกายกระบี่สวรรค์ เมื่อรู้แล้วก็จงคุกเข่าขอขมาซะ
ขอโทษเรอะ นายคิดว่านายเป็นใคร? ไสหัวไปซะ มาทางไหนกลับไปทางนั้น
ฉิงเฟิงกล่าวขณะที่ยิ้มด้วยความรังเกียจ
นิกายกระบี่สวรรค์นั้นทรงพลังอำนาจในฐานะนิกายผู้ฝึกตนระดับโลกาประมุขนิกายของพวกเขาเป็นผู้ฝึกตนระดับจิตโลกาที่ทรงพลังแต่ฉิงเฟิงก็ไม่ได้กลัว สำหรับเขาแล้วไม่มีอะไรที่ต้องกลัว
เจ้ามันห้าวเองนะ
จ้าวไค่ซวนกล่าวดวงตาของเขาเต็มไปด้วยเจตนาฆ่า ชายหนุ่มคนนี้น่ารังเกียจนัก ! เขาต้องการฆ่าฉิงเฟิงมากกว่าสิ่งใดในตอนนี้ เช้ง!
จ้าวไค่ซวนชักกระบี่ยาวออกมาแล้วชี้ไปที่ฉิงเฟิงมันเป็นกระบี่ยาวสีแดงที่กว้างสามนิ้วและยาวสามฟุต มันเป็นอุปกรณ์วิญญาณที่ทรงพลังที่มีชื่อว่ากระบี่แสงสีชาด
พลังงานกระบี่ที่เข้มข้นเปล่งออกมาจากตัวกระบี่และมีลำแสงสีแดงหมุนวนรอบๆตัวมันจ้าวไค่ซวนชูกระบี่ขึ้นฟ้าและฟาดฟันใส่ฉิงเฟิงอย่างอย่างรุนแรง
เพลิงภูเขาไฟระเบิด
!
กระบี่เพลิงคะนองของฉิงเฟิงพุ่งไปข้างหน้าเช่นกันมันก่อให้เกิดแฟนท่อมภูเขาไฟที่บรรจุไปด้วยพลังงานมหาศาล เมื่อมันกระทบกับกระบี่ยาวของจ้าวไค่ซวน มันก็เกิดรอยแตกขนาดใหญ่ที่จุดปะทะ
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ากระบี่แสงสีชาดเล่มนี้ทรงพลังมากหากเป็นอาวุธทั่วไปคงถูกกระบี่เพลิงคะนองของฉิงเฟิงบดขยี้จนแตกเป็นสองส่วนไปแล้ว อย่างไรก็ตาม กระบี่เล่มนี้เกิดรอยแตกเพียงแค่จุดเดียว
ในฐานะที่เป็นนิกายผู้ใช้กระบี่อันทรงพลังสาวกทุกคนของนิกายกระบี่สวรรค์ต่างก็ฝึกฝนวิชากระบี่ พวกเขาแทบทุกคนต่างก็ครอบครองกระบี่ล้ำค่า
ใบหน้าของจ้าวไค่ซวนดูเคร่งขรึมเมื่อเขาเห็นรอยแตกเขาโกรธมาก กระบี่เล่มนี้เป็นอาวุธวิญญาณที่มีค่าและเขาก็ใช้มันในการต่อสู้และสังหารศัตรูมานับไม่ถ้วน มันเสียหายอย่างง่ายดายเช่นนี้ได้อย่างไร
วิชากระบี่แสงสีชาด
!
จ้าวไค่ซวนรั้งสติและใช้วิชากระบี่โจมตีออกมาทันทีเขาโคจรพลังแท้ในอากาศไว้ในตัวกระบี่และฟาดฟันออกมา มันกลายเป็นลำแสงสีแดงสิบสายอันแหลมคมที่ฉีกอากาศโดยรอบและพุ่งเข้าใส่ฉิงเฟิงอย่างดุดัน
วูบ!
ฉิงเฟิงวาดกระบี่เป็นวงกลมมันก่อให้เกิดเปลวเพลิงขนาดใหญ่ที่บรรจุพลังงานอันเข้มข้นที่กลืนแสงสีแดงเข้าไป
หลังจากฉิงเฟิงทำลายเคล็ดวิชากระบี่ของอีกฝ่ายเขาก็เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วดั่งกระต่ายอันปราดเปรียวและปรากฏตัวต่อหน้าจ้าวไค่ซวน
จ้าวไค่ซวนรีบรั้งกระบี่กลับมาเพื่อป้องกันแต่มันก็ถูกกระบี่ของฉิงเฟิงกระแทกจนเกิดรอยแตกขึ้นอีกรอย
กระบี่ของฉิงเฟิงพุ่งออกไปต่อเนื่องครั้งนี้มันแทงทะลุลำคอของจ้าวไค่ซวน
ขะ…ข้าคือสาวกแห่งนิกายกระบี่สวรรค์ แกกล้าสังหารข้า…. นิกายจะไม่ปล่อยแกไปแน่ๆ… จ้าวไค่ซวนยกมือกุมคอและกระอักเลือดออกมาจำนวนมากในไม่ช้าเขาก็ล้มลงกับพื้นด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความสิ้นหวัง
ชีวิตของเขาสิ้นสุดลงอย่างรวดเร็วและตายไปในไม่ช้า
ฉิงเฟิงไม่ได้สนใจการคุกคามของจ้าวไค่ซวนเขาไม่เคยกลัวการข่มขู่
ใบหน้าของเหล่าสาวกนิกายกระบี่สวรรค์คนที่เหลือกลายเป็นโกรธกริ้วเมื่อได้เห็นความตายของจ้าวไค่ซวนพวกเขาทั้งหมดชักกระบี่ออกมาและพุ่งเข้าโจมตีฉิงเฟิง
ฉิงเฟิงโคจรพลังไว้ในตัวกระบี่และฟาดฟันมันออกไปเป็นเส้นโค้งบนท้องฟ้าด้วยกระบี่เดียวนี้ สาวกที่เหลืออีกสามคนของนิกายกระบี่สวรรค์ก็ถูกเจาะทะลุคอหอยและตกตายในพริบตา
ตอนนี้ฉิงเฟิงมีพลังในขอบเขตจิตวิญญาณแท้จริงขั้นสูงสุดเว้นเสียแต่ว่าเขาได้เผชิญหน้ากับผู้ฝึกตนระดับจิตโลกา มิฉะนั้นแล้วผู้ฝึกตนระดับจิตวิญญาณแท้จริงหน้าไหนก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา
หลี่ฉิงเฟิงพลังของท่านเพิ่มขึ้น ฉินเซียนจื่อกล่าวด้วยรอยยิ้มอย่างมีเสน่ห์
เธอเพิ่งจะประมือกับเหล่าสาวกนิกายกระบี่สวรรค์เหล่านี้มาแต่เธอก็อ่อนแอกว่าและไม่ใช่คู่มือของพวกเขา ใครจะไปรู้ว่าหลี่ฉิงเฟิงจะฆ่าพวกเขาทั้งหมดได้อย่างง่ายดายเช่นนี้
ฉิงเฟิงเพียงยิ้มไม่ตอบคำเขาเดินไปที่สมุนไพรน้ำแข็งเจ็ดดาราและหยิบมันขึ้นมา จากนั้นก็ส่งมอบให้ฉินเซียนจื่อพร้อมกล่าวว่า นี่ให้คุณ
ให้ข้า
ใบหน้าอันงดงามของฉินเซียนจื่อกลายเป็นสีแดงเธอไม่คิดว่าฉิงเฟิงจะยอมมอบสมุนไพรล้ำค่าขนาดนี้ให้เธอ เธอปฏิเสธทันทีในตอนแรก แต่สุดท้ายก็ต้องยอมรับเพราะฉิงเฟิงนำมันมายัดใส่ในมือ
ฉิงเฟิงมีความรู้สึกบางอย่างต่อคุณหนูแห่งตำหนักจักรพรรดิเพลิงผู้นี้เขามอบให้เธออย่างไม่ลังเล
คุณหาที่ดูดซับสมุนไพรนี้เถอะผมจะคอยปกป้องคุณเอง
ฉิงเฟิงกล่าวกับฉินเซียนจื่อด้วยรอยยิ้ม
ฉินเซียนจื่อพยักหน้าแล้วนั่งไขว้ใต้ต้นไม้ใหญ่ใกล้ๆเธอยื่นมืออันเรียวงามออกมาและดูดซับสมุนไพรน้ำแข็งเจ็ดดารา มันปลดปล่อยพลังอันยิ่งใหญ่ยามที่ฉินเซียนจื่อดูดซับ จากนั้นมันก็กลายเป็นพลังงานของเธอ
สมุนไพรน้ำแข็งเจ็ดดารามีพลังอันยิ่งใหญ่มันวิ่งผ่านเส้นเลือด, กล้ามเนื้อและไปรวมตัวกันที่จุดตันเถียนเพื่อเพิ่มพลังงานให้เธอ
ไม่นานนักเธอก็ดูดซับพลังของมันจนหมดตอนนี้เธอก็คล้ายกับลู่ซวนจี๋ที่มีพลังเพิ่มขึ้นหลังจากเข้ามาที่นี่ได้ไม่นาน ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าสมุนไพรน้ำแข็งเจ็ดดารานี้ให้พลังงานสูงมาก จากนั้นฉิงเฟิง,ลู่ซวนจี๋,ฉินเซียนจื่อและสาวกคนอื่นๆของตำหนักจักรพรรดิเพลิงก็เดินทางต่อไปด้วยกัน
แดนต้องห้ามคุนหลุนนั้นกว้างใหญ่ไพศาลเกินไปฉิงเฟิงไม่รู้ว่าพ่อและอาจารย์ของเขาติดอยู่ตรงไหน เขาทำได้เพียงเดินทางต่อไปและหาข้อมูลตามทาง
ฉิงเฟิงและพรรคพวกอยู่ในพื้นที่รอบนอกของภูเขาคุนหลุนพื้นที่นี้แบ่งออกเป็นสี่ส่วน รอบนอก ด้านใน ศูนย์กลางและแกนกลาง แต่ส่วนมีสนามพลังมากกว่าหนึ่งพันไมล์
ลึกเข้าไปในภูเขาคุนหลุนก็ยิ่งมีอันตรายมากขึ้นแต่อันตรายย่อมมาพร้อมกับผลประโยชน์ที่เท่าเทียมกัน ยิ่งอันตรายเพียงใด สมุนไพร ยา สมบัติและเคล็ดวิชาก็จะยิ่งล้ำค่ามากขึ้นเท่านั้น
ไม่นานนักพวกเขาก็เห็นหนองน้ำขนาดใหญ่ที่มีสัตว์อสูรที่เป็นจระเข้ยักษ์กว่าร้อยตัวพวกมันทุกตัวต่างก็แข็งแกร่ง หัวหน้าของพวกมันคือราชาจระเข้ที่มีพลังเท่ากับมนุษย์ในขอบเขตจิตวิญญาณแท้จริงขั้นสูงสุด
สัตว์อสูรในภูเขาคุนหลุนล้วนแต่ทรงพลังมันแข็งแกร่งยิ่งกว่าสัตว์อสูรในโลกภายนอก ซึ่งนี่เป็นเพียงแค่สัตว์อสูรในระแวกหนึ่งพันไมล์ของภูเขารอบนอกเท่านั้น ! พวกเขาก็ได้พบกับสัตว์อสูรระดับจิตวิญญาณแท้จริงขั้นสูงสุดแล้ว ดังนั้นความน่ากลัวของแดนต้องห้ามคุนหลุนนั้นไม่อาจจินตนาการได้เลยทีเดียว
เจ้าพวกมนุษย์ที่นี่คือถิ่นของพวกข้า จงออกไปเดี๋ยวนี้มิฉะนั้นพวกเข้าจะกินเจ้า
ราชาจระเข้กล่าวกับฉิงเฟิง
จะกินฉัน
ฉิงเฟิงยิ้มอย่างเย็นชาและพูดว่า แกกินพวกเราไม่ได้หรอก ฉันขอเตือนให้พวกแกปล่อยพวกเราผ่านไปเสียดีกว่าแล้วฉันจะไว้ชีวิตพวกแก