ตอนที่ 1008 มุ่งหน้าสู่ถ้ำอสูรโลหิต
ทำไมข้าต้องบอกเจ้าด้วย สาวกที่อยู่เบื้องหน้าฉิงเฟิงกล่าวพร้อมกับขมวดคิ้ว
ฟุ่บ!
ฉิงเฟิงเหยียดมือออกไปคร่ากุมลำคอของชายผู้นั้นและถามด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบว่า พูดทุกอย่างที่แกรู้ออกมาให้หมดถ้ายังไม่อยากตาย !
แววตาของเขาเต็มไปด้วยจิตสังหารที่ทำให้ผู้คนต้องหวาดกลัวจนตัวสั่น
สาวกเริ่มหวาดกลัวเขารับรู้ได้โดยสัญชาตญาณว่าชายหนุ่มคนนี้แข็งแกร่งอย่างมากจนเขาไม่สามารถต้านทานได้แม้แต่การโจมตีเพียงครั้งเดียว
สาวกเห็นว่าฉิงเฟิงเต็มไปด้วยเจตนาฆ่าเขาต้องตายแน่นอนถ้าหากไม่บอกตำแหน่งที่อยู่ของราชาอสูรมีดวายุ
ยะ..อย่าฆ่าข้า ข้าจะบอกเจ้าทุกอย่าง ! ผู้ที่เรียกตัวเองว่าราชาอสูรมีดวายุนั้นอยู่ในถ้ำอสูรโลหิตซึ่งอยู่ห่างออกไปห้าร้อยฟุต สาวกรีบพูดออกมาอย่างรวดเร็ว เขากลัวว่าจะตายถ้าหากตอบคำถามช้าเกินไป
ฉิงเฟิงโยนสาวกผู้นั้นลงไปที่พื้นก่อนจะนำฉินเซียนจื่อและลู่ซวนจี๋ไปที่ถ้ำแห่งนั้นหัวใจของเขาเต็มไปด้วยความระสับระส่ายและอยู่ไม่สุขเมื่อได้ยินข่าวเกี่ยวกับอาจารย์ของเขา
…
ในเวลานี้มีหลายคนมารวมตัวกันที่ถ้ำอสูรโลหิตมีทั้งสาวกนิกายกระบี่สวรรค์, นิกายดาบทมิฬ, นิกายศิลา, นิกายอสูรโลหิตและนิกายนภาโฉด
สาวกที่มีความสามารถของนิกายทั้งฝ่ายธรรมะและอธรรมต่างก็มารวมตัวกันรอบๆถ้ำพวกเขาทุกคนต่างก็ต้องการเข้าไปในนั้น
สมาชิกของตำหนักจักรพรรดิเพลิง,ศาลากระบี่และตำหนักร้อยบุปผาต่างก็มารวมตัวกันที่นี่เช่นกัน ในฝูงชนมีฮวาเซียนจื่อรวมอยู่ด้วย
สำหรับผู้อาวุโสและผู้นำนิกายทุกคนต่างก็เข้าไปในส่วนที่ลึกกว่าของแดนต้องห้ามเรียบร้อยแล้วซึ่งในส่วนนั้นมีสมบัติและสมุนไพรล้ำค่ามากยิ่งกว่าส่วนนอก
นี่มันจ้าวซานเจียนแห่งนิกายกระบี่สวรรค์นี่นา! ข้าไม่คิดเลยว่าวันนี้จะมีโอกาสได้เห็นมือกระบี่ที่แข็งแกร่งที่สุดอันดับสามของนิกายกระบี่สวรรค์
ดูสินั่นนั่นมันเฮยชวงแห่งนิกายดาบทมิฬ เขาเป็นหนึ่งในอัจฉริยะมากพรสวรรค์ที่สุดของนิกาย ครั้งหนึ่งเขาเคยสังหารสัตว์อสูรขอบเขตจิตวิญญาณแท้จริงขั้นสูงสุด !
โอ้นั่นไม่ใช่พานอิงหรอกหรือ เขาเป็นอัจฉริยะในตำนานของนิกายศิลา ได้ยินว่าเขาเคยทุบทำลายภูเขาขนาดย่อมๆเป็นชิ้นๆเลยทีเดียว ! ผู้คนรอบข้างต่างก็พูดคุยกันอย่างมีชีวิตชีวา
สาวกโดยรอบของนิกายฝ่ายธรรมะต่างก็เต็มไปด้วยความชื่นชมเมื่อพวกเขาเห็นนักสู้ฝ่ายธรรมะที่แข็งแกร่งส่วนเหล่าสาวกของนิกายนอกรีตนั้นพวกเขาไม่กล้าพูดถึง เพราะคนพวกนี้สามารถฆ่าคนโดยไม่กระพริบตา
ทันใดนั้นเองก็มีเสียงโห่ร้องดังมาจากถ้ำก่อนที่งูหลามโลหิตขนาดใหญ่จะปรากฏตัวขึ้น
งูหลามโลหิตนั้นใหญ่โตมากมันยาวเกินกว่าห้าสิบเมตร ร่างกายของมันถูกปกคลุมไปด้วยเกล็ดสีแดงโดยที่เกล็ดแต่ละส่วนของมันมีขนาดเท่ากับลูกฟุตบอลและเปล่งแสงสีแดงเลือดออกมา
ออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้ซะเจ้าพวกมนุษย์! มิฉะนั้น ข้า, ราชางูหลามโลหิตจะกัดกินพวกเจ้าทั้งหมด ! ราชางูหลามโลหิตกล่าวอย่างเย็นชาในขณะที่มันเปิดกรามใหญ่ออกมา
จ้าวซานเจียนหัวเราะและกล่าวว่า ข้าต้องการผลปีศาจโลหิตภายในถ้ำแห่งนี้ หากเจ้ายอมมอบให้ข้า ข้าจะจากไปโดยดี
เฮยชวง,พานอิงและคนอื่นๆต่างก็พยักหน้าเห็นด้วย เมื่อราชางูหลามโลหิตเห็นว่าฝูงชนปฏิเสธที่จะออกไปมันก็เปิดกรามออกและปล่อยเปลวไฟสีแดงเข้าหาจ้าวซานเจียนในทันที
จ้าวซานเจียนชักกระบี่ยาวของเขาออกมาและผ่าเปลวไฟสีแดงออกเป็นสองซีก
จงรับรู้ถึงความโกรธเกรี้ยวของกระบี่ในมือข้า!
จ้าวซานเจียนเหวี่ยงกระบี่ยาวของเขาไปยังราชางูหลามโลหิตกระบี่ของเขาหลงเหลือประกายสีแดงบนร่างของมันและเกล็ดสีแดงก็หลุดร่วงลงจากร่างของราชางูหลามโลหิต
ชี่~
มันคร่ำครวญอย่างเจ็บปวดมันโกรธมากที่ในฐานะราชาแห่งงูแต่กลับได้รับบาดเจ็บจากมนุษย์ที่น่ารังเกียจ มนุษย์ผู้นี้ต้องตาย !
ราชางูหลามโลหิตเปิดกรามออกมาและพ่นพิษปีศาจที่มีขนาดเท่ากับกำปั้นมนุษย์ออกมามันเป็นสีแดงเลือดและมีกลิ่นอายอันแข็งแกร่ง
สัตว์อสูรทั่วไปมักจะไม่ค่อยมีพิษปีศาจแต่สัตว์อสูรที่มีพิษปีศาจมักจะทรงพลังมากเพราะพิษปีศาจเหล่านั้นมักจะมีความสามารถพิเศษ
วูบ!
ประกายแสงสีแดงปรากฏขึ้นจากเม็ดพิษก้อนนั้นมันมีพลังมากพอที่จะเจาะอากาศก่อนที่จะกระทบกับร่างของจ้าวซานเจียน
อ๊อก!
จ้าวซานเจียนกระอักเลือดออกมาเต็มปากเต็มคำจากนั้นร่างกายของเขาก็ลอยกระเด็นไปบนฟ้าก่อนที่จะหล่นลงบนพื้นด้วยเสียงอันดัง ใบหน้าของเขาซีดอย่างน่ากลัว
สัตว์อสูรที่มีพลังวิเศษ มันเป็นสัตว์อสูรที่มีพลังวิเศษได้อย่างไร… ?
จ้าวซานเจียนพึมพำออกมาด้วยความกลัว
พลังวิเศษของสัตว์อสูรคือพลังที่พวกมันสืบทอดมาจากบรรพบุรุษผ่านสายเลือดโดยทั่วไปมันมักจะทรงพลังมาก
การแสดงออกของสาวกคนอื่นๆก็เปลี่ยนไปเช่นกันเมื่อพวกเขาเห็นว่าจ้าวซานเจียนพ่ายแพ้สัตว์อสูรตัวนี้
มีเพียงราชาสัตว์อสูรหนึ่งในพันเท่านั้นที่สามารถเข้าใจและใช้พลังวิเศษของพวกมันได้ไม่มีใครคาดคิดว่าราชางูหลามโลหิตตัวนี้จะโชคดีและมีความสามารถมากพอที่จะเข้าใจในพลังนี้
ผู้คนรอบข้างต่างรู้ว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะเอาชนะราชางูหลามโลหิตด้วยพลังของคนๆเดียวพวกเขาทุกคนต้องร่วมมือกันถึงจะสำเร็จ
ทุกท่านร่วมมือกันสังหารงูหลามโลหิตตัวนี้ด้วยกันเถอะ ! หลังจากฆ่ามันแล้วพวกเราจะได้เข้าไปหาสมบัติภายในถ้ำ เฮยชวงกล่าวขณะที่ชักดาบสีดำเล่มใหญ่ออกมา
หลังจากเฮยชวงกล่าวจบพานอิง, เซวี่ยจงและเฟิงเซี่ยต่างก็นำอาวุธออกมาและเข้าโจมตีราชางูหลามโลหิต
แม้แต่ฮวาเซียนจื่อแห่งตำหนักร้อยบุปผา,จ้าวหมิงแห่งศาลากระบี่ก็ยังร่วมมือกับพวกเขาในการจู่โจมราชางูหลามโลหิตอีกด้วย
ในขณะนี้พื้นที่ในปกครองของราชางูหลามโลหิตต่างเต็มไปด้วยการโจมตีจากอุปกรณ์วิญญาณจำนวนมากซึ่งทำให้เกิดบาดแผลมากมายบนร่างของราชางูหลามโลหิต
มันโห่ร้องอย่างโกรธเคืองและมีแสงสีทองปรากฏขึ้นจากภายในพิษอสูรมันนำมาซึ่งพลังอันรุนแรง
อย่างไรก็ตามในครั้งนี้เหล่ายอดฝีมือรุ่นวัยเยาว์ต่างก็ระมัดระวังขึ้น ทันทีที่พวกเขาเห็นพิษอสูร พวกเขาก็รีบหลบในทันที มีบางคนที่ออกตัวช้าเกินไปและได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยแต่ก็ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บรุนแรง
ราชางูหลามโลหิตรู้ว่ามนุษย์มีจำนวนมากส่วนมันมีตัวคนเดียว จำนวนที่ต่างกันเช่นนี้ยากที่มันจะเอาชนะได้ มันเปลี่ยนแผนในทันทีและคิดที่จะฆ่ามนุษย์ทีละคน เป้าหมายแรกของมันคือฮวาเซียนจื่อที่อยู่ใกล้ที่สุด มันยกหางขึ้นไปในอากาศและเหวี่ยงเข้าหาฮวาเซียนจื่ออย่างโหดเหี้ยม
ฮวาเซียนจื่อยกมือขวาขึ้นเพื่อป้องกันเมื่อเธอสัมผัสได้ถึงพลังอันมหาศาลของราชางูหลามโลหิตเธอปะทะเข้ากับการโจมตีของมันและถูกกระแทกอย่างรุนแรงจนกระเด็นไปในอากาศและกำลังจะร่วงลงกับพื้น พละพลังของมันเหนือกว่าที่เธอคาดไว้
ในขณะที่เธอกำลังร่วงลงกับพื้นร่างกายของเธอก็ถูกโอบกอดไว้โดยใครคนหนึ่ง ใบหน้าอันงดงามของเธอเต็มไปด้วยร่องรอยของความโกรธ ใครกันนะที่กล้าฉวยโอกาสกับเธอในเวลาเช่นนี้ !
แต่เมื่อเธอหันหลังกลับไปเธอก็เห็นใบหน้าที่คุ้นเคย มันเป็นหลี่ฉิงเฟิงนั่นเอง
ทำไมท่านถึงมาอยู่ที่นี่ ฮวาเซียนจื่อถามด้วยความประหลาดใจ เธอไม่คิดว่าจะได้พบเขาที่นี่
ผมมาช่วยคุณ ฉิงเฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม มือของเขายังคงโอบเอวที่เพรียวบางของเธอ
เอวของผู้หญิงคนนี้นุ่มนวลและให้ความรู้สึกที่สบายราวกับว่าเอวของเธอเป็นน้ำ
ราชางูหลามโลหิตเกรี้ยวกราดขึ้นเมื่อเห็นว่ามันถูกเพิกเฉยโดยชายหนุ่มผู้หนึ่งที่กำลังพูดคุยกับเหยื่อของมันอย่างใกล้ชิดดวงตาของมันแดงก่ำขึ้นในทันที
��